แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Tamol

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 17
16
กูรูพันล้าน  เสี่ยยักษ์  วิชัย  วชิรพงศ์



ไปเจอบทความจากเว็บเกี่ยวกับการลงทุน  ได้ตีแผ่เรื่องราวของเซียนหุ้นพันล้าน  คือ เสี่ยยักษ์ หรือ คุณวิชัย  วชิรพงศ์  เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง  แม้เสี่ยยักษ์จะร่ำรวยมาจากการเล่นหุ้นไทย ไม่ใช่ Forex แต่แนวคิดที่ได้จากเรื่องราว  และประสบการณ์ของเสี่ยยักษ์ด้านเทคนิค  สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับนักเทรด Forex ได้ไม่น้อยเลย 

เรื่องราวจะน่าสนใจ  และน่าติดตามอย่างไร  อาจจะยาวมากสักหน่อย แต่รับรองคุ้มที่ติดตาม  มาอ่านกันเลยค่ะ

ความเป็น “สุดยอด” ของนักเล่นหุ้นธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ลงทุนจากเงินทุน 2 ล้านบาท แล้วประสบความสำเร็จจนมีเงินนับ “พันล้านบาท” จาก “ต้นกล้า” ฝ่าแดด…ต้านฝน จนเป็น “ไม้ใหญ่”

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : การนำเสนอ Story ชีวิต และความสำเร็จของ “เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ ก็เดินทางมาถึง “ปลายทาง” ตามวาระแห่งความพอดี (ฉบับสุดท้าย วันที่ 19 ตุลาคม 2550 วันครบรอบ 20 ปีเต็ม ของเหตุการณ์ Black Monday) ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา รวมทั้งสิ้น 27 ตอน กับอีก 1 บทสรุปของ “สุดยอดวิชา”


1 บทสรุปของ “สุดยอดวิชา”  จาก เสี่ยยักษ์ วิชัย  วชิรพงศ์

จะอยู่รอดต้องเป็นมืออาชีพ
ผมเตรียมที่จะมาพูดตรงข้ามกับคุณศิริวัฒน์เลย คือคุณศิริวัฒน์ บอกว่าอย่าเอาตลาดหุ้นมาเป็นอาชีพ แต่ผมคิดว่าถ้าเราจะอยู่ในตลาดหุ้น เราต้องเป็นมือ อาชีพ เช่น คุณจะเป็นหมอฟันต้องเรียนทันตแทพย์มา คุณจะเล่นหุ้น เจ็ดวันคุณมาเล่นหุ้นแล้ว แล้วคุณก็เออ ก็ได้ ทุกคนส่วนมากเล่นหุ้นแรกๆ มักจะได้ แล้วก็จะตามเพื่อน สุดท้ายเพื่อนที่อยู่มาสิบปีก็มีผิดเหมือนกัน ผิดเพราะรู้ไม่จริง
เทคนิเคิลไม่เคยหลอก
ผมอยู่มาประมาณยี่สิบปี เทคนิเคิลไม่เคยหลอก ผมขอยืนยัน ถ้าคุณเก่งจริง เทคนิคไม่เคยหลอกเพียงแต่เราไม่รู้ ดังนั้นเราต้องเป็นมืออาชีพให้ได้ นี่คือข้อที่ 1
รายย่อยได้เปรียบรายใหญ่
ข้อที่ 2 นักเล่นหุ้นทุกคนล้วยเคยเป็นรายย่อยมาหมด เมื่อก่อนผมก็เป็นรายย่อย หลายคนบอกว่ารายใหญ่ได้เปรียบ มันไม่ใช่เลย รายย่อยต่างหากที่ได้ เปรียบเพราะว่าคุณซื้อหนึ่งครั้งคุณเต็มพอร์ต คุณขายหนึ่งครั้งหมดพอร์ต
แต่ถ้ารายใหญ่หลายร้อยล้านหุ้น จะขายยังไงดังนั้นรายย่อยจึงได้เปรียบรายใหญ่มากๆ
ทำธุรกิจยากกว่าเล่นหุ้น
อย่างที่บ้านทำโรงงานเล่นหมี่ พ่อสามารถส่งไปยังลูกนี่คือธุรกิจ ธุรกิจสามารถส่งต่อได้ พี่ชายเป็นหมอ หลานอีกคนเป็นหมอก็ต้องเรียนปีหนึ่งใหม่ อีกอยู่ดี ดังนั้นการทำธุรกิจยากกว่าตลาดหุ้นมาก ตลาดหุ้นถ้าอยากจะเลิกก็เลิก อยากจะไปก็ไปหันหลังพรึบสามช่องก็ออกได้แล้ว
เล่นหุ้นต้องเป็นยาม
ดังนั้นการเล่นหุ้นเราต้องรู้ให้จริง ต้องมีการวางแผน เราต้องรู้ตัวว่าจะทำอะไร เราต้องเตรียมตัวไว้ก่อน เปรียบเสมือนกับการเฝ้ายาม คุณต้องใจ เย็นๆ ต้องนิ่งๆ ต้องเป็นยาม
คว้าดาวเด่น
ถ้าตรงนี้ใช่ทางของเราๆ ก็เล่น ถ้าไม่ใช่ทางของเรา เราก็ไม่เล่น แต่ระรอบของมันจะมีดาวเด่นอยู่ คุณต้องคว้าให้เจอ คุณต้องหาให้เจอ รอบที่ผ่นามา  เช่น atc จาก 3 บาท เป็น 75 บาท บางคนซื้ออ 3 ขาย 3.5 แพ้ชนะกันที่เฉียดรวย
เทคนิค + พื้นฐาน
ใช้เทคนิคเป็นจุดซื้อขาย แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดูพื้นฐาน เปรียบเสมือนกับคุณขึ้นรถเมล์ คุณจะไปสะพานตากสิน คุณกลัวร้อนเลยนั่งรอในรถ รถ สตาร์ตเครื่องแล้วแต่ไม่ออก บรื้นๆ อยู่นั่นแหละ จังหวะมันผิด อ้าวคันข้างๆ ออกไปแล้ว กระเป๋ารถเมล์มาเขย่ากระป๋องสามที โชเฟอร์เบิ้ลเครื่องอีกสอง ที ไอ้เราก็นั่งรอ ไม่ใช่คันนี้อีกแล้ว เราเปลี่ยนดีกว่า ไปนั่งคันที่ออก ทุกคนโดนมาหมด มันจึงต้องใช้เทคนิค เทคนิเคิลไม่เคยหลอก ปฏิวัติเนี่ยะนะ เทคนิคเคิลก็ยังรู้เลย แต่ก็รู้แค่เล็กๆ เพราะว่าอะไรนะรึ เพราะว่าผมจะปฏิวัติ ผมก็ต้องไปบอกญาติ บอกเพื่อนบอกแฟน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนโทร มาบอกว่ามันจะไม่ดีนะ แต่บอกก่อนล่วงหน้าตั้งสิบวัน เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เทคนิคอล เทคนิคอลช่วยกำหนดการซื้อให้เราได้ แล้วดูหุ้นที่พื้นฐาน ตอนขายเทคนิเคิลไม่เคยหลอกอีกเหมือนกัน
ไม่มีใครถูกเสมอและผิดตลอดไป
จากทั้งหมดนี้ ถ้าเราดูอย่างวิเคราะ คุณสมพงษ์บอกซื้อ คุณหมอบอกรออีกหน่อย ไม่มีใครถูกใครผิด เพราะมันวัดผลกันยาวๆ อย่างคุณสมพงษ์ บุคลิคเป็นคนจิตใจดี แตงโมบอกผมไปทำแมนชั่นดีกว่า นี่คือบุคลิคของคน
ดังนั้นคุณต้องถามตัวคุณเองก่อนว่าคุณเป็นคนอย่างไร
คุณสมพงษ์อดทน เค้าไปเยี่ยมชมบริษัท คุณทำแบบเขาได้หรือไม่ การมาพูดครั้งนี้คุณสมพงษ์เขีนยมายี่สิบหน้า เวลาเขามองหุ้นเขามองสามปีถึงสิบปี มองเน้นคุณค่า
แต่กรณีอย่างผมเล่นเก็งกำไร สมมุติว่าตอนนี้เวลาประมาณตีสาม ยังไม่เช้า ก็ยังมีเวลาเลือกซื้อ อย่างใจเย็นๆ แล้วจะรู้ว่าตีห้าได้อย่างไร
มันยากมากที่จะรู้ ตอนแรกผมก็เล่นน้อยก่อน ไม่ใช่ว่าทุ่มสุดตัวแล้วปรากฏว่า อ้าว โดนนิ้วอีกแล้ว
ต้องดูเครื่องมือ ดูเทคนิค ถามผู้รู้
ตราบใดที่คนข้างๆ มีกำไร แสดงว่าตลาดดี ถ้าคนข้างๆ ขาดทุน ตลาดก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้ปี50 ประมาณตีสาม ยังมีผีอยู่ ถ้าอย่างนั้นตีสามอย่าพึ่งจ่ายตลาดเยอะ
หุ้นเด่นในดวงใจ
ทุกคนเล่นหุ้น ต้องมีหุ้นในดวงใจให้ได้ก่อน วันไหนที่คุณมีหุ้นในดวงใจคุณจะนิ่ง เหมือนเช่นเดียวกับคุณสมพงษ์
เขาจะสามารถ let profit run เยอะ เพราะทนได้ยาว เขาอึด วันไหนไม่มีหุ้นในดวงใจ รับประกันเลยว่าไม่มีทางรวยแน่ๆ
พอซื้อเสร็จเห็นขึ้นไปช่องสองช่อง เห็นว่าโดนทุบมาล้านนึง เสร็จเลย ขายซะแล้ว พอขึ้นมาอีกหน่อยก็ไม่กล้าซื้อ หรือไม่ก็ซื้อน้อยลง
ศึกษาเยอะๆ หาหุ้นในดวงใจให้เจอ
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
แล้วแต่ว่าเราเป็นคนอย่างไร ถ้าอยากชนะต้องศึกษาและรอบรู้ ต้องมีเพื่อนเยอะ ดูว่าเขาศึกษาอย่างไร เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าโทษคนอื่น โทษตัวเราคนเดียว ใครทำอะไรย่อมได้สิ่งนั้น
ถ้าคุณเล่นหุ้นปั่น สักวันถ้าคุณไม่เลิกสุดท้ายก็หมดตัว เพราะจุดจบของหุ้นปั่นคือหมดอยู่แล้ว บางครั้งเรารอดเพราะเขาเอาปืนแก็บยิงเรา
แต่วันไหนเอาแหครอบที่เดียวเราโดนแน่ อย่าตามหลังมวลชน ศึกษาเยอะ ๆ อ่านเยอะๆ มีหนังสือเยอะเลยตามร้านหนังสือ
ของฝากนักลงทุน
อย่าตามหลังมวลชน จุดที่มั่นใจที่สุดคือจุดที่อันตรายที่สุด จุดที่อันตรายที่สุดคือจุดที่ปลอดภัยที่สุด อย่าคิดคนเดียวอย่าตอบคนเดียวอย่าเล่นหุ้นคนเดียว ถามเองตอบเอง เออเองจัดการด้วยตนเองหมด สุดท้ายก็ตายเอง เราทำอะไรไว้เราก็จะได้สิ่งนั้น

ตัวอย่างความสำเร็จและความล้มเหลวจากเพื่อนฝูง
คนที่อายุเยอะแต่ไม่ยอมปรับตัว ประกอบอาชีพประสบความสำเร็จสุดท้ายล้มเหลวในหุ้น คนมีระเบียบวินัยมากศึกษาตลอดเวลามีความมั่นคง คนนี้เป็นนักแบตทีมชาติ เค้าก็ประสบความสำเร็จ อีกคนอ่อนน้อมถ่อมตน บริการคนตลอดเวลา ทุกคนรักไม่เคยเอาเปรียบเพื่อน คนนี้ก็ประสบความ สำเร็จ เพราะความเอื้อเฟื้อ จึงไม่มีคนไปหลอกอะไรเขา
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเขาไม่เก่งอะไรเลย แต่เขาเป็นคนที่ทุกคนรัก ก็ประสบความสำเร็จได้ ตัวอย่างคนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ คนที่ตรงกันข้ามตลอด พอเราบอกแบบนี้ มันก็คิดว่าเอ๊ะ มันต้องเป็นแบบนั้นนะ เป็นคนที่ไม่คิดอะไรลึกๆ ชอบสวนชาวบ้าน
เพราะว่าเหรียญมีสองด้าน เลยพูดได้หมด ไม่เคยโทษตัวเอง เป็นเจ้าของฉายา รู้อย่างนี้ หรือ รู้อะไรไม่เท่ารู้อย่างนี้
ตอนแรกมีหลายสิบล้านตอนนี้เหลือไม่เยอะแล้ว

อีกคนทำการบ้านตลอด คอยเช็คพอร์ตคนอื่นตลอดเวลา แอบดูพอร์ตคนอื่นตลอด เวลาคุยกับมาร์ก็ถามเรื่องของคนอื่น
สุดท้ายต้องไปตีกอล์ฟคนเดียวไม่มีเพื่อน ไปกินข้าวกับมาร์ยังต้องหารกันเลย แต่เค้าก็ประสบความสำเร็จได้
อีกคนย้ำคิดย้ำทำเสียดายตลอดเวลา เป็นคนละเอียดไม่เอาเปรียบใคร สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ

ที่พูดมาทั้งหมดก็คือ มันมีช่องทางของแต่ละคน แล้วแต่เราจะเลือกทางไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันคงไม่เกินความสามารถของพวกเราจะอยู่รอดต้องเป็นมืออาชีพ

 
โค๊ด: [Select]
http://forextrader.igetweb.com/index.php?mo=3&art=41942160

17
คำถาม: เล่น Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ?

ตอบ: ได้จริงและเสียจริงครับ อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย อยู่ที่การฝึกฝนครับ เหมือนเป็นอาชีพหนึ่งถ้าคุณตั้งใจ การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ใน Eglobal-Forex จะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด ควรศึก ษาให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเล่นด้วยเงินจริงครับ ขยันศึกษา+ฝึกฝน+มีระเบียบวินัย+การบริหารความเสี่ยง จะทำให้ประสบความสำเร็จใน Forex ได้ครับ

คำถาม: Pips หรือ Points คืออะไร?

คำตอบ: Pip (Price Interest Point) หรือ Point (จุด) คือ ค่าต่ำสุดของราคา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็คือจุดทศนิยมหลักสุดท้ายของราคานั่นเอง เช่น EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.3630 เมื่อราคาขึ้นไปเป็น 1.3631 หรือ USD/JPY ราคาอยู่ที่ 115.70 ขึ้นไปเป็น 115.71 ก็คือขึ้นไป 1 Pip หรือ 1 point

คำถาม: Margin คืออะไร?

คำตอบ: คือวงเงินของเรา จะมี Available Margin= วงเงินคงเหลือที่ใช้ซื้อขายได้, Used Margin= วงเงินที่เราใช้ไป
สูตร -> Available Margin = เงินในบัญชี - Used Margin + Profit
เมื่อ เริ่มต้นเรามีเงินฟรี $5 ยังไม่ได้เทรด Used Margin เป็น 0 เราก็จะมี Available Margin=5.0 ถ้าเราทำการเทรดซื้อ EUR/USD ไป $1 จะเกิด Used Margin=1.0 และเหลือ Available Margin เกือบ 4.0 (เนื่องจากถูกหักค่า Spread 2 pips เป็นค่าติดลบใน Profit) ถ้าราคาขึ้นไปจนเราได้กำไร +10 point เราจะได้ Profit=0.1 ค่า Available Margin จะเพิ่มเป็น 4.1 point ถ้าราคา + ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะได้ Available Margin เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในทางกลับกัน ถ้าเราขาดทุน ค่า Profit จะติด - และ Available Margin เราจะลดลงแทน หากเราไม่ตัดขาดทุนจะลดลงไปเรื่อยๆ จน Margin เกือบหมดเราจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ เรียกว่า Margin Call โดนไปทีแทบไม่เหลืออะไรเลย จึงควรรักษา Margin ไว้ให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่งครับ ^^

คำถาม: Long และ Short คืออะไร?

คำ ตอบ: Long คือ ซื้อไว้แล้วขาย หลักคือเราต้องซื้อไว้ที่ราคาถูกแล้วไปขายที่ราคาแพงกว่า เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง ตอนเราเปิด Long ก็คือ ส่งคำสั่งซื้อ หรือ Send Buy Order ไปที่ Marketiva และจะเกิด Long Position ขึ้น
Short คือ ขายออกแล้วซื้อกลับ หลักคือเราขายออกไปก่อนที่ราคาสูง แล้วไปซื้อกลับคืนเมื่อราคาต่ำกว่า เราก็จะได้กำไรที่ส่วนต่าง ตอนเราเปิด Short ก็คือ ส่งคำสั่งขาย หรือ Send Sell Order ไปที่ Marketiva และจะเกิด Short Position ขึ้น
ตลาด Forex จะต่างจากตลาดหุ้น คือสามารถเทรดได้ทั้งสองทาง ทั้งซื้อและขาย เล่นได้ทั้ง ขาขึ้น และขาลง ตลาดหุ้นซื้อได้อย่างเดียว เล่นได้แต่ขาขึ้น ถ้าเป็นขาลงต้องนอนรออย่างเดียว

คำถาม: Stop-Loss (SL) คืออะไร?

คำตอบ: Stop Loss ปกติจะเห็นในห้องแชทพิมพ์ว่า SL (sl) คือจุดที่เรายอมขาดทุน ตรงข้ามกับ TP
- Buy (Long) Order ค่า Stop Loss จะตั้งไว้ต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ ถ้าราคาลดลงไปถึงจุดที่กำหนด จะถูกปิดออเดอร์ทันที เพื่อตัดขาดทุน เช่น เราซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.3630 เรายอมขาดทุนได้ 30 จุด ก็ตั้ง SL ไว้ที่ 1.3600 ถ้าราคาไม่ขึ้นตามที่เราตั้งใจแต่กลับลดลงมาถึง 1.3600 เราก็จะขาดทุนเพียง 30 จุด ถ้าเราไม่ตัดขาดทุน ราคาอาจจะลดลงไปมากกว่านี้เยอะ
- Sell (Short) Order จะตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าราคาที่เราเปิด Sell ถ้าราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ

คำถาม: Target (Take Profit/TP) คืออะไร?

คำตอบ: Target หรือ TP (Take Profit) คือเป้าหมายกำไรที่เราต้องการ ตรงข้ามกับ SL
- Buy (Long) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับขึ้น เราอาจใช้แนวต้าน เป็นเป้าหมายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกขายออกโดยอัตโนมัติ
- Sell (Short) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับลดลง เราอาจใช้แนวรับเป็นเป้าหมาย เมื่อราคาลงไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดออเดอร์ โดยอัตโนมัติ

คำถาม: การตั้งซื้อขายแบบ Limit / Stop คืออะไร?

คำตอบ: เป็นการตั้งซื้อขายไว้ล่วงหน้า หรือ Pending Order จะยังไม่มี Position เกิดขึ้น
Limit Order ใช้ตั้ง ซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ตัวอย่างถ้าตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2953/55 ถ้าเราคิดว่ามันเป็นเทรนขาขึ้น และราคาแพงเกินไป เราอยากซื้อราคาต่ำกว่านี้แต่ไม่ว่างนั่งดู เราอาจตั้ง Buy Limit Order ไว้ที่ราคา 1.2945 ถ้าราคาลดลงมาถึงจุดก็จะถูกซื้อโดยอัตโนมัติ และเมื่อราคาขึ้นไปตามคาด เราก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นถึง 10 จุด สำหรับ Sell Limit ก็กลับกัน
Stop Order คือ ตั้งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ใช้เมื่อเราไม่ว่างนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าจอเทรด และใช้สำหรับจับเทรน ตัวอย่าง EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2953/55 เราคิดว่าถ้าราคาผ่านแนวต้านที่ 1.2963/65 ขึ้นไป (Breakout) แล้วน่าจะขึ้นไปต่อ เราอาจตั้ง Buy Stop Order ไว้ที่ 1.2970 เมื่อราคาทะลุขึ้นไปก็จะซื้อให้อัตโนมัติ สำหรับ Sell Stop ก็กลับกันครับ ถ้าคิดว่าจะหลุดแนวรับเราก็ตั้ง Sell Stop Order ไว้ใต้แนวรับ

คำถาม: เวลาเปิดให้เทรดได้เวลาไหน และปิดเวลาใด?

คำตอบ: ตลาดเปิดให้เทรดเวลา 4.00 เช้าวันจันทร์ ไปจนถึงปิดเวลา 4.00 น. เช้าวันเสาร์ สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คำถาม: เปิดซื้อขายทิ้งไว้ แล้วออกโปรแกรมไป หรือไฟดับ จะเป็นอะไรไหม?

คำตอบ: ไม่เป็นไรครับ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ทางโบรกเกอร์ เมื่อเรากลับเข้ามาอีกที อาจจะ + เป็น 100 หรือ - เป็น 100 ก็ได้ตามราคาตลาดในตอนนั้น หรือแม้แต่เปิดทิ้งไว้จนถึงปิดตลาดเช้าวันเสาร์ พอวันจันทร์ตลาดเปิด ก็ยัง + - ไปตามราคาตลาดต่อไป จนกว่าเราจะสั่งปิดเอง หรือ ราคาชน Target หรือ ราคาชน Stop-Loss หรือ ถูก Margin Call เพราะ margin หมด

คำถาม: Spread (2/3 pips) คืออะไร?

คำตอบ: ที่เห็น 2 pips หรือ 3 pips for EUR/USD เป็นผลต่างระหว่าง ราคาซื้อ (Bid) กับราคาขาย (Offer) ครับ ตอนที่เราซื้อเราจะซื้อที่ราคาขาย (Offer บางโบรกเกอร์ เรียกว่า Ask) พอจะขายก็ต้องขายที่ราคาซื้อ (Bid) นะครับ ยกตัวอย่าง ร้านทองก็มี ราคาซื้อ-ราคาขาย ติดไว้ที่หน้าร้าน เวลาคุณจะไปซื้อทอง ก็ต้องซื้อที่ราคาขาย (Offer) พอจะขายคืนก็ต้องขายให้ที่ราคาที่เค้ารับซื้อ (ฺBid) ถ้าซื้อแล้วขายเลยก็ขาดทุนแน่ๆ ครับ เพราะราคารับซื้อเค้าจะต่ำกว่าราคาขาย ใน Forex ก็คล้ายๆกัน จะเห็นว่าพอเราเปิดซื้อขายมาออเดอร์นึง จะลบทันที 2 จุด (pips) สำหรับ EUR/USD ใน Marketiva เหมือนเป็นค่าต๋งนะแหละครับ ยังไงเปิดมาก็ต้องลบ EUR/USD ปกติจะมี Spread ต่ำสุด แล้วแต่ว่าแต่ละโบรกเกอร์จะกำหนดเท่าไหร่ครับ บางโบรกเกอร์ก็ 3 pips สำหรับตัวอื่นค่า Spread ส่วนมากก็จะมากกว่านี้ครับ เช่น GBP/USD 4 pips หรือตัวที่วิ่งเยอะๆ เช่น GBP/JPY ถึง 8 pips เปิดมา -8 ทันทีเลยครับ ^_^

คำถาม: Leverage (ที่เห็น 1:100, 1:200) คืออะไร?

คำตอบ: Lever แปลว่า คาน Leverage แปลตรงตัว = กำลังคาน ครับ
สำหรับ ใน Forex ค่า Leverage เป็นตัวช่วยเวลาเราลงทุนครับ เป็นการให้ Margin เราเพิ่มตอนเทรด ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะเทรด 100 หน่วยของ USD/JPY เราต้องใช้เงินถึง $100 ดอลลาร์ (Leverage 1:1) ถ้าโบรกเกอร์ให้ Leverage เรา 1:100 ก็คือ เราใช้เงินลงทุนเพียง $100/100=$1 หรือใช้เงินเพียง 1 ดอลลาร์เท่านั้น
แล้วมีผลยังไง? 1:100 เราลงทุน 1$ เหมือนลงทุนไป 100$ ทำให้เราได้กำไร (หรือขาดทุน) เพิ่มขึ้นด้วยเงินเพียงนิดเดียว ถ้า Leverage มากขึ้น ก็ยิ่ง กำไรขาดทุนมากขึ้นไปอีกครับ ที่เงินลงทุนเท่ากัน ยิ่ง Leverage เยอะเวลา - ยิ่งขาดทุนเยอะนะครับ ต้องระวังไว้ด้วย
ในโบรกเกอร์ จะมีการกำหนด Leverage ที่ต่างกันแล้วแต่ทางโบรกเกอร์เค้าครับ 1:100, 1:200 หรือ บางโบรกเกอร์ 1:500 ก็มี สำหรับ Marketiva จะมีค่า 1:100 ครับ ถ้าเราซื้อ EUR/USD $1 ถ้าราคาขึ้นไป 10 จุดแล้วขาย เราก็จะได้กำไร $0.1 ถ้าไม่มีค่า Leverage หรือเป็น 1:1 เราจะได้กำไรเพียง $0.001 เท่านั้น

โค๊ด: [Select]
http://forextrader.igetweb.com/index.php?mo=3&art=41942151

18
forex เป็นตราสารอนุพันธ์ชนิดหนึ่งมูลค่าการซื้อขายใหญ่กว่าหุ้นหลายเท่า ตัวมันเองไม่มีค่าอะไรเป็นแค่กระดาษ แต่ค่าของมันผูกกับหลักทรัพย์อ้างอิง ในที่นี้คือ ค่าเงิน ของแต่ละประเทศ ตราสารที่เราซื้อเขาเรียกว่า future คับ คือซื้อหรือขายอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต ปกติคนในตลาดจะมีสองกลุ่มคือ คนป้องกันความเสี่ยง hedger กับนักเกร็งกำไร จะเกร็งกำไรค่าเงินมีคำศัพย์ที่ต้องรู้ประมาณนี้

การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของค่าเงินเรียกว่า pip
ถ้า EUR/USD เคลื่อนไหวจากราคา 1.2250 ไปที่ราคา 1.2251 เรียกว่า 1 pip ซึ่ง 1 Pip คือ ตัวเลขทศนิยมตัว สุดท้ายของค่าเงิน จากตัวทศนิยมสี่ตัว (ซึ่งบางครั้งก็ก็อาจจะมีถึงห้าจุด ซึ่งบ่งบอก ถึงจำนวน pip เหมือนกัน) ซึ่งเราสามารถใช้ Pip ในการประมาณผลกำไรขาดทุนได้ แต่ละค่าเงิน มีมูลค่าที่แตกต่างกัน เราจำเป็นต้องคำนวณมูลค่าของเงินต่อความเคลื่อนไหวต่อ pip ก่อน ในค่าเงิน ที่ที่ค่าเงินดอลล่าร์ อยู่ข้างหน้า จะถูกคิดดังนี้สมมุติเป็น คู่เงิน USD/JPY มีอัตราแลกเปลี่ยนอยูที่ 119.80(สังเกตุว่าค่าเงินดังกล่าว จะมีแค่สองจุดทศนิยม ซึ่งค่าเงินส่วนใหญ่จะมีสี่)ในกรณีของ USD/JPY เคลื่อนไหว 1 จุดจะเท่ากับ .01 ดังนั้น USD/JPY: 119.80.01 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value.01/119.80 = 0.0000834ซึ่งออกจะยาวไปหน่อย แต่เดี๋ยวเราจะเริ่มคำนวณ ขนาดของ lot กัน USD/CHF: 1.5250.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value.0001 / 1.5250 = 0.0000655 USD/CAD: 1.4890.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value.0001 / 1.4890 = 0.00006715 ในกรณีที่ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การหาค่า จะมีวิธีการเพิ่มขึ้นอีกหน่อย ดังนี้EUR/USD: 1.2200.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip valueดังนั้น.0001 / 1.2200 = EUR 0.00008196แต่ว่าเราต้องคิดกลับไปเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีซึ่งก็คือ EUR x อัตราแลกเปลี่ยนดังนั้น0.00008196 x 1.2200 = 0.00009999เมื่อเราปัดเศษ ก็จะได้ 0.0001 GBP/USD: 1.7975.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยน = pip valueดังนั้น.0001 / 1.7975 = GBP 0.0000556แต่เราต้องกลับไปคิดเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีหนึ่งซื่งเท่ากับ GBP x อัตราแลกเปลี่ยนดังนั้น0.0000556 x 1.7975 = 0.0000998ถ้าเราปัศเศษทศนิยมก็จะได้ 0.0001 บางทีตอนนี้คุณกำลังอาจจะคิดอยู่ก็ได้ว่า ตกลงแล้วเราต้องคิดทั้งหมดทุกคู่ตลอดเลยรึเปล่า คำตอบคือ ไม่ เกือบทุกโบรคเกอร์จะมีรายละเอียดนี้ให้คุณอยู่แล้ว แต่มันก็ดีที่คุณจะรู้ว่ค่าเหล่านี้ามาจากไหน จะบอกว่าเรื่องนี้ มีประโยชน์ยังไง ในบทต่อๆ ไป
Lot คืออะไร?
ฟอร์เร็กซ์ จะเทรดเป็น lot ขนาดมาตรฐานของ 1 ลอท คือ 100,000 ยูนิท ซึ่งก็มีบัญชีแบบ มินิลอท เหมือนกัน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 ยูนิท และอย่างที่บอกว่า ค่าเงินนั้นคิดเป็น pip เป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ของค่าเงินนั้นๆ ในการที่จะทำให้เราได้ประโยชน์จากจุดเล็กๆ จุดนี้ คือเราต้องเทรดจำนวนมาก จึงจะเห็น กำไร-ขาดทุนชัดเจนเช่น เราใช้ 100,000 ยูนิท (เท่ากับ 1 สแตนดาร์ดลอท) ลองยกมาคำนวณ เพื่อให้เห็นว่ามันส่งผลยังไงUSD/JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 119.80 (.01/119.80)x100,000 = 8.34 เหรียญต่อจุดUSD/CHF ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ1.4555 (.0001/1.4555)x100,000 = 6.87 เหรียญ ต่อจุดถ้าในกรณีที่เงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การคำนวณก็จะแตกต่างกันเล็กน้อยEUR/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.1930 (.0001/1.1930)x100,000 = 8.38x1.1930 = 9.99734 ถ้าปัดเศษได้ก็จะเท่ากับ 10 เหรียญต่อจุดGBP/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.8040 (.0001 / 1.8040) x 100,000 = 5.54 x 1.8040 = 9.99416 ถ้าปัดเศษก็จะได้เท่ากับ 10 ต่อจุด.โบรคเกอร์ของคุณ อาจจะมีวิธีการคิดมูลค่าของ pip ที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหน พวกเขาสามารถบอกได้ว่า ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดมูลค่าต่อหนึ่งจุดนั้น เป็นเท่าไหร่ในช่วงที่คุณกำลังเทรด ซึ่งถ้าตลาดมีการเคลื่อนไหว มูลค่าต่อจุดจะขึ้นอยู่กับ ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดอยู่
แล้วเราจะคำนวณกำไรขาดทุนได้อย่างไร
ตอนนี้ คุณรู้ว่าจะคำนวณมูลค่าต่อจุดอย่างไร ลองมาดูต่อว่า เราจะคำนวณกำไร-ขาดทุนได้อย่างไรเช่น เราซื้อดอลล่าร์สหรัฐ และขายสวิสฯฟรังค์ (usd/chf)สมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้อยู่ที่ 1.4525/1.4530 (bid/Offer) เพราะว่าคุณกำลังซื้อเงินดอลล่าร์ คุณจะได้ราคาที่ 1.4530ถ้าซื้อที่ 1 สแตนดาร์ด ลอท (100,000 ยูนิท) ที่ราคา 1.4530. ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ราคาเคลื่อนไหว ขึ้นไปที่ 1.4550 และคุณตัดสินใจที่จะปิดออร์เดอร์อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้จะเท่ากับ 1.4550/1.4555 หลังจากที่ปิดออร์เดอร์ เรากลับไปดูตั้งแต่ที่ ซื้อจน ปล่อยขาย เพื่อปิดออร์เดอร์ คุณจะได้ราคาที่ 1.4550 ซึ่งเป็นราคาที่เราปิดได้ความแตกต่างของ 1.4530 กับ 1.4550 คือ .0020 หรือเท่ากับ 20 pipเราใช้สูตรก่อนหน้านี้ เราก็จะได้ (.0001/1.4550) x 100,000 1= 6.87 ต่อจุด x ด้วย 20 จุด ซึ่งจะ ได้กำไรทั้งหมด 137.40 เหรียญจำไว้ว่า เมื่อคุณเข้าหรือออก จากการเทรด คุณจะต้องจ่ายค่า spread เหล่านั้นด้วย ซึ่งก็คือส่วนต่าง ระหว่าง Bid/Offer ดังกล่าวเมื่อ Buy ค่าเงินค่าเงินหนึ่ง คุณจะต้องเสนอ(offer)ราคา และเมื่อ Sell คุณก็ต้องตั้ง(Bid)ราคา** ดังนั้นเมื่อ Buy ค่าเงิน คุณจะต้องจ่าย spread เมื่อเข้าเทรด แต่ไม่ต้องจ่ายเมื่อปิดออร์เดอร์** และเมื่อ Sell ค่าเงิน คุณไม่ต้องจ่าย spread ตอนเข้าเทรด แต่คุณจะต้องจ่ายเมื่อคุณปิดออร์เดอร์
leverage คืออะไร?
คุณอาจจะเคยคิดว่า นักลงทุนเล็กๆอย่างคุณ จะสามารถเทรดค่าเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ลองคิดเปรียบว่า โบรคเกอร์ก็คือธนาคาร ซึ่งเขาอยากให้คุณซื้อค่าเงินมูลค่า 100,000 เหรียญ โดยที่เขา ต้องการเงินจากคุณเพียงแค่ 1,000 เหรียญ เพื่อค้ำประกัน ฟังดูง่ายเกินไปในโลกของความจริงใช่ไหม? แต่ว่า นี่แหละคือฟอร์เร็กซ์ และ นี่ก็คือ Leverage ที่เราใช้จำนวน leverage ที่คุณใช้ ขึ้นอยู่กับโบรคเกอร์ และขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า ต้องการใช้เท่าไหร่โบรคเกอร์จะให้คุณฝากเงินเข้า ที่เราเรียกกันว่า margin หรือ initial margin เมื่อฝากเงินเข้าบัญชี คุณจะสามารถเทรดได้ทันที และโบรกเกอร์ก็จะบอกว่า คุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเทรดจำนวน ลอทนั้นๆเช่น ถ้า leverage ที่เราใช้เท่ากับ 100:1 (หรือ 1 เปอร์เซ็นต์ ของ position ต้องใช้) และคุณ ต้องการเทรด มูลค่า 100,000 เหรียญ โบรคเกอร์จะเรียกมาร์จิ้น 1,000 เหรียญ ดังนั้นถ้ามีเงิน 5,000 เหรียญ จะเทรดได้มากสุดถึง 500,000 เหรียญมาร์จิ้นอย่างต่ำต่อลอท จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละโบรคเกอร์ จากตัวอย่างข้างบน โบรกเกอร์ จะต้องใช้มาร์จิ้น 1% ซึ่งหมายความว่า ออร์เดอร์มูลค่า 100,000 ซึ่งคุณจะต้องฝากเงินเข้าไป 1,000 เหรียญ เพื่อที่จะฝากเป็นมาร์จิ้นนั่นเอง
Margin Call คืออะไร?
ในเหตุการณ์ที่เงินในบัญชีของคุณลดลง จนเหลือน้อยกว่ามาร์จิ้นขั้นต่ำ (มาร์จิ้นที่คุณต้องใช้ในการถือ position) โบรคเกอร์จะทยอยปิดออร์เดอร์ที่คุณเปิดอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีคุณขาดทุนจนติดลบ โดยเฉพาะเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง คือราคามีการเคลื่อนไหวกว้างตัวอย่างที่ 1คุณเปิดบัญชีฟอร์เร็กซ์ ด้วยเงิน 2,000 เหรียญ(ไม่ใช่ความคิดที่ดี) คุณเปิดบัญชี 1 สแตนดาร์ด ลอท( 100,000 unit) ของค่าเงิน EUR/USD ซึ่งต้องใช้มาร์จิ้น 1,000 เหรียญ มาร์จิ้นที่เหลืออยู่ คุณสามารถเปิดออร์เดอร์เพิ่ม หรือสามารถรองรับการขาดทุนของออร์เดอร์ที่เปิดอยู่ ตั้งแต่แรกที่เปิดบัญชี 2,000 เหรียญ คุณมีมาร์จิ้นที่สามารถใช้เทรดได้ 2,000 เหรียญ แต่เมื่อเทรด 1 สแตนดาร์ดลอท ซึ่งจะใช้มาร์จิ้น 1,000 เหรียญ และมาร์จิ้นที่จะเหลืออยู่ คือ 1,000 ถ้าคุณเสียมากกว่ามาร์จิ้นที่เหลืออยู่ คือ 1,000 เหรียญ คุณจะโดน margin callตัวอย่างที่ 2คุณเปิดบัญชีด้วยเงิน 10,000 เหรียญ แล้วเปิดบัญชี 1 สแตนดาร์ดลอท ของค่าเงิน EUR/USD จะต้องใช้ margin 1,000 เหรียญ มาร์จิ้นที่เหลือเป็นเงินที่สามารถใช้ในการเปิดออร์เดอร์ หรือ เอาไว้รองรับการขาดทุนจากออร์เดอร์ที่เปิดอยู่ ดังนั้ถ้าเปิดที่ 1 standard lot ด้วยมาร์จิ้น 10,000 เหรียญ หลังจากเปิดออร์เดอร์ จะมีมาร์จิ้นเหลืออยู่ 9,000 เหรียญ เพราะ 1,000 เป็นมาร์จิ้นที่ถูกใช้ไปแล้ว ถ้าคุณเสียมากกว่ามาร์จิ้นที่เหลือ 9,000 เหรียญ คุณก็จะถูก margin call ต้องทำความเข้าใจกับความแตกต่างของ
มาร์จิ้นที่ถูกใช้ไป (used margin) กับ มาร์จิ้นที่เหลืออยู่ (usable margin) คืออะไร
ถ้ามูลค่ารวมของบัญชีคุณ มีน้อยกว่ามาร์จิ้นที่เหลือ เนื่องมาจากผลขาดทุนของการเทรด คุณจะต้อง ฝากเงินเพิ่ม หรือไม่เช่นนั้นโบรคเกอร์จะปิดออร์เดอร์ของคุณ เพื่อจำกัดความเสี่ยงของคุณ และความเสี่ยง ของโบรคเกอร์เอง เพื่อไม่ให้คุณเสียมากกว่าที่คุณเทรดถ้าเทรดโดยใช้บัญชีแบบมาร์จิ้น (ยืมเงินโบรคเกอร์เล่น แบบตลาดหุ้น) มันสำคัญมากที่จะต้องเข้าใจ นโยบายเกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้นให้ละเอียดควรจะรู้ว่าโบรคเกอร์ส่วนใหญ่ จะเรียกมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ครั้งแรกพวกเขาอาจจะให้ใช้ มาร์จิ้นที่ 1% ช่วงกลางสัปดาห์ ถ้าคุณถือ position ข้ามสัปดาห์ อาจจะต้องใช้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 2% หรืออาจจะสูงกว่านั้นเรื่องของมาร์จิ้น เป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจ และบางคนบอกว่า การใช้มาร์จิ้นเยอะเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ คุณควรจะเข้าใจเงื่อนไขหรือนโยบาย เกี่ยวกับ มาร์จิ้น ของโบรคเกอร์ จะได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ด้วยนั่นเองบางโบรคเกอร์ได้อธิบายเกี่ยวกับการใช้ leverage ในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น โดยใช้หลักการ ธรรมดาๆ ระหว่าง 2 แบบ คือLeverage = 100 / เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น = 100 / LeverageLeverage ส่วนใหญ่จะแสดงอยู่ในรูปแบบอัตราส่วน เช่น 100 :1 หรือ 200 : 1

โค๊ด: [Select]
http://www.investidea.in.th/2014/03/forex.html

19
มีระบบโนอินดี้แบบง่ายมาเสนอ..

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=FOc8Apt70Ds" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=FOc8Apt70Ds</a>

20
เครดิต คุณ kitty63 จาก
โค๊ด: [Select]
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8147202/I8147202.html ขอบคุณครับ

และ คุณ phukhaan ที่เอา link จาก pantip มาโพสที่บอร์ดครับ

โหลดได้ที่ -->
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/download/Candlesticks.zip
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=6407.0

21
พูดคุยForexทั่วไป / Trends Reversals
« เมื่อ: 29/ก.ค./2015 08:03:15 »

vdo นี้ จะสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผ่านเครื่องมือที่ชื่อ Avramis  Swing ซึ่งมีค่าใช้จ่าย $49/เดือน เเละใช้ได้กับบัญชี Real ของ XM เท่านั้น

แต่ทั้งนี้ หากเข้าใจหลักการเเล้ว ก็สามารถลากเส้น Top/Bottom เพื่อยืนยันเทรน เเละหา Swing Failure เพื่อยืนยันจุดกลับเทรด เเละเข้าเปิด order ได้ครับ

*กรณีจะเปลี่ยนจาก trend ขึ้น เป็นลง top ล่าสุด จะต้อง สวิงขึ้นไปทำ new high ไม่ได้ (ยอดจะต่ำกว่า high ล่าสุดซ้ายมือ) เเละเมื่อกลับลงมา break ที่ low ล่าสุด จึงเป็นการให้สัญาณ short sell
**กรณีจะเปลี่ยนจาก trend ลง เป็นขึ้น low ล่าสุด จะสวิงลงมาทำ new low ไม่ได้ (จะต้องสูงกว่า low ก่อนหน้า ซ้ายมือ) เเละเมื่อขึ้นมาจน break ที่ high ล่าสุด จึงเป็นการให้สัญยาณ buy

**TF H1 ขึ้นไปนะครับ

vdo --> <a href="https://www.youtube.com/watch?v=myUIoPeIPx8" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=myUIoPeIPx8</a>

ถ้าจะซื้อ indi -->
โค๊ด: [Select]
http://www.algotools.com/swing.html ซึ่ง indi จะมองหา swing failure เเละลาก fibo กำหนดจุด entry, sl เเละ tp1+tp2 ให้โดยอัตโนมัติ

โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=32973.0

22
ใครสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งาน Bill Williams's Indicators ทั้ง 6 ตัว ลองดู VDO นี้ครับ

-->
โค๊ด: [Select]
https://www.youtube.com/watch?v=nUyIhY5e9nY-->
โค๊ด: [Select]
https://www.youtube.com/watch?v=Bp8CqY-C2e0
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=33180.0

23
พูดคุยForexทั่วไป / สุดยอด Money Management
« เมื่อ: 29/ก.ค./2015 07:59:29 »
ตามนี้เลยครับ

โค๊ด: [Select]
http://forextrader.igetweb.com/index.php?mo=3&art=170199
ผมได้ลองคำนวนดูแล้ว ถือว่าโอกาสแพ้เราน้อยมากๆ หลังๆเงินก็จะทวีคูณไปเรื่อยๆ

40 ปิ๊ปต่อวัน  ถามว่ายากไหม?

เล่นTrend H1 H4 ไม่ยากครับ ง่ายมาก กราฟขึ้นลงทีมันก็เกิน 40 อยู่แล้ว

อินดี้พื้นฐานก็เอาอยู่ครับ

ลองดูนะครับ ระบบนี้ ผมยอมรับเลยแจ่มจริง

โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=12608.0

24
วันอาทิตย์อีกแล้ว ว่างๆมาคุ้ยเขี่ย เขียนอะไรเล่นสนุกๆ  บอกไว้ก่อนเลยว่าผมยังไม่ใช่ผู้สำเร็จที่ยืนฝั่ง 10%
จึงอาจไม่มีประโยชน์อะไรกับหลายๆท่าน หรือบางท่านอาจว่าไร้สาระเสียเวลาอ่าน ก็สุดแท้แต่ท่านจะกำหนด

แต่ผมก็จะเขียน ด้วยเหตผลที่ว่า  เมื่อคิดอะไรๆได้ก็อยากจะบันทึกไว้ เผื่อเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จ เพราะวันนึง ถ้าผมสำเร็จได้ในวงการนี้ แล้วปฏิบัติเหมือนหลายๆท่านที่สำเร็จ คือ หายออกไปจากบอร์ด ไม่ก็นานๆโผล่มาที (เหมือนจะมาดูอดีตตนเอง แบบว่ายังมีพวกปลวกพวกเม่าวนเวียนอยู่ในนี้แบบไม่ไปไหน ไม่เห็นรวย หน้าเดิมๆ  อยู่บ้างไหม  อิอิ  )

บางท่านใจดีก็ให้ความรู้แนวทางสู่ความสำเร็จ บางท่านก็แนะนำแบบว่าตักเตือน  มาทีก็ทำให้ปลวกเม่าอย่างผมตาโตมีประกายแห่งความหวัง แต่แล้วก็ไม่จบ และหายไปอีก แบบว่า ไรฟะ ยังไม่เห็นเข้าใจเลย ....ช่วยไม่ได้ กรูโง่เองนี่นา.... ก็งมเข็มกันต่อไป... T_T  นะ.....


คำถาม.....แล้วตรูจะสำเร็จได้ไหมเนี่ย เพราะได้ยินมาว่า เรียนรู้จากผู้สำเร็จ ก็จะสำเร็จได้ ไม่ต้องงมเข็ม หรือหลงทางออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ ...

แต่ในเมื่อ หาตัวผู้สำเร็จได้ยากเหลือเกิน จึงไม่แปลกอะไร ที่เราจะลองผิดลองถูกจนกว่าจะชนะ หรือไม่ก็แพ้ไปในที่สุด ....ผมก็เลยอยากบันทึกการเดินทาง (สู่ความสำเร็จ) เก็บไว้เผื่อใครจะได้ตามได้ ....แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็คงไม่ต้องคิดไรมาก เพราะมันจะตกหายไปในที่สุด ก็ต้องขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปัน และเวบ thailandinvestorclub.com ด้วยครับที่เป็นแหล่งความรู้มากมายที่จะทำให้เราสำเร็จได้


Money Management (สำหรับคนไม่ชอบ SL)

ผมขอเริ่มที่กระทู้นี้เลยละกัน เผื่อเป็นประโยชน์กับบางท่านที่สนใจเรื่อง Money Management แบบนึงที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์กันตนเองเป็นอย่างมากในช่วงนี้ อาจเป็นช่วงที่เรียกว่าแมงเม่าที่พยายามจะก้าวข้ามฝั่งไปยืนในฝั่ง 10% ให้ได้ก็ได้   
และก็พอดีมีกระทู้เกี่ยวกับเฮีย sonchai ผมเลยเอามาสรุปให้ดูกันเป็นตัวอย่าง และก็ไม่รู้ว่าไปเหมือนตำราฝรั่งอะไรไหม แต่ที่แน่ๆ ได้ความคิดมาจากเฮีย sonchai กับคุณ pises999 ตั้งกะครั้งโน้นนั่นแหละ และก็ประสบโดยตรงกับตนเองหมาดๆ เดือนนี้ ...
ก็ต้องยกเครดิตให้ท่านทั้งสองไว้ด้วยครับ


MM แบบนี้ น่าใช้ไหม ลองดูนะครับ

เริ่มที่ MM หลักก่อน เช่น ถ้าคุณมีทุนจะเล่นเริ่มที่ 5,000$ และตั้งลิมิตเสี่ยงไว้ที่ 2% คัทลอส ก็คือ 100$ สูงสุดต่อการเทรด 1 ครั้ง (เน้น ต่อการเทรด 1 ครั้งนะครับ)

แล้วถ้าระบบคุณมีการให้ตั้ง Stop Loss แบบดูจากกราฟ อาจเป็นที่มากกว่ายอดสูงเดิมนิดหน่อย หรือ ต่ำกว่าต่ำเดิมนิดหน่อย ก็จะวัดได้ว่ามันกี่ pip แล้วเอามาคิด lot เพื่อให้สอดคล้องกับ 2% Loss นี้

เช่น สมมติวัด SL ได้ที่ 50pip ก็จะต้องเปิดเทรดที่ 0.2 lot แบบนี้ (โบรค  standard 1 lot ต่อ 10$ ต่อ 1 pip เล่นโบรค 4 หลัก)
เพราะถ้ามันโดน SL เราก็เสีย 100$ คือ 2% นั่นเอง  (เน้นอีกที ต่อการเทรด 1 ครั้งนะครับ)

คราวนี้คุณลองดูเฉลี่ย SL pip ที่ระบบคุณ มักให้ตั้ง ส่วนมากมันจะไม่หนีกันมากนักต่อ Signal ที่มันให้มาในแต่ละครั้ง เช่น พอเกิด signal ก็ให้ตั้ง Sl ที่ 40 pip
Signal ครั้งต่อไป อาจตั้งที่ 50 pip ต่อไป อาจ 35 pip , 30 pip....
เลือกเอาค่าที่สูงสุดมาใช้ก็ได้ครับ เช่นกรณีนี้ เลือกเอา 50pip มาใช้ในการคิด
ก็จะได้ lot สูงสุดที่จะเปิดคือ 0.2 เท่านั้น ห้ามเปิดเกินกว่านี้

สรุปว่า....
MM เสี่ยงเสียได้ไม่เกิน 2% ของยอดลงทุน 5000$ คือ 100$
และเรามี SL สูงสุดได้ที่ 50pip ก็จะเปิด lot ได้สูงสุดที่ 0.2 ต่อการเข้าเทรด

มาดูกัน
MM safe my Account
สมมติถ้าเรามีทุนที่ 5000$ เราก็เปิดบัญชีโดยฝากเริ่มต้นแค่ 100$ เท่านั้นครับ ไม่ต้องฝากทั้งหมด และอาจได้โบนัสด้วย 10-20% ก็ดีไป แล้วก็เปิด lot ได้สูงสุด 0.2 lot  ฝากแค่ 100$ แต่คิดเหมือนคุณมีเงินในพอร์ท 5000$ แล้วทีนี้จะไม่ตั้ง SL ก็ตามใจอีก ฮีๆ (หลายคนคงชอบ เพราะขี้เกียจตั้ง ตั้งทีไร โดนกินทุกที )

แต่เพราะเรากำหนดไว้แล้วว่า แค่ 2% ลงทุน  ฉนั้น ถ้ามันผิดทางก็ปลอดภัยแน่ ไม่มีเสียมากไปกว่านี้แน่นอน ....

แม้โดนกราฟกระชากไปหรือเกิดแกปขนาดหย่าย..... ยังไงก็โดนไม่เกิน 2% (100$) แน่นอน เพราะมันจะล้างพอร์ท และถ้ากราฟกระชากเกิดแกปแบบนั้น พอร์ทคุณจะติดลบให้อีกบาน ก็ช่างมัน เพราะโบรคไม่มาตามคืนส่วนลบนี้.....อิอิ...เห็นข้อดีไหมครับ เพราะถ้าคุณฝากเงินมากกว่า 100$ มันก็โดนไปมากกว่า 100$ แน่นอน  ( ข้อดี 1 ข้อละ ...ท่านไม่ SL เดี๋ยวโบรคจัดให้เอง ฮีๆๆ)

แล้วคุณก็สงบสติพักไปซะ เว้นวรรค แบบคุณ pise999 แนะนำ เมื่อมีสติ ก็มานั่งทบทวนซะ เสียเพราะอะไร (โดยไม่เกี่ยวกับว่าลง lot หนักอะไรเลย ) คุณก็จะวิเคราะห์ได้ดีขึ้น.....อ๋อ มัน sideway ....อ๋อ เข้าเร็วไป ระบบยังไม่บอกสัญญาณเลย ...ชอบลักไก่......อ๋อ เข้าช้าไป ตามเค้าไม่ทัน ที่น่าเจ็บใจ โบรค reqoute หลายรอบ กว่าจะได้ แขวนไว้ซะปลายยอดเลย........
มีไรอีกล่ะท่าน.......อืม...ไม่น่าโลภ รู้งี้ปิดซะตั้งแต่ตะกี้ก็ดีหลอก ลบเลย.....กรรม.............
(ข้อดีข้อที่ 2 รู้ตนเองผิดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว จะเข็ดจะจำจะทำอีกไหม)

พอสติกลับมา แล้วก็ค่อยมาเริ่มฝากเข้าไปใหม่อีก 100$ แล้วก็เทรดแบบเดิมต่อไปอีก ผมว่าเดี๋ยวนี้การฝากทำได้รวดเร็วมาก ไม่เสียเวลานาน (เพราะโบรคชอบให้ฝากอยู่แล้ว ไม่ชอบให้ถอน :) )

เพราะถ้าระบบเทรดที่คุณใช้ มันดีมันทำกำไร มันก็จะต้องบวกได้แน่ แล้วคุ้มค่าได้
เช่น อาจได้กำไรเพิ่มมาเป็น 500$-1000$ ก็ให้ถอนครับ อย่าเก็บไว้ โดยให้คิดตาม MM อันหลัก ที่คุณใช้ แต่ตอนนี้ทุนเพิ่มแล้ว เช่น ทุนเพิ่มเป็น 6000$  ถ้าเสี่ยง 2% เท่าเดิม ก็ ให้ถอนออกเหลือไว้แค่ 120$ (2% ของ 6000$) อะไรทำนองนั้น ก็คิด SL กับเทรด lot ใหม่ เป็นต้นครับ..... ก็ แค่ไม่เก็บเงินไว้ในพอร์ทเท่านั้นเอง.....

เพราะอาจเกิดกรณีที่ไม่คาดคิด เช่น เกิดโบรคโกง เกิดโบรคล้ม ปิดไป คุณจะไปตามเงินมากๆที่ฝากไว้ยังไง.......เมื่อไรจะได้คืน......หรือเผื่ออาจเกิด Server โบรคล่ม ติดๆ หลุดๆ หรือข้อมูลหาย..ออร์เดอร์หาย ... ปวดจิต...กว่าจะไปค้น ไปตามคืน แถมภาษาปะกิตอ่อนแอ...ภาษามือ มันก็มองไม่เห็น :P
(ข้อดีข้อที่ 3 ทุนเยอะๆ เก็บไว้อยู่กับเราย่อมดีกว่าอยู่กับโบรค แน่นอน)

แต่นะ...ถ้าท่านคิดว่า น่ารำคาญ เทรดครั้งเดียวโดน SL เสียซะแล้ว ต้องมายุ่งยากเสียเวลามาทำเรื่องฝากเงินอีก มันไม่ทันการณ์ กราฟกำลังวิ่ง....เสียโอกาส
ก็แนะนำให้ท่าน กำหนด SL ซะครับ แล้วฝากไปเลยตามทุนที่ท่านมี แล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาอ่านต่อครับ จงทำตามที่ท่านชอบต่อไป

มาหาข้อดีเพิ่ม ...การฝากถอนเงินไม่มาก น่าจะปลอดภัยกับ ปปง. ด้วยครับ โดยเฉพาะการถอน...เงินเยอะๆ อาจโดนสอบ หรือหาว่าฟอกเงินได้.....ยุ่งวุ่นวาย....หุหุ......
(ข้อดีข้อที่ 4 หลบได้เป็นหลบ เพราะตอนนี้ยังไม่มีกฏหมายรองรับ)

และอาจมีข้อดีอื่นอีกที่คิดไม่ถึง....
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถ้าเราไม่มีวินัยในการยอมรับว่าผิดทาง ชอบปล่อยให้ลากไป และอัดเพิ่มไปอีกไม้ สองไม้ สามไม้ แล้วก็รอร้อรอ.....
และไม่ชอบตั้ง SL และชอบเลื่อน SL ออกไป ....นี่ก็เป็นสาเหตให้เสียมากกว่า 2% ที่ตั้งใจไว้  จนอาจหมด 5000$ ได้เลยในการเทรดรอบเดียว....
แต่ถ้าทำตามที่บอก....คุณจะรอดได้แน่เมื่อผิดทาง ...... เพราะโบรคจะล้างพอร์ทคุณให้เอง ซึ่งก็แค่ 2% ของทุนที่มี ....ปลอดภัยแน่นอน
(ข้อดีข้อที่ 5 ถ้าวินัยไม่ใช่เพื่อนเรา และเราชอบแหกกฏมากกว่า ...ใช้เถอะ MM นี้เหมาะแน่....อิอิอิ )

ถามว่าทำแบบนี้แล้วจะหมด 5000$ ไหม เพราะผิดเรื่อยๆ ล้างพอร์ทเรื่อยๆ  ก็ต้องถามคุณเองแล้วครับว่า

ระบบที่คุณใช้ มันทำกำไรไหม หรือคุณเข้าแบบตามใจอยากเข้าก็เข้า (ขายก็ได้ที่ยอด ซื้อก็ได้ที่เหว) อยากออกก็ออก(ขายหมู) อิอิอิ  ....เมื่อเราคิดทบทวนข้อผิดเราบ่อยๆ เราก็จะแก้ไขได้ในที่สุด (ข้อดีข้อที่ 6  จะพิสูจน์ว่าเราไม่ใช่บัวใต้น้ำ และก้าวข้ามฝั่งได้)

เอาละครับ พอเข้าใจ MM แบบนี้ไหมครับ เป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน.....มันไม่ได้วิเศษอะไร ไม่ได้ทำเงินมหาศาลให้คุณ แต่ป้องกันทุนของคุณไว้ไม่ให้หมดเร็วไปตามอารมณ์ของคุณตอนเทรดผิดทาง...

ผมว่าเฮียก็คงใช้คล้ายๆแบบนี้แหละ แต่เฮียแกชอบมาบอกว่า ล้างอีกแล้วครับท่าน.....หุหุ ...พอเอาครั้งที่กำไรมาโชว์ ก็.....หึหึหึ..นะ..ก็ต้องขอบคุณผู้ที่หวังดีทุกท่านที่แนะนำ

สำหรับท่านที่มีทุนไม่มาก ก็ให้คิดลดลงตามส่วนครับ ที่เน้นคือทำตาม MM หลักที่ใช้ครับ แต่ให้ฝากแค่ขั้นต่ำสุด ก็เท่านั้นครับ

เช่น มีทุน 1000$ เสี่ยง 2% ก็เริ่มฝากที่ 20$ ก็เปิดบัญชี micro ก็พอ และเทรดไปเลยครับ โดยคิดซะว่าพอร์ทตนเองมี 1000$ ทำให้ได้เป็น 100$ แล้วถอนทำใหม่ ๆ ๆ พอพอร์ทโต ก็ฝากเพิ่มทุนไปอีก 

แต่สำหรับท่านที่มีทุนไม่มาก เป็น 1000$ แต่สามารถหาทุนมาเล่นได้ทุกเดือน เช่น เดือนละ 100$ พอไหว แบบว่าพอหมด ก็รอเงินเดือนมาเติม :P อิอิ

ก็แนะนำว่า ให้คิดเสมือนว่าท่านมีเงินทุนที่ 1000$ เสี่ยง 2% คือ 20$ ก็เริ่มฝากแค่ 20$ และจะเล่นผิดได้ 5 ครั้ง คือเติมทีละ 20$ ได้ 5 ครั้งหมดทุน 100$ ต่อเดือน :(

ก็ให้ท่านเลือกระบบเทรดระยะกลาง ที่ TimeFrame วัน น่าจะเหมาะสม เพราะระบบดูกราฟวัน มักจะให้สัญญาณเดือนหนึ่งอาจแค่ 4-5 ครั้ง เท่านั้น จะเหมาะกับท่านเลย หรือให้ท่านหาระบบที่ให้สัญญาณเดือนละ 4-5 ครั้งพอ แต่มี win/loss ratio สูงกว่า 2 เท่าของ stoploss

และก็เติมมันทีละ 20$ เติมได้ 4-5 ครั้งต่อเดือน หมด :( และระบบที่มี win/loss ratio สูง ใน 4-5 signal จะมีถูกแน่ 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้มากกว่า 2-3 เท่าของ Stoploss  ทำให้ผลรวมในเดือน ท่านจะมีกำไรได้
เช่น ผิด 2 ครั้ง (เสีย 20$ x 2 ครั้ง = -40$) แต่ถูก 3 ครั้ง (กำไรขั้นต่ำ 20$ x3 ครั้ง = +60$ ) ผลรวมจะมีกำไร 20$ ต่อเดือน จากทุน 100$ ก็อาจได้มาเป็น 120-200$ อะไรทำนองนี้ครับ

มันเทียบเท่ากับท่านมีทุน 1000$ เล่นที่ความเสี่ยง 2% ต่อครั้งเลยนะเนี่ย
(ข้อดีข้อที่ 7 ลักไก่ มีเงินน้อย แต่คิดซะว่ามีเยอะ แบบ leverage เลย อิอิอิ )

เอาละ น่าจะหมดปัญหาเรื่อง MM ละครับ ทีนี้ก็ไปตามหาระบบเทรดที่ทำกำไรกันต่อไปนะครับ
เพราะถ้าไม่มีระบบเทรดที่ทำกำไร เทรดด้วย MM เทพแค่ไหน ก็หมดอยู่ดี.......
มีร้อยหมดร้อย ...... มีพัน หมดพัน..........มีล้าน หมดล้าน


ทิ้งท้าย.......

ผมว่าผมจำไม่ผิดนะ ว่า มีคุณผู้สำเร็จท่านหนึ่งมาโพสบอกไว้ว่า เรากำลังเล่นการพนัน ไม่ใช่การลงทุน .....
และอีกท่านก็ยกตัวอย่างการเทรดของท่านไว้ ว่าเราก็ต้องทำกำไร เอาชนะตลาดให้ได้ เก็บแค่ 20-30pip ก็ 300-500$ ต่อวันก็พอ
เดือนนึงก็เก็บได้แค่ 200-300pip เอง(น่าจะ 3000-5000$).......... :o

คิดดูเอาละกันครับว่า ....เทพจริงเค้าใช้ MM แบบไหนกัน.....แล้วคุณทำได้ไหม วันละ 20-30 pip และมันคือ 300-500$ ต่อวัน
(ผมว่าเฮียแกทำได้แล้วนะ อิอิอิ) (แล้วตรูล่ะ ทำไม๊ทำไม ไปหวัง เป็น 100pip ต่อวันนะ แถมทำได้ก็ lot เท่าขี้มด แล้วเมื่อไรจะรวย)


เอาแค่นี้นะครับ นี่เป็นตัวอย่าง MM แบบหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยง สำหรับพอร์ทเล่นรายวันครับ

โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=19066.0

25
สวัสดีครับ ผมศึกษา Forex มาพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ยังไม่เคย Trade จริงๆ จังเสียที
วันนี้มานั่งคำนวณเล่นๆ ว่าถ้าตั้งเป้าหมายที่ไม่สูงจนเกินไป เอาแค่..

วันละ 7 Pips
ด้วยทุน $100
ลงทุน 20% ของทุน
Leverage 1:100

กำไรทบต้นมาเป็นเงินทุนของเดือนถัดไป
ลงทุน 20% ของทุนต่อไปเรื่อยๆ

เพียง 24 เดือน จากเงิน $100 (3,345 บาท)
จะกลายเป็น $37,414.44 (1,251,513 บาท)

หากเรามีวินัย ก็จะสามารถทำเงินทุน 3,000 กว่าบาทให้เป็นเงินล้านได้ หากไม่ตาโต ถอนเงินออกมาใช้ระหว่างทางเสียก่อน

สำหรับใครที่ได้กำไรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 140Pips/เดือน ก็นำสูตรทบต้นนี้ไปใช้ได้นะครับ

ส่วนตัวผม คิด Money Management หลายแบบพอสมควร แต่ยังหาระบบที่เหมาะกับตัวเองไม่เจอเลยครับ :-\

โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=7443.0

26

เนื่องจากมือใหม่ นิสัยเสีย ชอบเทรดล้างพอรต์เป็นว่าเล่น (ถึงแม้จะเป็น

ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการรวมเงินไว้ในแอคเค้าเดียว

เมื่ออดใจไม่ใหว (ควบคุมอารมณ์ไม่ได้)  ก็เทรดเพิ่ม หรือ over trade ซ้ำแล้วซ้ำอีก

เช่นทุน 1000 เหรียญ

ก็ใส่แอคเค้าไว้ 1000 เหรียญไปเลย มันเลยทำให้หมดไว

เนื่องจากโบรก อนุญาติให้เปิดแอคเค้าเพิ่มได้ฟรีอยู่แล้ว ก็ทำหลายแอคเค้าดีกว่า

และเนื่องจากการโอนแบบภายใน internal transfer มันก็ทำง่ายอยู่แล้ว และโอนทันทีด้วยระบบอัตโนมัติ

เช่น

1000 ทำ 2 แอคเค้า
A แอคเค้าหนึ่งใส่ไว้ 1000 แล้วโอนไปใส่แอคเค้า B ครั้งละ 50 เหรียญ
แล้วก็ใช้แอคเค้า B ในการเทรด หมดก็เติมใหม่

ถ้าเทรดเสียหมด ก็จบเกมส์ รอวันใหม่

เนื่องจากว่า การเทรดที่ดี ควรมี stop loss (ใช่ใหม ฮา)

ถึงแม้ว่า มันจะมีค่าเท่ากัน ระหว่าง 1000 เหรียญ ทำ stop loss ไว้ 50 เหรียญ ก็ตาม 
แต่การแบ่งแอคเค้ามัน อาจจะดีกว่า เพราะไม่สามารถ order เพิ่มอีกได้ ไม่เหมือนกับ แบบ 1000 เกิดคันมือ หรือ ล้างแค้นเทรดแก้คืน ก็สามารถเพิ่มได้

แต่การแยกแอคเค้า จะทำให้ฉุดคิดได้ว่า หมดงบประมาณของวันนี้ไปแล้วนะ

ถ้าเทรดกำไร ก็อาจจะโอนเงินกำไรจาก B ไปเก็บไว้ A เหลือทุนเริ่มเท่าเดิม
หรือกลับกัน กำไรแล้ว ก็อาจจะโอนทุนกลับไป A เอากำไรเทรดต่อ อะไรประมาณนี้

หรือแบ่งเป็นหลายแอคเค้า
เช่น 1000 เหรียญ แบ่งใส่ 100 เหรียญ จำนวน 10 แอคเค้า แล้วเทรด หมดก็ใช้แอคเค้าใหม่ ไปเรื่อยๆ
อาจจะเปลืองแอคเค้าหน่อย (โบรกคงไม่ว่าหรอกมั้ง ฮา)

ใช้งบเท่านี้ แค่ 100 เหรียญ เทรดให้ได้กำไร ให้ได้

ดังนั้น 100 เหรียญ เทรดที่ 0.1 lot ก็จะล้างฟอรต์เมื่อกราฟวิ่งไปได้ 100 pip

เช่น สำหรับเงิน 1000 เหรียญ
แทนที่จะใส่ไว้ 1000 ถ้วน แล้วหมด ทีเดียวภายในวันเดียว หรือ ภายใน 5 วัน หมด
ก็แยกเป็น แอคเค้าละ 50 เหรียญ แบ่งได้ 20 แอคเค้า เทรดเสีย วันละ 1 แอคเค้า ก็จะหมดภายใน 20 วัน หรือ ครบ 4 สัปดาห์ พอดี

เพราะยังไงแล้ว ใส่ไป 1000 เหรียญรวด เวลาเราเทรดแบบมี stop loss อยู่แล้ว ไอ้ที่เหลือ มันก็ไม่ได้ใช้งานอะไรเลยอยู่แล้วใช่ใหมครับ

เนื่องจากวินัย ยังไม่มี ก็อาศัยกลวิธี ค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ จะให้ดีเลยทีเดียวหมดทุกคน เก่งทุกคน มันคงเป็นไปได้ยาก แน่ๆ


โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=23820.0

27
พูดคุยForexทั่วไป / Money Management VDO for day trader
« เมื่อ: 29/ก.ค./2015 07:52:53 »
Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_1.flv
โค๊ด: [Select]
http://rapidshare.com/files/164535922/Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_1.flv
Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_2.flv
โค๊ด: [Select]
http://rapidshare.com/files/164536605/Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_2.flv
Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_3.flv
โค๊ด: [Select]
http://rapidshare.com/files/164537316/Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_3.flv
Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_4.flv
โค๊ด: [Select]
http://rapidshare.com/files/164537802/Money_Management_for_Day_Traders_-_live_day_trading_4.flv
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=2765.0

28
อันนี้เป็นไฟล์ *.ptt ใช้ power point ในการเปิดดูนะครับ โดยไฟล์นี้ได้นำมาจากเว็บลุงโฉลกนะครับ ลุงเป็นคนทำมาเผยแพร่นะครับ ;D และคนที่โพสและฝากไฟล์คือคุณ ugen ซึ่งเป็นสมาชิกของเว็บลุงโฉลกครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

โค๊ด: [Select]
http://www.mediafire.com/?q03qohwzjjn
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=4746.0

29
ตอนนี้ผมได้ระบบของตัวเองแล้วในตลาดแแบบมีเทรน แต่ผมกำลังหาระบบของตลาดแบบ sideway อยู่ เมื่อได้แล้วก็จะทำตามระบบไปตลอด แต่สิ่งที่ผมคิดว่ามันสำคัญมากกว่านั้นคือ การศึกษาเกี่ยวกับจิตใจของเราเอง ถ้าเราเอาชนะตัวเองได้แล้ว ผมมั่นใจว่าเราจะเอาชนะตลาดได้ครับ ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อ เอาไว้เก็บบันทึกรวบรวมสิ่งที่ผมศึกษามาทั้งหมด แล้วเอามารวมไว้ที่เดียว รวมทั้งผมเอาไว้เก็บบันทึกเรื่องราวการเทรดของผม เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าผมจะอยู่ในเส้นทางการเทรดนี้ ตลอดไป

วันแรกนี้ผมขอรวมเอาวีดีโอที่ผมดูแล้วชอบ มาให้ทุกคนลองดูกันครับ

1.แนวคิดในการเล่นหุ้นโดยระบบ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การสุ่มหยิบลูกแก้วของเด็กๆ ซึ่งมีลูกสีขาวอยู่ถึง 70% ในถุง มาดูกันครับว่าเขาจะหยิบได้ลูกสีขาวบ่อยแค่ไหน ซึ่งเปรียบเทียบกับระบบเทรด ที่มีความแม่นยำถึง 70 % หมายถึงคุณชนะ 7 ใน 10 ครั้งของการเทรด หลายคนคิดว่ายังไงก็กำไร ใช่ครับถ้าตามระบบไปยังไงก็กำไร แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงทำตามระบบไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น มาติดตามกันเลยครับ

แนวคิดในการเล่นหุ้นด้วยระบบ
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=2lD-gd9hk3I
2.จิตวิทยาการลงทุน ต่อกำไร- ขาดทุน วีดีโอนี้ได้อธิบายว่าเมื่อมนุษย์ได้กำไร หรือ ขาดทุน เขาจะมีปฎิกิริยา ตอบสนองอย่างไร ผมดูแล้วโดนมากครับ วีดีโอนี้มีแบบทดสอบง่ายๆ ให้คุณลองคิดตาม ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้เกี่ยวกับการเทรดได้เป็นอย่างดี เป็นการตอบคำถามว่าทำไมต้อง take profit run คือเมื่อได้กำไรแล้วจงปล่อยให้กำไรวิ่งไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งรีบปิด เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เมษา 2553 ผมบวกสูงสุดในชีวิตการเทรด คือ 120 pip จากการใช้เทคนิคนี้ ผมตื่นเต้นเพราะปกติผมชอบเล่นสั้นๆ ประมาณ 10 -20 จุดก็ปิดแล้ว วีดีโอนี้ทำให้มุมมองผมเปลี่ยน อีกเรื่องที่สำคัญคือ stop loss คือการตัดขาดทุนเมื่อเข้าผิดทาง เขามีเทคนิคยังไงที่จะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลองดูกันเลยครับ

จิตวิทยาการลงทุน ต่อกำไร- ขาดทุน
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=Qc41YnSmGn8
3.หุ้นกับหลัการเดิมพัน วีดีโอนี้พูดได้น่าสนใจมากครับ โดยเขาเปรียบเทียบการเล่น poker กับ การเทรด ผมเองได้ไปทดลองเล่นเกมส์ poker ออนไลน์ใน facebook ได้ไอเดียมาว่า ผมสามารถทำกำไรได้มากขึ้นๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องชนะบ่อยๆ ผมคิดว่าผมชนะแค่ 1 ใน 10 ครั้งเองครับ แต่ถ้าผมมีไพ่ในมือดีเมื่อไหร่ ผมจะพยายามลงเดิมพันให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เวลาไพ่ในมือของผมไม่ดี ผมยอมหมอบครับ คือ ยอมเสียเงินจำนวนน้อยๆ ไปเลย แต่พอผมมีโอกาสที่ดีผมจะเอาเยอะๆ ครับ ลองศึกษาดูนะครับ ผมว่ามันนำมาปรับใช้ในการเทรดได้

หุ้นกับหลักการเดิมพัน
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=sEnScT8s4mc
4.พฤติกรรมผิดๆ ในการเล่นหุ้น วีดีโอเรื่องนี้พูดถึงเรื่องอารมณ์ของมนุษย์ขณะเทรดหุ้นครับ ทำไมคนกว่า 90% ถึงขาดทุน วีดีโอนี้ตอบได้ครับ พอผมดูแล้วโดนใจมากครับ ผมว่าทุกคนเป็นอย่างที่วีดีโอนี้บอกเป๊ะ บางคนไม่รู้ตัวเลยเวลาเทรด มารู้ตัวอีกทีหลังขาดทุนไปแล้ว ทุกคนต้องดูวีดีโอนี้นะครับ แนะนำ

พฤติกรรมผิดๆ ในการเล่นหุ้น
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=36XLoBDod5k
5.จิตวิทยาการลงทุน วีดีโอนี้พูดถึงเรื่องจิตวิทยาทั่วๆไป เกี่ยวกับการลงทุนครับ สิ่งที่ผมได้จากวีดีโอชุดนี้ก็คือ หยุดเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น คือผมหยุดในเรื่องการค้นหาเครื่องมือ หรือ อินดิเคอเตอร์ ต่างๆ แล้วครับ เพราะไม่ว่าคุณจะมีอินดี้ที่ดีแค่ไหนก็ตาม เชื่อไหมครับว่าหลายคนก็ยังจะขาดทุนอยู่ดี เพราะความจริงแล้วเครื่องมือ หรืออินดี้ต่างๆ นั้น มันมีผลแค่ 10 % เองครับ หลายคนไม่รู้จะได้รู้ไว้ และลองสังเกตุคนที่ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอส่วนใหญ่นะครับ เขาใช้อินดี้พื้นๆ กันทั้งนั้น ผมไม่เห็นว่าจะมีใครใช้เครื่องมือที่พิศดารอะไรเลย เพราะเครื่องมือง่ายๆ นี่แหละที่มันง่ายต่อการวิเคราะห์ จริงๆ ผมสนใจที่จะใช้ EA ในการเทรดนะครับ แต่ยังหาไม่เจอ เพราะ EA จะตัดอารมณ์ของเราออกครับ และทำตามระบบไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วก็จะกำไรครับ แต่ตอนนี้ผมเห็นคนไทยส่วนใหญ่ ใช้ EA ที่มีการเบิ้ลล็อต หรือ EA ที่ทำกำไรเยอะๆ แต่ drowdown สูงมาก ผมเลยไม่กล้าใช้ เพราะผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้เลย ผมอยากมองหาคนไทยที่ใช้ EA ตัวใดตัวหนึ่งมานานเป็นปีๆ แล้วทำกำไรได้เรื่อยๆ ใครรู้จักแนะนำให้ผมทีนะครับ

จิตวิทยาการลงทุน ตอนที่ 1
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=QkDdjGG8lbkจิตวิทยาการลงทุน ตอนที่ 2
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=u-xQ1i2U0_E
6.กุญแจสำคัญในการเล่นหุ้น วีดีโอนี้บอกว่ากุญแจสำคัญในการเล่นหุ้นคือ การตัดขาดทุนครับ ใครที่ตัดขาดทุนได้บ่อยๆ ตัดขาดทุนได้โดยไม่ลังเลสงสัย ไม่มีความเสียดาย เขาบอกว่าคุณเข้าใกล้ความสำเร็จแล้วครับ ฟังดูแล้วหลายท่านยังงงๆ งั้นลองดูเหตุผลของเขาเลยครับ

กุญแจสำคัญในการเล่นหุ้น
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=VqP3ZC0kT_k
7.เพลงนี้.. สำหรับนักเล่นหุ้น! เพลงนี้แต่งขึ้นโดย trader ขั้นเทพ แต่งเอง ร้องเองกับเพื่อนๆ บอกไว้หมดเลยครับ ว่าถ้าเข้าถูกทางต้องทำไง ผิดทางทำไง มีข่าวทำไง ต้องลงทุนขนาดไหนถึงพอดี ฟังกันเลยครับ ดีและเพราะมากๆ

เพลงนี้.. สำหรับนักเล่นหุ้น!
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=Wuq-t8EZ42s
8.stay focus นี่เป็นวีดีโอของคุณ ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ครับ ผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในธุรกิจการหารายได้ทางอินเตอร์เนต ได้แนะนำว่าเราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จเราต้อง stay focus เพราะคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนเขาทำอย่างนี้ การ stay focus ก็คือการตัดสินใจไปเลยว่าเราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ แล้วลงมือทำแค่สิ่งเดียว หมกมุ่นกับมัน บ้ากับมัน อย่างผมเองหลังจากที่ทดลองทำมาแล้วหลายอย่าง วันนี้ผมได้ตัดสินใจ stay focus ที่เทรด forex อย่างเดียวแล้วครับ เพราะการเทรดนี้มันตอบโจทย์ชีวิทของผมได้ทั้งหมด คำถามใดที่เกิดขึ้นในใจของผม การเทรดมันตอบผมได้ทั้งหมด ปัจจุบันผมก็ยังอยู่ใน 90% ที่ขาดทุนอยู่ แต่ผมจะฝึกฝนไปเรื่อยๆ จนสำเร็จ จะไม่เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นอีกแล้ว ไม่มีคนล้มเหลว มีแต่คนล้มเลิก ผมเชื่อคำนี้ครับ

stay focus 
โค๊ด: [Select]
http://www.youtube.com/watch?v=DgAC8WxZ4ag&feature=related
โค๊ด: [Select]
http://thailandforexclub.com/index.php?topic=10379.0

30
การเทรดแบบทบต้นทุนเป็นการเทรดที่ได้รับคว­ามนิยมเป็นอย่างมาก ผมจึงอยากแนะนำรูปแบบนี้นะครับ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าเทรดแบบไหน

ข้อแนะนำการเทรดแบบทบต้นทุน
สำหรับทุน 100$ ควรจะเทรดไม่เกิน 0.10Lot โดยจะแบ่งเข้าตามนี้
ไม้ที่ 1 เทรดไป 0.01Lot
ไม้ที่ 2 เทรดไป 0.02Lot
ไม้ที่ 3 เทรดไป 0.04Lot
รวมแล้วก็เป็น 0.07 Lot นะครับยังไม่เกิน 0.1Lot ถ้าราคายังไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์อีกให้เ­ราใส่ไม้สุดท้ายไป
ไม้ที่ 4 เทรดไป 0.03Lot
รวมแล้วก็เป็น 0.10 Lot พอดีนะครับ ถ้าไม้ที่ 4 ยังไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อีก ให้เรานั่งรอเฉยๆนะครับ ไม่ควรใส่เพิ่ม และถ้าราคามันมาชน Stop Loss เราก็อย่าไปเครียดนะครับ เพราะชน Stop Loss ยังดีกว่าไม่ชนอะไรเลย แล้วล้างพอร์ตนะครับ และคำแนะนำอีกอย่างเราไม่ควรเพิ่มไม้ในระย­ะห่างที่ใกล้ๆกัน เราควรเว้นระยะห่างให้มันพอสมควรในแต่ละไม­้นะครับ

เริ่มศึกษา -->
โค๊ด: [Select]
http://www.trademillion13thai.com/money-management-%E2%80%93-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94-15483.page

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 17
SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums