ตัวอย่าง Money Management

วันนี้ผมลองกลับมาเปิดดู Flies เทรดเก่า ๆ ในเครื่องตัวเองที่เก็บไว้ ได้เห็นความทรงจำในอดีตมากมายที่คิดว่าน่าจะหายไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ ระบบนั่นระบบนี่ที่เคยทั้งเอาของคนอื่นมาใช้ หรือทำขึ้นมาเอง จนกระทั่งผมไปพบ Money Management สมัยที่ผมเริ่มเทรดใหม่ ๆ เลยคิดว่าอยากจะเอามาแบ่งปันให้กับผู้อ่านได้ดู เพื่อใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองควรวาง Money Management ยังไงดีครับ

ความจริงแล้วในสมัยก่อนผมไม่ได้เทรดคนเดียว ผมมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่คอยช่วยคิดช่วยทำระบบด้วยกัน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เพื่อนผมคนนั้นจะเลิกเทรดไปแล้ว แต่ผมก็อยากเอาสิ่งที่สมัยก่อนผมกับเค้าช่วยกันทำมาเป็นตัวอย่างให้กับเทรดเดอร์รุ่นใหม่ ๆ ได้ดูกัน เนื่องจากเมื่อก่อนพวกผมไม่ค่อยมีเงินเทรดมากกันนัก ระบบที่ทำออกมาจึงมีทุนไม่มาก ส่วนมากแล้วพวกผมจะทดลองกันที่ $100 -$500 ความเสี่ยงของพอร์ตก็ไม่สูงมาก เพราะเน้นวัดผลระยะยาวในกรณีที่กราฟอยู่ในช่วงที่ระบบตัวเองไม่ถนัดด้วย ผมไม่ขอพูดถึงระบบเพราะเคยลองผิดลองถูกมาเยอะมาก แต่รับรองว่า Money Management สามารถเอาไปปรับใช้กับวิธีเทรดของแต่ละคนได้แน่นอนครับ

อันแรกนี้ผมจำได้ว่าเป็นระบบที่พวกผมจะเข้าเทรดอยู่ 2 เวลาคือช่วงบ่าย และ ช่วงหัวค่ำ ดังนั้นในรูปด้านบนจะเห็นได้ว่ามีคำว่า Position 1 กับ Position 2 อยู่ ทุนเริ่มที่ $100 ความจริงแล้ว Money Management อันนี้เป็นผลที่ได้จากการ Backtest ครับ คือพวกผมต้องสกอร์กราฟย้อนหลังกลับไปซึ่งมันสุดแค่เดือน กรกฎาคม และก็เริ่มทดสอบตามระบบว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ กำหนดไว้ว่าหากลบจะลบได้เพียง 40 pips แต่หากบวกจะตั้ง Target ไว้ที่ 80 Pips ครับ วิธีการเพิ่ม lot คือจะเพิ่มเมื่อได้เงินในพอร์ตมีเพิ่มขึ้นมาทีละ $30 สีเขียวแทน position ที่ บวก สีส้มแทน position ที่ ลบและสีเทาคือ ไม่เทรด ครับ

ข้อดี: ข้อดีของแผนนี้คือมันเป็นแผนที่ค่อนข้างตายตัวและมีการกำหนดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของเงินอย่างชัดเจน เป็นการฝึกฝนวินัยให้ตัวเองเทรดตามระบบได้ดี และมีการเพิ่มขึ้นของเงินอย่างชัดเจนทำให้ผู้เทรดรู้สึกมีกำลังใจเวลาที่เห็นเงินค่อย ๆ ขึ้นและเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้

ข้อเสีย: Fix เรื่องเวลามากเกินไป บางครั้งกราฟก็ไม่วิ่งในจังหวะที่ระบบผมกำหนดว่าจะเทรดครับ เลยทำให้เสียเวลาไปฟรี ๆ เลยก็มี นอกจากนี้หากว่า เราพึ่งจะสามารถเพิ่ม lot ที่จะลงทุนได้แล้ว order นั้นเกิดลบขึ้นมา จะทำให้พอร์ตเสียหายรุนแรงในระดับหนึ่ง บางทีทำให้รู้สึกท้อได้ ที่สำคัญคือโดนเรื่องการเหวี่ยงชน Stop Loss บ่อยเพราะการที่ Fix Stop Loss ไว้ที่ 40 จุดนั่นละครับ เลยทำให้บางทีพลาดโอกาสสวย ๆ ไป

ผมจำไม่ได้ว่าระหว่าง plan 2 กับ plan 1 พวกผมเริ่มทำอันไหนก่อน แต่คิดว่าน่าจะเป็นอันนี้นะครับ แผนนี้จะค่อนข้างชิวกว่าแผนแรกหน่อยตรงที่ ไม่ได้บังคับวันที่ต้องเทรดว่าต้องเทรดทุกวัน จะเทรดเมื่อไหร่ก็ได้ เริ่มเทรดที่ 20% เก็บ 50 จุดต่อครั้งที่เทรด Stop Loss อยู่ที่ 25 จุด และมีการกำหนดการถอนเงินอย่างชัดเจน (ในกรณีที่เทรดได้) ผมยอมรับจริง ๆ ว่าผมจำไม่ได้ว่า ช่อง ล้างพอร์ท มีไว้ทำไม ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ข้อดี: ไม่ Fix มากเกินไป ค่อนข้างส่งผลดีต่อตัวผู้เทรดเพราะไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ หากมีระบบที่เป็นประเภทรอจังหวะเน้น ๆ แล้วเทรด น่าจะใช้ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้การถอนเงินออกมาจะช่วยให้สุขภาพจิตของผู้เทรดดีขึ้น มีกำลังใจในการเทรดมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ

ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีระเบียบเพราะจะทำให้สบายจนเกินไปและสุดท้ายก็ไม่สามารถทำตามระบบที่ตัวเองวางไว้ได้ครับ

ผมยังแผนการเทรดอีก 2 อัน แต่ขอตัวไปหาก่อน อยู่ที่ไหนสักที่นี่ละครับและจะเอามาให้ดูกันต่อในการลงบทความครั้งต่อไปนะครับ

โค๊ด: [Select]

http://www.thaiforexschool.com/viewfulldetial.php?id=377&&name=%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%20Money%20Management

ตัวอย่าง Money Management

ตัวอย่าง Money Management

ตัวอย่าง Money Management

Tamol