Messages

สวัสดีค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆรอลุ้นกับผลการเลือกตั้งกันอย่างมาก แถมยังมีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งปี 66 เยอะกว่าในประวัติศาสตร์อีก แต่อย่างไรก็ตาม มีเพื่อนๆ ที่สนใจการเทรด Forex เพื่อหาเงินเป็นรายได้เสริมกันก็ไม่น้อย และใครที่กำลังเพิ่งเข้าวงการ การศึกษาข้อมูลก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควรจะทำอย่างยิ่ง และวันนี้มาดู วิธีทำกำไร Forex ให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลยจ้า

 

สวัสดีจ้า จากการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีไทย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทยอีกครั้ง ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน ชาวทรดเดอ์อย่างเราก็ต้องคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทันทุกเหตุการณ์บ้านเมือง และวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะมาดูกันว่า ทำไมวงการ Forex ถึงเป็นสีเทา คลิปนี้มีคำตอบจ้า

 

สวัสดีค่ะ  แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงหน้าร้อน แต่ก็มีฝนอยู่บ้างประปราย เพราะใกล้จะเข้าหน้าฝนแล้ว สำหรับเพื่อนๆ ที่จะเดินทางไปไหนช่วงวันหยุดยาวนี้ ก็อย่าลืมเตรียมตัวและเช็คสภาพอากาศกันด้วยนะคะ และวันนี้มาดู Money Management คือ การจัดการบริหารจัดการเงินทุนของคุณเอง โดยการกำหนดในส่วนของการกำหนดกำไร หรือการขาดทุนว่าเราจะหยุด หรือ cut loss ที่ตรงไหน และอย่างไร การวางเงินในแต่ละคำสั่ง การเปิด lot เรื่องเหล่านี้จัดว่าคุณจะต้องจัดการบริหารให้ได้

ประเด็นหลักที่นำมาพิจารณาเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินทุนของตนเอง หลังจากที่คุณตัดสินใจว่าจะทำการเทรดแล้ว คือ

ลำดับความน่าสนใจของสกุลเงินว่าตัวไหนมีความน่าสนใจสำหรับในการเทรดมากกว่าตัวอื่นๆ
ความคุ้มค่าในการลงเทรดแต่ละครั้ง โดยเปรียบเทียบระหว่างผลตอบแทนที่จะได้รับ หากผลของการเทรดเป็นไปตามเป้าได้กำไร กับผลขาดทุนที่จะจะต้องเสียไปหากเทรดผิดพลาด ความเสี่ยงและโอกาสสำหรับในการลงทุน

คุณจะต้องวิเคราะห์ว่าการเทรดในแต่ละครั้งจะเสี่ยงขาดทุนด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่ เพื่อเป็นผลกระทบน้อยที่สุดกับเงินลงทุน รวมทั้งควรจัดสรรเงินต้นที่จะใช้ในการเทรดแต่ละครั้งไม่เกินเท่าไหร่เพื่อให้มีเงินลงทุนพร้อมรับโอกาสอื่นๆที่จะเข้ามาในอนาคต แผนการจัดการหลังจากเทรดไปแล้ว โดยหลังจากที่ทำการเทรดไปแล้ว ถ้าค่าเงินปรับไปในทิศทางที่วิเคราะห์ไว้เกิดผลเป็นกำไร จะมีแผนการทำกำไรอย่างไร

แต่ว่าถ้าหากขาดทุนจะมีแผนรับมือยังไง วางแผนบริหารความเสี่ยงสำหรับการเทรดแบบต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการกำหนดแนวทางสำหรับเพื่อการบริหารความเสี่ยงและโอกาสสำหรับในการเทรดครั้งต่อไป ทบทวนแผนการบริการเงินทุน เมื่อคุณได้ทำการเทรดไปสักระยะหนึ่ง ควรนำผลการเทรดที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุง หรือวางแนวทางในการบริหารเงินทุนในอนาคต เพื่อเป็นการให้เข้าใจง่ายขึ้น พวกเราจะมาประยุกต์ใช้กับการเทรดฟอเร็กซ์ให้เห็นชัดเจนขึ้น ควรจัดลำดับสกุลเงินที่น่าสนใจไว้ก่อนทำการเทรด เพื่อไม่ให้ท่านเทรดโดยไม่มีเป้าหมาย

ถ้าหากคุณมีเงินทุนอยู่ 500,000 บาท ให้ทำการฝากเงินที่ 50% ของทุนทั้งหมดหรือที่ 250,000 บาท เมื่อเทรดจนเท่าทุนแล้ว ให้ทำการถอนส่วนทุนออกทันที โดยไม่ต้องคำนึงถึงโบนัสในครั้งแรก หากคุณเทรดผิดพลาดติดต่อกันเกินกว่า 4 ครั้งใน 1 วัน ควรหยุดเทรดทันทีรวมทั้งหันมาทบทวนการจัดการเงินทุนของคุณใหม่ ตั้งเป้าหมายว่าหากคุณเทรดต้องการมีผลกำไรต่อวันที่เท่าไหร่ เช่น 3-7 % ของเงินทุน ตั้งเป้าไว้ว่า คุณจะcut loss ต่อครั้งเท่าไหร่ ถ้าให้ปลอดภัยไม่ควรเกิน 3 %

สวัสดีค่ะ เดือนนี้มีวันหยุดยาวอีกแล้ว แต่ถ้าเพื่อนๆเป็นสายเทรด Forex ก็ยังเทรดได้ 24 ชั่วโมงไ่มีวันหยุดเลยนะคะ ส่วนใครที่หยุดพักผ่อนก็พักให้เต็มที่กันไปเลย กลับมาลุยงานกันต่อจ้า และวันนี้มาดู วิธีการเป็นนักล้างพอร์ตขั้นเทพ เทคนิคการล้างพอร์ตให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าเงินในพอร์ตจะมากแค่ไหนก็ตาม

 

✅ ศึกษา Forex ให้น้อยๆเข้าไว้ โดยให้คิดว่าตนเองนั้นเก่งอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องไปหาความรู้อยู่บ่อยๆเพราะว่าความรู้นั้น เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะมันจะทำให้คุณมีกำไร

✅ แนวคิดแบบนักลงทุนแท้ๆคือสิ่งที่อันตรายอีกสำหรับเรา เพราะว่าพวกนั้น เค้าจะย้ำไปในเรื่องการบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก ซึ่งนั่นก็จะทำให้พวกเรามีกำไรในระยะยาวอีกเช่นเดียวกัน

✅ แนวคิดแบบนักพนัน คือสุดยอดแนวทางในการบรรลุเป้าหมายการล้างพอร์ต เพราะว่าหากพวกเราคิดแบบนักพนัน นักพนันจะไม่สนใจบริหารความเสี่ยงมากมายนัก แต่ว่าจะเน้นย้ำไปที่พยายามสร้างกำไรให้สูงสุด และรวดเร็วเป็นหลัก โดยพวกเราต้องพยายามย้ำทำกำไรให้หวือหวาแล้วก็ฉาบฉวยเข้าไว้ พยายามตั้งเป้าหมายกำไรต่อวัน ต่ออาทิตย์ให้สูงๆเข้าไว้

✅ ให้เลือก Broker ที่ใจดี ที่ให้ Leverage พวกเราสูงๆเนื่องจากเราจะวางเดิมพันแต่ละไม้ ได้สูงกว่าจำนวนเงินที่พวกเรามีอยู่จริง ซึ่งโบรกเกอร์ใจดีมีเยอะแยะ และหาไม่ยาก

✅ เทรด Lot ให้หนักๆเกินกว่าทุนที่คุณมีอยู่เข้าไว้ จะได้หรือจะเสีย จะได้วัดกันไปเลยเร็วๆยิ่งได้เสียเร็วมากเท่าไหร่ พวกเรายิ่งบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นเท่านั้น

✅ “Trend is our enemy” คือ Method การเทรดหลักของพวกเรา โดยให้พวกเราพยายามซื้อสวนทางกับเทรนให้มากๆเข้าไว้ อย่างเช่น ถ้าหากเทรนมันลง คุณจะต้อง ช้อนซื้อขึ้นถัวๆเข้าไปเยอะๆเพราะศัตรูของพวกเราคือ “เทรน” อะไรที่คนเค้านิยม เราไม่เทรด! เราต้องพยายามเทรดแบบขวางโลกเข้าไว้

✅มีกำไรต้องรีบตัดไวๆเพราะว่าถ้าหากขืนทนถือกำไรนานๆกำไรมันจะงอกเงย เงินพวกเราก็จะไม่หมดพอร์ตซักที

✅ ขาดทุนต้องทนถือให้ได้นานๆโดยคุณสามารถบอกกับตัวเองทุกครั้งได้ว่า “สีทนได้” หรือ “สู้ต่อไปทาเคชิ” หรือ “ต้องมีซักวันที่เป็นของพวกเรา” หรือคุณอาจจะบอกตัวเองเสมอว่า “ขาดทุนแค่นี้น้อยไป เงินในพอร์ตยังเหลืออีกมากมาย เราต้องอดทนถือออเดอร์ที่ขาดทุนให้นานขึ้น ถ้าคุณสามารถทำข้อนี้ได้อย่างมีวินัย และสม่ำเสมอ

สวัสดีค่ะ แม้ว่าเศรษฐกิจผันผวนหนัก ราคาทองพุ่งปรี๊ด แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ สำหรับสายเทรด Forex ถ้าหากจะเทรดให้ได้กำไร ต้องติดตามข่าวสารและวางแผนการเทรดให้ดี รับรองว่าทำกำไรได้แน่นอน และวันนี้ขอเอาใจคนที่งบน้อยหรือเพื่อนๆ ที่อยากลองเทรดดู มาดูมือใหม่ Forex ลงทุน 0 บาท ทำกำไรได้จริงไหม และจะทำกำไรได้อย่างไรไปดูกันเลยจ้า

 

สวัสดีจ้า ใกล้เลือกตั้งแล้ว เพื่อนๆหลายคนติดตามขาวสาร และจับตาดูทิศทางเศรษฐกิจกันต่อไป สำหรับสายเทรด ทำกำไร ต้องติดตามข่าวสารดูอย่างใกล้ชิดนั่นเอง และวันนี้มาดู การแก้พอร์ตติดลบ คือ การที่เทรดเดอร์เทรด Forex แล้วไม่ได้ส่ง Stop loss ทำให้พอร์ตมีสภาพติดลบจากผลการขาดทุนต่อเนื่อง เทรดเดอร์จะหาทางแก้ไขว่าจะทำยังไง ให้ออเดอร์ติดลบนั้นกลับมาเป็นบวก

การแก้ไขพอร์ตติดลบ จะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน และวิธีการแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์แต่ละคน อย่างไรก็แล้วแต่ การแก้ไม้ หรือการแก้พอร์ตติดลบเป็นแนวคิดการเทรดที่ผิด เพราะว่า การเทรดที่ดี ไม่ควรที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ขาดทุนทั้งพอร์ตนั่นเอง
 
แก้ไม้ Forex คืออะไร
การแก้ไม้ Forex เป็นลักษณะวิธีต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อการแก้ไขพอร์ต Forex ที่ติดลบให้กลับมาเป็นบวก เทคนิคการเทรดต่าง ๆ ที่ใช้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ไม่ตั้ง Stop loss เท่านั้น 

วิธีแก้ไม้ Forex

สำหรับการแก้ไม้ Forex เราจะนำเทคนิคแต่ละเทคนิคที่เราได้เอ่ยเบื้องต้นมานำเสนอ ดังต่อไปนี้



1. เทคนิคการ Hedge เพื่อเปิดสวนทิศทางเมื่อราคาเคลื่อนไหวผิดทาง

เป็นการส่ง Buy ที่เส้น สีฟ้า แต่ว่าไม่ตั้ง SL เมื่อราคาถึงเส้นสีแดง ส่ง Sell แต่ไม่ปิด Buy สีฟ้า ทำให้ราคา Hedge กันสมบูรณ์เมื่อลงก็ไม่ขาดทุนเพิ่ม พอถึงจุดวงกลมสีแดง ปิดไม้ Sell สีแดงก่อน เพื่อราคาดีดขึ้น ทำให้ไม้ Buy ขาดทุนน้อยลง แต่ใครจะรู้ว่ามันจะไม่ลงต่อ การเทรดแบบนี้จึงไม่ค่อยดี



2. การปิดถัวเพื่อรักษาจำนวนออเดอร์ขาดทุนลดลง

นอกจากการแก้ไม้ด้วยการ Hedge แล้วยังมีการเทรดแบบการปิดถัว คือ เอากำไรไปถัวเฉลี่ยขาดทุน ทำให้ออเดอร์ขาดทุน เหลือขาดทุนไม่เยอะ นี่ก็เป็นวิธีการยอมรับ loss แบบหนึ่ง การปิดแบบนี้ก็จะทำให้มีกำไรเหลือนิดหน่อย และพอร์ททนการลากได้มากขึ้น เมื่อผิดทาง แต่ถ้าเข้าเพิ่มก็จะเป็นการผิดทางสะสม และวนงูกินหาง ไม่จบสิ้น



3. เทคนิค Martingale ในการแก้ไม้ Forex เพื่อ ปิดรวบออเดอร์กำไรขาดทุนทั้งหมด

ก็คือ ใช้ EA ส่งแบบ Grid Martingale ส่งออเดอร์ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นตลอด เมื่อกับมากำไร ก็จะทำให้กำไรที่ได้ ปิดครอบคลุมขาดทุนที่มีได้ การแก้ไม้ด้วย Martingale จะส่งเบิ้ลขนาดขึ้นไปเรื่อย ๆ ระยะห่างจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขนาด Lot ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ การเทรด Martingale เมื่อราคาไม่ไปถึงจุดเข้าไม้แรกก็กำไร แต่กำไรจะน้อย แต่ก็ไม่มีทางผิด ดังตัวอย่างจะปิดด้วยกำไรเสมอ การแก้ไม้ด้วย EA การแก้ไม้ด้วย EA เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจาก มีความสะดวกสบายหลายประการดังนี้ การแก้ไม้ด้วย EA ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ การแก้ไม้ด้วย EA ทำให้ไม่พลาดโอกาสำคัญ EA ที่นิยมในการแก้ไม้คือ EA มาติงเกล หรือ EA เบิ้ลลอท การแก้ไม้ด้วย EA ทำให้ง่าย แต่ว่าก็เสี่ยงสูง

สวัสดีจ้า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถึงจะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ก็ยังมีพายุฝน เพื่อนๆ ที่ต้องออกไปนอกบ้าน ก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศและดูแลสุขภาพด้วยนะคะ และวันนี้มาดูกันว่าทำไมถึงเลือกเทรด Forex ดีกว่า ตลาดฟอเร็กซ์ต่างจากตลาดซื้อขายหุ้น กองทุน หรือดัชนีอื่นๆในคุณลักษณะเฉพาะ 6 ข้อดังนี้

1) สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ตลอดวัน

ไม่เหมือนกับตลาดหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ การเทรดฟอเร็กซ์ไม่ได้เกิดขึ้นจากการตกลงระหว่างคู่สัญญาสองฝ่าย หรือที่เรียกกันว่าตลาด over-the-counter (OTC) ตลาดฟอเร็กซ์ก็เลยขับเคลื่อนไปด้วยเครือข่ายสถาบันการเงินที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก และด้วยความที่ไม่มีศูนย์กลางการซื้อขายจริงๆแต่กระจายไปตามศูนย์ซื้อขายเงินตราชั้นนำในไทม์โซนที่ต่างกันออกไป ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลให้การซื้อขายฟอเร็กซ์สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอดวัน



2) ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุด

ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันกว่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นหมายถึงกระบวนการแมทช์ออเดอร์ที่รวดเร็วด้วย



3) เป็นตลาดที่โปร่งใสยุติธรรม

ด้วยตลาดที่ใหญ่และผู้เล่นที่หลากหลายทำให้ไม่มีสถาบันใดหรือบุคคลใดสามารถควบคุมตลาดฟอเร็กซ์ได้ เมื่อเทียบกับฟิวเจอร์สหรือตลาดหุ้นตลาด forex เป็นตลาดที่โปร่งใสเป็นธรรมที่สุด



4) ต้นทุนในการซื้อขายต่ำ

หากเที่ยบกับ Futures และหุ้นแล้ว ต้นทุนในการซื้อขาย Forex จะต่ำกว่าทั้งค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ต่ำ



5) เปิดโอกาสให้ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

การเทรดฟอเร็กซ์สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นด้วยการเปิดสถานะ Long และการทำกำไรในขาลงด้วยการเปิดสถานะ short ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของนักลงทุน



6) เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกประเภท

ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์ที่นิยมการเดย์เทรดหรือสวิงเทรดด้วยเงินจำนวนน้อยๆหรือแม้แต่นักลงทุนในระยะยาวรวมถึงกองทุนขนาดใหญ่ก็มีโอกาสทำกำไรในตลาดฟอเร็กซ์ได้ทั้งนั้น

สวัสดีจ้า แม้ว่าช่วงนี้อากาศจะร้อนมาก แต่ก็มีฝนอยู่บ้าง หลายคนรอคอยให้ฝนตกเพราะร้อนไม่ไหวแล้ว แถมค่าไฟก็แพงไปอีก เพื่อนๆ สายเทรดอย่างเราก็ไม่พลาดที่จะหาเงินค่าไฟกันจากการเทรดนี้แหละ โดยทั่วไปแล้วมีกลยุทธ์ที่นำมาใช้ประกอบกับ Price Action สำหรับเพื่อการเทรดได้มากมาย แต่ว่าในคราวนี้จะขอนำกลยุทธ์พื้นฐานมาเล่าให้ฟังอยู่ 3 วิธีด้วยกัน ได้แก่



1. เทรดไปกับแนวโน้ม (Trend Following)

กลยุทธ์ที่เบสิคที่สุดสำหรับ Price Action เป็นการเทรดไปกับแนวโน้ม เพราะสิ่งแรกที่จำเป็นต้องรู้เป็นเบื้องต้นในทุกๆการเทรดคือตอนนี้ราคาอยู่ในเทรนรูปแบบไหน อันนี้ไม่ได้เฉพาะคนที่ใช้ Price Action เท่านั้น แต่ว่าเป็นการประเมินภาพรวมของผู้ที่ใช้เทคนิคคอลทุกคน ซึ่งตลาดมีเทรนอยู่ 3 รูปแบบด้วยกันคือ

● แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend/ Bull Market) รูปแบบราคานี้แสดงถึงแรงซื้อที่มีกำลังมากจนสามารถเอาชนะแรงขายได้ ทำให้เกิดจุดสูงสุดใหม่ (New High) ได้เรื่อยๆไปตลอดเทรนจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม ในเทรนขาขึ้นนี้ราคาจะมีรูปแบบการทำ Higher High (HH) และก็ Higher Low (HL) กลยุทธ์การเทรดในเทรนขาขึ้นจึงเน้นการเปิด Long เป็นหลักตามแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้เปรียบ เพราะไม่ว่าอย่างไรราคาจะวกกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เสมอ

● แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend/ Bull Market) รูปแบบราคานี้แสดงถึงแรงซื้อที่มีกำลังมากจนสามารถเอาชนะแรงขายได้ ทำให้เกิดจุดสูงสุดใหม่ (New High) ได้เรื่อยๆไปตลอดเทรนจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม ในเทรนขาขึ้นนี้ราคาจะมีรูปแบบการทำ Higher High (HH) และ Higher Low (HL) กลยุทธ์การเทรดในเทรนขาขึ้นจึงเน้นการเปิด Long เป็นหลักตามแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นจึงเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยและได้เปรียบ เพราะไม่ว่าอย่างไรราคาจะวกกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เสมอ 15839986255332 ● แนวโน้มขาลง (Downtrend/ Bear Market)

● แนวโน้มขาลง (Downtrend/ Bear Market) รูปแบบราคานี้แสดงถึงแรงขายที่มีกำลังมากจนสามารถเอาชนะแรงซื้อได้ ทำให้เกิดจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) ได้เรื่อยๆไปตลอดเทรนจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม ในเทรนขาลงนี้ราคาจะมีรูปแบบการทำ Lower High (LH) รวมทั้ง Lower Low (LL) กลยุทธ์การเทรดในเทรนขาลงจึงเน้นการเปิด Short เป็นหลักตามแนวโน้มที่เป็นขาลงจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้เปรียบ เนื่องจากว่าไม่ว่าอย่างไรราคาจะวกกลับลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่เสมอ

● ไม่มีเทรน (Sideway) คือการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปอย่างไร้รูปแบบ แรงซื้อและแรงขายไม่ได้ชนะกันอย่างเด็ดขาดก็เลยไม่ได้ทำให้เกิดเทรนที่ชัดเจนและไม่สามารถจัดเข้าในสองประเภทแรกได้ ส่วนมากจะเป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาอยู่ในกรอบๆหนึ่ง เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆแล้วจึงมีการเปลี่ยนแปลงราคาในแบบที่หลุดกรอบออกไปและเกิดเป็นเทรนใหม่ กลยุทธ์ที่ใช้มักเป็นการเทรดในกรอบราคาหรือเทรดตามแนวรับแนวต้านที่จะนำมาเล่าต่อในข้อที่ 2



2. เทรดตามแนวรับแนวต้าน (Swing Trade)

รูปแบบการฟอร์มตัวของกราฟจะมีจุดที่มีแรงซื้อ/แรงขายมาก ทำให้ราคาที่ชนเกิดการดีดกลับ และก็ทะลุฝ่าไปได้ยาก พวกเราเรียกจุดนี้ว่าแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งมักจะอยู่ในจุดที่เกิด Low หรือ High ก่อนหน้า ที่สำคัญคือแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่งคือแนวที่มีการทดสอบแล้วไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ นำไปสู่กลยุทธ์ที่ใช้คือการซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้าน

ทั้งนี้จำเป็นต้องระวังในกรณีที่ราคามีการ Break out ซึ่งหมายถึงแนวรับหรือแนวต้านที่มีอยู่ได้ถูกทำลายลงแล้ว ราคาจะมีการปรับตัวทะลุแนวรับ/แนวต้านได้อย่างรุนแรงและก็เกิดเป็นเทรนใหม่อีกครั้ง เฉพาะในกรณีนี้สามารถใช้กลยุทธ์ Follow Buy/Sell ได้



3. เทรดด้วยการคาดการณ์ผ่านรูปแบบราคา (Price Pattern)

เบื้องหลัง Price Pattern ต่างๆก็สามารถอธิบายได้ด้วยการปะทะกันระหว่างแรงซื้อและแรงขาย หรือ Price Action ทำให้สามารถนำ Price Pattern ที่เกิดขึ้นในตลาดมาใช้คาดการณ์ราคาในอนาคตได้ นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ยุ่งยากและเป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน แต่ในคราวนี้จะยกตัวอย่างการวิเคราะห์รูปแบบราคาแบบ Inverted Hammer เพื่อเป็นตัวอย่างให้พอเห็นภาพ

Inverted Hammer เป็นรูปแบบราคาที่เกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดเทรนขาลง (Down Trend) และมักจะเป็นจุดกลับตัว การพิจารณา Price Action คือ ก่อนหน้าในเทรนขาลงราคามีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดหนึ่งที่เกิดแรงซื้อตีกลับขึ้นมาอย่างรุนแรงจนทำให้ราคากลับมาปิดในระดับที่ใกล้เคียงกับราคาเปิดได้ และรูปแบบ Inverted Hammer จะยิ่งแสดงถึงการกลับตัวของราคาเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งหากก่อนหน้านั้นมีการปรับลดของราคาอย่างเร็วรวมทั้งแรง และมีการปิดกลับเป็นบวกได้ (ยิ่งไส้เทียนยาวยิ่งแสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง) ทำให้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับ Price Pattern รูปแบบนี้คือการเสี่ยง Long ในแท่งเทียนถัดไป