1
พูดคุยForexทั่วไป / รู้จักตัวเองว่าคุณเป็น เทรดเดอร์ Forex ประเภทไหน
« กระทู้ล่าสุด โดย rannie2020 เมื่อ 18/ส.ค./2025 03:19:45 »สวัสดีจ้า การเพิ่มมูลค่าของเงินย่อมยากกว่าการหาเงิน ถ้าหากไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน เงินที่เรามีอยู่ก็จะมีมูลค่าลดลงเรื่อยๆ ตามภาวะเงินเฟ้อในแต่ละปี และวันนี้สายเทรดอย่างเรามาดู รู้จักตัวเองว่าคุณเป็น เทรดเดอร์ Forex ประเภทไหน เทรดเดอร์ Forex แม้จะอยู่ในตลาดเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะใช้วิธีการทำกำไรแบบเดียวกัน ระบบที่เหมาะสมกับคนหนึ่ง อาจกลับไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่งก็ได้ แล้วจริง ๆ อะไรที่ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน… เป็นเพราะระบบที่ใช้ หรือแท้จริงแล้วมาจากตัวเทรดเดอร์เอง?
ในตลาด Forex มีการแข่งขันตลอดเวลา แต่ละคนต่างใช้กลยุทธ์ของตนเอง รวมถึงมีเครื่องมืออย่าง AI หรือ EA ที่ช่วยเสริมการตัดสินใจ แม้ว่าระบบจะดีแค่ไหน ก็ไม่อาจสร้างกำไรได้ทุกสภาวะตลาด และหากเทรดเดอร์ยังไม่เข้าใจตนเอง ก็ยากที่จะใช้เครื่องมือให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ความแตกต่างของสไตล์เทรดเดอร์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทรดเดอร์แต่ละคนมีพื้นฐานความรู้และประสบการณ์ที่ไม่เท่ากัน ต่อให้ใช้เครื่องมือชุดเดียวกัน ผลลัพธ์ก็ย่อมไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ “รู้จักตนเอง” ก่อน แล้วเลือกใช้ระบบที่สอดคล้องกับตัวเอง จึงจะได้เปรียบในสนามการเทรด
การแบ่งประเภทของเทรดเดอร์มีหลายวิธี ซึ่งไม่ได้เป็นการตัดสินใคร แต่เพื่อช่วยให้เข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น โดยอาจแบ่งเบื้องต้นได้ดังนี้
• สายสั้น (Short-term) – มักไม่ชอบการรอนาน เน้นเก็บกำไรเล็ก ๆ ทีละไม่กี่ Pip เข้าเร็วออกเร็ว ไม่ปล่อยให้โดนลาก บางคนจัดตนเองว่าเป็น Day Trader หรือ Scalper รวมถึงการเทรดข่าวที่ไม่ถือออเดอร์ข้ามวัน
• สายกลาง (Medium-term) – พร้อมรอจังหวะที่คุ้มค่า มองหาออเดอร์ที่ให้กำไรต่อความเสี่ยงสูง มักไม่ถือเกินหนึ่งสัปดาห์ อาจเทรดแบบ Swing หรือ Run Trend โดยส่วนใหญ่ถือประมาณ 1–3 สัปดาห์
• สายยาว (Long-term) – ถือออเดอร์ยาวกว่านั้น อาศัยทั้งเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน หวังกำไรจากเทรนใหญ่ ใช้ไทม์เฟรม Day หรือสูงกว่า ไม่จำเป็นต้องเฝ้ากราฟทุกวัน แต่มุ่งมองภาพรวมระยะยาว
ผลลัพธ์จากการเลือกสายผิด
หากเลือกแนวทางที่ไม่ตรงกับตนเอง ผลเสียย่อมเกิดขึ้น
• เทรดเดอร์สายสั้น อาจไม่เหมาะกับคนทำงานประจำ เพราะหากเปิดออเดอร์แล้วมีงานด่วนหรือประชุมเข้ามา อาจพลาดโอกาสแก้เกมได้
• เทรดเดอร์สายกลาง ถ้าใจร้อนและอยากเข้าออเดอร์บ่อยเกินไป ก็อาจตัดสินใจผิดเพียงเพราะอารมณ์ เช่น เห็นกราฟลงแรงแล้วรีบ Sell ทั้งที่ยังไม่ปิดแท่งเทียน สุดท้ายกราฟเด้งกลับขึ้นไป
• เทรดเดอร์สายยาว ถึงแม้จะคิดว่าตนเองใจเย็นพอ แต่ถ้าจริง ๆ แล้วกังวลทุกครั้งที่มีข่าว ก็อาจทำให้จิตใจสั่นไหว ไม่มั่นคงในแผนการเทรด
เมื่อเลือกสายไม่ถูก เทรดเดอร์ก็จะใช้ความโลภแทนที่จะใช้จุดแข็ง กลับกลายเป็นเพิ่มจุดอ่อนและทำลายความมั่นใจในตนเอง แต่ถ้าเลือกเส้นทางที่สอดคล้องกับนิสัย ใช้จุดแข็งให้เต็มที่ และเลี่ยงการเทรดด้วยจุดอ่อน โอกาสที่จะอยู่รอดในตลาดก็ย่อมสูงกว่า
แล้วคุณเหมาะกับสายไหน?
ลองพิจารณานิสัยและเวลาของตนเองว่าตรงกับแนวทางใด
• สายสั้น – ต้องการเงินหมุนไว เฝ้ากราฟได้ เข้าใจข่าวและพื้นฐาน หากมีทุนและเวลามาก ก็สามารถใช้ระบบสั้น ๆ ได้ผลดี
• สายกลาง – ไม่ได้เฝ้ากราฟตลอดเวลา แต่อดทนรอได้ มีวินัยในการวางแผน แม้ไม่ถนัดวิเคราะห์ข่าว แต่สามารถเทรดตามจังหวะสำคัญ ๆ ได้
• สายยาว – เน้นมองรอบใหญ่ มีเงินเย็นเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเปิดกราฟทุกวัน เพียงติดตามเป็นช่วง ๆ ก็เพียงพอ
เลือกจากเวลาที่คุณมี
สังเกตตัวเองว่ามีเวลาเฝ้ากราฟมากน้อยแค่ไหน หากใช้ไทม์เฟรม Day อย่างน้อยควรดูวันละสองครั้ง แต่ถ้าเทรด H1 ก็ควรมีเวลาติดตามทุกชั่วโมง หากมีเวลาจำกัด อาจเลือกเทรดกลางหรือยาวเพื่อให้เหมาะกับจังหวะชีวิต
ไม่มีเส้นทางที่ดีที่สุด มีเพียงเส้นทางที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
การเลือกสไตล์ไม่ควรเกิดจากความอยากเทรดสั้นหรืออยากกำไรเร็ว แต่ควรยึดตามเวลาและวิถีชีวิตจริง เพื่อให้สามารถอยู่กับระบบนั้นได้นานและต่อเนื่อง
สรุป
ความสำเร็จในการเทรด Forex ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ระบบหรือเครื่องมือ แต่ต้องเริ่มจากการรู้ว่าตนเองเป็นเทรดเดอร์แบบไหน สั้น กลาง หรือยาว เมื่อเลือกได้ตรงกับจริต โอกาสอยู่รอดในตลาดก็จะมากขึ้น เพราะการชนะในตลาดไม่ใช่เพียงวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่คือการอยู่ให้รอดในระยะยาวต่างหาก แล้วคุณล่ะ…จะเลือกเป็นเทรดเดอร์สายไหน?
ในตลาด Forex มีการแข่งขันตลอดเวลา แต่ละคนต่างใช้กลยุทธ์ของตนเอง รวมถึงมีเครื่องมืออย่าง AI หรือ EA ที่ช่วยเสริมการตัดสินใจ แม้ว่าระบบจะดีแค่ไหน ก็ไม่อาจสร้างกำไรได้ทุกสภาวะตลาด และหากเทรดเดอร์ยังไม่เข้าใจตนเอง ก็ยากที่จะใช้เครื่องมือให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ความแตกต่างของสไตล์เทรดเดอร์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทรดเดอร์แต่ละคนมีพื้นฐานความรู้และประสบการณ์ที่ไม่เท่ากัน ต่อให้ใช้เครื่องมือชุดเดียวกัน ผลลัพธ์ก็ย่อมไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ “รู้จักตนเอง” ก่อน แล้วเลือกใช้ระบบที่สอดคล้องกับตัวเอง จึงจะได้เปรียบในสนามการเทรด
การแบ่งประเภทของเทรดเดอร์มีหลายวิธี ซึ่งไม่ได้เป็นการตัดสินใคร แต่เพื่อช่วยให้เข้าใจตนเองได้ชัดเจนขึ้น โดยอาจแบ่งเบื้องต้นได้ดังนี้
• สายสั้น (Short-term) – มักไม่ชอบการรอนาน เน้นเก็บกำไรเล็ก ๆ ทีละไม่กี่ Pip เข้าเร็วออกเร็ว ไม่ปล่อยให้โดนลาก บางคนจัดตนเองว่าเป็น Day Trader หรือ Scalper รวมถึงการเทรดข่าวที่ไม่ถือออเดอร์ข้ามวัน
• สายกลาง (Medium-term) – พร้อมรอจังหวะที่คุ้มค่า มองหาออเดอร์ที่ให้กำไรต่อความเสี่ยงสูง มักไม่ถือเกินหนึ่งสัปดาห์ อาจเทรดแบบ Swing หรือ Run Trend โดยส่วนใหญ่ถือประมาณ 1–3 สัปดาห์
• สายยาว (Long-term) – ถือออเดอร์ยาวกว่านั้น อาศัยทั้งเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน หวังกำไรจากเทรนใหญ่ ใช้ไทม์เฟรม Day หรือสูงกว่า ไม่จำเป็นต้องเฝ้ากราฟทุกวัน แต่มุ่งมองภาพรวมระยะยาว
ผลลัพธ์จากการเลือกสายผิด
หากเลือกแนวทางที่ไม่ตรงกับตนเอง ผลเสียย่อมเกิดขึ้น
• เทรดเดอร์สายสั้น อาจไม่เหมาะกับคนทำงานประจำ เพราะหากเปิดออเดอร์แล้วมีงานด่วนหรือประชุมเข้ามา อาจพลาดโอกาสแก้เกมได้
• เทรดเดอร์สายกลาง ถ้าใจร้อนและอยากเข้าออเดอร์บ่อยเกินไป ก็อาจตัดสินใจผิดเพียงเพราะอารมณ์ เช่น เห็นกราฟลงแรงแล้วรีบ Sell ทั้งที่ยังไม่ปิดแท่งเทียน สุดท้ายกราฟเด้งกลับขึ้นไป
• เทรดเดอร์สายยาว ถึงแม้จะคิดว่าตนเองใจเย็นพอ แต่ถ้าจริง ๆ แล้วกังวลทุกครั้งที่มีข่าว ก็อาจทำให้จิตใจสั่นไหว ไม่มั่นคงในแผนการเทรด
เมื่อเลือกสายไม่ถูก เทรดเดอร์ก็จะใช้ความโลภแทนที่จะใช้จุดแข็ง กลับกลายเป็นเพิ่มจุดอ่อนและทำลายความมั่นใจในตนเอง แต่ถ้าเลือกเส้นทางที่สอดคล้องกับนิสัย ใช้จุดแข็งให้เต็มที่ และเลี่ยงการเทรดด้วยจุดอ่อน โอกาสที่จะอยู่รอดในตลาดก็ย่อมสูงกว่า
แล้วคุณเหมาะกับสายไหน?
ลองพิจารณานิสัยและเวลาของตนเองว่าตรงกับแนวทางใด
• สายสั้น – ต้องการเงินหมุนไว เฝ้ากราฟได้ เข้าใจข่าวและพื้นฐาน หากมีทุนและเวลามาก ก็สามารถใช้ระบบสั้น ๆ ได้ผลดี
• สายกลาง – ไม่ได้เฝ้ากราฟตลอดเวลา แต่อดทนรอได้ มีวินัยในการวางแผน แม้ไม่ถนัดวิเคราะห์ข่าว แต่สามารถเทรดตามจังหวะสำคัญ ๆ ได้
• สายยาว – เน้นมองรอบใหญ่ มีเงินเย็นเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเปิดกราฟทุกวัน เพียงติดตามเป็นช่วง ๆ ก็เพียงพอ
เลือกจากเวลาที่คุณมี
สังเกตตัวเองว่ามีเวลาเฝ้ากราฟมากน้อยแค่ไหน หากใช้ไทม์เฟรม Day อย่างน้อยควรดูวันละสองครั้ง แต่ถ้าเทรด H1 ก็ควรมีเวลาติดตามทุกชั่วโมง หากมีเวลาจำกัด อาจเลือกเทรดกลางหรือยาวเพื่อให้เหมาะกับจังหวะชีวิต
ไม่มีเส้นทางที่ดีที่สุด มีเพียงเส้นทางที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
การเลือกสไตล์ไม่ควรเกิดจากความอยากเทรดสั้นหรืออยากกำไรเร็ว แต่ควรยึดตามเวลาและวิถีชีวิตจริง เพื่อให้สามารถอยู่กับระบบนั้นได้นานและต่อเนื่อง
สรุป
ความสำเร็จในการเทรด Forex ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ระบบหรือเครื่องมือ แต่ต้องเริ่มจากการรู้ว่าตนเองเป็นเทรดเดอร์แบบไหน สั้น กลาง หรือยาว เมื่อเลือกได้ตรงกับจริต โอกาสอยู่รอดในตลาดก็จะมากขึ้น เพราะการชนะในตลาดไม่ใช่เพียงวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่คือการอยู่ให้รอดในระยะยาวต่างหาก แล้วคุณล่ะ…จะเลือกเป็นเทรดเดอร์สายไหน?