ต้องอดทนแค่ไหนสำหรับการเทรด (ต่อ)

อ่าน 1555 ครั้ง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

วันนี้เอาไปเลยครับสำหรับข้อ 3 เต็ม ๆ สำหรับการอดทนที่ผมถือว่าสำคัญที่สุดกว่าข้ออื่น ๆ

อดทนอย่างที่ 3: อดทนต่อการบริหารเงินในพอร์ต

กับหัวข้อนี้ผมคงต้องพูดยาวหน่อย เพราะหัวข้อนี้คือหัวใจหลักของการเทรดเลย แทบจะทุกสำนักเลยจะสอนให้คุณฟังเสมอ ๆ ว่าคุณต้องมี Stop Loss สำหรับผมแล้วการตั้ง Stop Loss ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับมือใหม่ที่บริหารเงินในพอร์ตยังไม่เป็น เพราะมันจะช่วยยับยั้งความสูญเสียที่เกิดจากความไม่รู้กับเค้าได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง Stop Loss ก็เป็นตำแหน่งรายได้ชั้นดีสำหรับโบรกเกอร์เลยทีเดียว จะเรียกว่าการหากินจากความปลอดภัยก็ไม่ผิดอะไรนัก เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะ ไม่มีใครยอมตั้ง Stop Loss ในจุดที่ตัวเองเสียเปรียบและโบรกเกอร์เขาก็รู้ดีว่าจุดเหล่านั้นมันอยู่ประมาณไหน การที่จะให้ราคาไปสวิงโดน Stop Loss ของคุณจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ

ความจริงแล้วการที่ Forex สามารถเริ่มเทรดได้ตั้งแต่เงินน้อย ๆ ก็เป็นเหมือนดาบสองคม ข้อดีคือใคร ๆ ก็สามารถเทรดได้ด้วยเงินก้อนเล็ก ๆ แต่ข้อดีนี้หากมองในแง่ของการบริหารพอร์ตแล้ว ยิ่งเงินน้อยการเติบโตของพอร์ตของคุณก็ยิ่งน้อยตาม แต่เผอิญว่าความโลภของคนมันไม่ได้เล็กเหมือนพอร์ต มันจึงส่งผลให้คุณเริ่ม overlot และก็นำไปสู่การล้างพอร์ต ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น คำตอบคือ เงินในพอร์ตกับความโลภของคุณมันไม่สมดุลกันครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ เหมือนคุณซื้อรถ ECO Car ในราคาที่ถูกซึ่งแน่นอนครับเครื่องยนต์คุณก็จะเล็กมาก แต่คุณอยากจะวิ่งให้ได้ความเร็วแบบรถสปอร์ตมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่รถคุณจะไปสู้รถสปอร์ตได้ นอกจากจะสู้ไม่ได้แล้วการที่คุณเอารถเล็ก ๆ อย่างนั้นไปทำความเร็วสูง ๆ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุให้คุณอีกต่างหาก ในขณะที่รถสปอร์ตถูกออกแบบมาให้รับความเร็วได้สบาย

มันไม่ต่างอะไรกับการเทรดเลยครับ เงินในพอร์ตคุณมีเล็กนิดเดียวแต่เงินที่คุณอยากได้มันเยอะ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสามารถรวยได้จากเงินก้อนน้อย ๆ และการที่เราล้างพอร์ตบ่อย ๆ จากเงินก้อนเล็ก ๆ มันยังบ่มเพาะนิสัยเสีย ๆ ในการเทรดของเราโดยไม่รู้ตัว ทำให้คุณกลายเป็นคนใจร้อน เทรดด้วยอารมณ์ และสุดท้ายคุณก็คิดว่าการเทรดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ใช่ครับผมกำลังพูดว่าหากคุณอยากรวยจากการเทรดคุณต้องลงเงินก้อนใหญ่ไม่ต่างอะไรจากตลาดหุ้นแต่ปัญหามันก็ติดอยู่ที่ว่าหากประสบการณ์คุณไม่มากพอคุณก็ลงเอยที่ล้างพอร์ตเหมือนพอร์ตเล็ก ๆ อยู่ดี

การลงเงินในพอร์ตเล็ก ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพียงแต่คุณต้องรู้จักเจียมตัวครับว่า คุณมีเงินแค่นี้ พอร์ตคุณสามารถวิ่งได้เท่าไหร่ ต้องทำให้ความโลภของคุณมันสมดุลกับเงินในพอร์ตของคุณครับ ดังนั้นผมจึงมองว่าการเทรดในพอร์ตเล็ก ๆ ควรเป็นการเทรดเพื่อเรียนรู้ครับแต่หากจะเอาจริงก็ต้องมีเงินใหญ่ ๆ สักก้อนเพื่อเทรดครับ

หลังจากที่เราพูดเรื่องวิธีคิดในการบริหารพอร์ตไปแล้วทีนี้เรามาดูที่เรื่องของมาร์จิ้นกันบ้าง จากประสบการณ์การเทรด่วนตัวผมคิดว่า Forex เป็นเกมส์ของการบริหารมาร์จิ้น 90% เลยทีเดียวเพราะไม่ว่าคุณจะเรียนวิชาสายอะไรมาก็ตาม แต่เราก็ใช้คำสั่งเดียวกันนั่นก็คือปุ่ม F9 หรือ New Order และทางเลือกของคุณก็มีอยู่แค่ 2 ทางคือ Buy กับ Sell ความหนึ่งคนมองภาพ ๆ เดียวมีความคิดหนึ่งอย่าง คนล้านคนมองภาพเดียวกันก็มีความคิดล้านอย่างเช่นกัน การมองภาพก็เหมือนกับการที่คุณมีระบบ มีวิธีเทรด และการตีความหมายของภาพก็คือกระบวนการหลังจากที่คุณได้วิเคราะห์จากระบบแล้วว่ามันควรจะเป็นแบบนี้ แน่นอนครับแม้แต่การโยนเหรียญหัวก้อยเพื่อเทรดก็ถือว่าเป็นระบบ ๆ หนึ่งแต่สิ่งที่จะวัดว่าใครที่ประสบความสำเร็จก็คือต้องดูที่ วิธีการบริหารพอร์ต ของเขา



คำว่าวิธีการบริหารพอร์ตมันไม่มีวิธีที่ตายตัวครับ มันขึ้นกับอุปนิสัย + ความเสี่ยงที่รับได้ ของเทรดเดอร์คนนั้น ๆ บางคนอาจจะใช้ Stop Loss เพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องคัทมือเองแต่บางคนอาจจะไม่ต้อง Stop Loss เพราะคิดว่ามันเป็นการจำกัดกรอบการวิ่งของกราฟและสามารถทำใจกับการคัททิ้งด้วยมือตัวเองได้ และนี่คือที่มาของคำว่า การอดทนในการบริหารพอร์ต การที่กราฟเปลี่ยนแปลงไปมันทำให้ความคิดของเทรดเดอร์เปลี่ยนแปลงตามและเมื่อความคิดของเราเปลี่ยนแปลงตามการกระทำและการตัดสินใจของเราก็จะเปลี่ยนด้วย เมื่อกราฟไม่เป็นไปอย่างที่คุณคิดคุณจะทำอย่างไรละ?

ตั้ง Stop Loss ไว้แล้วกลัวอะไร?
กราฟจะเหวี่ยงไปชน Stop Loss ไหม?
ถ้าชนแล้วดันวิ่งกลับไปในทิศทางที่เราคิดละ?
ปล่อยลากดีไหม?
ลากแล้วเราจะไปปิดที่ไหนละ?
ลากแล้วเราจะกล้าคัททิ้งไหม?

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่กราฟติดลบและมันจะส่งผลหนักขึ้นหากคุณเทรดใน lot ที่สูงเกินกว่าพอร์ตคุณจะรับได้ บางครั้งการที่เรากำหนดเป้าว่าจะต้องได้วันละเท่าไหร่ ๆ เป็นการบังคับตัวเองมากเกินไปเพราะบางวันกราฟไม่ได้วิ่งในแบบที่คุณต้องการคุณก็ต้องจำเป็นที่จะต้งอดทนในการบริหารพอร์ตของคุณ คุณต้องรู้จักอดทนรอ มาร์จิ้นเป็นเหมือนกับน้ำที่อยู่ในแก้วใบหนึ่ง หากคุณค่อย ๆ กินน้ำทีละนิดคุณก็สามารถกินน้ำจากแก้วนั้นได้นานขึ้น แต่หากว่าคุณกินน้ำไว น้ำในแก้วนั้นก็จะหายไปอย่างรวดเร็วก็เหมือนกับการที่เราเทรด lot น้อย ๆ พื้นที่ที่จะปล่อยให้กราฟลากมาร์จิ้นไปก็จะมีมากขึ้นแต่หากว่าคุณลง lot หนักมากเท่าไหร่ พื้นที่วิ่งของมาร์จิ้นก็จะมีน้อยลง แคบลงมากเท่านั้น เพราะแบบนี้ละครับผมถึงบอกว่าผู้เทรดจะต้องปรับความโลภของคุณให้สมดุลกับพอร์ตของคุณ แต่หากว่าประสบการณ์คุณถึงมันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะคุณจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน การเทรดเพียง 10% ของพอร์ตเป็นเพียงทฤษฎีในอุดมคติที่เทรดเดอร์มือใหม่สมควรทำ แต่หากคุณมั่นใจในฝีมือการเทรดของคุณคุณจะเพิ่มเป็น 30% ก็ไม่มีใครว่าครับ เพราะคุณพอใจในความเสี่ยงนั้นและรับมันได้ทุกอย่างมันก็จบ


ปล. การปั่นเงินจากก้อนเล็ก ๆ เป็นก้อนใหญ่ ๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และถ้าทำได้ก็จะดีมาก ๆ ครับแต่ก็เหนื่อยหน่อยนะ

โค๊ด: [Select]
http://www.thaiforexschool.com/viewfulldetial.php?id=367&&name=%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94%20(%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD)
  • Tamol

  • ****
  • สถานะ: ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 1 | กระทู้ 250
  • เพศ: ไม่ระบุ
วิธีเปิดบัญชี forex exness อย่างละเอียด 2023 ทีละขั้นตอน | วิธีสมัคร Forex Update 2566



 

SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums