7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก

อ่าน 324 ครั้ง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สวัสดีจ้า ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมกันแล้ว แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของคนที่มีลูกเยอะอย่างแน่นอน สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจการเทรด Forex วันนี้มาดู 7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก คุณรู้จักสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกไหม? พวกเรามั่นใจว่าถ้าหากถามคำถามนี้น่าจะมีหลายคนหรือเกือบทุกคนเลยล่ะที่ตอบไม่ได้ เพราะพวกเราเชื่อว่าหลายคนมีคำตอบของสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอยู่ในใจ

แนะนำ 7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก

1. ดีนาร์คูเวต 1 KWD = 3.26 USD

ดีนาร์คูเวตนับว่าเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ราคาแพงพุ่งสูงจนกลายเป็นสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่คูเวตมีการผลิตน้ำมันที่รุ่งเรือง รวมทั้งมีการสร้างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ออกมา ซึ่งบริหารจัดการโดย Kuwait Investment Authority (KIA) ที่มีส่วนทำให้ดีนาร์คูเวตมีมูลค่าสูงในระยะยาว ดังนี้แม้ว่าการลดลงของราคาน้ำมันดิบจะทำให้เกิดการขาดดุลในเศรษฐกิจของคูเวต แต่ด้วยแผนรับมือที่ KIA เตรียมไว้ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า มูลค่าของดีนาร์คูเวต (KWD) จะยังแข็งแกร่งอยู่

2. ดีนาร์บาห์เรน 1 BHD = 2.65 USD

เมื่อดีนาร์บาห์เรนถูกตรึงค่ากับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ดีนาร์บาห์เรนมีมูลค่าที่ค่อนข้างเหนือกว่าเรียลโอมานเล็กน้อย ซึ่งค่าเฉลี่ยของดีนาร์บาห์เรนถือว่าค่อนข้างเสถียรนับตั้งแต่ปี 2554 รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อของบาห์เรนที่ยังอยู่ในระดับปานกลางและค่อนข้างคงที่เช่นเดียวกัน ถึงแม้เศรษฐกิจของบาห์เรนจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำไปบ้าง

3. เรียลโอมาน 1 OMR = 2.60 USD

โอมานเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่อยู่ที่ 2.6008 USD ซึ่งเรียลโอมาน (OMR) ยังคงมูลค่าเดิมเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เนื่องจากข้อจำกัดแล้วก็นโยบายทางการเงินที่เข้มงวด เพื่อปกป้องประเทศจากสงครามและก็ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเรียลโอมานมีค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ ข้อจำกัดด้านการยืมก็มีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์กับองค์กรธุรกิจนอกประเทศ และก็การเทรด Forex ที่มีระดับความเสี่ยงสูงอีกด้วย

4. ดีนาร์จอร์แดน 1 JOD = 1.41 USD

ดีนาร์จอร์แดน ถูกตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยมูลค่าที่สูงกว่า เพื่อทำให้สกุลเงินของจอร์แดนมีความมั่นคง รวมทั้งช่วยดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐฯ มายังจอร์แดนได้ ซึ่งการตรึงค่าเงินของของดีนาร์จอร์แดนกับดอลลาร์สหรัฐถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะดีนาร์จอร์แดนสามารถรักษามูลค่าของตัวเองให้สัมพันธ์กับดอลลาร์สหรัฐได้เป็นอย่างดี

5. ปอนด์สเตอร์ลิง 1 GBP = 1.25 USD

ธนาคารกลางของอังกฤษ (BoE) มักจะก้าวทันการพัฒนาของประเทศอื่นๆตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถรักษาค่าเงินปอนด์ให้มีค่ามากกว่าดอลลาร์สหรัฐได้ในช่วงศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตามแม้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกำหนดมูลค่าของปอนด์สเตอร์ลิง แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการกำหนดมูลค่า ยกตัวอย่างเช่น เงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและก็การเมือง เป็นต้น

6. ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน 1 KYD = 1.21 USD

อัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน เคยถูกกำหนดตายตัวอยู่ที่ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 1970 ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายสำหรับในการสร้างสกุลเงินที่มีค่าเงินมากกว่าดอลลาร์สหรัฐ แต่ว่าจริงๆแล้ว มันกลับมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด เนื่องจากว่าการจะตรึงค่าเงินนั้นกลายเป็นเรื่องยากเมื่อสภาพเศรษฐกิจในท้องถิ่นไม่ดี แล้วก็สหรัฐอเมริกา ก็กำลังจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสถานะของประเทศหมู่เกาะเคย์แมนในฐานแหล่งหลบภาษีคนรวย กำลังช่วยค้ำจุนมูลค่าของดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนเอาไว้อยู่

7. ยูโร 1 EUR = 1.10194 USD

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายการเงินของทั้งทวีป ได้มีการกำหนดนโยบายการเงินสำหรับเขตเศรษฐกิจยุโรปให้มีความเป็นอิสระจากรัฐบาลของชาติมากกว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ ซึ่งความเป็นอิสระนี้เองที่ช่วยคงค่าเงินยูโรให้แกร่งขึ้น แม้กระนั้นทั้งนี้ก็มีปัจจัยบางประการที่ทำให้เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป รวมทั้งเพิ่มอัตราการว่างงานจากการดำเนินการบางอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ซึ่งเมื่อพูดถึงการเทรดในตลาดโลกแล้ว ยูโรถือเป็นคู่เงินสามัญของดอลลาร์สหรัฐ เพราะยูโรคือสกุลเงินของ 19 ประเทศ รวมทั้งมูลค่าของยูโรกำหนดจากสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการเมืองของทุกประเทศในทวีป

  • ladyMP

  • ****
  • สถานะ: ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 5 | กระทู้ 383
  • เพศ: ไม่ระบุ
วิธีเปิดบัญชี forex exness อย่างละเอียด 2023 ทีละขั้นตอน | วิธีสมัคร Forex Update 2566



 

SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums