• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า สิ้นเดือนทีนึง เหมือนจะหายใจออกเพราะเงินเดือนเข้า แต่รายจ่ายก็มาสิ้นเดือนเช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีงานและมีเงินเพราะทุกวันมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นการหาเงินจึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา ต่อยอด เพื่อทำกำไรให้เรามีเพิ่มขึ้นๆ ในอนาคตกัน และวันนี้เรามาดู แนวโน้มของสกุลเงินหลักในปี 2025 ก่อนที่เราจะลงลึกในรายละเอียดของแต่ละสกุลเงินหลักในปี 2025 มาดูภาพรวมกันก่อนว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อแนวโน้มของตลาด Forex ในปีนี้ ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์, การจับตาดูนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), หรือเศรษฐกิจจีนที่มีบทบาทมากขึ้นบนเวทีโลกและความตึงเครียดในภูมิภาคต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ตลาด Forex มีทั้งความผันผวนและโอกาสมหาศาลสำหรับนักลงทุน การเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจแนวโน้มของค่าเงินแต่ละสกุลจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการวางกลยุทธ์การลงทุน

1. ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ข้อมูลจาก ING และ HSBC ยังเชื่อว่าดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยแนวทางของ Fed ในปี 2025 จะยังคงเป็นปัจจัยชี้นำสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นหรือปรับลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปในยุคที่โดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก (2017-2021) จะพบว่าเขามีนโยบายที่สนับสนุนการอ่อนค่าของดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการส่งออกและเน้นเศรษฐกิจในประเทศตามแนวทาง “America First” นักลงทุนจึงต้องจับตาดูว่า “คนเดิมในสถานการณ์ใหม่” จะเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายเดิมหรือไม่

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/JPY, EUR/USD

2. ยูโร (EUR)
แม้ว่าค่าเงินยูโรจะเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลก แต่ในปี 2025 ก็ยังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจยุโรปที่ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะจากผลกระทบของสงครามในยูเครนและวิกฤตพลังงาน อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าอัตราการว่างงานในยุโรปจะเพิ่มสูงขึ้น หากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันค่าเงินยูโรในปีนี้

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: EUR/USD, EUR/GBP

3. เงินปอนด์ (GBP)
ค่าเงินปอนด์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากผลกระทบของ Brexit ที่ยังไม่สิ้นสุด และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในประเทศอังกฤษ นักลงทุนจับตาว่า ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) จะเลือกใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือไม่ หาก BOE ลดดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อาจทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภาคบริการและภาคการส่งออกยังคงมีบทบาทช่วยพยุงค่าเงินในระยะกลาง

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: GBP/USD, EUR/GBP

4. เยนญี่ปุ่น (JPY)
หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมาอย่างยาวนาน ปี 2025 อาจเป็นจุดเปลี่ยน หาก BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ เงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องภาระหนี้สาธารณะและการบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา อาจกดดันค่าเงินเยนในระยะยาว ความผันผวนที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/JPY, EUR/JPY

5. เงินหยวนจีน (CNY)
ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนยังคงผลักดันนโยบาย Made in China 2025 และโครงการ Belt and Road Initiative ที่เน้นการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้เงินหยวนมีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะ “สกุลเงินสำรองโลก” โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ BRICS อีกทั้งการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพและเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/CNY, EUR/CNY

[rannie2020]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า สิ้นเดือนทีนึง เหมือนจะหายใจออกเพราะเงินเดือนเข้า แต่รายจ่ายก็มาสิ้นเดือนเช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีงานและมีเงินเพราะทุกวันมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นการหาเงินจึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา ต่อยอด เพื่อทำกำไรให้เรามีเพิ่มขึ้นๆ ในอนาคตกัน และวันนี้เรามาดู แนวโน้มของสกุลเงินหลักในปี 2025 ก่อนที่เราจะลงลึกในรายละเอียดของแต่ละสกุลเงินหลักในปี 2025 มาดูภาพรวมกันก่อนว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อแนวโน้มของตลาด Forex ในปีนี้ ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์, การจับตาดูนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), หรือเศรษฐกิจจีนที่มีบทบาทมากขึ้นบนเวทีโลกและความตึงเครียดในภูมิภาคต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ตลาด Forex มีทั้งความผันผวนและโอกาสมหาศาลสำหรับนักลงทุน การเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจแนวโน้มของค่าเงินแต่ละสกุลจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการวางกลยุทธ์การลงทุน

1. ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ข้อมูลจาก ING และ HSBC ยังเชื่อว่าดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยแนวทางของ Fed ในปี 2025 จะยังคงเป็นปัจจัยชี้นำสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นหรือปรับลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปในยุคที่โดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก (2017-2021) จะพบว่าเขามีนโยบายที่สนับสนุนการอ่อนค่าของดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการส่งออกและเน้นเศรษฐกิจในประเทศตามแนวทาง “America First” นักลงทุนจึงต้องจับตาดูว่า “คนเดิมในสถานการณ์ใหม่” จะเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายเดิมหรือไม่

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/JPY, EUR/USD

2. ยูโร (EUR)
แม้ว่าค่าเงินยูโรจะเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลก แต่ในปี 2025 ก็ยังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจยุโรปที่ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะจากผลกระทบของสงครามในยูเครนและวิกฤตพลังงาน อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าอัตราการว่างงานในยุโรปจะเพิ่มสูงขึ้น หากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันค่าเงินยูโรในปีนี้

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: EUR/USD, EUR/GBP

3. เงินปอนด์ (GBP)
ค่าเงินปอนด์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากผลกระทบของ Brexit ที่ยังไม่สิ้นสุด และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในประเทศอังกฤษ นักลงทุนจับตาว่า ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) จะเลือกใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือไม่ หาก BOE ลดดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อาจทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภาคบริการและภาคการส่งออกยังคงมีบทบาทช่วยพยุงค่าเงินในระยะกลาง

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: GBP/USD, EUR/GBP

4. เยนญี่ปุ่น (JPY)
หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมาอย่างยาวนาน ปี 2025 อาจเป็นจุดเปลี่ยน หาก BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อ เงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องภาระหนี้สาธารณะและการบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา อาจกดดันค่าเงินเยนในระยะยาว ความผันผวนที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/JPY, EUR/JPY

5. เงินหยวนจีน (CNY)
ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนยังคงผลักดันนโยบาย Made in China 2025 และโครงการ Belt and Road Initiative ที่เน้นการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้เงินหยวนมีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะ “สกุลเงินสำรองโลก” โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ BRICS อีกทั้งการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพและเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

คู่เงินที่เกี่ยวข้อง: USD/CNY, EUR/CNY