Messages

สวัสดีค่ะ ใกล้ปีใหม่มาอีกครั้งแล้ว ปีนี้เวลาผ่านไปไวมาก และโ๕วิดตัวร้ายก็อยู่กับเรามานานเป็นปี หลายคนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด อย่าลืมใส่เเมส ล้างมือด้วยนะคะ  เมื่อนึกถึงการเทรด พวกเรามักนึกถึงตราสารทุนบนตลาดหุ้นและก็มักคิดเอาเองว่าการเทรด Forex มีลักษณะแบบเดียวกัน จริงๆแล้วการเทรด Forex มีความแตกต่างจากการลงทุนในตราสารทุนอยู่หลายประการ

สกุลเงินเทรดเป็นคู่ ส่วนตราสารทุนคือหุ้นทางกายภาพที่ซื้อด้วยเงิน
ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดซื้อขายโดยตรงผ่านเคาน์เตอร์แบบกระจายศูนย์ที่ซึ่งข้อมูลของทุกธุรกรรมที่ทำแล้วก็ผู้เข้าร่วมจะถูกเก็บเป็นความลับ ซึ่งแตกต่างจากตลาดหุ้นที่เป็นตลาดรวมศูนย์และมีการบันทึกผู้ซื้อและผู้ขายเป็นสาธารณะ

การเทรด Forex ใช้เงินทุนเริ่มต้นต่ำ สำหรับในการที่จะทำกำไรแบบเป็นกอบเป็นกำ นักเทรดตราสารทุนจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักสำหรับนักลงทุนที่มีรายได้จำกัด
การเทรด Forex ไม่ใช่การลงทุน เนื่องด้วยนักเทรดไม่ได้ถือครองสินทรัพย์ที่ทำธุรกรรมอยู่จริง ด้วยการเทรด CFD Forex เทรดเดอร์เก็งกำไรจากมูลค่าในอนาคตของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องสำหรับการเทรด ดังนั้น การเรียกการเทรด Forex ว่าเป็นการลงทุนจึงไม่ถูกต้อง เพราะนักเทรดเพียงแค่เก็งกำไรมูลค่าของสินทรัพย์เท่านั้น

การเทรด Forex มักจะดำเนินการผ่านผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) กับโบรกเกอร์ของคุณ ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างคุณกับโบรกเกอร์ในการชำระส่วนต่างของราคาสองสกุลเงินระหว่างตอนเปิดแล้วก็ตอนปิดสัญญาซื้อขายของคุณ สัญญานี้มีประโยชน์มาก เพราะนั่นหมายความว่าทั้งคุณแล้วก็โบรกเกอร์ของคุณ ไม่จำเป็นต้องถือครองสกุลเงินใดจริงๆ

เพื่อนๆ คนไหนตอนนี้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศบ้างคะ  ช่วงนี้เปิดประเทศแล้ว โรงเรียนก็มีเปิดบ้างแล้ว ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
สำหรับในการอ่านและติดตามความเสี่ยง risk on แล้วก็ risk off สามาถทำได้ด้วยการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น การเกิด risk on หรือความเสี่ยงต่ำ จะเกิดขึ้นเมื่อ พวกเราเห็นว่าตลาดหุ้นพุ่งตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมีความสุขกับการลงทุน ด้วยเหตุว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้สวย นักเทรดมืออาชีพจะรีบทุ่มเงินทุนรวมทั้งเก็งกำใรสำหรับการลงทุนกับหุ้นที่ให้กำไรสูง ตลาดหุ้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยสกุลเงินอย่าง AUD และ NZD


เมื่อตลาดหุ้นพุ่งตัวลงจะเป็นสัญญาณให้นักเทรดรู้ว่าเกิด risk off หรือมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนจะซื้อขายรวมทั้งลงทุนอย่างระมัดระวังและก็จำกัด เทรดเดอร์จะดึงเงินออกมาจากหุ้นและก็ขายสกุลเงินที่มีความเสี่ยงของตัวเองออกไป แล้วก็จะลงทุนซื้อ USD, YEN และก็ CHF ไว้เพื่อเก็งกำไรแทน สำหรับสถานการณ์ risk off จะเป็นสัญญาณ bearish หรือสัญญาณแง่ลบ ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคามักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเทรดจำเป็นที่จะต้องรับมือให้ทัน ให้ทำการ stop loss และก็เปิดออร์เดอร์ให้ดี สำหรับสัญญาณ bullish นั้นมักจะถูกตีความว่าเป็นสัญญาณด้านบวกหรือสัญญาณที่ดีเสมอ


การมีความรู้เรื่องของ risk on กับ risk off ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของนักเทรด forex ทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ช่วยให้นักเทรดหลีกเลี่ยงการ overtrade ได้เป็นอย่างดี สัญญาณของหุ้นสามารถนำทิศทางสำหรับในการเทรดของเราได้ เพียงแต่เราต้องรู้จักอ่านและก็ตีความหมายของสิ่งเหล่านี้ให้เป็น รับรองว่าฝีมือสำหรับการเทรดของเราก็ไม่ได้เป็นสองรองใครอย่างน่นอน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ที่ทำงานหรือกำลังเรียนในช่วงนี้ หลายๆ คนหมดไฟ เนื่องจากอยู่บ้านเวลานาน แนะนำว่าควรออกท่องเที่ยวธรรมชาติ เพื่อชาร์จพลัง เเละค่อยกลับมาเริ่มงานกันใหม่ และวันนี้มาดู เมื่อรู้สึกท้อในการทำกำไรในตลาด Forex   จะทำยังไงไป ดูกันเลยค่ะ

 


เป็นคำถามที่เทรดเดอร์หลายท่านกำลังต้องการทราบเป็นอย่างมาก ว่าเมื่อถึงเวลาที่รู้สึกท้อสำหรับในการทำกำไรในตลาด Forex ควรจะทำอย่างไร เนื่องจากว่าการทำกำไรใตลาด Forex ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนอย่าวที่ใครๆคิด ไม่สวยหรูเหมือนในโฆษณาชวนเชื่อ รวมทั้งเมื่อรู้สึกท้อ คุณควรหยุดเทรดไปก่อน ไม่ว่าเงินในพอร์ตของคุณจะเหลือหรือไม่เหลือก็ตาม เนื่องจากว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกท้อในการทำกำไร แสดงว่าคุณไม่มีกำลังในการทำกำไรต่อ โอกาสขาดทุนย่อมมีมากกว่ากำไรอย่างแน่นอน เมื่อคุณรู้สึกท้อเมื่อไร วิธีที่ดีที่สุดคือหยุดเทรดก่อน


หลังจากนั้นหาสิ่งที่บันเทิงเริงใจให้กับตนเอง บางทีอาจจะเป็นการดู Netflix, ดูหนัง, เล่นเกมส์, ช็อปปิ้ง หรือกิจกรรมอื่นๆซึ่งสามารถสร้างความบันเทิงใจให้กับคุณได้ การไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน เพราะว่าการไปเที่ยวจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและก็สบายใจ เมื่อหยุดเทรดและก็ไปทำกิจกรรมที่บันเทิงใจ ความรู้สึกของคุณกับตลาด Forex จะดีขึ้น จะทำให้คุณอยากเรียนรู้และก็ลองใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าหากคุณยังรู้สึกท้ออยู่ก็อาจจะใช้เวลาสำหรับในการทำสิ่งบันเทิงใจสักพักก่อนเพราะว่าถ้าหากใครที่มีโอกาสลงทุนในตลาด Forex ต้องเข้าใจอารมณ์ท้อกันทุกคน เพราะบางคนขาดทุนมากกว่ากำไร เป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งใครเจอแบบนี้ก็ต้องท้อเป็นธรรมดา


ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกท้อ อย่าพยายามดันทุรังทำกำไรต่อ แต่คุณต้องหยุดเทรดก่อน เพื่อใช้เวลาในการเปลี่ยนอารมณ์ รวมทั้งใช้เวลากับคนที่คุณรักมากขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถศึกษาเทคนิคของมืออาชีพหลายๆคนเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการออกออร์เดอร์ของตัวเองหรือแม้แต่การวางแผนการเงินในพอร์ตก็เป็นเรื่องที่คุณไม่ควรละเลย เนื่องจากว่าการทำสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้ท่านพัฒนาตัวเองมากขึ้น และก็เมื่อคุณกลับไปเทรดใหม่จะได้ไม่รู้สึกท้ออีก คุณท้อได้แต่อย่าถอย เพราะว่าการหยุดเพื่อไปหาสิ่งบันเทิงใจทำก่อนนั้น เพียงเพื่อช่วยให้คุณสบายใจขึ้น ไม่หมกมุ่นรวมทั้งไมม่ดันทุรังเท่านั้นเอง แต่เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าพร้อมจะสู้ใหม่แล้ว คุณก็ควรกลับไปทำกำไรอีกครั้ง โดยคุณจำเป็นต้องหาข้อผิดพลาดของตัวเองให้เจอ รวมทั้งฝึกฝนไม่ทำพลาดอีก


ถ้าหากวันนี้คุณท้อ ผู้เขียนอยากขอเป็นกำลังใจให้กับเทรดเดอร์ทุกคนที่กำลังท้ออยู่ว่า ไปหาสิ่งบันเทิงใจทำก่อนดีไหม แล้วกลับมาสู้ใหม่ เพราะเหตุว่าการกลับมาใหม่ของคุณจะทำให้คุณเก่งขึ้น เพราะว่าคุณได้ผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง คุณต้องไม่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างแน่นอน


ถ้าหากวันนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่ท้อ ก็อยากจะชวนให้หยุดเทรดแล้วไปหาสิ่งที่ชอบทำ เนื่องจากว่าการได้พาตัวเองออกไปรีแล็กซ์บ้างก็เป็นทางเลือกที่ดีที่เทรดเดอร์ทุกคนควรทำ เนื่องจากการทำสิ่งที่บันเทิงใจจะช่วยทำให้อารมณ์ของคุณเย็นลง และก็สามารถตกลงใจได้ดีขึ้นเมื่ออารมณ์เย็นลง อย่าเพิ่งล้มเลิกการเทรด Forex แค่หยุดไปสักพักก็พอ แล้วกลับมาสู้กันใหม่ค่า

สวัสดีค่ะ แม้ว่าช่วงนี้โควิดจะเงียบลง แต่เพื่อนการ์ดอย่าตก เดินหน้าใส่เเมสล้างมือ ดูแลสุขภาพกันต่อนะคะ และวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะมาขอแนะนำ 6 วิธี เทรด Forex ยังไงไม่ให้พอร์ตแตก อัพเดต 2021 ไปดูกันเลยจ้า


 


1. เล่นไม่เป็นอย่าเพิ่งลงในสนามจริง!!

Forex เป็นตลาดที่ค่อนข้างมีความเสี่ยง ผู้ที่จะประสบผลสำเร็จได้จะต้องชำนาญมากพอ แต่ว่า Forex ก็มีตัวช่วยทำให้เทรดเดอร์ได้ฝึกฝน เป็นสนามจำลองให้ท่านได้ฝึกเทรดก่อน ซึ่งเรียกว่า “บัญชีเดโม่” (บัญชีทดลองเทรด) แน่นอนว่าคุณควรฝึกในบัญชีเดโม่ให้คล่องก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยไปเปิดบัญชีเทรดจริง เนื่องจากถ้าหากคุณใจร้อนแล้วไปเทรดในสนามจริงเลย ก็มีความเสี่ยงต่อล้างพอร์ตแตก ท้อไปก่อนที่จะฝึกจนชำนาญแน่นอน



2. ยิ่งเรียนมาก โอกาสล้างพอร์ตยิ่งน้อย

ต่อเนื่องจากข้อ 1 ถ้าหากจะชำนาญได้ก็ต้องเรียนรู้เยอะ ในทุกสัปดาห์ให้ท่านอาจจะจัดตารางเรียน 1 ครั้ง เพื่อไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน เทคนิคกลยุทธ์ต่างๆนี่เป็นตัวช่วยให้อัตรา % การทำกำไรของคุณเพิ่มได้จริงๆนะ ซึ่งเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องง่ายมากๆตอนนี้ความรู้ยิ่งหาง่าย



3. หยุด Over Trade!

Over Trade ความหมายแบบตรงๆก็คือการเทรดเกินตัว เทรดเกินความสามารถ และก็ Over Trade ในที่นี้ก็คือการเปิด Lot สูงๆสวนทางกับจำนวนเงินในพอร์ต เล่น Lot ใหญ่ เพื่อหวังจะได้เงินเร็วๆในเวลาสั้นๆเช่นพอร์ตแค่ 100$ แต่กดออเดอร์ 0.10 รัวๆเป็นสิบไม้ หรือพอร์ตเพียงแค่ 1000$ แต่ว่านิยมชมชอบการกด 1.0 บ้าง 2.0 บ้าง 5.0 แบบนี้อย่าหาทำเลย เนื่องจากยังไงก็พอร์ตแตกแน่ๆทางที่ดีคือควรจะเทรดแบบมีแบบแผน วิเคราะห์แนวทางตลาดมาก่อน อย่าให้ความโลภเข้าครอบงำนะขอเตือน



4. รู้จัก Stop Loss ซะบ้าง!

เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าเล่นผิดทาง อย่าปล่อยให้โดนลากไปเรื่อยๆนะ ต้องใส่จุด Stop Loss ไม่งั้นผล ติดลบมากขึ้นเรื่อยๆแน่นอน หลายคนตอนที่ยังติดลบน้อยก็ไม่อยากคัท เนื่องจากว่ามันยังน้อยอยู่ แต่พอติดลบเยอะขึ้นเรื่อยๆก็ไม่อยากคัทอีกเนื่องจากคิดว่าเดี๋ยวมันจะกลับไปบวก แต่รอแล้วรอเล่ามันก็ไม่กลับตัวแถมติดลบมากขึ้น คราวนี้จะคัททิ้งก็ทำใจไม่ได้แล้วเนื่องจากมันเป็นเงินมากเกินไป ท้ายที่สุดทำไปทำมาก็ล้างพอร์ต เพราะฉะนั้น ควรมีจุด Stop Loss ทุกครั้งที่เล่น พวกเราต้องยอมตัดนิ้วเพื่อรักษาแขน ถอยหลังมาตั้งสติ แล้วค่อยวางแผนไปต่อนะ



5. สร้าง Money Management

Money Management คือการบริหารจัดการเงินลงทุนของพวกเรา ทำให้เรารู้ว่าควรจะเทรดเท่าไหร่ก็เลยจะมีความเสี่ยงพอร์ตแตกต่ำ ซึ่งสูตรการหา MM ก็มีหลายอย่าง แต่ที่ง่ายที่สุดก็คือการนำเงินทุนของพวกเราหาร 10,000 จะได้เท่ากับจำนวน Lot สูงสุดที่พวกเราสามารถเทรดได้ อย่างเช่น มีเงิน 2,000 บาท นำมาหาร 10,000 จะได้เท่ากับ 0.2 โน่นคือจำนวน Lot สูงสุดที่พวกเราสามารถลงได้และไม่โอเวอร์เทรด



6. อย่าเทรดกับโบรกเกอร์เถื่อน

อันนี้การันตรีได้เลยว่า การเทรดกับโบรกเกอร์เถื่อนเป็นหนทางที่จะทำให้คุณล้างพอร์ตได้ 100% รู้หรือไม่ว่าบางครั้งโบรกเกอร์ที่ไม่มีใบอนุญาต ไม่ได้เอาเงินพวกเราไปที่ตลาด Forex จริงๆพวกเขาแต่งกราฟปลอมๆทำทุกวิธีทางให้คุณขาดทุน แล้วฮุบเงินหนีไปอย่างสบายใจ ทางที่ดีควรจะเลือกโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ที่สนใจลงทุนเทรด หรือคนที่อยากหาเงินและอยากต่อยอดเงินที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นมือใหม่ แหรือมือโปร พอร์ทติดลบไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไร อยู่ที่ว่าเราสามารถแก้พอร์ทได้อย่างไร และวันนี้มาดู พอร์ท ติดลบ หนัก ทำอย่างไรดี อัพเดต 2021 ไปดูกันเลยค่ะ

 

ขั้นตอนที่ 1 “ ลดความเสี่ยง ”

สำหรับท่านที่เคยเข้าฟังสัมนาเราจะเน้นเสมอว่า ท่านจำเป็นต้องหมั่น "ตรวจสุขภาพของพอร์ท” ท่านเองอยู่เป็นประจำ โดยการสำรวจค่าต่างๆที่จะบอกได้ว่าพอร์ทของท่าน ปลอดภัยหรือไม่ ค่าหนึ่งที่เราให้ความสำคัญค่อนข้างมากคือค่า “ margin level ” เป็นค่าที่ผมใช้ดูว่าพอร์ทมีความปลอดภัยระดับไหน โดยผมจะแบ่งระดับความปลอดภัยของพอร์ทดังนี้

       มากกว่า 10000 %         ปลอดภัยมาก

       5000%  -  10000%      ปลอดภัย

       1000%  -  5000%        ทั่วไป

        500%   -  1000%        over trade

        100%   -  500%          วิกฤติ

        ตำกว่า 100 %              วิกฤติที่สุด พอร์ทใกล้แตก

โดยมากพอร์ทที่อยู่ในช่วง ต่ำกว่า 1000% สำหรับเราถือเป็นการ over trade ซึ่งท่านควรต้องระวังเป็นพิเศษ รวมทั้ง ถ้าหากพอร์ทของท่าน อยู่ในระดับ ต่ำกว่า 500% สิ่งแรกที่เราจะแนะนำให้ทำคือ คัท order ออก ครึ่งนึงของที่ท่านเปิดอยู่ หรือ คัทออกจน margin level กลับมามากกว่า 1000% (สำหรับท่านที่มีเงินก็ใช้วิธีการเติมเงินได้ค่ะ) เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับพอร์ทท่านลงใ้ห้ปลอดภัยระดับนึงก่อน เพื่อเป็นการซื้อเวลาและก็ลดความเครียด ความกดดันลง

แน่นอนว่า บางคนบางครั้งอาจจะทำใจ คัท ไม่ได้เนื่องจากว่า ไม่อยากเห็นเงินหายไป ท่านอาจใช้วิธีการ “ เฮจจิ้ง ” เพื่อคงระดับการขาดทุนไว้ไม่ให้มากไปกว่านี้ เหมือนเป็นการ ห้ามเลือดก่อน หรือยอม ตัดอวัยวะบางส่วนที่เป็นเนื้อร้ายออกไป เพื่อรักษาชีวิตไว้



ขั้นตอนที่ 2 “ รอ ”

เมื่อผ่านขั้นตอนแรกมาแล้ว ซึ่งเรานับว่าเป็นขั้นตอนที่ยากเพราะว่าท่านจะต้องต่อสู้กับจิตใจของตนพอควร หลังจากนั้น เราอยากที่จะให้ท่าน “ รอ ”

ทำไมถึงจะต้อง “ รอ ” ท่านลองคิดสภาพค่ะว่า ช่วงที่ท่านขาดทุน พอร์ทเสียหายหนัก สภาพจิตใจของท่านตอนนั้นเป็นอย่างไร มันเต็มไปด้วย อารมณ์ อีกทั้งความเครียด ความกดดัน ความโลภ ความอยากเอาชนะ รวมทั้ง อื่นๆ ซึ่ง สภาวะจิตใจที่เป็นเช่นนั้น ท่านไม่สามารถใช้สมองสำหรับในการวิเคราะห์อะไรต่างๆได้แน่นอนค่ะ

ฉะนั้น การพยายามเทรดแก้พอร์ทในช่วงที่ท่านเพิ่งบาดเจ็บหนักมาเป็นสิ่งที่จะยิ่งทำให้ท่านเสียหายหนักกว่าเดิม อยากให้ท่านใช้เวลาช่วงแรกนี้พัก ให้อารมณ์ และก็จิตใจกลับมาอยู่ในสภาวะปกติก่อนสักระยะนึง เมื่อเวลาพร้อม สภาพจิตใจพร้อม พวกเราจึงค่อยมาเข้าสู่กระบวนการแก้พอร์ท



ขั้นตอนที่ 3 “ วิเคราะห์ความผิดพลาด และ แก้ไข”

ขั้นตอนนี้คือให้ท่านลอง มองดูย้อนกลับไปดูถึงสาเหตุว่า ท่านทำอะไรลงไปถึงทำให้พอร์ทเสียหายหนัก และหาทางปรับปรุงแก้ไข โดยพิจารณาตามหัวข้อดังนี้

1.  “ วิเคราะห์ผิดพลาด ”   แปลว่าตรงนี้ท่านต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติม หรือ ปรับปรุงวิธีการวิเคราะห์ของท่านใหม่ หรือ ถ้าท่านใช้ระบบเทรด ก็ต้องไปดูว่าระบบ มีข้อผิดพลาด หรือ จุดอ่อนตรงไหน อย่างไร  และทำการแก้ไข ทดสอบ ให้มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

2.  “ เทรดผิดเวลา ”   หมายถึง ว่าช่วงเวลาที่ท่านเทรด อาจจะเป็นช่วงเวลาที่มีข่าว หรือ เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด ซึ่งไม่สามารถที่จะใช้ความรู้ด้านเทคนิคในการวิเคราะห์แนวโน้มได้ ณ ขณะนั้น  หรือ แม้แต่การเลือกใช้ช่วงเวลา หรือ Time Frame ในการวิเคราะฟ์ Trend ไม่เหมาะสม เช่น ท่านจะเทรดตาม Trend  แต่ท่านใช้ Time Frame  เล็กๆ  5 นาที 15 นาที  ในการวิเคราะห์  ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการวิเคราะห์ Trend ได้

3.  “ ไม่มีวินัย ”   เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการทำให้เกิดความเสียหายหนักๆขึ้น   เตรียมแผนการเทรดไว้แล้ว แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่ทำตามแผน  เช่น ไม่ยอม take profit เพราะกลัวขายหมู หรือ ไม่ยอมคัท เพราะตัวว่าคัทแล้วมันจะกลับมา หรือ แม้กระทั้ง การ over trade 

4.   “ สิ่งที่ไม่คาดคิด ”   ถึงแม้เราจะวิเคราะห์ หรือมีระบบที่ดีแค่ไหน   หรือเราเตรียมพร้อม วางแผนการเทรด พร้อมทั้งทำตามอย่างมีวินัย  แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นได้  โดยมากจะเป็นเรื่องของข่าวที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ และยากที่จะเตรียมตัวรับมือ



ขั้นตอนที่ 4 “ วางแผน และ เตรียมความพร้อม ”

หลังจากท่านผ่าน 3 ขั้นตอนข้างต้นมาแล้ว เรามีความคิดว่าตอนนี้ท่านมีความพร้อมที่จะกลับเข้าไปสู้สนามรบ โดย การกลับเข้าไปครั้งนี้ท่านต้อง วางแผน แล้วก็ เตรียมความพร้อม ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และ ใช้ความผิดพลาด ที่ผ่านมาเป็นบทเรียน ว่าท่านจะต้องพยายามไม่ผิดพลาดซ้ำรอยเดิม

และถึงแม้ครั้งนี้ท่านจะเจ็บตัวกลับมาอีก ก็ให้ท่านกลับไปทำตามขั้นตอนที่ 1 ถึงขั้นตอนที่ 4 อีกครั้ง เนื่องจากว่าการเข้าสู้สนามรบย่อมต้องมีบาดแผลกลับมา แต่ถ้าท่านสามารถรักษาชีวิตกลับออกมาได้ ท่านจะมีความรู้และ ประสบการณ์ เพิ่มมากขึ้น และการกลับเข้าสู่สนามรบครั้งถัดไปอาจจะเป็นครั้งที่ท่านชนะกลับออกมาก็เป็นได้

สวัสดีค่ะ เชื่อว่าหลายคนที่ลงทุนไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้กำไร แต่อย่างไรก็ดี การขาดทุนก็ถือว่าเป็นบทเรียนอันล้ำค่าและราคาแพงที่สุด และวันนี้มาดู 6 วิธีรับมือขาดทุนจาก Forex  อัพเดต 2021 ไปดูกันเลยค่ะ

 

สำหรับเทรดเดอร์อย่างพวกเราอาจจะทำใจยากใช่ไหมคะเวลาขาดทุนแต่ละที ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเรื่องความรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจจากการขาดทุนไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ แต่ว่าเวลาพวกเราเสียใจแล้วพลั้งทำอะไรพลาดไปแล้วทำให้ขาดทุนหนักกว่าเดิมนี่แย่กว่านะคะ

เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์จะต้องมีกลยุทธ์ที่เอาไว้ใช้รับมือกับการขาดทุน และกลยุทธ์เหล่านั้นจะต้องใช้ได้จริง ดังนั้นวันนี้คุณน้าพาเทรดเลยจะพาทุกคนไปดูกันค่ะว่าเวลาขาดทุนเราควรจะมีวิธีรับมือกับมันอย่างไรบ้าง


1. ยอมรับว่าการขาดทุนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่มีใครที่เทรดแล้วได้กำไรอย่างเดียวหรอกค่ะในโลกใบนี้ กว่าจะถึงจุดนี้ทุกคนย่อมผ่านทั้งการขาดทุนแล้วก็ได้กำไรกันมามากแล้ว อีกอย่างมันเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆค่ะ ล้มแล้วพวกเราก็ลุกใหม่ได้ อย่าเพิ่งท้อค่ะ



2. ห้ามเลือดเสียก่อนเป็นลำดับแรก

เมื่อกลับมาตั้งสติได้แล้ว คุณต้องกล้าตัดขาดทุนอย่างทันที! หรืออย่างน้อยจะต้องพยายามทยอยขาย และก็ลดการถือของคุณให้น้อยลงมาเสียก่อน อย่างไรก็แล้วแต่ นี่เป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ว่าทำค่อนข้างยากอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์การขาดทุนอย่างหนัก (เนื่องจากว่าคุณจะหน้ามืดพอสมควร) แต่ว่านี่ก็เป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำที่สุดเมื่อช่วงเวลาแบบนี้มาเยือน อย่าพยายามหาข้ออ้างกับตัวคุณเอง ในเมื่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่เป็นอย่างที่คุณคิด คุณก็ควรต้องยอมรับความจริงให้ได้



3. รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกให้ใครบางคนได้รับรู้

อย่าพยายามปกปิดมันเอาไว้ คุณต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของคุณเอง การรายงานสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นทางการก็ได้ สิ่งสำคัญคือความจริงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ต่างหาก การทำเช่นนี้นั้นมีผลในแง่จิตวิทยาการลงทุนของคุณมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากว่ามันจะเป็นการบังคับให้คุณจำเป็นต้องยอมรับที่จะเผชิญกับความจริงไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาวกับตัวของคุณเอง การได้ระบายให้ใครสักคนที่คุณไว้ใจได้รับรู้ (พ่อ, แม่, แฟน, น้อง, เพื่อน …หรืออื่นๆ) จะช่วยทำให้ไม่เกิดรอยแผลที่จะคอยย้ำอยู่ในจิตใจของคุณ ซึ่งท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างพฤติกรรมของคุณจากสิ่งที่คุณพยายามปิดบังอยู่ (เก็บกดนั่นเอง)



4. เผชิญหน้ากับการขาดทุน

โดยปกติแล้วเมื่อสถานการณ์การขาดทุนเริ่มที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มักที่จะพยายามมองข้าม หรือหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้ต่อการขาดทุนเหล่านั้น (เรามักจะหาเหตุผล หรือความเห็นต่างๆ นาๆ เพียงเพื่อที่จะทำให้เราไม่รู้สึกแย่ไปกับมัน) แต่การกระทำเช่นนี้ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลยกับตัวของคุณเอง ซ้ำร้ายมันยังทำให้คุณไม่เกิดการพัฒนาใดๆ ขึ้นมาอีกด้วยในวันข้างหน้า เพราะมันคือการทิ้งโอกาสที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำหลังจากที่เกิดการขาดทุนหนักๆ หรือต่อเนื่องขึ้นมา ก็คือการย้อนกลับไปเผชิญหน้ากับผลการลงทุนของคุณซะ อาจเป็นการย้อนดู Report ที่เกิดขึ้นสักเดือนหรือสองเดือนย้อนหลังไปก็ได้ และจดจำสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเอาไว้ให้ชัดเจนที่สุด



