• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

ยิ่งคุณอยู่ในตลาดฟอเร็กซ์นานเท่าไหร่ คุณก็จะรู้จักตลาดฟอเร็กซ์ในแง่มุมต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มรู้จักตัวละครที่สำคัญในตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งมีทั้งผู้เล่นเป็นบทพระเอก นางเอก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือบทผู้ร้ายนั่นเอง ขอบอกเลยว่า ในตลาดนึ้คนเล่นเป็นบทผู้ร้ายหรือตัวโกงเยอะมาก และส่วนใหญ่จะเป็นพวกฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ (Forex Broker) นี่แหละตัวดี คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวคราวประเภทเสียๆหายๆ ของฟอเร็กโบรกเกอร์มาบ้างแล้ว และผมก็เคยได้รับประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกด้วย แต่มันก็คงเป็นการไม่สมควร หากผมจะมาสาธยายให้คุณฟังว่าใครผิดใครถูก อะไรยังไง เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร เอาเป็นว่า วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีเลือกฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ที่ไม่ทำให้เราช้ำใจ ที่กำลังเล่นบทบาทเป็นคนดีหรือเป็นพระเอกในตลาดฟอเร็กซ์กันดีกว่า

ผมได้สรุปวิธีการเลือกฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ในฝัน ได้เป็น 6 เทคนิค ดังนี้

1.มีการรับรองจากสถาบันการเงินในตลาดฟอเร็กซ์หรือไม่ (Qualifications) ข้อนี้อาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เวลาที่ผมจะทำการเลือกฟอเร็กโบรกเกอร์ เพื่อที่จะเปิดบัญชีสำหรับฝากเงินเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบให้มั่นใจกันก่อนว่า Forex Broker เจ้านี้ได้ผ่านการรับรองจากสถาบันซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดฟอเร็กซ์ (Forex Markets) หรือไม่ สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงสามารถการันตีเรื่องพวกนี้ได้ เช่น Commodity Futures Trading Commission (CFTC) หรือ Futures Commission Merchant (FCM)

2.มีการประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบบริการหรือการทุจริตภายในของโบรเกอร์หรือไม่ ข้อนี้ตอนสมัครใช้บริการก็อ่านรายละเอียดสัญญาของโบรกเกอร์แต่ละเจ้าให้ดีๆ ว่ามีแนวโน้มที่จะเล่นตุกติกอะไรหรือเปล่า

3.ตรวจสอบดูว่าลักษณะการให้บริการของฟอเร็กซ์โบรกเกอร์เป็นแบบไหน ในสองลักษณะต่อไปนี้
Dealing Desk (DD) คือ โบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งคำสั่งซื้อขายเข้าตลาดฟอเร็กซ์ โดยมีการรับกินเงินของลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้าเล่นเสียด้วย และยังได้ค่าคอมมิชชั่นจากค่า spread ที่เปลี่ยนแปลงตามใจชอบได้อีกต่างหาก
Non-Dealing Desk (NDD) คือ โบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่ส่งคำสั่งเข้าไปที่สถาบันการเงินในตลาดฟอเร็กซ์เลย โดยไม่มีการรับกิน ได้ค่าคอมมิชชั่นจากค่า spread เท่านั้น และส่วนใหญ่ค่า spread ค่อนข้างคงที่
ส่วนตัวผมเทรดกับ Oanda ซึ่งเป็น Dealing Desk (DD) อยากจะรับกินเงินผม ก็มาเลยไม่มีกลัว (ขำๆ)

4.ลักษณะของค่า Spread เป็นแบบไหน ระหว่าง
Dynamic Spread (spread เปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบของฟอเร็กซ์โบรกเกอร์) กับ
Fix Spread คือ ค่า spread ค่อนข้างตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง
จากนั้นให้เปรียบเทียบดูว่าในคู่สกุลเงินที่เราเทรด ในแต่ละโบรกเกอร์ให้ค่า Spread ที่แตกต่างกันหรือไม่ เพราะยิ่งได้ค่า spread ที่ต่ำกว่าจะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ

5.ค่า Slippage คือค่าความต่างของราคาอัตราแลกเปลี่ยนที่เราตั้งใจในการเปิดออร์เดอร์ กับราคาที่โบรกเกอร์เปิดออร์เดอร์ให้เราจริงๆ หรือสามารถจับคู่ราคาซื้อขายให้เราได้จริงๆ ในช่วงเวลาที่ตลาดมีการซื้อขายอย่างหนาแน่นและรวดเร็ว ข้อนี้ก็สำคัญมาก ต้องดูนโยบายเรื่อง slippage ของเขาให้ดีๆ เพราะมันเหมือนเป็นช่องโหว่ให้โบรกเกอร์กินเงินเราเลย ยกตัวอย่างเช่น คุณตั้งออร์เดอร์ Buy GBP/USD ไว้ที่ 1.70226 แต่โบรกเกอร์ของคุณอาจจะสามารถจับคู่ราคาให้คุณได้ที่ 1.71226 ซึ่งค่า slippage จะเท่ากับ 100 pips เลยทีเดียว นั่นหมายความว่าคุณจะติดลบทันที -100 pips ที่มีการเปิดออร์เดอร์นี้ น่ากลัวใช่ไหมหละ เหมือนถูกปล้นเลย

6.ตรวจสอบข้อกำหนดอื่นๆ รวมถึงนโยบายต่างๆที่ทางโบรกเกอร์กำหนด ก่อนเปิดบัญชีเทรดฟอเร็กซ์เงินจริงกับเขา ทางที่ดีเปิดบัญชีเงินปลอมฝึกเทรดเพื่อทดสอบระบบและการบริการของฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ที่คุณกำลังให้ความสนใจอยู่ จะเป็นการดีกว่า

ทั้งหมดก็เป็น 6 เทคนิค วิธีการเลือกฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ในฝัน อ่านแล้วก็ขอให้ลองนำไปปฏิบัติจริงให้ได้ และขอให้เพื่อนๆทุกๆคน จงพบกับฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับตนเองในเร็ววัน สวัสดี

โค๊ด: [Select]

http://www.forexheng.com/6-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99/

ขอบคุณครับสําหรับการสอนเทรด