Messages

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยแล้ว ปีนี้อาจจะมีเรื่องไม่ดีนัก แต่ปีหน้าค่อยเริ่มต้นกันใหม่ และหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นนะคะ ทุกคน วันนี้มาดูกันว่า Forex เป็นแชร์ลูกโซ่ จริงหรอ?  มีใครสงสัยกันบ้าง ไปดูกันเลย

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ตอนนี้สถานการณ์โควิดก็มี บวกกับเปิดประเทศ ทุกคนอย่าลืมดูแลตัวเอง การ์ดอย่าตกนะคะ  สำหรับใครที่สนใจเทรด Forex จำเป็นต้องรู้ Lot เป็นจำนวนการซื้อขายในตลาด Forex ถ้าหากเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้นก็เปรียบเสมือนจำนวนหุ้นนั่นเอง โดย 1 Lot ใน Forex ก็จะเปรียบเหมือนการซื้อหุ้นจำนวน 1 หุ้น โดยประเภทของ Lot นั้นจะมีอยู่ 4 ประเภทคือ Standard Lot , Mini Lot , Micro Lot และก็ Nano Lot ประเภท Lot แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรลองมาดูกัน

 

Standard Lot     


1 Standard Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 unit ของหน่วยสกุลเงินหลัก  ตัวอย่างเช่น หากเปิด Buy คู่เงิน EURUSD ที่ราคา 1.5000 ขนาด 1 Lot  ที่ Leverage 1:1 เท่ากับว่าคุณกำลังเข้าซื้อค่าเงิน EUR จำนวน 100,000 EUR  หรือหากคิดเป็นจำนวนเงิน USD จะเท่ากับ

(Contract Size * ราคาที่เข้าซื้อ) /  levarage  = จำนวนเงินทุนที่ต้องใช้

ก็จะเท่ากับ   (100,000 * 1.50000) / 1 = 150,000usd

 นั่นหมายความว่าหากท่านจะเปิด Buy ในคู่เงิน EURUSD ที่ราคา 1.50000 ที่ขนาด 1 LOT ท่านจะต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 150,000 usd จึงจะเปิดออเดอร์ได้  แต่ในปัจจุบันนั้นโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex นั้นมีในเรื่องของ Leverage เข้ามาช่วย ทำให้เราสามารถใช้เงินที่น้อยลงในการเปิดออเดอร์ในขนาด Lot ที่ใหญ่ได้ ซึ่งเราจะมาพูดกันในหัวข้อถัดไปว่า Leverage คืออะไร

 

     Mini Lot     


1 Mini Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Standard Lot หรือ เท่ากับ 1 Standard Lot / 10  นั่นเอง โดยขนาด 1 Mini Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 unit ของสกุลเงินหลัก

 

     Micro Lot     


1 Micro Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Mini Lot หรือ เท่ากับ 1 Mini Lot / 10  นั่นเอง โดยขนาด 1 Micro Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 1,000 unit ของสกุลเงินหลัก

 

     Nano Lot     


1 Nano Lot จะมีมูลค่าเท่ากับ 10% ของ 1 Micro Lot หรือ เท่ากับ 1 Micro Lot / 10  นั่นเอง โดยขนาด 1 Nano Lot นั้นจะมีมูลค่าเท่ากับ 100 unit ของสกุลเงินหลัก

เชื่อว่าหลายคนจำนวนไม่น้อย ในปีนี้ได้รับผลกระทบต่างๆ มาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ต้องเรียนออนไลน์ หรือผู้ใหญ่ที่ต้องทำงาน work form home  ก็ตามแต่ถึงอย่างไร เราก็หวังว่าสถานการ์ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นสักวันนึง และวันนี้มาดู 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ " Forex " สำหรับใครที่อยากลงทุนต้องรู้ก่อน

1. “เล่น Forex รวยง่าย รวยเร็ว”

มีความคิดว่าอาจจะเป็นเหตุผลหลักสำหรับบางคนเลยทีเดียวที่ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์ อยากจะบอกเลยว่าฟอเร็กซ์นั้นไม่ง่าย และไม่รวยเร็ว แถมยังเป็นตลาดที่มีความผันผวนมากมายอีกด้วย รวมทั้งด้วยความผันผวนนี้ก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยแยกไม่ออกและทำให้สับสนกับการเทรดแบบเปิดซื้อ เปิดขาย แทงสูง แทงต่ำ จนกลายเป็นเหมือนเล่นการพนัน รวมทั้งทำให้เกิดความเสียหายกันเยอะมาก ซึ่งจุดนี้เทรดเดอร์มือใหม่ควรจะทำความเข้าใจและมองการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ ให้เหมือนการลงทุนทำธุรกิจค่ะ ลงทุนในที่นี้ของฟอเร็กซ์คือการศึกษา หาข้อมูลของสินค้าที่จะลงทุน ฝึกฝน เรียนรู้ปัจจัยต่างๆที่จะก่อให้เกิดผลกระทบ รวมทั้งวางแผนการเทรด นั่นจึงจะทำให้การเทรดของคุณสามารถทำกำไรในตลาดฟอเร็กซ์

2. “ฟอเร็กซ์ = แชร์ลูกโซ่”

ฟอเร็กซ์โดยตัวมันเองนั้นไม่ใช่แชร์ลูกโซ่อยู่แล้ว แต่เป็นชื่อเรียกตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ (Forex = Foreign Exchange Market) ซึ่งกลุ่มคนที่ทำการซื้อขายก็มีทั้ง ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารกลางทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ใช้บริการด้วยเช่นกัน แต่ว่าก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยการระดมทุนรวมทั้งสัญญาจะให้ผลกำไรเกินความจริงโดยอ้างว่านำไปลงทุนเทรดในฟอเร็กซ์เพราะคนไม่รู้และไม่คุ้นเคย อันที่จริงแล้วคุณสามารถเทรดฟอเร็กซ์ด้วยตัวคุณเอง แต่ว่าสิ่งที่จะจำเป็นต้องคำนึงถึงคือการเลือกโบรคเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ที่คุณจะสามารถไว้วางใจและนำเงินทุนไปฝากไว้กับโบรคอย่างปลอดภัย

3. “เลเวอเรจ หรือ อำนาจการซื้อขายที่มากเกินความจำเป็น”

เป็นที่รู้กันแล้วว่าค่าเลเวอเรจ ก็คืออัตราส่วนที่เพิ่มความสามารถในการซื้อขายให้เหล่านักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆสามารถเข้าไปมีบทบาทในตลาดได้ ยิ่งให้เยอะ พวกเราก็ยิ่งสามารถทำการซื้อขายได้มาก โอกาสทำกำไรก็มากตามไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วเลเวอเรจนั้นมีอยู่ทุกตลาด ทั้งยังตลาดฟิวเจอร์ หรือตลาด TFEX ซึ่งให้เลเวอเรจที่ 1:10 สำหรับฟอเร็กซ์นั้น เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้มากถึง 1:2000 แต่ทราบหรือไม่ว่าในประเทศที่ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศอยู่แล้ว เช่นประเทศอเมริกา ตามกฎหมายแล้วโบรคเกอร์ไม่สามารถให้เลเวอเรจแก่ลูกค้าได้เกิน 1:50 ด้วยเหตุว่าการให้เลเวอเรจที่มากเกินไป จะส่งผลให้เทรดเดอร์อาจไม่สามารถควบคุมตนเองได้และก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการ over trade หรือ การเปิดการซื้อขายเกินตัว และก็ทำให้ลืมนึกถึงทางตรงข้าม ถ้าหากเทรดผิดทาง ก็หมายถึงความเสี่ยงขาดทุนเช่นเดียวกัน ฉะนั้น การเลือกเลเวอเรจจำเป็นต้องเลือกให้มีความเหมาะสม และก็มีการคำนวณ Money management ให้เหมาะสมกับเงินลงทุน จะทำให้พอร์ตของคุณปลอดภัยจากการ over trade และ “ล้างพอร์ต”

4. “ถ้าอยากหมดตัวให้เล่น Forex”

มีหลายๆที่คนใช้คำพูดนี้กับฟอเร็กซ์ โดยความไม่รู้ ซึ่งต่อเนื่องจากข้อ 3 ถ้าหากคุณเทรดเหมือนการพนัน แน่นอนว่าก็จะยิ่งทำให้ท่านเสีย เสียแล้วหลังจากนั้นก็จะต้องขอกลับไปเอาคืน จนกระทั่งทำให้หมดเนื้อหมดตัวไปกันใหญ่ ซึ่งในตลาดฟอเร็กซ์นี้ เทรดเดอร์ควรจะทำความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้เลเวอเรจ พยามไม่ over trade วางแผนบริหารเงินลงทุนและก็ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณเรียนรู้ความเสี่ยงใดเกิดขึ้นได้ ก็หาวิถีทางที่จะป้องกัน ซึ่งนั้นจะเป็นการช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณเสียจน “หมดตัว”

5. “ตลาดนี้ผันผวน ต้องเล่นเร็วออกเร็ว ต้องเฝ้ากราฟตลอดเวลา”

อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด ในความเป็นจริงการเข้าไปในตลาดที่ผันผวนบ่อยครั้ง คุณไม่สามารถเดาตลาดได้ถูกต้องทุกครั้ง เพราะฉะนั้นยิ่งเข้าไปบ่อยครั้งก็ยิ่งทำให้มีความเสี่ยงที่จะเสียมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์มือใหม่จึงควรเริ่มจากความเข้าใจจุดนี้ ถึงแม้ตลาดฟอเร็กซ์จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมงให้คุณได้กำไร แต่นั้นไม่ได้แสดงว่าคุณจะต้องเข้าไปซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง เทรดเดอร์สามารถเลือกรูปแบบการเทรดได้ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น หรือระยะยาว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเครื่องมือ ทฤษฎีและก็กลยุทธ์ที่นำมาใช้ ถ้าหากคุณเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้ากราฟจนตาแฉะอีกต่อไป

ใกล้สิ้นเดือนเต็มที หลายคนตื่นเต้นกับการเปิดประเทศเพราะจะได้เดินทาง นั่นก็เพราะช่วยโควิด 19 ต้องอยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหน และเพื่อนๆ หลายคนสงสัย ทำใไคนถึงนิยมเทรด Forex นั่นก็เพราะเนื่องจาก Forex มีข้อดี หลักๆดังนี้

เป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

เปิดทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และก็วันหยุดราชการ การซื้อขายเริ่มตั้งแต่ตลาดเปิดทำการตอนเช้าในออสเตรเลีย เอเชีย ยุโรปรวมทั้งจนจบวันทำการของอเมริกา

มีสภาพคล่องสูง
เนื่องจากว่ามีคนซื้อ และคนขายจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขายสูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่นๆ

มีความเสี่ยงสูง
เนื่องจากว่าอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรามีความอ่อนไหวมากต่อปัจจัยรอบตัว ซึ่งนับได้ว่าเป็นโอกาสที่จะใช้ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน ก็อาจจะขาดทุนได้อย่างเร็วเช่นกัน

ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
ในหนึ่งคู่สกุลเงิน นักลงทุนสามารถเปิดได้อีกทั้งสถานะซื้อ หรือขาย โดยเปิดสถานะซื้อหากคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น รวมทั้งเปิดสถานะขายหากคาดว่าราคาจะลดลง

ใช้เงินลงทุนต่ำ
แต่สามารถสร้างกำไรได้สูงด้วย leverage แต่ในทางตรงข้าม leverage ก็ทำให้ขาดทุนได้สูงมากเช่นกัน

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ
เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น มีหลายโบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แต่จะคิดค่าบริการจากส่วนต่างราคา bid / ask หรือที่เรียกว่า spread โดยคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากจะมี spread แคบ

ยิ่งใกล้วันเปิดประเทศขึ้นทุกที หลายๆ คนหวังว่าเศรษกิจจะฟื้นตัว แต่เพื่อนๆ ก็อย่างเพิ่งปรมาท เพราะโควิดยังไม่หมดนะคะ สำหรับใครที่อยากลงทุน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกเทรด Forex หรือ หุ้นดี วันนี้มาดู ความแตกต่างของการเทรด Forex กับ หุ้น กันค่ะ  โดยความแตกต่างพื้นฐานระหว่างการเทรด Forex และ หุ้น คือ Forex เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่มีขึ้นของสองประเทศที่แตกต่างกัน แต่ การซื้อขายหุ้น นั้น ขึ้นอยู่กับการซื้อและก็การขายหุ้นในบริษัทหนึ่งๆการซื้อขายทั้งสองประเภทมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน

ในบางครั้ง ถึงแม้ผู้เทรดจะมองสถานการณ์จนถึงทะลุปรุโปร่ง แม้กระนั้นก็อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ Forex มือใหม่ต้องทำคือ

ทำความเข้าใจและฝึกฝนหาประสบการณ์
ศึกษาพฤติกรรมตลาดเพื่อรู้ทิศทางการเคลื่อนไหว
กลยุทธ์การซื้อขายที่ชาญฉลาด
จังหวะการซื้อขายที่ดี
ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าตลาดกำลังขึ้นหรือลง


เทรดแบบไหนเหมาะสำหรับคุณ Forex หรือ หุ้น?

การจะเลือกเทรดแบบไหน สิ่งที่ชัดเจนของการเป็นเทรดเดอร์ คือ คุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน การซื้อขาย Forex สามารถสร้างกำไรได้ แต่ในบางครั้งก็มีความเสี่ยงสูงเหมือนกัน ถ้าหากไม่ต้องการเสี่ยงมากรวมทั้งปลอดภัยมากกว่า การซื้อขายหุ้นที่หากแม้จะไม่สร้างกำไรให้คุณได้ในระยะเวลาที่ต้องการ การซื้อขายหุ้นก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ว่า ถ้าคุณกำลังมองหาผลตอบแทนที่ดีและรวดเร็ว การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือ ตลาดเงิน อย่าง Forex อาจเป็นทางเลือกแรกที่เหมาะกับคุณ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าถนัดเลือกลงทุนประเภทไหนมากกว่ากัน

ไม่ว่าผู้เทรดจะเลือกซื้อขายแบบ Forex หรือ หุ้น ก็ตาม สิ่งสำคัญนอกจากเงินลงทุน ผู้เทรดควรเริ่มต้นมองที่เป้าหมายและก็รู้จักสไตล์การเทรดของตัวเองด้วย แน่นอนว่า การลงทุนคือ ความเสี่ยง แต่ว่าถ้าเกิดพวกเรามีกลยุทธ์แล้วก็ประสบการณ์การซื้อขายที่มากพอ พวกเราก็พร้อมและก็ยินดีที่จะเสี่ยงลงทุนใช่หรือไม่?

สถานการณืตอนนี้ทั้งฝนตกหนัก และยังมีโควิด เพื่อนๆ อย่างลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มฟอเร็กซ์แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะต้องใช้เงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน ฟอเร็กซ์เสี่ยงไหม จะถูกโกงหรือเปล่า เห็นเพื่อนๆพี่ๆรุ่นน้องในที่ทำงานเล่นกันแล้วอยากลองเล่นFOREX (ฟอเร็กซ์)ดูบ้าง เทรดยากไหม ลองดูเนื้อหาบทความวันนี้ ลองมาดูกันเลยค่ะ

Forex ย่อมาจากคำว่า “Foreign Exchange Market” เวลาคนพูดถึง มักเรียกว่า FX (เอฟเอ็ก) การเทรดค่าเงิน การเทรดคู่สกุลเงิน การเก็งกำไรค่าเงินเป็นต้น ลักษณะก็จะคล้ายๆกับการลงทุนซื้อหุ้นหรือซื้อขายทองคำ ตัวอย่างเช่นพวกเราซื้อตอนราคาที่กำลังตก รวมทั้ง รอช่วงจังหวะที่ราคาสูง รวมทั้งขายไป ส่วนต่างที่ได้ก็จะเป็นกำไรขาดทุนที่เราจะได้รับ


FOREX เริ่มต้นต่ำสุด 0 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจ อยากลองเทรด แต่ว่าไม่ได้อยากใช้เงินลงทุน หรือยังกังวล เนื่องจากว่ากลัว ว่าจะไม่เข้าใจ ขั้นตอนการเทรด โดยแต่ละโบร์กเกอร์จะมีบัญชีเดโม่ ที่มีหน้าตาและฟังก์ชั่นการทำงาน การใช้ เหมือนกับ บัญชีจริงทุกอย่าง ให้พวกเรา สามารถได้ ลองเทรดยาวๆเป็นปีก็ได้

แต่ว่าคนที่ต้องการลองเทรดจริง มีเงิน แค่ 0 บาทก็สามารถเทรดได้ อย่างที่บอกไปคือ ของ XM พวกเราเพิ่งเคยเปิดบัญชี ครั้งแรก พวกเราได้ได้โบนัส ประมาณ 1000 THB (30$) มาเทรดโดยที่พวกเราไม่ต้องฝากเงินเลย พวกเราสามารถเทรดโดยใช้โบนัส ประมาณ 1000 THB ทำทุน กำไร ได้ไปเรื่อยๆ

จากกระแสพายุเข้า เกิดน้ำท่วม และโควิดก็ยังไม่หาย ทำให้หลายคนได้รับผลกระทบ ยังไงก็เอาใจช่วยผ่านวิกฤติไปได้ด้วยดีกันนะคะ และวันนี้มาดู วิธีการอ่านอัตราเเลกเปลี่ยน Forex ซึ่งย่อมาจาก Foreign Exchange (FX) คือเป็นตลาดซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศ ระหว่างค่าเงินสกุลหนึ่ง กับค่าเงินอีกสกุลหนึ่ง ถ้าหากตอนที่ซื้อมาถูกกว่าตอนที่ขายไป นั่นคือผลกำไร แต่ว่าในทางตรงกันข้ามในช่วงเวลาที่ซื้อเก็บไว้แพงกว่าตอนขายก็คือขาดทุน ซึ่งผู้ซื้อสามารถเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้ในคู่สกุลเงินเดียวกัน โดยในตลาด Forex เองมีคู่สกุลเงินให้เลือกลงทุนกว่า 200 คู่ แต่ว่านักลงทุนมักให้ความสนใจสกุลเงินที่มีความคล่องตัวสูง โดยสกุลเงิน 5 อันดับแรกที่นักลงทุนนิยมได้แก่

เงินดอลลาร์สหรัฐ USD
เงินสกุลยูโร EUR
เงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ GBP
เงินเยนญี่ปุ่น JPY
เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD

Forex เทรดได้ตอนไหน
ตลาด Forex เป็นการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยอ้างอิงเวลาเปิดปิดของตลาดเงินทั่วโลก ซึ่งมีเวลาเปิดปิดไม่เท่ากัน ทำให้ Forex มีความยืดหยุ่นในด้านเวลามาก ส่วนใหญ่จะเป็นเปิดเช้าวันจันทร์ ปิดเย็นวันศุกร์แบบเดียวกันทั่วโลก


Forex เป็นการซื้อขายระหว่างสกุลเงิน 2 สกุลที่มาจับคู่กัน ซึ่งมี 2 ระบบการอ่านอัตราแลกเปลี่ยนที่นักลงทุนควรจะทำความเข้าใจคือ

ระบบแลกเปลี่ยนระหว่างค่าเงิน
นักลงทุนจะมองเห็นสกุลเงินที่เปรียบเทียบกันเป็นดังภาพ



Forex วิธีอ่านค่าเงิน

สกุลเงินด้านซ้ายมีค่าเป็น 1 หน่วยเสมอ
สกุลเงินด้านขวา เป็นสกุลที่นำค่าด้านซ้ายมาเทียบ
ถ้าหากซ้ายสูงกว่าขวาคือกำไร ถ้าหากขวามีค่าสูงกว่าซ้ายคือขาดทุน x จำนวนหน่วยที่ถืออยู่