การปกป้องเงินต้นสำคัญอย่างไร

อ่าน 1492 ครั้ง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นักลงทุนหลายๆคนขาดทุนในตลาด หรือแม้กระทั่งบางคนกำไรมหาศาลแต่แล้วก็กลับมาขาดทุนได้เมื่อเวลาผ่านไป เรามาดูเหตุผลสำคัญกันครับ

Ralph vince ผู้เชี่ยวชาญ money management ได้ทำการทดลองเอาเด็กจบปริญญาเอกทางด้านสถิติมา 40 คน และมีประสบการณ์ในการลงทุนมาแล้วเช่นกัน และให้เล่นเกมจำลอง โดยให้เงินเริ่มต้น 10000 เหรียญ โดยโอกาสในการชนะของเกมนี้ เขาตั้งเอาไว้ที่ 60 % เกินครึ่งอีกนะครับ โดยทำการซื้อขาย 100 ครั้ง การเดิมพันจะได้ และเสียเท่ากันจำนวนที่ลงไป เช่น ลง1000 ถ้าถูกจะได้ 1000 และผิดจะเสีย 1000 เช่นกัน เมื่อเกิดซื้อขายจบลง 100 ครั้ง ปรากฎว่า มีคนชนะเกมส์นี้แค่ 2 คนใน 40 คน มีกำไรแค่ 2 คน

เพราะอะไร ??????

บางคนวางเดิมพัน 1 พันเหรียญ เมื่อเขาเจอภาวะขาดทุนติดต่อกัน 3 ครั้ง เขาจะขาดทุน 3000 เหรียญและเหลือเงินอยู่ 7000 เหรียญ การ breakeven ของเขา เขาจะต้องลง 3000 เหรียญเพื่อให้ได้เงินคืนมาทั้งหมด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เพราะโอกาสถูกย่อมมากขึ้น จากการผิด 3 ครั้งติด แต่เกมส์นี้โอกาสถูกคือ 60 % เมื่อคุณขาดทุนอีกครั้งนั้นหมายความว่าเงินจะเหลือแค่ 4000 เหรียญ ซึ่งต้องทำกำไร 150 % เพื่อคืนทุนซึ่งหนักกว่าเดิมอีก ซึ่งเป็นสามารถให้หมดตัวได้ในการเดิมพันที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ

หรือบางคนลง 2500 และเสียติดต่อกัน 3 ครั้งนั่นจะทำให้เงินเหลือแค่ 2500 ต้องทำ 300% ถึงจะเท่าทุน อืม เหนื่อยๆๆๆๆ

สรุปเลยครับ คนพวกนี้ขาดทุนเนื่องจากพวกเขายอมเสี่ยง และวางเดิมพันจนมากเกินไปนั่นเอง
สิ่งที่มีปัญหากับนักลงทุนทั่วไปคือ ขนาดของ portfolio ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยเงินที่น้อยเกินไปอย่างเช่น 300,000 บาท เมื่อคำนวณความเสี่ยง 2 % ในการเสี่ยงแต่ล่ะครั้งคุณจะยอมขาดทุนได้เพิ่งแค่ 6000 บาท ซึ่งคุณจะสามารถซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยมาก ซึ่งผลตอบแทนที่ได้อาจไม่คุ้มถ้าเทียบเป็นจำนวนเงิน แต่ถ้าคุณลงเงินเดิมพันทั้งหมด 3 แสนบาท นั่นจะทำให้คุณเข้าสู่ภาวะเดิมพันที่เยอะเกินไป ซึ่งในระยะยาวโอกาสขาดทุนจะมากขึ้นทันที ดังนั้น portfilo ที่ใหญ่จะได้เปรียบกว่า และบริหาร money management ได้ดีกว่านั้นเองโดยไม่ต้องวางเดิมพันที่สูงมากเกินไปนั้นเอง

สิ่งต่อไปเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องจำไว้ เมื่อเราขาดทุน drawdowns (%การขาดทุน) และเราต้องลงเท่าไหร่เผื่อที่จะ cover กลับมาเพื่อเท่าทุน(breakeven)

Drawdowns (% การขาดทุน) Gain to recovery (% ที่ต้องทำกำไรกลับมาเพื่อเท่าทุน)

drawdown 5% ต้องทำ  5.3 % gain to recovery
drawdown  10% ต้องทำ 11.1 % gain to recovery
drawdown  15% ต้องทำ 17.6 % gain to recovery
drawdown  20% ต้องทำ  25 % gain to recovery
drawdown  25% ต้องทำ  33 % gain to recovery
drawdown  30% ต้องทำ  42.9 % gain to recovery
drawdown  40% ต้องทำ  66.7 % gain to recovery
drawdown  50% ต้องทำ  100 % gain to recovery
drawdown  60%ต้องทำ  150 % gain to recovery
drawdown  75% ต้องทำ  300 % gain to recovery
drawdown  90% ต้องทำ  900 % gain to recovery

 
การขาดทุนที่มากเกินไปในแต่ล่ะครั้ง นั้นหมายความว่าจะทำให้ต้องทำกำไรขึ้นมามหาศาลเพื่อกลับมาเท่าทุน อย่างเช่น เราขาดทุน 50 % เราต้องทำ 100 % การขาดทุนเกิน 50 % นั้นจะทำให้เรามีโอกาสวางเดิมพันมากขึ้นเพื่อให้กลับมาเท่าทุน เสี่ยงนั้นจะทำให้เราเพิ่มโอกาสที่จะเป็นผู้แพ้ในตลาดมากขึ้นเช่นกัน

สรุปก็คือ การวางเดิมพันที่มากเกินไปในแต่ล่ะครั้ง จะทำให้เราเสี่ยงที่เข้าสู่ภาวะที่จะต้องเดิมพันมากขึ้นเพื่อเอาทุนขึ้น และเมื่อคุณแพ้ คุณก็แทบจะหมดโอกาสที่จะกลับมาเท่าทุนได้อีกครั้ง

นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักลงทุนระดับเซียนหลายคนจึงพยายามที่จะปกป้องเงินทุนให้ได้ก่อนที่จะทำกำไร เซียนหลายคนบอกว่า ถ้าปกป้องเงินทุนได้ เดี๋ยวกำไรก็ตามมาเอง แต่ถ้าเสียเงินต้นทุนไปแล้ว กว่าจะได้คืนมันเหนื่อย ดังนั้น เราที่เป็นนักเก็งกำไรทั้งหลายก็อย่างลืมข้อนี้เสีย อย่าโลภจนลืมตัว อย่าคิดว่าเราต้องถูกเสมอ ไม่มีอะไรแน่นอนในตลาด ราคาไม่ได้สนใจว่าคุณสวย หล่อ แค่ไหน นามสกุลอะไร ขับรถอะไร คุณจะอดตายหรือเปล่าหากเทรดเสียวันนี้ ตลาดไม่สนอะไรทั้งสิ้น

ดูตัวอย่างอย่างเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายคน อย่าง อ.แม็ค THFX ของเรา เวลาที่คุณเห็นพอร์ตอาจารย์เห็นว่าเทรดได้เยอะ แต่เชื่อเถอะว่า อาจารย์ท่านได้มีการวางแผนเรื่อง MM มาแล้วทุกครั้งก่อนจะเปิดออเดอร์ เพียงแต่ว่า ประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้ท่านรู้ว่าควรจะเข้าตรงไหน รอได้แค่ไหน และต้องทำอย่างไร เทรดเดอร์ใหม่ๆบางคน พยายามจะทำตามให้ได้กำไรเยอะๆ พยายามเทรดด้วยขนาด lot ที่ใหญ่มากๆ แม้ว่าคุณจะเทรดในตำแหน่งเดียวกับอาจารย์ เทรดไปทางเดียวกัน แต่จำนวนทุนในพอร์ตไม่ได้มากพอจะรองรับความผันผวนได้ ผลสุดท้ายก็ล้างพอร์ต

กลยุทธ์ และ เทคนิค ต่างๆนั้นสำคัญในการทำกำไร แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะสำคัญมากกว่าการหาจุดเข้าที่สวยงามก็คือ การมี Money management ที่ดี หากคุณรักจะเป็นเทรดเดอร์อาชีพ คุณไม่ควรลืมให้ความสำคัญกับข้อนี้ และวางแผน MM ทุกครั้งก่อนการเทรด MM

โค๊ด: [Select]
http://big-move-club.blogspot.com/2011/03/money-management-1.html
  • Tamol

  • ****
  • สถานะ: ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 1 | กระทู้ 250
  • เพศ: ไม่ระบุ
วิธีเปิดบัญชี forex exness อย่างละเอียด 2023 ทีละขั้นตอน | วิธีสมัคร Forex Update 2566



 

SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums