วิธี forex โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD) คืออะไร ใช้อย่างไร

อ่าน 1520 ครั้ง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นักเทรด Forex ต้องไม่พลาดเรื่องนี้แน่นอน forex โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD) คืออะไร ใช้อย่างไร

การทำงาน / กำไรที่โบรกเกอร์หรือเทรดเดอร์ที่จะได้
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราส่งคำสั่งไปยังโบรกที่เป็น Dealing Desk ถ้าเราได้กำไรจากตรงนั้นโบรกเกอร์ก็จะส่งคำสั่งไปที่แบงค์เพื่อหาลูกค้าคนอื่นๆ หรือไปที่แบงค์เพื่อเอาเงินมาให้เรา ส่วนที่เสียก็จะเป็นกำไรของโบรกเกอร์ไป และรายได้อีกอันหนึ่งของโบรกเกอร์ก็คือ Spread ของโบรกที่กำหนดไว้ตายตัว หรือเราเรียกว่า Market Maker โดย Dealing Desk จะเป็นคนกำหนดราคาอันตราแลกเปลี่ยนเอง ก็คือจะเป็นราคาของโบรกเกอร์ซึ่งไม่ใช่ราคาจาก Liquidity Provider (หรือเราเรียกว่า แบงค์ หรือ จาก บ.ที่ป้อนราคา บิด และ ออฟเฟอ ให้กับโบรกเกอร์) ซึ่งเราจะไม่เห็นราคาจริงๆ จากแบงค์ครับ

โบรกเกอร์ DD  จะมีห้องรวบรวมข้อมูลของลูกค้าไว้ และจะมีพนักงานคอยตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าบางคนที่โบรกเกอร์สามารถรับกินเองได้ ก็จะดักไว้กินเอง จะไม่ส่งเข้าตลาดฟอเร็ก  แต่ถ้ากินไม่ได้ก็จะกินแต่สเปรด และส่งข้อมูลของลูกค้าเข้าตลาด

โบรกเกอร์ DD จึงคล้ายๆคนเดินโพยหวย (แต่จะซับซ้อนกว่ามากๆ) สมมุติว่าคุณเป็นคนเดินโพยหวย งวดนี้มีคนแทงหวย 2 ตัว (เลขท้าย 2 ตัว เลขที่จะออกได้จะมีตั้งแต่ 00, 01, … 99 ทั้งหมด 100 ตัว) ซึ่งแทง 1 บาทถ้าถูกจะได้ 70 บาท เกิดงวดนี้มีคนแทงเลขต่างๆ มา หลังจากสรุปผลก่อนนำส่งเจ้ามือแล้ว มีเลขแตกต่างกันถึง 80 ตัว (มี 20 ตัวไม่มีใครแทงเลย) ง่ายๆ ว่าแทงตัวละ 10 บาทเท่ากันหมด



ถามว่าคุณจะนำส่งเจ้ามือหรือไม่ คุณก็ต้องคิดว่า ถ้าคุณส่งเจ้ามือคุณได้เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ แล้วถ้าคุณเก็บไว้เอง ไม่นำส่ง คุณจะได้เท่าไหร่ แน่นอนถ้าเก็บไว้เองก็จะได้เงินเท่ากับ 80×10=800 บาท ถ้าเกิดหวยออกใน 20 ตัวที่ไม่มีใครแทงก็จะได้เต็มๆ 800 แต่สมมุติหวยออกใน 80 ตัวที่มีคนแทง คุณก็จะต้องจ่ายเท่ากับ 10×70=700 (แทง 10 บาท จ่ายบาทละ 70) ก็ยังได้กำไร= 800-700=100 บาท

จะเห็นว่าคุณไม่มีสิทธิ์ขาดทุนเลยใช่ไหมครับ ถ้ามีการแทงกันกระจายเกือบครบทุกตัวแบบนี้ ที่นี้ด้านคนซื้อหวย กระทบอะไรหรือไม่ ก็ไม่กระทบครับ แทงถูก 10 บาทก็ได้ 700 เหมือเดิมครับ

อันนี้ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ นะครับ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับพวกบ่อนการพนัน และพวกนายหน้า หรือคนเดินโพยทั่วไปใช้อยู่เป็นปกติ ย้ำว่าเป็น “ปกติ” นะครับ และมันไม่ได้กระทบกับผู้เล่น แต่เป็นการเพิ่มรายได้ให้คนเดินโพย

กลับมาที่ DD อาจจะต้องซับซ้อนกว่า และอาศัยข้อมูลประกอบมากขึ้นครับ เขามีระบบคอมพิวเตอร์คำนวณและเปรียบเทียบตัดสินใจหลายๆด้าน เพื่อให้ DD เองมีกำไรมากขึ้นนอกจาก spread อย่างเดียว นั่นมันก็เรื่องของ DD ครับ ไม่กระทบเราก็พอแล้ว



เราจะเลือกโบรกเกอร์ประเภทไหนดี?
โบรกเกอร์แต่ละประเภทก็จะมีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป เราจึงควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของเราอย่างแท้จริง หรือประเมินจากการยอมรับได้ด้วยเหตุผลเฉพาะตัวของเราเอง อย่างเช่น ประเภท Dealing Desk (DD) ก็จะมีค่าบริการที่ค่อนข้างถูกและสเปรดคงที่ (Fix Spread) และประเภท No Dealing Desk (NDD) ก็จะมีค่าบริการค่อนข้างสูงกว่าแต่ก็ได้รับบริการที่สูงกว่า และความปลอดภัยที่มากกว่า มาชดเชยครับ

แต่อย่างไรก็ตามเราก็ควรต้องเข้าไปดูเงื่อนไขของโบรกเกอร์แต่ละบริษัทด้วยนะครับว่าเป็นอย่างไร และมีความน่าเชื่อถือสูงหรือไม่ เพราะบางทีโบรกเกอร์บางบริษัทในรูปแบบประเภท Dealing Desk (DD) อาจจะมีความน่าเชื่อถือกว่าโบรกเกอร์บางบริษัทที่เป็นประเภท No Dealing Desk (NDD) ด้วยซ้ำไปครับ

ปัจจุบันนี้ มีโบรกเกอร์ต่างๆมากมายเกิดขึ้นทำให้มีการแข่งขันกันอย่างมาก ดังนั้น โบรกเกอร์ต่างๆก็พยายามทำให้ตัวเองมีข้อดี มีจุดเด่นเยอะๆ เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้า และถ้ามีข้อเสียมากเท่าไหร่ลูกค้าก็จะยิ่งมีน้อยลงไปเท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้การสมัครโบรกเกอร์ ตลอดจนกระทั่งการยืนยันตัวตนนับเป็นเรื่องง่ายๆแล้ว ลูกค้าเมื่อเห็นว่าโบรกไหนไม่เวิร์คก็สามารถเปลี่ยนใจไปใช้อีกโบรกได้โดยใช้เวลาไม่นาน เป็นสาเหตุให้โบรเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่โกงหรือเอาเปรียบลูกค้าแบบโต้งๆหรอกครับ เน้น !.. แค่ส่วนใหญ่เท่านั้นเองนะครับ ถ้าคุณโชคร้ายไปเจอส่วนน้อย ก็รีบเปลี่ยนซะครับ….^_^



ตัวอย่างโบรกเกอร์ที่เป็นแบบ โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD)

1.โบรกเกอร์ FBS

2.โบรกเกอร์ FXCL(Fix Spread)

3.โบรกเกอร์ Fxprimus

4.โบรกเกอร์ Exness(mini, cent) เป็นต้น

โดยโบรกเกอร์ระบบ DD / Market Maker ที่น่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะ Fix Spread (Spread คงที่ไม่เปลี่ยน)

โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD) คืออะไร
โบรกเกอร์ที่ให้บริการเราในตลาดนั้นจะแบ่งออกมาเป็น 2 ประเภทคือ แบบ DD หรือ โบรกเกอร์ Dealing Desks กับอีกแบบคือ NDD ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันในด้านการให้บริการการเทรด forex อย่างชัดเจน แต่สำหรับบทความนี้เราจะกล่าวเจาะประเด็นเฉพาะ DD เท่านั้น ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันครับ



ประเภทของโบรคเกอร์
โบรกเกอร์ ก็คือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการรับส่งคำสั่งของเราเข้าไปสู่ตลาด Forex โดยโบรกเกอร์จะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

1.Dealing Desk (DD) หรือที่เรียกว่า Market Maker คือ โบรกเกอร์ที่ดำเนินการผ่านเคาน์เตอร์จัดการ (Dealing Desk) จะมีห้องรวบรวมข้อมูลของลูกค้าไว้ และจะมีพนักงานคอยตรวจสอบข้อมูลของลูกค้า ออร์เดอร์ที่คุณสั่งก็จะอยู่ในมือของโบรกเกอร์ เมื่อเราทำการซื้อขาย โบรกเกอร์ก็จะทำการจับคู่กับอีกฝั่งหนึ่งให้เรา

2.No Dealing Desk (NDD) คือ โบรกเกอร์ที่มีการส่งข้อมูล ด้านคำสั่งซื้อขายของเราเข้าไปที่ส่วนกลางโดยตรง โดยที่ไม่ผ่าน server หลักของทางโบรกเกอร์ก่อน สามารถแยกย่อยได้อีก คือ

Straight Through Processing (STP) คือ การประมวลผลโดยตรง
Electronic Communication Network + Straight Through Processing (ECN+STP) คือ ระบบอัตโนมัติเพื่อเก็บคำสั่งซื้อที่ตรงกัน + การประมวลผลโดยตรง
ซึ่งในบทความนี้จะขอเจาะประเด็นแต่เพียง Dealing Desk (DD) นะครับ เนื่องจากประเภทอื่นๆได้เขียนอย่างละเอียดไว้ในหัวข้อนั้นๆแล้วครับ ลองคลิกอ่านดูได้ เพราะถ้ารวมกันไว้ที่นี้หมด หน้าเว็บจะยาวไป คนอ่านคงตาลายครับ..555

 โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD) คืออะไร (8)โบรกเกอร์ Dealing Desks (DD) คืออะไร
โบรกเกอร์แบบ Dealing Desks (DD) หรือหลายคนอาจจะเรียกว่า  Market Maker คือ โบรกเกอร์ประเภทที่ไม่ได้ส่งคำสั่ง ซื้อ ขาย ของเราเข้าสู่ตลาดกลางโดยตรง คือจะเป็นไปในลักษณะ

ตัวเรา —> สั่งคำสั่งซื้อเข้า MT4 —> โบรกเกอร์

โบรกเกอร์จะดำเนินการผ่านเคาน์เตอร์จัดการ (Dealing Desk) โดยจะมีห้องรวบรวมข้อมูลของลูกค้าไว้ และจะมีพนักงานคอยตรวจสอบข้อมูลของลูกค้า ออร์เดอร์ที่คุณสั่งก็จะอยู่ในมือของโบรกเกอร์ เมื่อเราทำการซื้อขาย โบรกเกอร์ก็จะทำการจับคู่กับอีกฝั่งหนึ่งให้เรา เช่น เมื่อเราเปิดคำสั่ง Buy EUR/USD จำนวน 1 lot โบรคเกอร์จะพยายาม หาคำสั่ง Sell ของลูกค้ารายอื่นๆ มาจับคู่ กับออเดอร์ Buy ของเรา โดยหากจับคู่ไม่ได้ ก็จะส่งออเดอร์ของเรา ไปให้ฝ่ายบริหารจัดการสภาพคล่องของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ที่พร้อมจะซื้อขายทางการเงินอยู่แล้ว ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของ broker เพราะโบรกเกอร์จะได้เงินจากค่าสเปรดโดยไม่ต้องถือออเดอร์ที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับออเดอร์ของเรา


ราคาที่เราเห็นในโบรกเกอร์ประเภทนี้จะเป็นราคาที่โบรกเกอร์เป็นตัวกำหนดขึ้นมาเอง เอาง่ายๆเลยก็คือราคาที่เราเห็นนั้นเป็นราคาอัตราแลกเปลี่ยนเทียม แต่โบรกเกอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะอ้างอิงราคามาจากตลาดจริง รายได้ของโบรกเกอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมาจากค่าสเปรดครับ

โบรกเกอร์ Forex  ประเภท Dealing Desk หรือ เราเรียกว่า Market Maker โบรกเกอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะ Fix Spread (Spread คงที่ไม่เปลี่ยน) การซื้อขายคำสั่งจะเข้าไปที่ห้องวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ก่อน ก่อนที่จะส่งไปตลาด โบรกเกอร์มีสิทธิ์ที่จะเก็บออเดอร์ของเราไว้ในบางออเดอร์(เก็บไว้กินเองว่างั้น) ในเรื่องของความรวดเร็วในการเปิด และปิดออเดอร์ โบรกเกอร์ประเภทนี้ หรือบัญชีประเภทนี้ ก็จะช้ากว่าประเภท NDD ราคาที่เราเห็นในกราฟก็จะช้ากว่าราคาตลาดอยู่นิดหน่อยครับ

ทั้งนี้ในแต่ละโบรกเกอร์(โดยเฉพาะโบรกเกอร์ใหญ่ๆ ด้านล่าง) อาจจะมีบัญชีอยู่หลายประเภท สามารถเลือกได้ครับว่าชอบแบบไหน สำหรับผมแนะนำ NDD หรือ ECN ครับ แบบ Fix Spread จะมีประโยชน์คือ ในกรณีที่กราฟพุ่งขึ้น ลง แรงมากๆภายใน 1-2 วินาที กราฟจะไม่ขยับแบบหวือหวา ทำให้เราไม่ต้องไปตื่นตระหนกกับมันนัก และ Spread ก็กำหนดได้แบบตายตัว มันไมมากหรือน้อยไปกว่านี้อีกแล้วไม่ว่าเวลาไหน ถ้าทางโบรกจะเปลี่ยนเขาจะส่งจดหมายมาหรือประกาศให้รู้ทั่วกันครับ

อีกอย่างคือ EA บางตัวจะเหมาะกับแบบ FIX มากกว่าครับ


ลักษณะของโบรกเกอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะ Fix Spread (Spread คงที่ไม่เปลี่ยน) และค่าบริการต่างๆจะค่อนข้างถูกด้วย
  • นักศึกษา22

  • ***
  • สถานะ: ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 0 | กระทู้ 201
  • เพศ: ไม่ระบุ
วิธีเปิดบัญชี forex exness อย่างละเอียด 2023 ทีละขั้นตอน | วิธีสมัคร Forex Update 2566



 

SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums