กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1
พูดคุยForexทั่วไป / ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นพร้อมกับสินค้าคงคลัง
« กระทู้ล่าสุด โดย ฺBS เมื่อ วันนี้ เวลา 02:03:04 PM »

สต็อกน้ำมันเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่คาดไว้ว่าจะลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกัน ด้านกลยุทธ์ ปริมาณปิโตรเลียมสำรองเพิ่มขึ้น 0.74 ล้านบาร์เรล ซึ่งรักษาระดับการฟื้นตัวได้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมได้ดี การผลิตน้ำมันรักษาระดับไว้ที่ 13.1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ที่ระดับการผลิตปัจจุบัน สินค้าคงคลังเชิงพาณิชย์ลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังคงอยู่ใกล้จุดต่ำสุดของช่วงเก้าปีที่ผ่านมา ก่อนปี 2015 ขอบเขตบนคือระดับ 400M บาร์เรล


ในอัตราปัจจุบันจะใช้เวลาเกือบเจ็ดปีในการเติม SPR จนถึงการเริ่มต้นการขายในเดือนมิถุนายน 2021 จะต้องใช้เวลาเกือบ 9.5 ปีในการฟื้นตัวสู่ระดับสูงสุดในปี 2011 แต่เราไม่น่าจะเห็นหุ้นเชิงพาณิชย์หรือหุ้นเชิงกลยุทธ์ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดได้ในเร็วๆ นี้ สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากมีการผลิตเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และยังลดการพึ่งพาการนำเข้าของสหรัฐฯ และการพัฒนา "พลังงานใหม่" แม้ว่าสินค้าคงคลังนั้นสูงกว่าคาดก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อราคา WTI หนึ่งบาร์เรลยังคงอยู่ใกล้กับ $81 โดยยังคงรักษาขอบเขตบนเดิมของช่วงขาขึ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม


แหล่งข่าว Oil price rises along with โดย Alexander Kuptsikevich

2

การกลับตัวของธนาคาร ด้านนโยบายการเงินแห่งประเทศญี่ปุ่นที่เข้มงวดขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคมไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการกลับตัว แต่ยังเพิ่มแนวโน้มความอ่อนค่าของเงินเยนด้วย ระบบได้กดดันต่อค่าเงินญี่ปุ่น ทำให้เกิดคำถามมากขึ้นเนื่องจาก Fed และ ECB ยังเหลือเวลาไม่ถึงสามเดือนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้อย่างกว้างขวาง

USDJPY เพิ่มขึ้นเป็น 151.97 ในเช้าวันพุธ โดยอยู่เหนือระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 7 pips และ สูงกว่าระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม 2022 4 pips เมื่อการแทรกแซงอัตราการกลับตัวอย่างรวดเร็ว วันพุธได้เกิดจุดสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ระดับ 152 ดูเหมือนจะเป็นโซนที่ได้รับการทดสอบการแทรกแซง เพื่อป้องกันไม่ให้เงินเยนอ่อนค่าลง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้ยินข่าวซ้ำๆ จากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางว่าไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง สัญญาณนี้ดูเหมือนเป็นการขู่แทรกแซงซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้เก็งกำไรระยะสั้น นอกจากนี้ นี่เป็นครั้งที่สามในรอบสองปีที่เงินเยนเข้าใกล้ระดับนี้ ในสองครั้งก่อนหน้านี้ เราเห็นการกลับตัวที่แข็งแรงและต่อเนื่อง ตลาดใกล้จะเกิดกากลับตัวเมื่อเทียบกับระดับนี้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายขาขึ้นก็มีข้อโต้แย้งที่รุนแรงด้านพวกเขาเช่นกัน

การพักตัวเริ่มมีความตื้นมากขึ้น USDJPY ร่วงลง 16% ในเวลาสามเดือนหลังจากเข้าใกล้ 152 ในปี 2022 อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 การลดลงอยู่ที่ประมาณ 7.5% ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ มีการขยับขึ้นเบาๆ ไปที่ 151 และกลับลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากลดลง 3.5% การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ USDJPY เริ่มต้นในปี 2022 มีส่วนช่วยต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างน่าประทับใจ โดยที่จุดสูงสุดทั้งคู่สูงกว่าปีก่อนหน้ามากกว่า 33% ความผันผวนของเงินเยนในระยะยาวกำลังลดลง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในแนวทางที่จะทรงตัวรอบๆ เป้าหมายอยู่ที่ 2% ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะทำให้ 152 เป็น red line ต่อไป เรามีแนวโน้มที่จะเห็นการพูดหว่านล้อมมากขึ้นและอาจมีนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ไม่ใช่การแทรกแซง FX ที่รุนแรงเหมือนในปี 2022 หรือปลายปี 2023

แหล่งข่าว USDJPY Eyes 1990 Highs: โดย Alexander Kuptsikevich
3
พูดคุยForexทั่วไป / Gold : พายุที่น่าสงสัย ณ ระดับ 2,200 ดอลลาร์
« กระทู้ล่าสุด โดย ฺBS เมื่อ วันนี้ เวลา 10:21:00 AM »

ทองคำทะลุระดับ 2,200 ดอลลาร์เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์จากวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะร่วงลงมาที่ 2,182 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงแรกของสหรัฐฯ Cryptocurrencies มีการเทรดในทิศทางเดียวกันกับทองคำในปัจจุบัน แต่ silver, platinum และ copper  กลับไม่สามารถทำกำไรได้ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความกังวลใจบางส่วน ราคาทองคำทะลุระดับ 2,195 ดอลลาร์ ทดสอบช่วงขาขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึง 8 มีนาคม หากราคาที่สูงกว่าระดับนี้จะเป็นก้าวแรกสู่การขึ้นราคาครั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์การเติบโตเป็น 2,300 ดอลลาร์เป็นไปได้


เรามาเริ่มจับเข่าคุยกัน การที่มีราคาสูงบนกราฟเป็นผลมาจาก Slippage ที่การเทรดมีสภาพคล่องต่ำ จึงไม่ถือว่าเป็นการ breakout เต็มรูปแบบ Silver ได้ร่วงลงเรื่อยๆ 4 วันติดต่อกัน โดยตกลงไปที่ 24.4$ Platinum มีการซื้อขายใกล้ระดับ 900$ ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดในประเทศ หลังจากได้ดีดตัวกลับ 5% จากระดับสูงสุดในวันที่ 15 มีนาคม Copper มีแนวโน้มที่ลดลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว


ทองคำเป็นโลหะที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในการแลกเปลี่ยน แต่ความที่แตกต่างจากโลหะอื่น ๆ ทำให้เกิด False breakout ในวันอังคาร สิ่งนี้เห็นได้จากการเคลื่อนไหว sideways อย่างต่อเนื่องของนักขุดทองในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นอย่างน่าประทับใจก็ตาม ในทางเทคนิคแล้ว ทองคำจะต้องแข็งตัวเหนือ $2,200 เพื่อเริ่มโมเมนตัมขาขึ้นใหม่ ในกรณีที่มีการลดลงอีก เราควรจับตาดูการเปลี่ยนแปลงที่ประมาณ $2,150: แนวรับนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับฐานที่ลึกยิ่งขึ้นโดยมีเป้าหมายแรกที่ $2,130

แหล่งข่าว Gold: Suspicious storm of $2200 โดย Alexander Kuptsikevich
4

ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯทำให้การฟื้นตัวช้าลง โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เป็น 662,000 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 3% นี่ถือเป็นระดับปกติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเห็นได้ตั้งแต่ต้นปี 2019 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2020


บางทีสิ่งเดียวที่เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยของ Fed ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษนั่นคือราคาที่ลดลง ในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาขายเฉลี่ยลดลง 3.5% เหลือ 400.5K ดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 และต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ 496.8K ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม 2565 เกือบ 20% การลดลงของราคาบ้านใหม่จากจุดสูงสุดในปี 2007 จนถึงระดับต่ำสุดในปี 2009 คือ มีขนาดใกล้เคียงกัน


ราคากำลังลดลงอย่างมากจากระดับที่สูงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อได้ลดลง การรักษาปริมาณการขายให้อยู่ในระดับ "ดี" ไม่ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสักเท่าไหร่

แหล่งข่าว US Housing: lower price but healthy volume โดย Alexander Kuptsikevich

แปลโดยทีม TradersThailand
5
พูดคุยForexทั่วไป / น้ำมันได้ถอยกลับไปยังช่วงขาขึ้น
« กระทู้ล่าสุด โดย ฺBS เมื่อ 26/มี.ค./2024 03:16:07 »

ในสัปดาห์ที่แล้วน้ำมันได้ปิดราคาเหนือกว่า 80$ ดอลลาร์ต่อบาร์เรล WTI โดยทำกำไรได้เพียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าการเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่กลายเป็นโกโก้ ส่งผลให้น้ำมันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทรนด์ที่ยาวนานขึ้น WTI มีการซื้อขายในช่วงขาขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม และตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการบ่งชี้การฟื้นตัวเพิ่มเติมจากขอบเขตบน(upper boundary) แนวทางของเหตุการณ์คือการพักตัวขอบเขตล่าง(lower boundary) ของ Channel ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ $76.4 เพิ่มขึ้นประมาณ $0.4 ต่อวัน  ขาช่วงลงน้ำมันจะเจอกับแนวรับสำคัญสองระดับ อันดับแรกคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (ตอนนี้อยู่ที่ $78.4) และค่าเฉลี่ย 50 วัน ($77.2) ทั้งสองเส้นชี้ขึ้นและมีรูปแบบ "golden cross" ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจในการเก็งกำไร


ข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าจำนวนแท่นขุดเจาะที่ใช้งานอยู่ลดลงเหลือ 624 แท่น ตัวเลขนี้ค่อนข้างคงที่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากมีลดลงตั้งแต่ต้นปี 2023นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันยังไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งลดลงเหลือ 13.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากแตะระดับ 13.3 ล้านบาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์ การที่ผู้ผลิตไม่มีท่าทีโต้ตอบเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับน้ำมัน เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการมีสุขภาพที่ดีของอินเดีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีศักยภาพที่สุดในการกระตุ้นความต้องการ ในขณะเดียวกันอุปทานยังคงถูกจำกัดโดยโควต้าของ OPEC+


อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันจะเป็นไปอย่างราบรื่นและส่วนใหญ่นักลงทุนไม่สนใจในการเก็งกำไรจนกว่าราคาจะทะลุระดับ 90 ดอลลาร์ ตั้งแต่ราคาอยู่นอกช่วงการซื้อขายของเดือนสิงหาคม 2022 ความสามารถของน้ำมันที่ต้องทำให้ราคาสูงขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเก็งกำไรและ Central banker โดยมีผลกระทบต่อนโยบายการเงินผ่านราคาผู้บริโภค


แหล่งข่าว Oil retreats within an upward channel โดย Alexander Kuptsikevich
6

Fed คงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ไม่เปลี่ยนแปลง และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีความเสี่ยงต่อตลาดโลก หลังจากการประกาศ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็เร่งการอ่อนค่าลง โดยลดลงประมาณ 1% จากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุด ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามแห่งของสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดที่เคยมีมา และทองคำก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่


หลังจากการประกาศของ Powell ตลาดก็ได้รับแรงสนับสนุนเนื่องจากมุมมองของแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อนั้นยังคงที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โปรดจำไว้ว่าในช่วงเวลานี้ รายงานเงินเฟ้อนั้นมีมากเกินที่คาด และได้เริ่มมีคำถามถึงแนวโน้มขาลง แต่ข้อดีอีกอย่างคือความเสี่ยงที่ FOMC จะลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เคยวิเคราะห์นั้นได้ถูกยกเลิกแล้ว และผลบวกที่เกิดขึ้นจากการยืนยันประกาศก่อนหน้าเพื่อลดอัตราการขายหลักทรัพย์จากรายงานงบประมาณ (balance sheet) นี่จะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน ซึ่งสามารถรองรับความเสี่ยงได้ แม้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะน้อยก็ตาม การตอบสนองต่อเงินดอลลาร์เป็นไปตามที่เราได้คาดการณ์ล่วงหน้า การผ่อนคลายของ Fed กระตุ้นให้เกิดการเทขาย โดย DXY มีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่(moving average) ตกลงต่ำกว่าเส้น 200 วัน และ 50 วัน ตามที่คาดการณ์และที่เราได้เขียนไว้ก่อนประกาศ downward momentum ของเงินดอลลาร์ดูไม่คงที่นัก เมื่อพิจารณาจากภาพรวมทางเทคนิคที่แข็งแรงในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา


จากมุมมองด้านพื้นฐาน ไม่ง่ายเลยที่จะขายเงินดอลลาร์ในเมื่อธนาคารกลางอื่นๆมีการกระทำในทิศทางเดียวกัน เมื่อปลายปีที่แล้ว มีการคาดเดากันว่า Fed จะเป็นที่แรกที่ผ่อนคลาย ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจที่แข็งแรง และตลาดแรงงานได้ลดการแข่งขันลง นอกจากนี้ SNB ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดโดยไม่คาดคิดในวันพฤหัสบดี โดยเน้นไปที่ความสมัครใจในการผ่อนคลายสถาณการณ์ของยุโรป การผ่อนคลายที่เป็นไปในทางเดียวกันนี้ คาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่ของโลกกำลังเป็นที่น่าสนใจของผู้ซื้อในตลาดตราสารทุน (Equity)

แหล่งข่าว Fed dovishness does not hurt the dollar โดย FxPro

 
7
สวัสดีค่ะ ในแต่ละวันที่ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อน ฝุ่น รภติดต่างๆ ที่ต้องฝ่าฟันไป เพื่อนๆ ต้องระวังตนเองและรักษาสุขภาพให้ดีนะค่ะ ฝุ่น PM 2.5 และการจราจรที่แออัดอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งนั้น สำหรับเพื่อนๆ สายเทรด วันนี้เรามาดู การเลือกโบรกเกอร์ (Broker) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นการเทรด โดยมีขั้นตอนและปัจจัยหลายอย่างที่ควรพิจารณา เพื่อให้เลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ ดังนี้:

ประเภทของโบรกเกอร์: โบรกเกอร์มีหลายประเภท เช่น ECN, STP, Market Maker ซึ่งมีลักษณะและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ตรงกับสไตล์การเทรดของคุณ ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการเทรดแบบ Scalping ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ความสำคัญกับความเร็วและความตอบสนองสูง ๆ อย่าง ECN.

ค่าธรรมเนียมและส่วนลด: ค่าธรรมเนียมเทรดและค่า Spread สามารถมีผลกับกำไรและขาดทุนของคุณ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread และค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมกับยอดเทรดของคุณ และอาจต้องคำนึงถึงโปรโมชั่นและส่วนลดที่โบรกเกอร์นั้น ๆ มีให้ด้วย

การสนับสนุนลูกค้า: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีบริการลูกค้าที่ดี รวมถึงการให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหา และสนับสนุนในการฝึกฝนในการเทรด

ความเชื่อถือและความปลอดภัย: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น FCA (Financial Conduct Authority) ในสหราชอาณาจักร หรือ ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ในออสเตรเลีย

เครื่องมือและแพลตฟอร์มการเทรด: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มการเทรดที่สมบูรณ์และมีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ต้องการ และที่รองรับสไตล์การเทรดของคุณ เช่น MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือ cTrader

ข้อเสนอและโปรโมชั่น: บางครั้งโบรกเกอร์อาจมีข้อเสนอและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น โบนัสการฝากเงิน โปรโมชั่น Cashback หรือโปรโมชั่นอื่น ๆ ควรพิจารณาดูว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นเหล่านั้นได้หรือไม่

ความสะดวกสบาย: สุดท้ายควรพิจารณาถึงความสะดวกสบายในการใช้บริการของโบรกเกอร์ เช่น วิธีการฝากถอนเงิน, ภาษีที่ต้องจ่าย, ภาษีที่คิด หรือบริการทางด้านอื่น ๆ

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับสไตล์การเทรดของคุณอาจจะต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์และทดลอง แต่คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการทดลองใช้บัญชีซึ่งมักมีการจำลองเงินให้ใช้ บัญชี Demo ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นการจริงได้ค่ะ


8
สวัสดีจ้า วันหยุดสุดสัปดาห์หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกันนะคะ สำหรับสายเทรด สายลงทุนมักจะมีคำถามมากมาย อยากเริ่มต้นเทรด Forex ทำยังไง เริ่มต้นทำกำไรแบบไหนดี หลายคนที่เข้าวงการนี้ก็อยากทำกำไรกันได้ทั้งนั้น แต่จะมีกี่คนที่อดทนพยายามจนประสบความสำเร็จ และวันนี้เรามาดู มือใหม่วงการ Forex ลองเอาท่าเทรดนี้ไปใช้ เริ่มกำไรได้ง่ายๆ จะเป็นยังไงไปดูกันเลยจ้า

 ??? ??? ???

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=YFUqHkK2-uY" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=YFUqHkK2-uY</a>
9
พูดคุยForexทั่วไป / Forex จะขึ้นหรือลง เกิดจากสาเหตุอะไร
« กระทู้ล่าสุด โดย ladyMP เมื่อ 24/มี.ค./2024 10:31:27 »
สวัสดีค่ะ แม้ว่าช่วงนี้หลายพื้นที่สภาพฝุ่น pm2.5 ไม่ดีนัก การมีฝุ่น PM 2.5 มากเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องสนใจ เนื่องจากมันสามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพค่ะ และสำหรับสายเทรดเดอร์วันนี้เรามาดู Forex จะขึ้นหรือลง เกิดจากสาเหตุอะไร มีเหตุมีผลเยอะมากที่สามารถขับเคลื่อนตลาดฟอเร็กซ์ได้ ปัจจัยเหล่านี้ประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่พวกเราเรียกว่าการวิเคราะห์พื้นฐาน การทำความเข้าใจผลกระทบของสาเหตุสำคัญเหล่านี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเลือกคู่สกุลเงินที่ต้องการจะลงทุนได้ ดังนั้น เทรดเดอร์ทุกคนจึงต้องศึกษาปัจจัยเหล่านี้เพื่อช่วยในการระบุทิศทางที่ต้องการลงทุนตลาด

แน่นอนคงไม่มีใครตอบได้ 100% ว่าตลาดต่อจากนี้จะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แต่พวกเราสามารถวิเคราะห์แนวโน้มคร่าวๆได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จะส่งผลอะไรต่อตลาด ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex ก็มีทั้ง

– เศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ

– นโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง

– งบการค้าระหว่างประเทศ

– ความมั่นคงทางการเมือง

– นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล

– ความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงความคาดหวังและข่าวลือต่างๆ

– การเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่

การทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดที่ส่งผลต่อตลาดฟอเร็กซ์จะทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จในตลาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การทำความเข้าใจและก็การใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุข้างต้นทำให้การเทรดฟอเร็กซ์แตกต่างจากการพนัน ยิ่งกว่านั้น ประเด็นที่ได้กล่าวมาทั้งหมดในบทความนี้ยังสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะลงทุนในตลาด เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์ทุกคนจึงควรระมัดระวังในการรับข่าวสาร ที่เกี่ยวข้องกับข่าวปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง การเลือกรับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระดับโลก มีอิสระสูง ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง หรือกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องค่ะ


10
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้อากาศดูเหมือนจะแปรปรวน เดี๋ยวมีฝนตก เดี๋ยวก็แดดออก และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็ฝุ่น PM2.5 ที่มีเยอะมากในช่วงนี้ ถ้าหากใครที่ต้องเดินทางไปไหนก็ต้องเช็คและดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เพราะถ้าปวยขึ้นมา เงินที่หามาได้ก็ต้องเสียไปกับการรักษานั่นเอง และวันนี้เรามาดู สอนเทรด Forex ผ่าน MT5 บนมือถือ สำหรับมือใหม่ อัปเดตล่าสุด 2024  ซึ่ง MetaTrader 5 (MT5) เวอร์ชันล่าสุดของ MetaTrader ที่มีความสามารถในการซื้อขายหุ้นและอื่นๆ นอกจาก Forex มากขึ้น รวมถึงมีการปรับปรุงคุณภาพและความเสถียรของแพลตฟอร์ม จะเป็นยังไงไปดูกันเลยจ้า

 :) :)

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=hdOiBsI8oD8" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=hdOiBsI8oD8</a>
หน้า: [1] 2 3 ... 10
SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums