• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า ช่วงนี้แม้ว่าจะเป็นเดือนเมษายน แต่ในบางจังหวัดก็มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะในภาคใต้ ตกแบบเหมือนแทบจะเป็นฤดูฝน เพื่อนๆ ที่จะไปไหนมาไหนก็ต้องติดตามข่าวสารกันให้ดีนะคะ และวันนี้เรามาดู ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Forex ราคาสกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์นั้นได้รับอิทธิพลจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งนักเทรดควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน:


อัตราดอกเบี้ย:
นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางมีผลโดยตรงต่อมูลค่าสกุลเงิน โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น


ตัวเลขเศรษฐกิจ:
ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น GDP อัตราการจ้างงาน หรืออัตราเงินเฟ้อ สามารถสะท้อนถึงสุขภาพของเศรษฐกิจ หากข้อมูลออกมาในเชิงบวก มักจะช่วยหนุนค่าสกุลเงินให้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ข่าวลบอาจกดดันให้ค่าเงินอ่อนลงได้


เสถียรภาพทางการเมือง:
สภาพแวดล้อมทางการเมืองของประเทศนั้นมีผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน หากประเทศมีเสถียรภาพสูง ย่อมสร้างความมั่นใจและดึงดูดการลงทุน ตรงกันข้าม หากเกิดความไม่แน่นอนหรือวิกฤติทางการเมือง ก็อาจทำให้ค่าเงินผันผวนและอ่อนตัวลงได้


ความเชื่อมั่นของตลาด:
การคาดการณ์และความรู้สึกของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางของสกุลเงินก็มีผลต่อราคาด้วย หากตลาดมีความเชื่อมั่นว่าเงินสกุลหนึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ความต้องการซื้อจะสูง ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นตาม


เหตุการณ์ระดับโลก:
ปัจจัยภายนอก เช่น ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือโรคระบาดใหญ่ ล้วนสามารถกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างฉับพลันและมักไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ง่าย



รูปแบบการเทรดในตลาด Forex

การเทรดฟอเร็กซ์สามารถดำเนินการได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถยอมรับได้ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ดังนี้:


ตลาดสปอต (Spot Market):

เป็นตลาดที่มีการซื้อขายสกุลเงินเพื่อส่งมอบทันที ราคาจะสะท้อนอุปสงค์และอุปทานในช่วงเวลานั้นแบบเรียลไทม์ การชำระเงินมักเกิดขึ้นภายในสองวันทำการ และเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักเทรด


ตลาดฟอร์เวิร์ด (Forward Market):

ในตลาดนี้ นักเทรดจะทำสัญญาซื้อขายสกุลเงินล่วงหน้าตามราคาที่ตกลงกันไว้ เหมาะสำหรับบริษัทหรือสถาบันที่ต้องการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน


ตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market):

คล้ายกับตลาดฟอร์เวิร์ด แต่มีการมาตรฐานของสัญญาและซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ ตลาดนี้มักเป็นที่นิยมของนักเก็งกำไรที่หวังผลตอบแทนจากความเคลื่อนไหวของราคา


ตลาดออปชั่น (Options Market):

เป็นตลาดที่ให้นักลงทุนมีสิทธิในการซื้อหรือขายสกุลเงินในราคาที่กำหนด ภายในเวลาที่ระบุไว้ โดยไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องดำเนินการจริง จึงเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นสำหรับการบริหารความเสี่ยง


CFDs (Contracts for Difference):

CFDs เป็นตราสารอนุพันธ์ที่อนุญาตให้เก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินโดยไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์จริง การใช้เลเวอเรจช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน

[rannie2020]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า ช่วงนี้แม้ว่าจะเป็นเดือนเมษายน แต่ในบางจังหวัดก็มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะในภาคใต้ ตกแบบเหมือนแทบจะเป็นฤดูฝน เพื่อนๆ ที่จะไปไหนมาไหนก็ต้องติดตามข่าวสารกันให้ดีนะคะ และวันนี้เรามาดู ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Forex ราคาสกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์นั้นได้รับอิทธิพลจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งนักเทรดควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน:


อัตราดอกเบี้ย:
นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางมีผลโดยตรงต่อมูลค่าสกุลเงิน โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น


ตัวเลขเศรษฐกิจ:
ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น GDP อัตราการจ้างงาน หรืออัตราเงินเฟ้อ สามารถสะท้อนถึงสุขภาพของเศรษฐกิจ หากข้อมูลออกมาในเชิงบวก มักจะช่วยหนุนค่าสกุลเงินให้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ข่าวลบอาจกดดันให้ค่าเงินอ่อนลงได้


เสถียรภาพทางการเมือง:
สภาพแวดล้อมทางการเมืองของประเทศนั้นมีผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน หากประเทศมีเสถียรภาพสูง ย่อมสร้างความมั่นใจและดึงดูดการลงทุน ตรงกันข้าม หากเกิดความไม่แน่นอนหรือวิกฤติทางการเมือง ก็อาจทำให้ค่าเงินผันผวนและอ่อนตัวลงได้


ความเชื่อมั่นของตลาด:
การคาดการณ์และความรู้สึกของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางของสกุลเงินก็มีผลต่อราคาด้วย หากตลาดมีความเชื่อมั่นว่าเงินสกุลหนึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ความต้องการซื้อจะสูง ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นตาม


เหตุการณ์ระดับโลก:
ปัจจัยภายนอก เช่น ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือโรคระบาดใหญ่ ล้วนสามารถกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างฉับพลันและมักไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ง่าย



รูปแบบการเทรดในตลาด Forex

การเทรดฟอเร็กซ์สามารถดำเนินการได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถยอมรับได้ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ดังนี้:


ตลาดสปอต (Spot Market):

เป็นตลาดที่มีการซื้อขายสกุลเงินเพื่อส่งมอบทันที ราคาจะสะท้อนอุปสงค์และอุปทานในช่วงเวลานั้นแบบเรียลไทม์ การชำระเงินมักเกิดขึ้นภายในสองวันทำการ และเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักเทรด


ตลาดฟอร์เวิร์ด (Forward Market):

ในตลาดนี้ นักเทรดจะทำสัญญาซื้อขายสกุลเงินล่วงหน้าตามราคาที่ตกลงกันไว้ เหมาะสำหรับบริษัทหรือสถาบันที่ต้องการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน


ตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market):

คล้ายกับตลาดฟอร์เวิร์ด แต่มีการมาตรฐานของสัญญาและซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ ตลาดนี้มักเป็นที่นิยมของนักเก็งกำไรที่หวังผลตอบแทนจากความเคลื่อนไหวของราคา


ตลาดออปชั่น (Options Market):

เป็นตลาดที่ให้นักลงทุนมีสิทธิในการซื้อหรือขายสกุลเงินในราคาที่กำหนด ภายในเวลาที่ระบุไว้ โดยไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องดำเนินการจริง จึงเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นสำหรับการบริหารความเสี่ยง


CFDs (Contracts for Difference):

CFDs เป็นตราสารอนุพันธ์ที่อนุญาตให้เก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินโดยไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์จริง การใช้เลเวอเรจช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน