91
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
92
EUR/USD, EUR/JPY / สอนเลือกคู่เงิน Forex Day trade (Trader's Way)
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:40:30 »93
พูดคุยForexทั่วไป / 4ขั้นตอนง่ายๆ ในการฝากเงินเข้าโบรกเกอร์ FBS
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:38:00 »
การฝากเงินนั้นผมแนะนำให้ฝากผ่าน Paysbuy เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมต่ำ1.กดไปที่ Account ที่ต้องการจะฝากเงิน กดไปที่ Deposit funds
2.เลือกช่องทางการชำระเงินของท่านสำหรับคนไทยผมเนะนำ Paysbuy จะเสียค่าธรรมเนียมต่ำและไม่เสียค่าอัตราแลกเปลี่ยนมาก
3.กรอกข้อมูลใส่จำนวนเงินบาทที่ท่านต้องการฝาก และสังเกตุช่องด้านหลัง FBS จะคำนวนยอดเงิน $ ให้ว่าท่านจะได้กี่ $ ตามอัตราแลกเปลี่ยนตามจริง เลือก Account number กรอก อีเมล์ และกด Upload
4.กรอกช่องทางการชำระเงินเมื่อเข้ามาสู่หน้าตาของ website paysbuy แล้วให้ทำการเลือกช่องทางการชำระเงิน ตามที่ท่านสะดวก หากท่ามี Internet banking จะสะดวกมาก(บางธนาคารจะจำกัดการโอนเงินระหว่างประเทศไว้ที่ 10,000 หรือบางธราคาร 20,000 บาท ท่านสามารถโทรไปขอขยายลิมิตได้) ผมใช้ของธนาคารกรุงเทพเนื่องจาก ลิมิตการโอนสูง
เมื่อเลือกแล้วกรอกข้อมูลและทำการ ยอมรับและดำเนินการต่อ ระบบจะให้ login Ibanking และท่านก็ทำการโอนเงิน
เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการฝากเงินเข้าโบกรเกอร์
2.เลือกช่องทางการชำระเงินของท่านสำหรับคนไทยผมเนะนำ Paysbuy จะเสียค่าธรรมเนียมต่ำและไม่เสียค่าอัตราแลกเปลี่ยนมาก
3.กรอกข้อมูลใส่จำนวนเงินบาทที่ท่านต้องการฝาก และสังเกตุช่องด้านหลัง FBS จะคำนวนยอดเงิน $ ให้ว่าท่านจะได้กี่ $ ตามอัตราแลกเปลี่ยนตามจริง เลือก Account number กรอก อีเมล์ และกด Upload
4.กรอกช่องทางการชำระเงินเมื่อเข้ามาสู่หน้าตาของ website paysbuy แล้วให้ทำการเลือกช่องทางการชำระเงิน ตามที่ท่านสะดวก หากท่ามี Internet banking จะสะดวกมาก(บางธนาคารจะจำกัดการโอนเงินระหว่างประเทศไว้ที่ 10,000 หรือบางธราคาร 20,000 บาท ท่านสามารถโทรไปขอขยายลิมิตได้) ผมใช้ของธนาคารกรุงเทพเนื่องจาก ลิมิตการโอนสูง
เมื่อเลือกแล้วกรอกข้อมูลและทำการ ยอมรับและดำเนินการต่อ ระบบจะให้ login Ibanking และท่านก็ทำการโอนเงิน
เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการฝากเงินเข้าโบกรเกอร์
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/deposit-fbs/
94
พูดคุยForexทั่วไป / 5ขั้นตอนง่ายๆ การถอนเงิน FBS.com
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:34:47 »
ขั้นตอนการถอนเงินนั้นไม่ยาก อันดับแรกท่านต้อง ยืนยันตนก่อน
[/URL][/COLOR]หากท่านยืนยันตนแล้วก็มาทำขั้นตอนการถอนเงินได้เลย
1.กด ไปที่ Withdraw funds
2.เลือกช่องทางการถอนเงินสำหรับท่านที่ฝากด้วยช่องทางใด ให้ถอนทางช่องทางนั้นนะครับ ส่วนท่านที่ฝากผ่าน paysbuy ให้ถอนได้ผ่านธนาคารกรุงไทย
3.คำวนจำนวนเงินที่สามารถถอนได้ให้ใส่เป็นเงิน THB นะครับ คำนวนโดยการดูอัตราแลกเปลี่ยน ผมนำ 533.78 / 0.0305 = 17,500 บาท ผมนำไปหรอกร 17,500 บาท
4.กรอกข้อมูลธนาคารกรุงไทย ให้เรียบร้อย และกด confirm
5.รับรหัส Confirmระบบจะส่ง รหัสมาทางอีเมล์ ให้เราเข้าไปตรวจสอบและนำมากรอกใน FBS.com เป็นอันเสร็จสิ้น
[/URL][/COLOR]หากท่านยืนยันตนแล้วก็มาทำขั้นตอนการถอนเงินได้เลย
1.กด ไปที่ Withdraw funds
2.เลือกช่องทางการถอนเงินสำหรับท่านที่ฝากด้วยช่องทางใด ให้ถอนทางช่องทางนั้นนะครับ ส่วนท่านที่ฝากผ่าน paysbuy ให้ถอนได้ผ่านธนาคารกรุงไทย
3.คำวนจำนวนเงินที่สามารถถอนได้ให้ใส่เป็นเงิน THB นะครับ คำนวนโดยการดูอัตราแลกเปลี่ยน ผมนำ 533.78 / 0.0305 = 17,500 บาท ผมนำไปหรอกร 17,500 บาท
4.กรอกข้อมูลธนาคารกรุงไทย ให้เรียบร้อย และกด confirm
5.รับรหัส Confirmระบบจะส่ง รหัสมาทางอีเมล์ ให้เราเข้าไปตรวจสอบและนำมากรอกใน FBS.com เป็นอันเสร็จสิ้น
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/with-fbs/
95
พูดคุยForexทั่วไป / แนวคิดค่าสมดุล – เทรด forex
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:24:21 »
เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล เป็นวิธีที่เกิดจากการตกตะกอนจากเวลากว่า 10 ปี แนวคิดมีอยู่ว่า ราคากราฟจะไม่วิ่งออกจากค่าเฉลี่ยมากเกินไป อย่างไรก็ต้องกลับมาที่จุดสมดุลเสมอ ดังรูป
เส้นสมดุลสีแดงจะเคลื่อนที่ตามค่าเฉลี่ย ตามระยะเวลาที่ผู้เทรดกำหนด อาจจะ 3 วัน 7 วัน 14 วันแล้วแต่จะเทรดระยะสั่นหรือยาว
อย่างไรก็ตาม เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล ท่านสามารถดาว์โหลด history กราฟจากเว็บโบรกเกอร์ที่ท่านเทรด ตัวอย่างเช่น ้history ของ exness.com ผมจะเลือกดาว์โหลดเป็น D1 และนำราคามาใส่ Excel และคำนวนค่าเฉลี่ย 7 วัน และเราจะสามารถคาดการวิ่งขึ้นหรือลง ของวันที่ 8 ได้
เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล จำเป็นต้องมีการจัดการเงินที่เหมาะสมด้วย ผมจะยกตัวอย่างการจัดการเงินง่ายๆ คือการเพิ่ม ออเดอร์ (ไม่เพิ่ม volume) ในการเทรดด้วยระบบนี้ เช่น เราแบ่งช่วงความกว้างจากค่าเฉลี่ยเป็น level 1,2,3,4 และ level -1,-2,-3,-4 เป็นต้น
หลังจากนั้น เมื่อราคาขึ้นไปที่ lv.1 ก็ใช้ volume 1 1ออเดอร์ หากไป ต่อที่ lv.2 ใช้ volume 1 เพิ่มอีก 1ออเดอร์ รวมเป็น 2 ออเดอร์ เราจะปิด TP ที่ เส้นสมดุลเสมอ เมื่อกราฟจาก lv.2 กลับมาที่จุดสมดุล เราจะได้กำไร จากจุด lv.1 ถึงเส้นสมดุล 1 ออเดอร์ และ จากจุด lv.2 ถึง เส้นสมดุล 1 ออเดอร์
นี้เป็นวิธี เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล แบบอธิบายอย่างง่าย เรากำลังจะเขียน ebook เรื่องนี้ในเร็วๆ นี้โดยจะมีการอธิบายอย่างละเอียด case study การจัดการเงินที่เหมาะสมกับระบบ รวมถึงผลงานในการเทรดด้วยระบบค่าสมดุล ดังนั้นผู้เขียนจึงขอเวลาในการเขียนอีกสักพักนะครับ ขอให้เทรดรวยๆ นะครับ
เส้นสมดุลสีแดงจะเคลื่อนที่ตามค่าเฉลี่ย ตามระยะเวลาที่ผู้เทรดกำหนด อาจจะ 3 วัน 7 วัน 14 วันแล้วแต่จะเทรดระยะสั่นหรือยาว
อย่างไรก็ตาม เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล ท่านสามารถดาว์โหลด history กราฟจากเว็บโบรกเกอร์ที่ท่านเทรด ตัวอย่างเช่น ้history ของ exness.com ผมจะเลือกดาว์โหลดเป็น D1 และนำราคามาใส่ Excel และคำนวนค่าเฉลี่ย 7 วัน และเราจะสามารถคาดการวิ่งขึ้นหรือลง ของวันที่ 8 ได้
เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล จำเป็นต้องมีการจัดการเงินที่เหมาะสมด้วย ผมจะยกตัวอย่างการจัดการเงินง่ายๆ คือการเพิ่ม ออเดอร์ (ไม่เพิ่ม volume) ในการเทรดด้วยระบบนี้ เช่น เราแบ่งช่วงความกว้างจากค่าเฉลี่ยเป็น level 1,2,3,4 และ level -1,-2,-3,-4 เป็นต้น
หลังจากนั้น เมื่อราคาขึ้นไปที่ lv.1 ก็ใช้ volume 1 1ออเดอร์ หากไป ต่อที่ lv.2 ใช้ volume 1 เพิ่มอีก 1ออเดอร์ รวมเป็น 2 ออเดอร์ เราจะปิด TP ที่ เส้นสมดุลเสมอ เมื่อกราฟจาก lv.2 กลับมาที่จุดสมดุล เราจะได้กำไร จากจุด lv.1 ถึงเส้นสมดุล 1 ออเดอร์ และ จากจุด lv.2 ถึง เส้นสมดุล 1 ออเดอร์
นี้เป็นวิธี เทรด forex ด้วยการค่าสมดุล แบบอธิบายอย่างง่าย เรากำลังจะเขียน ebook เรื่องนี้ในเร็วๆ นี้โดยจะมีการอธิบายอย่างละเอียด case study การจัดการเงินที่เหมาะสมกับระบบ รวมถึงผลงานในการเทรดด้วยระบบค่าสมดุล ดังนั้นผู้เขียนจึงขอเวลาในการเขียนอีกสักพักนะครับ ขอให้เทรดรวยๆ นะครับ
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94-forex/
96
พูดคุยForexทั่วไป / รีวิว EA Forex ระบบเทรดอัตโนมัติ ของค่าย MFM4
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:23:11 »
EA ย่อมาจากคำว่า Expert Advisor ครับ เป็นระบบเทรดอัตโนมัติที่เขียนขึ้นโดยผู้พัฒนา ประมาณว่าถ้าคุณมีระบบเทรดที่ทำกำไร คุณก็สามารถเขียนโปรแกรมให้เข้าซื้อและขายเองได้ ทำการเขียนโค๊ดขึ้นมาครับ และใช้ติดตั้งในโปรแกรมเทรด MT4 เขาเรียกกันว่า EA ครับ ระบบเทรดอัตโนมัติหรือ EA เนี่ยมีเขียนกันขึ้นมาหลากหลายค่ายมากๆ ครับ เราควรเลือกใช้ให้ถูกกับความต้องการและงบประมาณของเรา บางค่ายก็ทำกำไรให้เราได้ บางค่ายก็ขาดทุนครับ วันนี้ผมจะมารีวิว EA ของค่าย mfm4.net ให้ดูกันนะครับ
เกี่ยวกับ EA อ้างอิง MFM4EA mfm4 ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยนาย Matthew เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ และเว็บดีไซต์ เป็นผู้เชียวชาญทางด้านการตลอด และยังเป็นผู้ทีเทรดค่าเงินต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเขามีประสบการณ์ในการเทรดค่าเงิน 4 ปีแล้ว เขาได้ออกแบบและ พัฒนาโปรแกรมสำหรับเทรด Forex อัตโนมัติ หรือ EA ด้วยภาษา MQL4 และโปรแกรมที่กล่าวมาก็คือ EA MFM4 ของเขานั่นเอง
เขาพัฒนา EA MFM4 ให้ทำเงิน 50%/ เดือน ด้วย Draw Down ที่น้อย โดยเขาใช้กับ Account จริง ซึ่ง EA ของเขาไม่ใช้ระบบ martingale(เพิ่มล็อต, เบิ้ลล็อต) และไม่เพิ่มความเสี่ยง EA MFM4 เทรด 2 ระบบ และเลือกที่จะเข้า 2 ครั้ง ในวลาเดียวกัน ต่อคู่เงิน ด้วย มีระบบบริหารเงินทุน ที่จะเพิ่มหน่วยลงทุน 0.01lots ต่อ 100$ ใน Balance และความเสี่ยงสูงสุด ต่อคู่คือ 3% และ 8% โดยเขาทำการ ทดสอบย้อนหลัง 4 ปี EA MFM4 สามารถทำกำไรได้ทุกคู่เงิน และทุกเงือนไขของตลาด
Myfxbook MFM4 ครับ
คำแนะนำ
Matthew เขาแนะนำว่า ใช้ได้ กับ 20 คู่เงิน เอาคู่ที่มีความผันผวนต่ำ และใช้การตั้งค่าเดียวกันกับทุกคู่เงิน ด้วยการตั้งค่าที่ธรรมดา มันจะใช้ค่าเริ่มต้นของ indicator ในโปรแกรม Mt4 และทดสอบล่วงหน้า เทียบการผลย้อนหลัง EA MFM4 ไม่ต้องการระบบ Hedging ซึ่งสามารถใช้ Leverage มากถึง 1:50 ได้เลย
เงินฝากเริ่มต้นที่แนะนำ $1,000 สำหรับ Standard account และ $100 สำหรับ Micro account หาโบรกเกอร์ที่ Spread เหมาะสม และบริการดูแลดี
EA หลายๆ ตัวขายกันอยู่ที่ $500 ส่วน EA MFM4 ของเขาขายเพียง $249 และยอมเสนอลดราคาให้คุณเหลือเพียง $99 เท่านั้น! โดยมีเวลาที่จำกัด
มาดูผลใน Myfxbook กัน
เทรดด้วยบัญชีจริง ที่โบรก Fx Choice ที่เปิดบริการมาตั่งแต่ ปี 2011 สัญชาติเยอรมัน ผมมองว่าเป็นโบรกที่น่าเชื่อถือครับ และเปิดบริการมายาวนานแล้วด้วย ซึ่งเขาใช้ Leverage 1:200 ซึ่งก็เหมาะสมกับการเทรด Forex ครับ มากไปไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดีครับ
จากกราฟ การเติบโต จะเห็นว่าสามารถทำกำไร ได้อย่างต่อเนื่อง เส้นสีเหลืองคือ Equity หมายถึงเงินติดลบขณะที่ยังไม่ได้ปิด Order จะเห็นว่ามีช่วง 17Dec ที่ Equity ลงมาเล็กน้อย แต่ EA MFM4 ไม่ได้ตัดขาดทุน สุดท้ายก็กลับไปทำกำไรได้ ช่วงคือ 15Feb จะเห็นว่ามีการตัดขาดทุน และก่อนหน้านั้นก็มีการตัดขาดทุนอย่างสม่ำเสมอ *ผมมองว่าเป็นการดีมากที่ EA ตัดขาดทุน ส่วนมากแล้วเราจะเห็น EA ที่มีการเพิ่มล็อตไปเรื่อยๆ โดยไม่ตัดขาดทุนและสิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ล้างพอร์ต” แต่ EA ตัวนี้มีการตั้ง SL TP และตัดขาดทุนสม่ำเสมอนั้น แสดงให้เห็นว่า ระบบมีความแม่นยำ
กราฟ Drawdown จะเห็นได้ว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 0-5% เท่านั้น จะมีสูงก็วันที่ 17Dec 18.73% ของพอร์ต ผมมอว่าง Drawdown แบบนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ กับระบบที่มีการตัดขาดทุน เนื่องจากกว่าระบบที่มีการตัดขาดทุนน้อยๆ จะมี Max Drawdown ที่สูง เนื่องจากว่ามีการตัดขาดทุนติดต่อกันสูงหากระบบไม่มีความแม่นยำ แต่ EA MFM4 สามารถจัดการกับ Drawdown ได้ดี อย่างที่ท่านเห็นครับ
EA MFM4 เทรดไปทั้งหมด 171 ครั้ง จะเป็นเทรดขาขึ้นอย่างเดียว 171 ครั้ง แปลกนะครับ ปกติแล้วเราจะเห็นมีทั้งเทรด Buy และ Sell แต่ EA ตัวนี้เน้นเทรด Buy Only ผมว่าเขามีเทคนิคอยู่ ถือเป็นเรื่องดีครับ มี%win ถึง 71% มาดูตรง Best Trade กับ Worst Trade ครับ จะเห็นว่าใกล้เคียงกันเลย 97.43 และ -92.95 นั้นแสดงว่าเราทำกำไรได้ ด้วยการเทรดที่แม่นยำถึง 71% ครับ จากค่าที่ myfxbook คำนวนมาตรงค่า Expectancy บอกว่า การเทรด 1 ครั้งเรามีโอกาสได้กำไร 3.2pips นั่นเอง
กราฟ Profit เป็นกราฟกำไร ที่นักลงทุนต้องการเห็นมันขึ้นทุกวัน ซึ่ง EA MFM4 มีการทำกำไร อย่างต่อเนื่อง คงที่ทุกวัน จะมีช่วงตัดขาดทุนคือ 5Feb (ต้องเข้าใจครับว่าการลงทุนต้องมีการตัดขาดทุนอยู่แล้ว แต่มากหรือน้อย บ่อยหรือไม่บ่อยครับ) ซึ่งหลังจากนั้น EA ก็สามารถกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิม ดูจากกราฟ Profit แล้ว มีการตัดขาดทุนแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น นั่นหมายถึงว่าระบบมีความแม่นยำค่อนข้างสูง (ระบบตัดขาดทุนไม่หนักด้วย)
สำหรับ Summary Matthew เขาเทรดทั้งหมด 12คู่เงิน และเทรดหนักไปคู่ของ GBPAUD ถึง 33 ครั้ง ซึ่งดูจากภาพรวมแล้วถือว่าโอเครครับ เขียวส่วนมาก อย่างที่กล่าวมาข้างต้นครับ EA ที่มีระบบตัดขาดทุนสั้นๆ แบบนี้ เป็นระบบที่นักลงทุนหลายๆ ท่านฝันถึง
ช่วงเวลาการเทรดของ EA MFM4 จะเทรดอยู่ในช่วง 22.00 – 02.00 นะครับ ดีครับ EA ไม่เทรดช่วงข่าว และสามารถทำกำไรต่อเนื่องได้แบบนี้ สีเขียวคือ เทรดแล้วได้กำไร สีม่วงคือเทรดแล้วขาดทุนครับ จะเห็นได้ว่า ระบบมีความแม่นยำครับ
วันเทรด EA MFM4 เทรดหนักไปในช่วงวันพุธ พฤหัสครับ และมีอัตราการกำไร ที่สูงกว่าขาดทุนทุกวันครับ
ช่วงระยะเวลาการถือ Order ส่วนมากแล้วจะอยู่ภายใน 3 ชั่วโมง EA เปิดปิดเร็วแบบนี้ นักลงทุนชอบครับ เนื่องจากว่าไม่ต้องการลุ้นนาน ไม่ถือ order ข้ามวัน และมีอัตราการกำไรมากกว่าขาดทุนครับ
การทำกำไร จะทำกำไรโดยเฉลี่ยแล้วเดือนละ 37% โดยประมาณ แต่จากสถิติแล้ว มีแค่ 3เดือนถือว่าน้อยไปหน่อย แต่ EA แบบนี้ผมเชื่อว่าสามารถทำกำไรในระยะยาวได้เพราะมีการตัดขาดทุนที่เหมาะสม และทำกำไรได้เหมาะสม ประกอบกับ การ %win มากกว่าถึง 70%
ตัวอย่างการเทรดจริงของ EA MFM4 จะเห็นว่าไม่มีการเพิ่มล็อตใดๆ มีการตั้ง SL TP ที่เหมาะสมทุก Order และไม่ถือ Order ยาว เป็น EA ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลยนะครับ หากท่านมีงบหน่อย ลงทุน 99$ คงไม่ใช่เรื่องจากครับ
เกี่ยวกับ EA อ้างอิง MFM4EA mfm4 ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยนาย Matthew เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ และเว็บดีไซต์ เป็นผู้เชียวชาญทางด้านการตลอด และยังเป็นผู้ทีเทรดค่าเงินต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเขามีประสบการณ์ในการเทรดค่าเงิน 4 ปีแล้ว เขาได้ออกแบบและ พัฒนาโปรแกรมสำหรับเทรด Forex อัตโนมัติ หรือ EA ด้วยภาษา MQL4 และโปรแกรมที่กล่าวมาก็คือ EA MFM4 ของเขานั่นเอง
เขาพัฒนา EA MFM4 ให้ทำเงิน 50%/ เดือน ด้วย Draw Down ที่น้อย โดยเขาใช้กับ Account จริง ซึ่ง EA ของเขาไม่ใช้ระบบ martingale(เพิ่มล็อต, เบิ้ลล็อต) และไม่เพิ่มความเสี่ยง EA MFM4 เทรด 2 ระบบ และเลือกที่จะเข้า 2 ครั้ง ในวลาเดียวกัน ต่อคู่เงิน ด้วย มีระบบบริหารเงินทุน ที่จะเพิ่มหน่วยลงทุน 0.01lots ต่อ 100$ ใน Balance และความเสี่ยงสูงสุด ต่อคู่คือ 3% และ 8% โดยเขาทำการ ทดสอบย้อนหลัง 4 ปี EA MFM4 สามารถทำกำไรได้ทุกคู่เงิน และทุกเงือนไขของตลาด
Myfxbook MFM4 ครับ
คำแนะนำ
Matthew เขาแนะนำว่า ใช้ได้ กับ 20 คู่เงิน เอาคู่ที่มีความผันผวนต่ำ และใช้การตั้งค่าเดียวกันกับทุกคู่เงิน ด้วยการตั้งค่าที่ธรรมดา มันจะใช้ค่าเริ่มต้นของ indicator ในโปรแกรม Mt4 และทดสอบล่วงหน้า เทียบการผลย้อนหลัง EA MFM4 ไม่ต้องการระบบ Hedging ซึ่งสามารถใช้ Leverage มากถึง 1:50 ได้เลย
เงินฝากเริ่มต้นที่แนะนำ $1,000 สำหรับ Standard account และ $100 สำหรับ Micro account หาโบรกเกอร์ที่ Spread เหมาะสม และบริการดูแลดี
- ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ไม่ต้องมีความรู้ใดๆ
- ปลอดภัย และเป็นระบบที่ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่ martingale(เพิ่มล็อต, เบิ้ลล็อต) หรือ Curve Fit
- ถูกพัฒนาขึ้นด้วยข้อมูลย้อนหลัง 4 ปี และทดสอบย้อนหลัง 4 ปี
- มีการบริหารเงิน เมื่อพอร์ตโตขึ้น
- ใช้ร่วมกับโปรแกรม Metatrader 4 (MT4)
- ลงทุนด้วยเงินขึ้นต่ำ $100
ที่สำคัญ Matthew การีนตี คืนเงิน ถ้าบัญชีของคุณไม่สามารถทำกำไร ภายใน 60 วัน โดยการใช้การตั้งค่าเริ่มต้นของโปรแกรม เขายินดีที่จะคืนเงินทั้งหมดให้คุณ โดยไม่มีเงือนไขและคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
[/B]EA หลายๆ ตัวขายกันอยู่ที่ $500 ส่วน EA MFM4 ของเขาขายเพียง $249 และยอมเสนอลดราคาให้คุณเหลือเพียง $99 เท่านั้น! โดยมีเวลาที่จำกัด
มาดูผลใน Myfxbook กัน
เทรดด้วยบัญชีจริง ที่โบรก Fx Choice ที่เปิดบริการมาตั่งแต่ ปี 2011 สัญชาติเยอรมัน ผมมองว่าเป็นโบรกที่น่าเชื่อถือครับ และเปิดบริการมายาวนานแล้วด้วย ซึ่งเขาใช้ Leverage 1:200 ซึ่งก็เหมาะสมกับการเทรด Forex ครับ มากไปไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดีครับ
จากกราฟ การเติบโต จะเห็นว่าสามารถทำกำไร ได้อย่างต่อเนื่อง เส้นสีเหลืองคือ Equity หมายถึงเงินติดลบขณะที่ยังไม่ได้ปิด Order จะเห็นว่ามีช่วง 17Dec ที่ Equity ลงมาเล็กน้อย แต่ EA MFM4 ไม่ได้ตัดขาดทุน สุดท้ายก็กลับไปทำกำไรได้ ช่วงคือ 15Feb จะเห็นว่ามีการตัดขาดทุน และก่อนหน้านั้นก็มีการตัดขาดทุนอย่างสม่ำเสมอ *ผมมองว่าเป็นการดีมากที่ EA ตัดขาดทุน ส่วนมากแล้วเราจะเห็น EA ที่มีการเพิ่มล็อตไปเรื่อยๆ โดยไม่ตัดขาดทุนและสิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ล้างพอร์ต” แต่ EA ตัวนี้มีการตั้ง SL TP และตัดขาดทุนสม่ำเสมอนั้น แสดงให้เห็นว่า ระบบมีความแม่นยำ
กราฟ Drawdown จะเห็นได้ว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 0-5% เท่านั้น จะมีสูงก็วันที่ 17Dec 18.73% ของพอร์ต ผมมอว่าง Drawdown แบบนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ กับระบบที่มีการตัดขาดทุน เนื่องจากกว่าระบบที่มีการตัดขาดทุนน้อยๆ จะมี Max Drawdown ที่สูง เนื่องจากว่ามีการตัดขาดทุนติดต่อกันสูงหากระบบไม่มีความแม่นยำ แต่ EA MFM4 สามารถจัดการกับ Drawdown ได้ดี อย่างที่ท่านเห็นครับ
EA MFM4 เทรดไปทั้งหมด 171 ครั้ง จะเป็นเทรดขาขึ้นอย่างเดียว 171 ครั้ง แปลกนะครับ ปกติแล้วเราจะเห็นมีทั้งเทรด Buy และ Sell แต่ EA ตัวนี้เน้นเทรด Buy Only ผมว่าเขามีเทคนิคอยู่ ถือเป็นเรื่องดีครับ มี%win ถึง 71% มาดูตรง Best Trade กับ Worst Trade ครับ จะเห็นว่าใกล้เคียงกันเลย 97.43 และ -92.95 นั้นแสดงว่าเราทำกำไรได้ ด้วยการเทรดที่แม่นยำถึง 71% ครับ จากค่าที่ myfxbook คำนวนมาตรงค่า Expectancy บอกว่า การเทรด 1 ครั้งเรามีโอกาสได้กำไร 3.2pips นั่นเอง
กราฟ Profit เป็นกราฟกำไร ที่นักลงทุนต้องการเห็นมันขึ้นทุกวัน ซึ่ง EA MFM4 มีการทำกำไร อย่างต่อเนื่อง คงที่ทุกวัน จะมีช่วงตัดขาดทุนคือ 5Feb (ต้องเข้าใจครับว่าการลงทุนต้องมีการตัดขาดทุนอยู่แล้ว แต่มากหรือน้อย บ่อยหรือไม่บ่อยครับ) ซึ่งหลังจากนั้น EA ก็สามารถกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิม ดูจากกราฟ Profit แล้ว มีการตัดขาดทุนแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น นั่นหมายถึงว่าระบบมีความแม่นยำค่อนข้างสูง (ระบบตัดขาดทุนไม่หนักด้วย)
สำหรับ Summary Matthew เขาเทรดทั้งหมด 12คู่เงิน และเทรดหนักไปคู่ของ GBPAUD ถึง 33 ครั้ง ซึ่งดูจากภาพรวมแล้วถือว่าโอเครครับ เขียวส่วนมาก อย่างที่กล่าวมาข้างต้นครับ EA ที่มีระบบตัดขาดทุนสั้นๆ แบบนี้ เป็นระบบที่นักลงทุนหลายๆ ท่านฝันถึงช่วงเวลาการเทรดของ EA MFM4 จะเทรดอยู่ในช่วง 22.00 – 02.00 นะครับ ดีครับ EA ไม่เทรดช่วงข่าว และสามารถทำกำไรต่อเนื่องได้แบบนี้ สีเขียวคือ เทรดแล้วได้กำไร สีม่วงคือเทรดแล้วขาดทุนครับ จะเห็นได้ว่า ระบบมีความแม่นยำครับวันเทรด EA MFM4 เทรดหนักไปในช่วงวันพุธ พฤหัสครับ และมีอัตราการกำไร ที่สูงกว่าขาดทุนทุกวันครับช่วงระยะเวลาการถือ Order ส่วนมากแล้วจะอยู่ภายใน 3 ชั่วโมง EA เปิดปิดเร็วแบบนี้ นักลงทุนชอบครับ เนื่องจากว่าไม่ต้องการลุ้นนาน ไม่ถือ order ข้ามวัน และมีอัตราการกำไรมากกว่าขาดทุนครับการทำกำไร จะทำกำไรโดยเฉลี่ยแล้วเดือนละ 37% โดยประมาณ แต่จากสถิติแล้ว มีแค่ 3เดือนถือว่าน้อยไปหน่อย แต่ EA แบบนี้ผมเชื่อว่าสามารถทำกำไรในระยะยาวได้เพราะมีการตัดขาดทุนที่เหมาะสม และทำกำไรได้เหมาะสม ประกอบกับ การ %win มากกว่าถึง 70%
ตัวอย่างการเทรดจริงของ EA MFM4 จะเห็นว่าไม่มีการเพิ่มล็อตใดๆ มีการตั้ง SL TP ที่เหมาะสมทุก Order และไม่ถือ Order ยาว เป็น EA ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลยนะครับ หากท่านมีงบหน่อย ลงทุน 99$ คงไม่ใช่เรื่องจากครับ
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/forex-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-mfm4/
97
พูดคุยForexทั่วไป / โบนัสทำกำไร ด้วย EA Setka
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:21:25 »
เกริ่นนำ ทำเงินด้วยโบนัส + แจก EA โพสนี้จะแนะนำให้นักลงทุนสมัครเพื่อรับโบนัสฟรี 30$ และนำโบนัสนั้นมาเทรดเพื่อถอนกำไรครับ โดยไม่ต้องฝากเงินเข้า หรือลงทุนแต่อย่างใด
โบรกเกอร์ Forex มีอยู่หลากหลายโบรกเกอร์ การเลือกใช้โบรกเกอร์ของนักลงทุนมีหลายปัจจัยในการเลือกใช้ เช่น Spread Swap Commission และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วันนี้ผมมาแนะนำโบรกเกอร์ XM เพราะว่า XM ได้จัดโปรโมชั่นแจกฟรีโบนัส 30$ โดยไม่มีเงือนไขใดๆ อีกทั้งยังไม่ต้องฝากเงินอีกด้วย
เกี่ยวกับโบรกเกอร์ XM เปิดบริการตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดีกับนักลงทุนชาวไทย เนื่องมาจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาโบรกเกอร์ XM ได้เข้ามาทำการตลาดในโซนเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ดังนั้นนักลงทุนหลายๆ ท่านก็จะเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว
โบนัส 30$ โบรกเกอร์ XM ได้ชักชวนนักลงทุนมาเปิดบัญชีกับ XM โดยมีขอเสนอคือให้โบนัส 30$ เป็น no deposit bunus คือโบนัสเริ่มต้นที่ไม่ต้องฝากเงิน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า XM เขาให้ 30$ เป็นโบนัส ที่สามารถนำโบนัสนี้ไปเทรดทำกำไรได้และสามารถถอนกำไรออกมาได้นั้นเอง เพียงแค่เปิดบัญชีแรก ที่เป็นบัญชีจริงกับโบรกเกอร์ XM โดยโบรกคาดหวังเพื่อที่จะให้นักลงทุนได้ ทดสอบสินค้าและบริการโดยการเทรดที่ไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นเงินลงทุนเป็นเงินโบนัส
เมื่อนักลงทุนสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการยืนยันตนให้เรียบร้อย(ส่งหลักฐานบัตรประชาชน บิลค่าน้ำ,ไฟ ยืนยันเบอร์โทรศัพท์) หลังจากนั้นทำการกด Claim bonus ท่านจะได้รับโบนัสทันที หลังจากนั้นนักลงทุนสามารถนำโบนัสไปทำกำไรและสามารถสั่งถอนกำไรได้ทันที
EA Forex Setka Trader เพื่อทำกำไรจากโบนัส (สำหรับผู้ที่สนใจ)
Myfxbook ช่วงแรก (20-27Jan) ที่มีการตัดขาดทุนเป็นการเทรดด้วยมือครับ ไม่ได้ใช้ EA แต่อย่างใด ผมเริ่มใช้ EA Forex Setka Trader หลังจากตัดขาดทุน คือวันที่ 28 Jan เป็นต้นไปครับ จะเห็นได้ว่า กราฟการทำกำไรขึ้นอย่างมีระเบียบ
โบนัสฟรีกับการเทรดด้วย EA เนื่องจากนักลงทุนได้โบนัสมาฟรี ส่วนตัวผมแล้วได้ใช้ EA Forex Setka Trader ซึ่งเป็น EA แนวเพิ่มล็อต (Martingale ) เพื่อทำกำไร EA ประเภทนี้จะทำงานดีมากเมื่อกราฟเกิดการ Sideway หรือ วิ่งอยู่ในกรอบ แต่จะมีโอกาสขาดทุนสูงหากกราฟเป็นเทรนขึ้นหรือลงแรงๆ โดยไม่ย่อตัว ดังนั้นการใช้ EA Forex Setka Trader ให้ทำการเปิดก็ต่อเมื่อคิดว่ากราฟกำลังอยู่ในช่วง Sidesway ครับ หรือปิดเมื่อมีข่าว และให้หลักเลี่ยงข่าวแรงๆ เช่น FOMC, Non-Form เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุน การตั้งค่า ของนักลงทุนเอง (ดูข่าวได้ที่ http://www.forexfactory.com/calendar.php) ประโยชน์ของ EA Forex Setka Trader ก็คือจะทำเงินดี และต่อเนื่อง เมื่อใช้คู่กับ โบนัสฟรี 30$ แล้ว เราก็สามารถทำกำไรได้โดยไม่มีความเสี่ยงครับ
Download EA Forex Setka Trader
แนะนำการตั้งค่า Forex Setka Trader ผมใช้ทุน 1,700$ ตั้งค่าดังนี้ ผลก็คือ Myfxbook ข้างต้นครับ
โบรกเกอร์ Forex มีอยู่หลากหลายโบรกเกอร์ การเลือกใช้โบรกเกอร์ของนักลงทุนมีหลายปัจจัยในการเลือกใช้ เช่น Spread Swap Commission และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วันนี้ผมมาแนะนำโบรกเกอร์ XM เพราะว่า XM ได้จัดโปรโมชั่นแจกฟรีโบนัส 30$ โดยไม่มีเงือนไขใดๆ อีกทั้งยังไม่ต้องฝากเงินอีกด้วย
เกี่ยวกับโบรกเกอร์ XM เปิดบริการตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดีกับนักลงทุนชาวไทย เนื่องมาจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาโบรกเกอร์ XM ได้เข้ามาทำการตลาดในโซนเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ดังนั้นนักลงทุนหลายๆ ท่านก็จะเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว
โบนัส 30$ โบรกเกอร์ XM ได้ชักชวนนักลงทุนมาเปิดบัญชีกับ XM โดยมีขอเสนอคือให้โบนัส 30$ เป็น no deposit bunus คือโบนัสเริ่มต้นที่ไม่ต้องฝากเงิน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า XM เขาให้ 30$ เป็นโบนัส ที่สามารถนำโบนัสนี้ไปเทรดทำกำไรได้และสามารถถอนกำไรออกมาได้นั้นเอง เพียงแค่เปิดบัญชีแรก ที่เป็นบัญชีจริงกับโบรกเกอร์ XM โดยโบรกคาดหวังเพื่อที่จะให้นักลงทุนได้ ทดสอบสินค้าและบริการโดยการเทรดที่ไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นเงินลงทุนเป็นเงินโบนัส
- ไม่ต้องฝากเงินก็ได้โบนัส 30$
- โบนัส 30$ เข้าบัญชีแบบอัตโนมัติทันที เมื่อกดปุ่ม Claim Bonus ใน Account Area
- เงินกำไรที่ทำได้ทั้งหมด สามารถถอนได้
- โบนัสจะได้เฉพาะหรือลูกค้าใหม่เท่านั้น
- ไม่มีเงือนไขแอบแฝงใดๆ
เมื่อนักลงทุนสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการยืนยันตนให้เรียบร้อย(ส่งหลักฐานบัตรประชาชน บิลค่าน้ำ,ไฟ ยืนยันเบอร์โทรศัพท์) หลังจากนั้นทำการกด Claim bonus ท่านจะได้รับโบนัสทันที หลังจากนั้นนักลงทุนสามารถนำโบนัสไปทำกำไรและสามารถสั่งถอนกำไรได้ทันที
EA Forex Setka Trader เพื่อทำกำไรจากโบนัส (สำหรับผู้ที่สนใจ)
Myfxbook ช่วงแรก (20-27Jan) ที่มีการตัดขาดทุนเป็นการเทรดด้วยมือครับ ไม่ได้ใช้ EA แต่อย่างใด ผมเริ่มใช้ EA Forex Setka Trader หลังจากตัดขาดทุน คือวันที่ 28 Jan เป็นต้นไปครับ จะเห็นได้ว่า กราฟการทำกำไรขึ้นอย่างมีระเบียบ
โบนัสฟรีกับการเทรดด้วย EA เนื่องจากนักลงทุนได้โบนัสมาฟรี ส่วนตัวผมแล้วได้ใช้ EA Forex Setka Trader ซึ่งเป็น EA แนวเพิ่มล็อต (Martingale ) เพื่อทำกำไร EA ประเภทนี้จะทำงานดีมากเมื่อกราฟเกิดการ Sideway หรือ วิ่งอยู่ในกรอบ แต่จะมีโอกาสขาดทุนสูงหากกราฟเป็นเทรนขึ้นหรือลงแรงๆ โดยไม่ย่อตัว ดังนั้นการใช้ EA Forex Setka Trader ให้ทำการเปิดก็ต่อเมื่อคิดว่ากราฟกำลังอยู่ในช่วง Sidesway ครับ หรือปิดเมื่อมีข่าว และให้หลักเลี่ยงข่าวแรงๆ เช่น FOMC, Non-Form เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุน การตั้งค่า ของนักลงทุนเอง (ดูข่าวได้ที่ http://www.forexfactory.com/calendar.php) ประโยชน์ของ EA Forex Setka Trader ก็คือจะทำเงินดี และต่อเนื่อง เมื่อใช้คู่กับ โบนัสฟรี 30$ แล้ว เราก็สามารถทำกำไรได้โดยไม่มีความเสี่ยงครับ
Download EA Forex Setka Trader
แนะนำการตั้งค่า Forex Setka Trader ผมใช้ทุน 1,700$ ตั้งค่าดังนี้ ผลก็คือ Myfxbook ข้างต้นครับ
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/xm-bonus-30/
98
พูดคุยForexทั่วไป / ทำได้แล้ว!! กำไร 106% ใน 3 วัน
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:19:59 »
เกริ่นนำ บทความนี้มีเจตนาแชร์แนวทางการลงทุนในตลาด Forex โดยตัวอย่างที่ผมทำได้คือทำกำไร 106% ภายใน 3 วัน ในรูปแบบ วิเคราะห์ + EA ระบบ martingale ตั้งแต่ผมศึกษา Forex มา ผมเคยใช้ EA martingale และเคยล้างพอร์ตมาแล้ว เมื่อ 4-5 ปีก่อน ปัจจุบันผมมองเห็นข้อดีที่ว่า martingale ยังทำเงินได้แต่ทำยังไงให้ได้กำไรมากกว่าขาดทุนในระยะยาว ดังนั้นผมจึงเริ่มหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ผลการเทรด เงินจริง โต 106% ใน 3 วัน
ภาพที่ 1
ภาพที่ 2
จากภาพที่ 2 EA เปิด Order Buy ทั้งหมด 4 ไม้ ใน Zone 1 เราควรจะวิเคราะห์ว่ากราฟจะกลับมาทางที่เราคิดไว้หรือไม่ หากไม่ เราควรปิดการทำงานของ EA ก่อนเพื่อไม่ให้ EA เปิด Order เพิ่ม เพื่อรอให้กราฟวิ่งไปที่ แนวรับ/ต้าน หลังจากนั้นทำการเปิด EA อีกครั้ง เพื่อให้เปิด Order เพิ่มที่แนวรับแนวต้าน (Zone 2) อย่าปล่อยให้ EA ทำงานอัติโนมัติเกินไป
ความสัมพันธ์ของเงินทุน และ Volume ในการเปิด Order นั้นสำคัญ เงินทุนมากและ Volume น้อยไม่ใช่คำตอบที่ดีหรือเงินทุนน้อย Volume มากไม่ใช่คำตอบที่ดีเช่นกันครับ ควรจะตั้ง Volume ให้เหมาะสมกับเงินทุนและควรศึกษา ทดสอบ หาค่าที่เหมาะสมก่อนการลงทุน
เงินทุนมาก ใช้ Volume ต่ำ
ข้อดีก็คือ ใช้เวลานานมากๆ กว่าจะขาดทุนสักครั้ง ข้อเสียคือคืนทุนช้า อย่าหวังครับว่าใช้ทุนเยอะแล้วจะไม่ล้างพอร์ตเลย ผมบอกจากประสบการณ์ในตลาอด Forex 8 ปี ครับไม่ว่าจะเยอะเท่าใด ก็ขาดทุนครับ เนื่องจากเมื่อผิดทางไปเยอะ แล้ว จำนวน Volume ที่เปิดจะมากขึ้นไปด้วย เช่นอัตราการคุณ *2 จะได้ Volume ในการเปิด 9 ไม้ดังนี้ 1,2,4,8,16,32,64,128,256 จะเห็นว่า ไม้ 9 ใช้ Volume 256 โดนลากไม่กี่จุดก็หลัก 1,000$ ครับ
เงินทุนน้อยใช้ Volume สูง
ข้อเสียก็คือ ขาดทุนบ่อย ล้างพอร์ตบ่อย ข้อดีก็คือ ได้กำไรเยอะเมื่อเทียบเป็น % ดังนั้น จำนวนเงินลงทุนต้องมีความสัมพันธ์กับ Volume และอัตราคูณ และควรทำกำไรให้คืนทุนเร็วเท่าที่เป็นไปได้
ภาพที่ 3
จากภาพที่ 3 ARJUN เป็น Indicator ที่ใช้ EMA Period 10 ในการกำหนดการขึ้นลงของลูกศรแสดงสถานะขึ้น/ลง โดยระบบจะตรวจสอบใน Time frame M1-W1 หรือตามที่เราตั้งค่า เพื่อดูว่าคู่เงินใด อยู่ในเทรนใด และใช้ตรวจสอบคู่เงินที่เหมาะสมแกการลงทุนที่สุดอีกด้วย
การวิเคราะห์ และการเข้า Order
จากภาพที่ 3 ค่าเงิน AUD นำหน้ามีลูกศรขึ้นส่วนใหญ่ แสดงว่า AUD มีแนวโน้มขาขึ้น เยอะกว่าค่าเงินอื่นๆ ประกอบกับ ค่าเงิน EUR นำหน้า มีลูกศรลงส่วนใหญ่ แสดงว่า EUR มีแนวโน้มค่าลงเยอะกว่าค่าเงินอื่นๆ ฉนั้นคู่เงินที่น่าลงทุนที่สุด คือ EURAUD เทรดในแนวโน้มขาลง เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ผมจะใช้ EA 2057 ทำการตั้งค่า Short Only และปล่อยให้ EA ทำงาน โดยที่นั่งวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด
เครื่องมือที่จำเป็น EA + Indicator ARJUN
วิธีการดาว์โหลด Skip Preview >> กรอกรหัสภาพ >>> กด download
หวังว่า บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะครับ การลงทุนต้องอาศัยประสบการณ์ บทความนี้เป็นอีกหนึ่่งก้าวของการเรียนรู้การลงทุน ระยะเวลาและประสบการณ์จะทำให้ท่านสำเร็จในไม่ช้า ….ผมเชื่อเช่นนั้น
ผลการเทรด เงินจริง โต 106% ใน 3 วัน
ระบบ martingale มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ใช้ให้เป็นมีชัยไปกว่าครึ่ง
[/B] EA 2057 เป็นประเภท martingale(เพิ่มล็อต, เบิ้ลล็อต) มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำกำไรตลอดในช่วงกราฟ sidesway หรือกราฟวิ่งอยู่ในช่วงที่เงินทุนเรารับการติดลบได้ ข้อเสียคือหากผิดทาง โดยไม่มีการสวิงจะทำให้ขาดทุนหนัก จากภาพที่ 1 รูปแบบการเทรดระบบ martingale เปิด Order Buy ไม้ 1 ใช้ Volume 1 แต่กราฟกลับวิ่งลงทำให้ EA ต้องเปิด ไม้ 2,3,4,5 ที่ Volume 2,4,8,16 ตามลำดับ และมีเส้นปิด TP อยู่ที่เส้นที่แดงภาพที่ 1- ข้อดี หากผิดทางจะไม่ขาดทุน หากกราฟกลับขึ้นไปปิดที่ตำแหน่ง TP ได้, มีจำนวนเงินในพอร์ตรองรับการติดลบได้ และได้กำไรเยอะหากกราฟกลับมาที่ตำแหน่ง TP ได้
- ข้อเสีย หากผิดทางโดยที่กราฟไม่สวิงขึ้นไปที่จุด TP จะติดลบหนัก เนื่องจาก EA เพิ่ม volume ในการเทรด *2 เท่า หรือ หากเป็นค่าเริ่มต้นของ EA คือ *1.22 เท่า นั้นเอง
- ดูเทรนกราฟก่อนเปิดใช้งาน EA 2057 (ผมใช้ Indicator ARJUN, investing.com)
- วิเคราะห์คู่เงินที่เทรดว่ามีการสวิงกี่จุด (investing.com, ประสบการณ์)
- บริหารเงินทุนให้พอเหมาะสมเพื่อรองรับการสวิงของกราฟ(ประสบการณ์)
- ตรวจสอบข่าวก่อนเทรด(Forexfactory.com)
- ปิด/เปิด EA ตามความเหมาะสม ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ 24 ชม.(ประสบการณ์)
- อื่นๆ
ภาพที่ 2จากภาพที่ 2 EA เปิด Order Buy ทั้งหมด 4 ไม้ ใน Zone 1 เราควรจะวิเคราะห์ว่ากราฟจะกลับมาทางที่เราคิดไว้หรือไม่ หากไม่ เราควรปิดการทำงานของ EA ก่อนเพื่อไม่ให้ EA เปิด Order เพิ่ม เพื่อรอให้กราฟวิ่งไปที่ แนวรับ/ต้าน หลังจากนั้นทำการเปิด EA อีกครั้ง เพื่อให้เปิด Order เพิ่มที่แนวรับแนวต้าน (Zone 2) อย่าปล่อยให้ EA ทำงานอัติโนมัติเกินไป
ความสัมพันธ์ของเงินทุน และ Volume ในการเปิด Order นั้นสำคัญ เงินทุนมากและ Volume น้อยไม่ใช่คำตอบที่ดีหรือเงินทุนน้อย Volume มากไม่ใช่คำตอบที่ดีเช่นกันครับ ควรจะตั้ง Volume ให้เหมาะสมกับเงินทุนและควรศึกษา ทดสอบ หาค่าที่เหมาะสมก่อนการลงทุน
เงินทุนมาก ใช้ Volume ต่ำ
ข้อดีก็คือ ใช้เวลานานมากๆ กว่าจะขาดทุนสักครั้ง ข้อเสียคือคืนทุนช้า อย่าหวังครับว่าใช้ทุนเยอะแล้วจะไม่ล้างพอร์ตเลย ผมบอกจากประสบการณ์ในตลาอด Forex 8 ปี ครับไม่ว่าจะเยอะเท่าใด ก็ขาดทุนครับ เนื่องจากเมื่อผิดทางไปเยอะ แล้ว จำนวน Volume ที่เปิดจะมากขึ้นไปด้วย เช่นอัตราการคุณ *2 จะได้ Volume ในการเปิด 9 ไม้ดังนี้ 1,2,4,8,16,32,64,128,256 จะเห็นว่า ไม้ 9 ใช้ Volume 256 โดนลากไม่กี่จุดก็หลัก 1,000$ ครับ
เงินทุนน้อยใช้ Volume สูง
ข้อเสียก็คือ ขาดทุนบ่อย ล้างพอร์ตบ่อย ข้อดีก็คือ ได้กำไรเยอะเมื่อเทียบเป็น % ดังนั้น จำนวนเงินลงทุนต้องมีความสัมพันธ์กับ Volume และอัตราคูณ และควรทำกำไรให้คืนทุนเร็วเท่าที่เป็นไปได้
อย่ามองหาความ Perfect ในตลาด Forex
[/B]Indicator ARJUN 10EMA Dashboard v1.00ภาพที่ 3จากภาพที่ 3 ARJUN เป็น Indicator ที่ใช้ EMA Period 10 ในการกำหนดการขึ้นลงของลูกศรแสดงสถานะขึ้น/ลง โดยระบบจะตรวจสอบใน Time frame M1-W1 หรือตามที่เราตั้งค่า เพื่อดูว่าคู่เงินใด อยู่ในเทรนใด และใช้ตรวจสอบคู่เงินที่เหมาะสมแกการลงทุนที่สุดอีกด้วย
การวิเคราะห์ และการเข้า Order
จากภาพที่ 3 ค่าเงิน AUD นำหน้ามีลูกศรขึ้นส่วนใหญ่ แสดงว่า AUD มีแนวโน้มขาขึ้น เยอะกว่าค่าเงินอื่นๆ ประกอบกับ ค่าเงิน EUR นำหน้า มีลูกศรลงส่วนใหญ่ แสดงว่า EUR มีแนวโน้มค่าลงเยอะกว่าค่าเงินอื่นๆ ฉนั้นคู่เงินที่น่าลงทุนที่สุด คือ EURAUD เทรดในแนวโน้มขาลง เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ผมจะใช้ EA 2057 ทำการตั้งค่า Short Only และปล่อยให้ EA ทำงาน โดยที่นั่งวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด
เครื่องมือที่จำเป็น EA + Indicator ARJUN
วิธีการดาว์โหลด Skip Preview >> กรอกรหัสภาพ >>> กด download
หวังว่า บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะครับ การลงทุนต้องอาศัยประสบการณ์ บทความนี้เป็นอีกหนึ่่งก้าวของการเรียนรู้การลงทุน ระยะเวลาและประสบการณ์จะทำให้ท่านสำเร็จในไม่ช้า ….ผมเชื่อเช่นนั้น
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/profit-106/
99
พูดคุยForexทั่วไป / Indicator Forex คืออะไร
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:18:14 »
Indicator Forex คือ เครื่องมือชี้วัดสภาพของตลาด Forex โดยใช้หลักการทางสถิติและการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อช่วยในการคํานวณแนวโน้มของราคา การส่งสัญญาณต่างๆ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจในการหาจังหวะเข้าตลาด การเพิ่มทุน การ Cut-Loss ซึ่งจะมีผลต่อคําสั่ง Buy Sell ของคุณโดยตรง Indicator แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
Indicator Bollinger Bands
Bollinger Bands ช่วยให้การยืนยันการเกิดเทรนด์ง่ายยิ่งขึ้น เทรนด์ขาลงสามารถยืนยันได้เมื่อราคาอยู่ใน Sell Zone เทรนด์ขาขึ้น สามารถยืนยันได้ว่าอยู่ใน Buy Zone แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องการนำ Bollinger Bands มาวิเคราะห์ ก็ควรนำรูปแบบของกราฟแท่งเทียน มาช่วยวิเคราะห์ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้การตัดสินใจของคุณแม่นยำยิ่งขึ้น
- Leading Indicator คือ Indicator ที่มีการแสดงก่อนราคา รวมถึง Indicator ที่แสดงพร้อมราคา ยกตัวอย่างเช่น Volume, Japanse Candle Stick
- Lagging Indicator คือ Indicator ที่แสดงตามหลังราคา คือเมื่อราคาขยับ Indicator จึงขยับแสดงตาม อย่างเช่น slow stochastic,RSI,MACD
- Indicator ADX เพื่อหาช่วงเวลาที่ตลาดมีเทรนด์อย่างชัดเจน การใช้เครื่องมือ Average Directional Index หรือ APX ถูกพัฒนาขึ้นโดย J. Weller Wilder ใช้ในการวัดระยะการเคลื่อนไหวจาก 0-100 ว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปทิศทางใด ถ้ามากกว่า 25 เป็นช่วงเทรนด์ที่แรงพอสมควร ยิ่งตัวเลขสูง เทรนด์ยิ่งแรง แต่ข้อเสียคือ ยังไม่สามารถทํานายอนาคตได้ และยังเป็นเครื่องมือบอกทิศทางไม่ได้ เพราะยังไม่สามารถบอกทิศทางว่า เทรนด์จะเป็นขาขึ้นหรือขาลง บอกได้แต่เพียง Side Way
- Indicator ADX
- Indicator Moving Average ใช้เพื่อหาช่องที่ตลาดมีเทรนด์อย่างชัดเจน คุณสามารถใช้เครื่องมือธรรมดาๆ แบบเส้น Simple Moving Average เพิ่มเส้น SMA ค่า 7,20 และ 65 ลงในกราฟ และรอให้ทั้งสามเส้นนั้นกระจุกตัวก่อนที่คุณจะตัดสินใจเทรด แต่ถ้าหาเส้น SMA 7 อยู่เหนือเส้น SMA 20 และเส้น SMA 20 อยู่เหนือเส้น SMA 65 หมายถึงกําลังเป็นเทรนด์ขาขึ้น หรือหากเส้น SMA 7 อยู่ข้างล่างเส้น SMA 20 และเส้น SMA 20 อยู่ต่ำกว่าเส้น SMA 65 นั้นก็หมายความว่าตลาดกําลังอยู่ในช่วงขาลง
- Indicator Moving Average
- Indicator Bollinger Bands ในการบอกเทรนด์ของตลาด ใช้บอกอัตราการแกว่งของราคา สามารถนํามาใช้ในการเทรดที่มีเทรนด์ได้เช่นเดียวกัน ตามปกติราคามักจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70-80% ซึ่งเป็นปกติของราคาที่มีการเคลื่อนไหว แต่ถ้าเมื่อใดที่มีค่าเบี่ยงเบนจากค่าปกติ นั่นแสดงให้คุณเห็นว่ากําลังเกิดเทรนด์ ซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยมากนัก Bollinger Bands ประกอบด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพียงคุณใส่ Bollinger Brands และใช้ค่า Standard Deviation (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ที่ 1 และใส่ Bollinger Band ตัวที่สอง และใช้ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ 2 คุณจะเห็นโซนราคาสามโซน คือ Sell Zone, “No-Man’s Land” Sell Zone คือพื้นที่ระหว่าง Band ที่อยู่ข้างหลังของ Band ที่ใช้ค่า Standard Deviation 1 และ Standard Deviation 2 ให้เรารับรู้ไว้ว่าถ้าราคาของกราฟแท่งเทียนนั้นปิด อยู่ภายใต้ Band นั้น นั่นคือ พื้นที่ Sell Buy Zon คือ พื้นที่ระหว่าง Band ที่อยู่ด้านบนของเส้น SD 1 และเส้น SD (Standard Deviation) หาก Sell Zone ราคาต้องปิดระหว่าง Band ข้างบนทั้งสองถึงจะบอก ได้ว่าราคาอยู่ใน Buy Zone พื้นที่ระหว่างค่า Bollinger Band 1 คือพื้นที่ที่ตลาดจะยังจะยังลังเลในการหาทิศทางราคาจะปิดอยู่ในพื้นที่ เรียกว่า “No-Man’s Land” ทิศทาง ราคาค่อนข้างกระจุกตัว
Indicator Bollinger Bands
Bollinger Bands ช่วยให้การยืนยันการเกิดเทรนด์ง่ายยิ่งขึ้น เทรนด์ขาลงสามารถยืนยันได้เมื่อราคาอยู่ใน Sell Zone เทรนด์ขาขึ้น สามารถยืนยันได้ว่าอยู่ใน Buy Zone แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องการนำ Bollinger Bands มาวิเคราะห์ ก็ควรนำรูปแบบของกราฟแท่งเทียน มาช่วยวิเคราะห์ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้การตัดสินใจของคุณแม่นยำยิ่งขึ้น
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/23/
100
YouTubeขั้นตอนเทรดForex / การตั้งจุด ทำกำไร(TP), ตัดขาดทุนขาดทุน(SL) ล่วงหน้า
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:16:51 »
ข้อดีอีกประการของโปรแกรม metatrader 4 (Mt4) ก็คือ เมื่อเราเปิด Order ไปแล้วเราสามารถตั้งจุดที่คาดว่าจะกำไร(Take Profit, TP) หรือจุดที่ยอมขาดทุน (Stop Loss, SL) ไว้ล่วงหน้าได้ เมื่อกราฟวิ่งมาชนตำแหน่งดังกล่าวโปรแกรมจะทำการปิด Order ของท่านให้ทันทีโดยท่านไม่ต้องห่วงว่า จะพลาดโอกาสทองของท่านไป
STOP LOSS ( SL ) คือจุดตัดขาดทุน หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อราคาวิ่งผิดทางให้ตั้ง SL
TAKE PROFIT ( TP ) คือจุดทำกำไร หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อราคาวิ่งถูกทางให้ตั้ง TP
ตัวอย่าง BUY GBPUSD ที่ 1.57143 ผมคาดว่าราคาจะวิ่งไปที่ 1.58212 นัjนคือจุดทำกำไร ผมก็ตั้ง TP ไว้ที่ 1.58212 แต่หากผมคาดการณ์ผิด ผมยอมรับการขาดทุนที่ ตำแหน่ง 1.56857 นั่นคือตำแหน่ง SL ดังนั้นผมเข้าซื้อ โดยตั้ง TP ที่ 1.58212 และ SL ที่ 1.56857 หากกราฟวิ่งไปชนตำแหน่ง SL หรือ TP ก่อนก็จะปิด Order ทันที ถ้าชน TP เราจะได้กำไร ถ้าชน SL เราจะขาดทุน
STOP LOSS ( SL ) คือจุดตัดขาดทุน หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อราคาวิ่งผิดทางให้ตั้ง SL
TAKE PROFIT ( TP ) คือจุดทำกำไร หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อราคาวิ่งถูกทางให้ตั้ง TP
ตัวอย่าง BUY GBPUSD ที่ 1.57143 ผมคาดว่าราคาจะวิ่งไปที่ 1.58212 นัjนคือจุดทำกำไร ผมก็ตั้ง TP ไว้ที่ 1.58212 แต่หากผมคาดการณ์ผิด ผมยอมรับการขาดทุนที่ ตำแหน่ง 1.56857 นั่นคือตำแหน่ง SL ดังนั้นผมเข้าซื้อ โดยตั้ง TP ที่ 1.58212 และ SL ที่ 1.56857 หากกราฟวิ่งไปชนตำแหน่ง SL หรือ TP ก่อนก็จะปิด Order ทันที ถ้าชน TP เราจะได้กำไร ถ้าชน SL เราจะขาดทุน
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/22/
101
สมาชิกแนะนำตัว ประชาสัมพันธ์ / การตั้ง ซื้อขายล่วงหน้าตลาด Forex (Pending Order)
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:14:47 »
span style="color: #008000;">ข้อดีอีกประการหนึ่งของโปรแกรม Matatrader 4 (MT4) ก็คือ เราสามารถตั้งให้โปรแกรมเปิด Order ให้เราในราคาที่เราตั้งใจที่จะเปิดได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าจอ ด้วยคำสั่ง 4 คำสั่ง Buy limit, Sell limit, Buy Stop, Sell top คำสั่งเหล่านี้เหมาะมากกับท่านที่ลงทุนระยะยาว เพราะจะดูกราฟไม่บ่อยดังนั้นการตั้ง Order Pending ไว้นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
- Buy Stop คือ การตั้ง Buy ล่วงหน้า โดยราคาปัจจุบัน ต่ำกว่าราคาที่ตั้ง (วิ่งขึ้นไปชน pending แล้วหวังว่าจะขึ้นต่อ)
- Buy Limit คือ การตั้งBuy ล่วงหน้า โดยราคาปัจจุบัน สูงกว่าราคาที่ตั้ง (วิ่งลงมาชน pending แล้วหวังว่าจะขึ้น)
- Sell Stop คือ การตั้ง Sell ล่วงหน้า โดยราคาปัจจุบัน สูงกว่าราคาที่ตั้ง (วิ่งลงมาชน pending แล้วหวังว่าจะลงต่อ)
- Sell Limit คือ การตั้ง Sell ล่วงหน้า โดยราคาปัจจุบัน ต่ำกว่าราคาที่ตั้ง (วิ่งขึ้นไปชน pending แล้วหวังว่าจะลง)
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/21/
102
สมาชิกแนะนำตัว ประชาสัมพันธ์ / การ Requote คืออะไร
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:12:47 »
การ Requote เป็นการป้องกันการเสียโอกาสในการได้ราคาที่คุณต้องการเทรด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของราคาในตลาด อย่างเช่น ราคาในหน้าจอ ณ ขณะนั้นเป็น 1.005 เมื่อคุณเทรดคำสั่งซื้อ/ขาย ไปแล้ว ราคาที่ Server ได้เปลี่ยนไปเป็นราคาอื่น อย่างเช่น 1.006 อย่างนี้เป็นต้น ทำให้คุณเสียโอกาสทำกำไร หรือการ ตัดขาดทุน นั่นเอง
สาเหตุของการ Requote มีอะไรบ้าง เนื่องจาก Server ที่เราเทรด Forex กันอยู่นั้นตั้งอยู่ในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ใช้เวลาในการประมวลผลพอสมควรกว่าที่ Server จะได้รับคำสั่ง ราคาก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาในตลาด London ซึ่งตั้งแต่ช่วงบ่ายของประเทศไทย และตลาดอเมริกาเปิด ที่เปิดตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มของไทยเรา ก็จะยิ่งมีนักเทรดทั่วโลกเทรดกันมากกว่าปกติ จึงทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก รวมถึงช่วงเวลาที่มีข่าวสำคัญๆ ดังนั้นความเร็วอินเตอร์เนตของ server และของเครื่องคอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีวิธีป้องกันการ Requote คือให้ Set Maximum Deviation เมื่อเวลาเปิดหรือปิดออเดอร์ ที่หน้าต่างด้านล่างจะมีให้ทำเครื่องหมายถูกตรงช่อง Enable maximum deviation from quoted price และมีช่องให้ใส่จำนวนจุดที่ต้องการ อันนี้จะเป็นการเซตว่าถ้าราคาที่ server เปลี่ยนแปลงไปจากราคาที่คุณส่งไปกี่จุดก็ให้ทำการเปิดหรือปิดออเดอร์ให้โดยอัตโนมัติ
ยกตัวอย่างเช่น สมมติคุณตั้งค่า Maximum ไว้ที่ 5 จุด ถ้าหากราคาที่เครื่องเป็น 1.000 ถ้าราคาที่ Server มีค่าตั้งแต่ 0.995 – 1.005 ระบบก็จะเปิดหรือปิดออเดอร์นั้นให้เลย ไม่ต้องเจอ requote อีก เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราสามารถตั้งที่โปรแกรม Mt4 ได้ เข้าไปตั้งค่าที่ Tools -> Options -> Tab Trade -> จากนั้นเลือก Deviation by default ให้เป็น Default และใส่จำนวนจุดที่ต้องการ การเปิดแบบ Pending Order ก็จะเป็นการรับประกันได้ว่าผู้เทรดจะได้ราคาตามที่ต้องการจริงๆ (ในกรณีที่ไม่เกิด gap) ไม่ต้องเจอกับปัญหา requote ตอนเปิดออเดอร์อีก
สำหรับการปิดออเดอร์ เพื่อป้องกันการ Requote ให้เปลี่ยนจากปิดมือมาใช้การตั้ง Stop Loss และ Take Profit แทน การเซ็ต Stop Loss และ Take Profit นั้นแทนที่จะปิดเองด้วยมือ ซึ่งคุณก็มั่นใจได้ว่าจะได้ราคาปิดตรงตามที่ราคาที่เซ็ตไว้เสมอ (ในกรณีที่ไม่เกิด gap) ไม่ต้องเจอปัญหา requote ตอนปิดออเดอร์อีกต่อไป
สำหรับผู้ที่ใช้ EA เวลาเปิดปิดออเดอร์ทุกครั้ง (กรณีที่สั่งให้ปิดเอง ไม่รวมถึงชน Stop loss หรือ Take Profit) ให้ตรวจสอบด้วยว่าคำสั่งที่เราส่งไปนั้นทำสำเร็จหรือไม่ ถ้าทำไม่สำเร็จจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่ง EA บางตัวที่ขายกันอยู่บนอินเตอร์เนตนั้นก็ไม่ได้เช็คตรงนี้ คือส่งคำสั่งไปทีเดียวก็จบเลย ซึ่งถ้าเกิดเจอ Requote ออเดอร์ก็จะไม่ถูกปิด ทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ศึกษาข้อมูลก่อนเลือกใช้เครื่องมือ เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย เพราะเครื่องมือที่ดีจะช่วยให้การเทรดของคุณง่ายและประสบความสำเร็จ
สาเหตุของการ Requote มีอะไรบ้าง เนื่องจาก Server ที่เราเทรด Forex กันอยู่นั้นตั้งอยู่ในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ใช้เวลาในการประมวลผลพอสมควรกว่าที่ Server จะได้รับคำสั่ง ราคาก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาในตลาด London ซึ่งตั้งแต่ช่วงบ่ายของประเทศไทย และตลาดอเมริกาเปิด ที่เปิดตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มของไทยเรา ก็จะยิ่งมีนักเทรดทั่วโลกเทรดกันมากกว่าปกติ จึงทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก รวมถึงช่วงเวลาที่มีข่าวสำคัญๆ ดังนั้นความเร็วอินเตอร์เนตของ server และของเครื่องคอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีวิธีป้องกันการ Requote คือให้ Set Maximum Deviation เมื่อเวลาเปิดหรือปิดออเดอร์ ที่หน้าต่างด้านล่างจะมีให้ทำเครื่องหมายถูกตรงช่อง Enable maximum deviation from quoted price และมีช่องให้ใส่จำนวนจุดที่ต้องการ อันนี้จะเป็นการเซตว่าถ้าราคาที่ server เปลี่ยนแปลงไปจากราคาที่คุณส่งไปกี่จุดก็ให้ทำการเปิดหรือปิดออเดอร์ให้โดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น สมมติคุณตั้งค่า Maximum ไว้ที่ 5 จุด ถ้าหากราคาที่เครื่องเป็น 1.000 ถ้าราคาที่ Server มีค่าตั้งแต่ 0.995 – 1.005 ระบบก็จะเปิดหรือปิดออเดอร์นั้นให้เลย ไม่ต้องเจอ requote อีก เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราสามารถตั้งที่โปรแกรม Mt4 ได้ เข้าไปตั้งค่าที่ Tools -> Options -> Tab Trade -> จากนั้นเลือก Deviation by default ให้เป็น Default และใส่จำนวนจุดที่ต้องการ การเปิดแบบ Pending Order ก็จะเป็นการรับประกันได้ว่าผู้เทรดจะได้ราคาตามที่ต้องการจริงๆ (ในกรณีที่ไม่เกิด gap) ไม่ต้องเจอกับปัญหา requote ตอนเปิดออเดอร์อีกสำหรับการปิดออเดอร์ เพื่อป้องกันการ Requote ให้เปลี่ยนจากปิดมือมาใช้การตั้ง Stop Loss และ Take Profit แทน การเซ็ต Stop Loss และ Take Profit นั้นแทนที่จะปิดเองด้วยมือ ซึ่งคุณก็มั่นใจได้ว่าจะได้ราคาปิดตรงตามที่ราคาที่เซ็ตไว้เสมอ (ในกรณีที่ไม่เกิด gap) ไม่ต้องเจอปัญหา requote ตอนปิดออเดอร์อีกต่อไป
สำหรับผู้ที่ใช้ EA เวลาเปิดปิดออเดอร์ทุกครั้ง (กรณีที่สั่งให้ปิดเอง ไม่รวมถึงชน Stop loss หรือ Take Profit) ให้ตรวจสอบด้วยว่าคำสั่งที่เราส่งไปนั้นทำสำเร็จหรือไม่ ถ้าทำไม่สำเร็จจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่ง EA บางตัวที่ขายกันอยู่บนอินเตอร์เนตนั้นก็ไม่ได้เช็คตรงนี้ คือส่งคำสั่งไปทีเดียวก็จบเลย ซึ่งถ้าเกิดเจอ Requote ออเดอร์ก็จะไม่ถูกปิด ทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ศึกษาข้อมูลก่อนเลือกใช้เครื่องมือ เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย เพราะเครื่องมือที่ดีจะช่วยให้การเทรดของคุณง่ายและประสบความสำเร็จ
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/19/
103
สมาชิกแนะนำตัว ประชาสัมพันธ์ / การ Scalping คืออะไร
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:11:58 »
การ Scalping คือการเทรดโดยการเปิดและปิดการซื้อขายในช่วงสั้นๆ โดยจะปิดทำกำไรเพียงไม่กี่จุด (ส่วนมากจะมีระยะประมาณ 5-20 จุด) โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ แต่ละรูปแบบที่นำเสนอนี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายรูปแบบที่เทรดเดอร์นิยมใช้กัน รูปแบบนี้เรียกง่ายๆ ว่า Flag (แบบธง) เป็นการ Scalping ในรูปแบบที่อาศัยการกลับตัวหรือพักตัวของราคาเป็นช่วงๆ โดยส่วนมากจะเกิดในช่วงที่ตลาดมีการซื้อขายเป็นจำนวนมากๆ เสร็จแล้ว หรืออยู่ในช่วงที่กำลังรอข่าวสำคัญๆ โดยตลาดช่วงนั้นต้องค่อนข้างราบเรียบไม่มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวที่รุนแรง โดยกราฟจะมีรูปแบบที่เป็นแท่งเรียงกัน การเทรดช่วงนี้ไม่อันตรายมากเหมือนตอนช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การเทรด Scalping ในแบบนี้ จะไม่มุ่งหวังกับผลกำไรมากโดยเน้นการสะสมทีละน้อย และเป็นการเทรดในมุมมองของคนเล่นตามเทรนด์ ผู้เทรดต้องใจเย็นและรู้จักสังเกตตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยรูปแบบนี้เป็นเพียงรูปแบบ หนึ่งในหลายๆ กลยุทธ์ที่เทรดเดอร์แต่ละคนควรได้ศึกษาและนำมาปรับใช้ตามความถนัดของแต่ละคน
ยกตัวอย่างเงือนไขการ Scalping ของ โบรกเกอร์ FXClearing คือ การเปิดและปิดออเดอร์ที่มีจำนวน pips น้อยกว่า 3 เท่าของ Spread (อย่างน้อยบวกลบ 8 pip) หรือมีการถือออเดอร์น้อยกว่า 8 นาที ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่าง จึงจะถือว่าไม่เป็นการ Scalping เงื่อนไขในการ Scalping ของแต่ละบัญชีนั้น ก็คือว่าบัญชี Micro ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี Mini ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี ECN Light ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี ECN Interbank ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping และบัญชีที่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping ก็คือ บัญชี ECN Scalping แบบ Non-Aggressive Scalping ได้ (คือ Scalping ได้ไม่เกิน 50% ของออเดอร์ทั้งหมด)
เนื่องจาก Forex เป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ราคาบนตลาด Forex มีทั้งลงและขึ้นเป็นไปตามวงจรการตลาด ถ้าราคามีการเปลี่ยนแปลงประมาณ 60 จุดภายในหนึ่งวัน ระยะห่างระหว่างค่าสูงสุดและต่ำสุดจะค่อนข้างมาก การเทรดโดยใช้การเปลี่ยนแปลงราคาแบบรายชั่วโมง (ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุด) ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลกำไรที่มากกว่า มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ pipsing และ scalping เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ สำหรับผู้เริ่มต้นในตลาด Forex อาจจะคิดว่าการเทรดโดยวิธีแบบนี้สามารถทำให้เกิดผลกำไรได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จำนวนเงินที่คาดหวังเอาไว้อาจจะวิ่งไปไกลเกินขอบเขตความจริง และมีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มอีก แต่ในโลกของการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนนั่นคือสติ และข้อมูล รวมทั้งระเบียบวินัยที่ดี ก็จะช่วยให้คุณไม่คาดฝันไปไกลเกินกว่าสิ่งที่เป็นจริงและข้อมูลที่เป็นจริง อันจะนำคุณไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดน้อยที่สุด
ยกตัวอย่างเงือนไขการ Scalping ของ โบรกเกอร์ FXClearing คือ การเปิดและปิดออเดอร์ที่มีจำนวน pips น้อยกว่า 3 เท่าของ Spread (อย่างน้อยบวกลบ 8 pip) หรือมีการถือออเดอร์น้อยกว่า 8 นาที ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่าง จึงจะถือว่าไม่เป็นการ Scalping เงื่อนไขในการ Scalping ของแต่ละบัญชีนั้น ก็คือว่าบัญชี Micro ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี Mini ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี ECN Light ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping บัญชี ECN Interbank ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping และบัญชีที่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping ก็คือ บัญชี ECN Scalping แบบ Non-Aggressive Scalping ได้ (คือ Scalping ได้ไม่เกิน 50% ของออเดอร์ทั้งหมด)
เนื่องจาก Forex เป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ราคาบนตลาด Forex มีทั้งลงและขึ้นเป็นไปตามวงจรการตลาด ถ้าราคามีการเปลี่ยนแปลงประมาณ 60 จุดภายในหนึ่งวัน ระยะห่างระหว่างค่าสูงสุดและต่ำสุดจะค่อนข้างมาก การเทรดโดยใช้การเปลี่ยนแปลงราคาแบบรายชั่วโมง (ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุด) ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลกำไรที่มากกว่า มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ pipsing และ scalping เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ สำหรับผู้เริ่มต้นในตลาด Forex อาจจะคิดว่าการเทรดโดยวิธีแบบนี้สามารถทำให้เกิดผลกำไรได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จำนวนเงินที่คาดหวังเอาไว้อาจจะวิ่งไปไกลเกินขอบเขตความจริง และมีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มอีก แต่ในโลกของการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนนั่นคือสติ และข้อมูล รวมทั้งระเบียบวินัยที่ดี ก็จะช่วยให้คุณไม่คาดฝันไปไกลเกินกว่าสิ่งที่เป็นจริงและข้อมูลที่เป็นจริง อันจะนำคุณไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดน้อยที่สุด
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/20/
104
สมาชิกแนะนำตัว ประชาสัมพันธ์ / การเทรดแบบ Hedge คืออะไร
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:11:19 »
การเทรดแบบ Hedge เป็นการเปิดออเดอร์ซื้อและขายในสกุลเงินเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน แนวทางในการเปิดออเดอร์แบบ Hedging สำหรับผู้เริ่มเทรดนั้น เป็นพื้นฐานที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจอย่างถูกต้องและควรเอาใจใส่ให้มาก ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนของคุณ ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับการทำกำไรของพอร์ทเลยทีเดียว แต่ยังมีการพูดถึง Hedging ไม่เท่ามากเท่าที่ควร เพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องซับซ้อนพอสมควร แต่ผู้เริ่มต้นเทรด ควรได้เรียนรู้ว่าการ Hedging คืออะไร มีการทำงานอย่างไร และรู้ว่าจะนำเทคนิคการ Hedging แบบไหนไปใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนของคุณเอง
การทำ Hedging ในทางเทคนิคนั้น เป็นการทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์ 2 ตัวที่มีค่าความสัมพันธ์แตกต่างกัน ให้มีความเสี่ยงเท่ากับศูนย์ การทำ hedging สามารถช่วยป้องกันให้นักเทรดรอดพ้นจากความเสี่ยง จากการเทรดที่ผิดพลาด ลดความเสี่ยง เพราะความเสี่ยงนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของการลงทุน การที่คุณมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกลยุทธ์การทำ Hedging จะทำให้เข้าใจว่าพวกนักลงทุนอื่นๆ ป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนของพวกเขาได้อย่างไร? การหาความรู้เกี่ยวกับการ Hedging จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยให้คุณเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จกับพอร์ทการลงทุนของคุณยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง เป็นกลยุทธ์การเทรดเพื่อป้องกันความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเปิดออเดอร์ทั้งสองทาง คือ Buy และ Sell อย่างเช่น ถ้าคุณเทรด EUR/USD คุณเปิดออเดอร์ทั้ง Buy และ Sell ไว้อย่างละ 1 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 1 lot ดังนั้น ไม่ว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางใด คุณก็จะไม่มีทางได้หรือเสีย เรียกได้ว่าเป็นการเทรดเพื่อให้ยอดรวมบัญชีของคุณมีความสมดุล หรือมีความเสี่ยงในการเทรดเป็น 0 นั่นเอง ประโยชน์ของ Hedge ก็คือ เมื่อราคาปรับตัวคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการ Hedging ออเดอร์ของคุณ เมื่อราคาปรับตัวหรือราคาวิ่งไปตามแนวโน้ม อันจะทำให้ผลกำไรของคุณเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ คุณจะได้กำไรจากทั้งการ Buy และ Sell และในการใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรด คุณควรจะต้องรู้ก่อนว่าจุดกลับตัว หรือจุด Retracement นั้นอยู่ตรงไหน เพื่อที่จะสั่งออเดอร์ได้ในตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
การทำ Hedging ในทางเทคนิคนั้น เป็นการทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์ 2 ตัวที่มีค่าความสัมพันธ์แตกต่างกัน ให้มีความเสี่ยงเท่ากับศูนย์ การทำ hedging สามารถช่วยป้องกันให้นักเทรดรอดพ้นจากความเสี่ยง จากการเทรดที่ผิดพลาด ลดความเสี่ยง เพราะความเสี่ยงนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของการลงทุน การที่คุณมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกลยุทธ์การทำ Hedging จะทำให้เข้าใจว่าพวกนักลงทุนอื่นๆ ป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนของพวกเขาได้อย่างไร? การหาความรู้เกี่ยวกับการ Hedging จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยให้คุณเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จกับพอร์ทการลงทุนของคุณยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง เป็นกลยุทธ์การเทรดเพื่อป้องกันความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเปิดออเดอร์ทั้งสองทาง คือ Buy และ Sell อย่างเช่น ถ้าคุณเทรด EUR/USD คุณเปิดออเดอร์ทั้ง Buy และ Sell ไว้อย่างละ 1 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 1 lot ดังนั้น ไม่ว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางใด คุณก็จะไม่มีทางได้หรือเสีย เรียกได้ว่าเป็นการเทรดเพื่อให้ยอดรวมบัญชีของคุณมีความสมดุล หรือมีความเสี่ยงในการเทรดเป็น 0 นั่นเอง ประโยชน์ของ Hedge ก็คือ เมื่อราคาปรับตัวคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการ Hedging ออเดอร์ของคุณ เมื่อราคาปรับตัวหรือราคาวิ่งไปตามแนวโน้ม อันจะทำให้ผลกำไรของคุณเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ คุณจะได้กำไรจากทั้งการ Buy และ Sell และในการใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรด คุณควรจะต้องรู้ก่อนว่าจุดกลับตัว หรือจุด Retracement นั้นอยู่ตรงไหน เพื่อที่จะสั่งออเดอร์ได้ในตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/18/
105
พูดคุยForexทั่วไป / VPS สำหรับเทรด Forex
« เมื่อ: 31/ก.ค./2015 12:09:05 »
VPS คือ เครื่อง Server ที่สามารถเอาไว้ใช้เทรดหรือรัน EA โดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็จะเป็นการป้องกันการไฟดับหรืออินเตอร์เน็ตหลุดในกรณีที่เราเทรดหรือรัน EA ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอง นอกจากนี้ยังช่วยในการเทรดผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตต่างๆ ด้วย คุณสมบัติของ VPS ระบบปฏิบัติการ Windows XP SP3 RAM 512 MB HDD 15 GB Network 3BB 12 Mbps
การใช้งาน VPS
คุณสามารถรีโมทเข้าใช้งานผ่านโปรแกรม Teamviewer ใช้งานเหมือนเครื่องคุณเองทุกอย่าง บนสิทธิ์ Administrator ติดตั้งโปรแกรมสำหรับเทรดต่างๆ ได้ตามใจ ไม่จำกัด broker ข้อดีของการใช้ VPS ไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอาไว้ แค่รีโมทเข้าไปจัดการ เครื่อง VPS จะทำงาน 24 ชม. ทำให้ไม่ต้องเสียค่าไฟ เปิดเครื่องทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน
VPS ใน Forex เป็นสถานที่ที่คุณติดตั้งแพลตฟอร์ม MT4 ของคุณ และเข้าถึงจากระยะไกล ตัวอย่างโบรกเกอร์ที่ให้คุณใช้บริการ VPS เช่น GallantFX.com และ IamFX.com และโบรกเกอร์อื่น ๆ อาจให้บริการ VPS ฟรี อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์เหล่านั้นก็จะมีเงือนไขติดมาด้วย เช่น ต้องฝากลงทุนขั้นต่ำ 1000$ หรือ 500$ แล้วแต่เงือนไข หากท่านต้องการซื้อบริการ VPS แยก ส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ก็ย่อมได้ โดยท่านสามารถซื้อบริการ VPS ได้ทั้วไป โดยค้นหาจาก Google อาจจะมีค่าบริการรายเดือน หรือรายปี
การพิจารณาเลือก VPS ของโบรกเกอร์ Forex มีข้อควรพิจารณาดังนี้ ในบางโบรคเกอร์ก็จะมี VPS ให้คุณใช้งานฟรี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไข อย่างเช่น บางโบรคอาจกำหนดว่าคุณต้องมีจำนวนเงินลงทุนเท่าไหร่ ถึงจะมีสิทธิ์ใช้งาน VPS ฟรี ส่วนบางโบรคก็กำหนดค่าใช้จ่ายไว้เป็นรายเดือน ซึงผู้ลงทุนควรได้ศึกษา เปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะ VPS ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเทรดของคุณรวดเร็ว ไม่พลาดในเวลาที่สำคัญ
ข้อดี-ข้อเสียของ VPS แบบเช่ารายเดือน(ที่ท่านสามารถหาผูัให้บริการตาม Google) หรือ VPS ที่เป็นของคุณเอง การที่คุณมี Server เป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์ ก็เหมือนเป็นเจ้าของ Server เองเลย และมี IP เป็นของตัวเอง ไม่ต้องแชร์กับใคร สามารถลงโปรแกรมอะไรได้ตามต้องการ จะใช้เครื่องเดียวนี้เปิดบอทซักกี่ตัว ก็แล้วแต่คุณจะจัดการ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมายุ่งกับคอมเครื่องนี้ และการที่คุณมีเนื้อที่ มี CPU มี RAM เป็นของคุณเอง มี Internet ความเร็วสูง มีความเสถียร เปิด 24 ชม. จึงหมดห่วงไม่ต้องกังวลว่าคอมที่บ้านจะดับเน็ตจะตัดหรือไม่ ค่าใช้จ่ายน้อย เนื่องจาก VPS เป็นการเอาเครื่องจริงๆ มาจำลองเป็นเครื่องเสมือนหลายๆ เครื่อง จึงทำให้การเช่า VPS มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเปิดคอมไว้ที่บ้าน ค่าไฟ ค่าเน็ต ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เราสามารถ Remote ผ่านมือถือ Tablet หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ได้เลย การเลือกใช้บริการ VPS คุณควรดูข้อมูลด้านประสบการณ์ของผู้ให้บริการด้วย รวมถึงราคาที่ดีและเหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณให้มากที่สุดด้วย
การใช้งาน VPS
คุณสามารถรีโมทเข้าใช้งานผ่านโปรแกรม Teamviewer ใช้งานเหมือนเครื่องคุณเองทุกอย่าง บนสิทธิ์ Administrator ติดตั้งโปรแกรมสำหรับเทรดต่างๆ ได้ตามใจ ไม่จำกัด broker ข้อดีของการใช้ VPS ไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอาไว้ แค่รีโมทเข้าไปจัดการ เครื่อง VPS จะทำงาน 24 ชม. ทำให้ไม่ต้องเสียค่าไฟ เปิดเครื่องทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน
VPS ใน Forex เป็นสถานที่ที่คุณติดตั้งแพลตฟอร์ม MT4 ของคุณ และเข้าถึงจากระยะไกล ตัวอย่างโบรกเกอร์ที่ให้คุณใช้บริการ VPS เช่น GallantFX.com และ IamFX.com และโบรกเกอร์อื่น ๆ อาจให้บริการ VPS ฟรี อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์เหล่านั้นก็จะมีเงือนไขติดมาด้วย เช่น ต้องฝากลงทุนขั้นต่ำ 1000$ หรือ 500$ แล้วแต่เงือนไข หากท่านต้องการซื้อบริการ VPS แยก ส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ก็ย่อมได้ โดยท่านสามารถซื้อบริการ VPS ได้ทั้วไป โดยค้นหาจาก Google อาจจะมีค่าบริการรายเดือน หรือรายปี
การพิจารณาเลือก VPS ของโบรกเกอร์ Forex มีข้อควรพิจารณาดังนี้ ในบางโบรคเกอร์ก็จะมี VPS ให้คุณใช้งานฟรี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไข อย่างเช่น บางโบรคอาจกำหนดว่าคุณต้องมีจำนวนเงินลงทุนเท่าไหร่ ถึงจะมีสิทธิ์ใช้งาน VPS ฟรี ส่วนบางโบรคก็กำหนดค่าใช้จ่ายไว้เป็นรายเดือน ซึงผู้ลงทุนควรได้ศึกษา เปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะ VPS ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเทรดของคุณรวดเร็ว ไม่พลาดในเวลาที่สำคัญ
ข้อดี-ข้อเสียของ VPS แบบเช่ารายเดือน(ที่ท่านสามารถหาผูัให้บริการตาม Google) หรือ VPS ที่เป็นของคุณเอง การที่คุณมี Server เป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์ ก็เหมือนเป็นเจ้าของ Server เองเลย และมี IP เป็นของตัวเอง ไม่ต้องแชร์กับใคร สามารถลงโปรแกรมอะไรได้ตามต้องการ จะใช้เครื่องเดียวนี้เปิดบอทซักกี่ตัว ก็แล้วแต่คุณจะจัดการ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมายุ่งกับคอมเครื่องนี้ และการที่คุณมีเนื้อที่ มี CPU มี RAM เป็นของคุณเอง มี Internet ความเร็วสูง มีความเสถียร เปิด 24 ชม. จึงหมดห่วงไม่ต้องกังวลว่าคอมที่บ้านจะดับเน็ตจะตัดหรือไม่ ค่าใช้จ่ายน้อย เนื่องจาก VPS เป็นการเอาเครื่องจริงๆ มาจำลองเป็นเครื่องเสมือนหลายๆ เครื่อง จึงทำให้การเช่า VPS มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเปิดคอมไว้ที่บ้าน ค่าไฟ ค่าเน็ต ก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เราสามารถ Remote ผ่านมือถือ Tablet หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ได้เลย การเลือกใช้บริการ VPS คุณควรดูข้อมูลด้านประสบการณ์ของผู้ให้บริการด้วย รวมถึงราคาที่ดีและเหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณให้มากที่สุดด้วย
โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/lesson/17/