เรียนรู้การวิเคราะห์หุ้น(เบื้องต้น)

อ่าน 1619 ครั้ง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

  เมื่อผมได้ศึกษาการวิเคราะห์ ผมจึงทราบว่า เราจะมีการวิเคราะห์หุ้นอยู่ประมาณ 2 แบบ ใหญ่ๆ หรือที่เขาเรียกเป็นสำนัก ซึ่งก็คือ
    1.การวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน ( ซึ่งผมรู้มาว่าเขาเรียกว่า Value Investor) อย่าง Warren BuffeT,peter lynch, ดร.นิเวศ เป็นต้น ( ผมใช้สำหรับคัดหุ้นที่คิดว่าจะลงทุน )
     แนวทางในการวิเคราะห์ในด้านนี้จะเน้นไปในเรื่อง
        -  อัตราการเติบโต พูดง่ายๆ ว่า บริษัท มีแน้วโน้มจะเจริญเติบโตมากขึั้น หรือ ไม่หรือว่าทำกำไรแต่ก็ยังคงเป็นบริษัทแบบนั้นเท่าเดิม เอาง่ายๆอย่่าง 7-11 มีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วด้วยระบบการจัดการที่วางแผนมาอย่างดี  กับ  108shop ที่ยังไม่สามารขยายสาขาได้ดีเท่าไหร่คุณจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวไหน และอย่าลืมด้วยว่าเราบริษัทจะเติบโตแบบยั่งยืนหรือว่าประเดี๋ยวประด๋าวก็ล้มไปอันนี้ต้องศึกษาครับ อิๆ
        -  ความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนสินค้าและปริมาณการผลิค ถ้าสมมุติว่ามีสินค้าอยู่ 2 ตัว A ต้นทุน 5 บาท ขาย 12 แต่ B ต้นทุน 4 บาท ขาย 10 บาท ในขณะที่คุณภาพนั้นใกล้เคียงกัน คุณจะเลือกซื้อตัวไหนครับ อย่าลืมดูปริมาณสินค้าเทียบกับราคาสินค้าด้วยนะครับ บางทีเมื่อเขาผลิตมาเยอะๆหรือมีออเดอร์มาเยอะอาจจะทำให้ต้นทุนสินค้าลดลงก็ได้น๊ะ ^^
        -  ค่าพื้นฐานต่างๆเกี่ยวกับหุ้น ลองเข้าไปดูในเว็บนี้ https://http://siamchart.com/stock/ ก็ได้ครับ
 โดยค่าที่เรามักจะดูกันง่ายๆ คือ P/E  ,  Roe  , Roa , P/BV , TL/E
           โดยสามารถเปิดดูเบื้องต้นเกี่ยวกับศัพท์การเงินที่ ศัพท์การเงิน
        -  ระบบการจัดการ,การตลาด,ความสามารถของผู้บริหาร ระบบการจัดการที่ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าย่อมทำให้ สามารถตอบสนองตลาดได้มากกว่า อีกทั้งผู้บริหารที่ซื่อสัตย์ต่อผู้ลงทุนย่อมจะดีกว่าอยู่แล้วถูกไหมครับ (ยิ่งถ้าผู้บริหารอยู๋ฝั่งเดียวกับผู้ลงทุนจะดีมาก) แล้วคราวนี้เราจะรู้ได้ยังไง เราก็ต้องศึกษาสิครับ คงไม่มีใครมาบอกเราหรอก
        - ภาวะหนี้สิน , เงินหมุนเวียน , กำไร เราจะได้รู้ว่าบริษัทที่เราเลือกจะลงทุนเขามีผลตอบแทนให้เราอย่างไรบ้าง ( แต่ผมแนะนำว่ามองระยะยาวดีกว่านะครับ )
        -
      ปล.นี้เป็นการมองพื้นฐานเบื้องต้นนะครับ เรายังต้องมองภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องวัฎจักร ความต้องการของลูกค้าด้วยว่าเขาต้องการอะไร ( แน่นอนชอบของดีราคาไม่แพงอยู่แล้วคับ)
เราลองมาดูกาวริเคราะห์ง่ายๆที่ Settrade แล้วพิมพ์ชื่อย่อไปเลยครับ ว่าดูกันว่าเขาวิเคราะห์กันยังไง
แต่อย่าไปเชื่อมากนะครับ เราต้องแยก ข้อเท็จจริง กับ สมมุติฐาน ของเขาด้วย

    2.การวิเคราะห์ทางเทคนิค Technical Analysis ( ผมใช้หาจังหวะเข้าซื้อ Timing )
         เรื่องของเทคนิคผมคงไม่สามารถอธิบายได้ละเอียดนักผมแนะนำไปซื้อหนังมาอ่าน หรือ เข้าไปดูใน Youtube ครับ เขาจะมีสาธิตให้ดูพร้อมคำอธิบาย ( ภาษาอังกฤษนะจ๊ะ ) Search ใน Google ก็เป็นอีกหนุ่งทางเลือกที่ดีน๊ะ ^^
        ด้วยส่วนตัวผมใช้อยู่ 4 ตัวและผมแนะนำให้ลองศึกษาดูเพราะมันไม่ยากครับ
       - bollinger band ( BB ) หรือก็คือ ขอบเขตราคาครับว่ามัน สูงเกินไป หรือ ต่ำเกินไปหรือเปล่า โดยอิงจากเส้นของ BB ซุ่งมีทั้งสามเส้นครับ บน กลาง ล่าง
       - slow stochastic  ใช้ดูจังหวะซื้อขายง่ายๆครับ ถ้าเส้นมันตัดขึ้นก็ซื้อครับ มันตัดลงก็ขายครับ ลองไปศึกษา ตัวนี้ไม่ยากครับ แต่ทำไม่ง่ายแน่นอนเพราะเรามีความโลภ ^^ หุ้นที่ผมเข้าซื้อตามจังหวะนี้โอกาสขาดทุนน้อยครับ ^^
       - MACD ซึ่งก็คือค่าเฉลี่ยนการซื้อโดยเราจะนำเส้นแต่เส้นมาเทียบกัน ของผม 5,10,25,100 ซึ่งเราจะใช้ในการดูแนวโน้ม (Trend) ของตลาดว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราอาจแบ่งกราฟเป็น 120 นาที , day , week แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ
       - RSI เป็นตัวที่วัดการแกว่งของหุ้นครับ เพื่อดูแรงการซื้อว่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไปรึป่าว ง่ายๆคือ ตัวนี้เขาให้ขายเมื่อมีภาวะการซื้อมากเกิน(แห่กันซื้อเอ๊ะ แมงเม่าหรือเปล่า) และให้ซื้อเมื่อมีภาวะการขายมากเกินไป (คนเทขาย แม่งเม่าชอบขาย อิๆ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น )

โค๊ด: [Select]
http://sea-kids.blogspot.com/2011/04/blog-post_3920.html
  • Tamol

  • ****
  • สถานะ: ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 1 | กระทู้ 250
  • เพศ: ไม่ระบุ
วิธีเปิดบัญชี forex exness อย่างละเอียด 2023 ทีละขั้นตอน | วิธีสมัคร Forex Update 2566



 

SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums