วิธีเปิดบัญชีฟอเร็กซ์ exness 2025 ที่TradeSabai.com | เทรด forex เป็นอาชีพ | สอนเทรด Forex Onlineฟรี
พูดคุย Forex ทั่วไป => พูดคุยForexทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Lolox101 ที่ 31/ก.ค./2015 03:27:44
-
(https://http://www.thaiforexschool.com/admin-management/files/FCJZYlHFri12549.png)
"Currency cross pair" หรือ "Cross- currency pair" หรือเรียกสั้นๆว่า "Cross" คือสกุลเงินที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง
ลองย้อนกลับไปดูเมื่อสมัยก่อน
ถ้ามีคนต้องการที่จะเปลี่ยนสกุลเงิน
ก่อนอื่นเขาต้องแปลงสกุลเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อน
แล้วจึงแปลงสกุลเงินที่เป็นดอลลาร์สหรัฐไปเป็นสกุลเงินที่เขาต้องการได้
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีชายคนหนึ่งต้องการเปลี่ยนเงินปอนด์เป็นเยนของญี่ปุ่น
เขาก็ต้องแปลงสกุลเงินปอนด์ของเขาเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อนหลังจากนั้นจึงนำ
ดอลลาร์มาเปลี่ยนเป็นเงินเยนได้
และเมื่อมีการนำ Currency cross มาใช้
ก็ทำให้บุคคลสามารถข้ามขั้นตอนการแปลงสกุลเงินของพวกเขาเป็นดอลลาร์สหรัฐ
และสามารถแปลงสกุลเงินเป็นสกุลที่ตนต้องการได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น
GBP/JPY, EUR/JPY, EUR/CHF และ EUR/GBP เป็นต้น
การหาราคาซื้อขายของ Currency cross
ในส่วนนี้อาจจะน่าเบื่อซักหน่อย
แต่ถ้าคุณชอบตัวเลขก็ไม่ยาก และข่าวดีก็คือ
จริงๆแล้วตรงส่วนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจมากมายอีกต่อไป
ตั้งแต่มีเพลตฟอร์มจากโบรคเกอร์ที่ได้คำนวณอัตราของค่าเงินตรงข้ามที่เราเท
รดกันอยู่ทุกวันมาให้เรียบร้อยแล้ว
เราจึงไม่จำเป็นต้องมานั่งคำนวณเองอีกต่อไป
แต่ก็ขอกล่าวไว้ในกรณีที่คุณต้องการจะรู้ถึงหลักการทำงานของมัน
และคิดว่ามันก็เป็นการดีที่จะรู้เอาไว้
ในส่วนนี้เราจะแสดงวิธีการคำนวณราคาเสนอซื้อ (bid ) และการขอราคาสำหรับขาย
(ask)
ตัวอย่างเช่น
เราต้องการหาราคา bid/ask ของ GBP/JPY ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ
ดูที่ราคา bid/ask ของทั้ง GBP/USD และ USD/JPY
ที่ต้องดูทั้งสองคู่เงินนี้ก็เพราะว่า
ทั้งสองคู่เงินมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วมอยู่ในสกุลเงินที่พวกเขาต้องการ
(คือ GBP และ JPY) คู่เงินทั้งสองคู่นี้ เรียกว่า "Legs" ของ GBP/JPY เพราะพวกมันเป็นคู่เงินดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับ GBP/JPY
เอาเป็นว่าตอนนี้เราได้ราคา bid/ask แล้ว คือ
GBP/USD: 1.5630 (bid) / 1.5635 (ask)
USD/JPY: 89.38 (bid) / 89.43 (ask)
ในการคำนวณหาราคาซื้อ (bid) ของ
GBP/JPY ก็นำราคา bid ของ GBP/USD มาคูณกับ ราคา bid ของ USD/JPY
ก็จะเท่ากับ 1.5630 X 89.38 = 139.80
และในการหาราคาขาย (ask) ของ GBP/JPY ก็นำราคา ask ของ GBP/USD มาคูณกับ ราคา ask ของ USD/JPY ก็จะเท่ากับ 1.5635 X 89.43 = 139.82
เท่านี้เองค่ะ ง่ายมั้ยคะ
Currency cross กับโอกาสที่มากขึ้น
กว่า 90%
ของการทำธุรกรรมซื้อขายในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนจะเกี่ยวข้องกับเงินดอลลาร์
สหรัฐ เป็นเพราะว่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก
คุณอาจจะถามตัวเองว่า "ทำไมดอลลาร์สหรัฐ ทำไม่ไม่เป็นเงินปอนด์ หรือยูโร?"
สินค้า
ทางการเกษตรและสินค้าทางอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เช่น น้ำมัน
มีราคาเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นถ้าประเทศต้องการที่จะซื้อน้ำมันหรือสินค้าเกษตรอื่นๆ
ก่อนอื่นก็ต้องแปลี่ยนสกุลเงินของประเทศให้เป็นดอลลาร์สหรัฐก่อนจึงจะสามารถ
ซื้อสินค้าได้
และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมหลายประเทศเก็บดอลลาร์สหรัฐไว้เป็นเงินสำรอง
เพราะมันจะช่วยให้พวกเขาสามารถซื้อสินค้าได้เร็วขึ้นมากถ้าเขามีดอลลาร์
สหรัฐไว้ในมือแล้ว
อย่างประเทศจีน,ญี่ปุ่น
และออสเตรเลียเป็นตัวอย่างของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
จึงเป็นผลให้พวกเขาต้องสำรองดอลลาร์สหรัฐเป็นจำนวนมากไว้ในธนาคารกลางของ
ประเทศ แล้วสิ่งนี้มันมีผลอย่างไรกับการซื้อขาย Currency cross ?
ตั้งแต่ที่โลกเรายึดติดอยู่กับดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ในการเก็งกำไรในการซื้อขายจะขึ้นอยู่กับคำถามหนึ่ง คือ "วันนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งหรือ่อน" ซึ่งคำถามนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของบรรดาคู่เงินทั้งหลายด้วย
Majors pair : GBP/USD, EUR/USD, USD/CHF, USD/JPY
Commodity pairs: AUD/USD, USD/CAD, NZD/USD
สังเกตได้ว่าคู่เงินเหล่านี้จะประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐด้วย ซึ่งมันก็ไม่มีทางเลือกให้นักลงทุนมากนักเมื่อการตัดสินใจในการลงทุนจะต้องขึ้นอยู่กับดอลลาร์สหรัฐ
(https://http://upic.me/i/aj/capture-20130814-150514.png)
คุณจะ
เห็นได้จากการซื้อขายใน 7 สกุลเงินที่นิยมมากที่สุด
ปรกติเรามักจะเทรดทั้งค่าเงินที่ต่อต้านดอลลาร์สหรัฐ (Anti dollar)
และสกุลเงินที่สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Pro dollar)
ซึ่งการเก็งกำไรนี้จะส่งผลกระทบต่อคู่เงินต่างๆเหล่านี้ไปในทางเดียวกัน
เกือบทั้งหมด ต่างกับในตลาดหุ้นที่มีมีหลายบริษัทให้เลือกโดยไม่มีข้อผูกพันทางความคิดในการเก็งกำไรกับสิ่งสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง
(https://http://upic.me/i/0j/capture-20130814-161130.png)
สำหรับตลาดหุ้น
จะเห็นได้ว่าแม้ตลาดจะเป็นบวก
ก็ยังมีโอกาสมากมายในการซื้อขายในหุ้นหลายๆตัว
ไม่ได้มีเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งจากหุ้นตัวหนึ่งตัวใดที่มีผลกระทบต่อตะกร้า
โดยรวมของหุ้นทั้งหมด
และในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
แทนที่เราจะมองแค่ 7 สกุลเงินหลัก ที่เป็นคู่เงินที่มีดอลลาร์สหรัฐร่วมด้วย
(Dollar based pair) คู่เงินที่เป็น Currency cross
(คู่เงินหลักที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐร่วมด้วย)
ก็ให้โอกาสที่มากขึ้นในการเทรดหากำไรจากคู่เงินที่หลากหลายมากขึ้น
ในการเทรด Currency cross คุณมีโอกาสเลือกที่จะเทรดมากขึ้น เพราะสกุลเงินเหล่านี้ไม่ผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ
ที่อาจมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นในขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กำลังซื้อขายคู่เงินดอลลาร์สหรัฐ
คุณก็อาจหาโอกาสใหม่ๆจากการเทรด Currency cross
ตัวอย่างเช่น
ทุกคู่เงินที่มีดอลลาร์สหรัฐ อาจจะวิ่งไซด์เวย์
หรือวิ่งในทิศทางที่ดูลำบากมาก มันก็น่าจะเป็นการดีกว่าถ้าจะนั่งดูเฉยๆ
แทนที่จะเทรดแบบเดาสุ่ม แต่ถ้าคุณลองเปลี่ยนไปดูคู่เงินอื่นที่เป็น
Currency cross คุณก็อาจพบได้ว่ามีโอกาสในการซื้อขายมากกว่า
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะซื้อขายเพียงคู่เงินหลัก การคิดให้แตกต่างและเป็นคนกลุ่มน้อยอาจทำให้คุณได้เปรียบมากกว่าในการทำกำไร
แนวโน้มและกรอบราคาที่ชัดเจน
เนื่องจากว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักชอบเท
รดคู่เงินดอลลาร์สหรัฐฯกันซะมากกว่า
ก็เลยทำให้เห็นได้ว่ารายงานข่าวต่างๆที่ออกมาจะมีผลกระทบให้ค่าเงินดอลลาร์
ผันผวนตามไปด้วย นอกจากนี้สหรัฐฯเองยังมีข่าวเศรษฐกิจที่มากที่สุดในโลก
ซึ่งเป็นผลให้นักเก็งกำไรตอบสนองเป็นอย่างมากต่อรายงานข่าวของสหรัฐ
ถึงแม่ว่ามันจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนักต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาว
อย่างที่เราเห็นกันอยู่ว่าเวลามีมีข่าวราคาจะผันผวนมาก
บ่อยครั้งที่เราเห็นกราฟลากขึ้นลากลงแล้วสุดท้ายก็มาวิ่งวนๆที่เดิม
และถึงแม้ว่าจะเกิดแนวโน้มใหม่มันก็ทำให้เราหาจุดบ่งชี้แนวโน้มหรือช่วงราคา
ได้ยากกว่าปรกติ
(https://http://upic.me/i/dy/capture-20130815-143644.png)
ในวันที่มีข่าวเศรษฐกิจของสหรัฐ
มักจะทำให้ราคาของคู่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างเช่น EUR/USD (ในภาพด้านบน)
หลุดออกจากแนวโน้มที่เรียบง่าย เนื่องจากราคาวิ่งรุนแรงมากกว่าปรกติ
(https://http://upic.me/i/lg/capture-20130815-143755.png)
แต่ในทางตรงกันข้ามเราจะเห็นว่าในวัน
เดียวกัน EUR/JPY ก็ยังวิ่งแบบเรียบง่าย
อย่างในตัวอย่างด้านบนเห็นได้ว่าราคาค่อยๆวิ่งขึ้นตามแนวโน้ม
ที่เป็นอย่างนี้ก็อาจเพราะว่า
คู่เงินนี้ได้รับผลกระทบเพียงน้อยนิดจากข้อมูลของสหรัฐ
จึงทำให้เห็นว่าราคามีการผันผวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และอย่างที่คุณเห็นในกราฟทั้งสองด้านบน
ที่แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่กราฟคู่หนึ่งไม่มี USD ร่วมด้วยนั่นก็คือ EUR/JPY เทรดง่ายกว่า EUR/USD
มาก
และถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบเล่นตามเทรนด์ (Trend Fallow) แล้วละก็ การเทรดคู่เงินที่เป็น Currency cross จะทำให้คุณเทรดได้ง่ายขึ้น
เพราะมันง่ายกว่าในการที่จะมองแนวโน้มและมีความมั่นใจมากขึ้นในการหาจุดเข้า
เพราะคุณจะรู้ว่าระดับแนวรับแนวต้านทางเทคนิคนั้นจะมีนัยยะที่สำคัญมากกว่า
ในคู่เงินหลัก (Majors pair)
และในหัวข้อต่อไปเราจะมาพูดถึงการเทรด Currency cross โดยใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยในการเทรด
การใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย
การขายสกุลเงินของประเทศที่มีอัตรา
ดอกเบี้ยต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอีกประเทศมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
จำทำให้คุณได้กำไรจากอัตราดอกเบี้ย (ที่เรียกวันว่า Carry trade)
เช่นเดียวกับการได้กำไรจากการแข็งค่าของราคา
Currency crosses มีหลายคู่เงินที่มีความแตกต่างสูงในอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีความสำคัญมากในการ Carry trade
(https://http://upic.me/i/3k/capture-20130815-155851.png)
จากภาพตัวอย่างด้านบน
เป็นแนวโน้มขาขึ้นของ AUD/JPY ซึ่งถ้าคุณได้เข้าบายไว้ในคู่นี้
คุณก็จะได้กำไรเยอะเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว AUD และ JPY
ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันเยอะมากด้วย ตั้งแต่ปี 2002-2007
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่ที่ 6.25%
ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0%
ซึ่งก็หมายความว่าคุณได้กำไรจากการบายคู่นี้
และยังได้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างในระหว่างการถือออเดอร์บายด้วย
ส่วนเรื่องของ Carry trade
เราจะเอารายละเอียดมาให้อ่านกันทีหลังนะคะว่าเค้ามีหลักการยังไงในการเลือก
คู่เงินที่จะเทรด บอกคร่าวๆก็คือว่า
หลักการเค้าจะเทรดกันยาวๆเพื่อดอกเบี้ยที่สูงกว่านั่นเองค่ะ
Obscure Crosses (คู่เงินที่ไม่โดดเด่น)
ในบรรดาคู่เงินที่เป็น Currency cross คู่ EUR และ JPY เป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุด
นั่นก็เป็นเพราะเทรดเดอร์ส่วนมากชอบเทรดคู่เงินที่ Popular
แต่คู่เงินอื่นๆที่ไม่มีสกุลเงิน USD,EUR และ JPY
ร่วมอยู่ด้วยเราจะเรียกพวกนี้ว่า "Obscure crosses"
ซึ่งก็หมายถึงคู่เงินที่ไม่ได้มีสภาพคล่องที่สูงมาก
เพราะเป็นสกุลเงินที่ไม่โดดเด่นนัก อย่างเช่น AUD / CHF, AUD / NZD, CAD /
CHF และ GBP / CHF ซึ่งเทรดเดอร์บางคนอาจไม่เคยเปิดกราฟไปดูมันเลยด้วยซ้ำ
จริงมั้ย?? และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราเรียกพวกนี้ว่า "Obscure crosses"
ในการเทรดคู่เงินที่เป็น Obscure crosses นี้จะยากและมีความเสี่ยงมากกว่าการเทรดคู่เงินที่มีสกุลเงิน EUR หรือ JPY
เพราะว่ามีผู้ซื้อขายคู่เงินเหล่านี้น้อยมาก
และปริมาณการซื้อขายที่ต่ำทำให้มีสภาพคล่องที่น้องลง
ทำให้ราคาของคู่เงินเหล่านี้ผันผวนมาก
ดังนั้นการราคาวิ่งเป็นรูปแบบสลับฟันปลาจึงเป็นเรื่องปรกติ
ลองมาดูตัวอย่างต่อไปนี้จาก AUD / CHF และ GBP / CHF
(https://http://upic.me/i/9x/capture-20130815-174824.png)
และแน่นอนว่าถ้าคุณเทรดคู่เงินเหล่านี้
คุณก็คงไม่อยากให้ราคามาโดนจุดตัดขาดทุนของคุณก่อนที่จะได้กำไร
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่เทรดคู่เงินเหล่านี้จะต้องตั้งจุดตัดขาดทุน
ในระยะที่กว้างกว่าปรกติ
แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของคู่ obscure crosses
ก็ยังยากมากที่จะจับทิศทางราคาในการเทรดได้อยู่ดี
(https://http://upic.me/i/8b/capture-20130815-174844.png)
จากภาพตัวอย่างคุณคงเข้าใจแล้วว่าเราหมายถึงอะไร และนอกจากนี้แล้ว การคู่เงิน obscure crosses ไม่ค่อยจะมีใครเค้าเทรดกันมากนัก ทำให้มันมีค่า Spread ที่สูง
และถ้าคุณอยากจะเทรดคู่เงินเหล่านั้นก็ควรเตรียมตัวไว้สำหรับความผัวผวนที่
น่าเวียนหัวและค่า Spread ที่ต้องจ่ายในแต่ละครั้งด้วย
แต่ส่วนตัวเราขออยู่ห่างๆดีกว่า
http://tradding2onlinemoney.blogspot.com/2013/08/currency-cross.html
-
ขอบคุณครับสําหรับการสอนเทรด