5. ย้อนกลับไปทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อคุณกล้าที่จะเผชิญกับความจริงที่เกิดขึ้นกับคุณได้แล้ว ให้คุณลองนั่งพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด จินตนาการกลับไปถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นตามลำดับ ว่ามีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง ทั้งในแง่ของแผนการลงทุนหรือแม้แต่จิตใจและความนึกคิดของตัวคุณเอง คุณต้องพยายามระบุมันออกมาให้ได้ว่าสิ่งเหล่านี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นมาจากอะไร จงซื่อสัตย์กับตัวของคุณเองมากที่สุด คุณต้องไม่หลอกตัวเอง หลังจากนั้นคุณต้องรู้จักวางแผนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณให้ดีที่สุด



6. พัฒนาและปรับปรุงแผนการปฏิบัติการสำหรับในการเล่นของคุณ

ถ้าหากคุณค้นพบได้แล้วว่าสิ่งใดที่ทำให้เกิดความผิดพลาดหรือขาดทุนต่อเนื่องขึ้นมา คุณต้องสร้างแผนที่จะรับมือกับมันขึ้นมาอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดจาก “วินัย” ของคุณเอง คุณจะทำอย่างไรกับมันบ้าง? แต่หากว่ามันเป็นปัญหาจากระบบการลงทุนของคุณ คุณจะทำอย่างไรกับมัน? คุณจะทิ้งมันไป … หรือคุณจะทำการวิจัยและทดสอบมันให้ลึกมากขึ้น? หรือหากว่ามันเป็นผลจากสภาพแวดล้อมภายนอกเช่น Platform การซื้อขายของคุณ คุณจะทำอย่างไรกับมัน?

จะดีไหมถ้าหากหาเงินแสนได้ใน 1 ชั่วโมง!! สวัสดีค่า สำหรับใครที่มีเงินเย็น และกำลังมองหาวิธีต่อยอดเงินในตอนนี้ การเทรด Forex ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ไว้ให้เพื่อนๆ พิจารณากันนะคะ และวันนี้มาแชร์เทคนิคการเทรดเทรด FOREX ทำเงินแสน ใน 1 ชั่วโมง ไปดูกันเลยค่ะ


 


ในทริคนี้มี 2 ปัจจัยคือ หนึ่งใช้ทุนสูงแล้วก็ล็อตใหญ่(กฎสามเท่าของผู้โจมตี) และสองจับตามองช่วงข่าวสารมองหาปลาตัวโต

ปัจจัยด้านโบรกเกอร์ โบรกเกอร์คือสิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องสมัครก่อนที่จะเทรดและมีโบรกเกอร์มากมายให้เลือก พวกเราก็ควรที่จะทำการเลือกให้ดีเยี่ยมที่สุดค่ะ เนื่องจากว่ามีผลมาก ความสำคัญของการเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีรีโควต(Non-Requotes)คำสั่ง ซื้อ-ขาย สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธการเทรดสั้นๆถือว่าสำคัญมาก อาจจะถึง 50% แต่สำหรับคนที่เทรดยาว เรื่องนี้ก็ไม่สำคัญมากนักแค่ 10%-20%

ในตัวอย่างภาพด้านล่าง เราโอนเงินเข้าเทรด โบรกเกอร์ FBS บัญชี UNLIMITED จำนวน 4,000$ สังเกตออเดอร์ที่ 2 เปิดออเดอร์เวลา 14.50 ปิดออเดอร์ 15.31 ใช้เวลา 41 นาทีเท่านั้น ทำกำไร 3605$ สำหรับออเดอร์นี้ (117,360 บาท ถอนออกทาง ธนาคารกรุงไทย ถอนได้ในเรทตามธนาคารเลยค่ะ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม )





ในช่วงเวลาเทรด(trade)คือที่วงกลมเอาไว้ EU พุ่งขึ้นจากข่าวสาร Non-Farm ในรอบแรกกราฟพุ่งขึ้นไป แล้วดิ่งลง แล้วพุ่งขึ้นอีกรอบ ภายในไม่กี่นาที หลายๆโบรกเกอร์ที่ผมเคยใช้ ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกดซื้อ ขาย กดซื้อในราคาดีๆยากมากรวมทั้งขายในราคาที่ต้องการแทบไม่ได้เลย จะต้องกดหลายๆรอบหรือไม่ก็ขายได้ในราคาที่ห่างจากที่พวกเราต้องการไว้มาก บางทีบวกเป็นยี่สิบจุด กดปิดซ้ำๆตอนที่ปิดได้จริงๆกลับติดลบนะคะ ส่วน FBS สำหรับผมไม่ผิดหวังเลย กดซื้อ ครั้งเดียว และขาย ครั้งเดียวเท่านั้น และได้ในราคาดีๆใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีสำหรับในการรันคำสั่ง อีกโบรกเกอร์ที่แนะนำ คือ XM ออเดอร์ไวไม่มีรีโควตเช่นกัน

โบรกเกอร์ที่มักจะรีโควตเยอะๆเวลาข่าวสาร ก็เช่น exness roboforex fxopen สำหรับนักเทรดสั้นควรหลีกเลี่ยงถึงแม้บางโบรกเกอร์จะมีค่าสเปรด(spread) ที่ถูกก็เถอะนะคะ เนื่องจากว่าเวลาข่าวสารมาทีนั่นแหละ โอกาสทอง ช่วงที่คนจ่ายตลาดกันถ้าหากพวกเราซื้อ หรือขายไม่ได้ ก็น่าเสียดายยิ่ง เนื่องจากว่าช่วงที่คนปล่อยของกัน กราฟมักจะแสดงตัวออกมาให้พวกเราเห็นทิศทางได้อย่างชัดเจน มากกว่าตอนตลาดนิ่งค่ะ

สำหรับผู้ที่ใช้วิธีเทรดสั้น ต้องเข้าใจตลาด อ่านข่าวเป็น แล้วก็ต้องมั่นใจสัก 90% ถ้าหากไม่มั่นใจ เทรดไปแล้ว กดปิดไปเลยอย่าไปเสียดายค่ะ

ได้กำไรพอใจและก็ถอนออกมา ไม่เทรดในจังหวะเดิมๆซ้ำๆทิ้งระยะสักนิด ทำให้เรามองตลาดได้แจ่มชัดขึ้น แล้วก็สิ่งสำคัญที่สุดคือ ให้เชื่อใจตนเอง เมื่อเชื่อมั่นแล้วก็อดทนรอเวลา อย่าหวั่นไหวไปกับจังหวะการเต้นของตลาด

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ในช่วงนี้คลายล็อกดาวน์แล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ  ถ้าหากใครที่มีเงินเย็น อยากลงทุน แต่ไม่กล้า หรือสนใจลงทุน แนะนำว่าต้องรีบศึกษาก่อน เพราะมีคนไม่ใช่น้อย ที่สามารถทำกำไรในการเทรด แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ศึกษาให้ดี รับรองว่าขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะการเทรดด้วยดวงนั้น ก็ไม่ต่างจากการเล่นพนันเลยค่ะ และวันนี้มาสรุปข้อดี - ข้อเสีย จากการเทรด Forex ไปดูกันเลยค่ะ


 



1. วิเคราะห์กราฟมีระบบการเทรดเป็นของตัวเอง คือนักเทรดที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ กราฟ ในแบบต่างๆชอบเรียนรู้ มีความขยันที่จะฝึกฝนตัวเอง ลองผิดลองถูก สะสมประสบการณ์เพื่อได้กำไรได้ด้วยตัวเอง มีความเป็นผู้นำสูง สามารถต่อยอดเป็นนักเทรดมือโปรได้

ข้อดี คือ อยู่ได้ด้วยตัวเอง พัฒนาเป็นนักเทรดมืออาชีพ ต่อยอดเป็นอาจารย์สอนเทรด หรือสร้างระบบขายได้

ข้อเสีย : จำเป็นต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ ฝึกฝน ต้องอยู่กับกราฟ มีความกดดัน ทำให้เคลียดได้




2. Social Trade หรือ Copy Trade สายนี้จะออกแนวเป็นนักลงทุน แบ่งเงินที่ไม่ได้ใช้บางส่วนมาลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น เป็นคนกล้าลงทุน และก็มีพื้นฐานการลงทุนมาบ้าง แต่ไม่ชอบนั่งเฝ้าจอ ออกแนวขี้เกียจนิดๆ

ข้อดี คือ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ บริหารพอร์ตตัวเองได้ (Social Trade) ทำกำไรได้แบบไม่ต้องเหนื่อย

ข้อเสีย : เสียค่าธรรมเนียม ถ้าบริหารพอร์ตไม่ดี copy คนไม่เก่งก็ทำให้ขาดทุนได้




3. เทรดตาม Signals (ซิก Forex) สายนี้สวนใหญ่จะเริ่มจากศึกษาการเทรดมาบ้าง สามารถเทรดได้เอง แต่ขาดความมั่นใจแล้วก็ประสบการณ์อาจยังไม่มีมากนัก แต่อยากทำกำไรได้เร็วๆจึงเลือกตามซิก Forex จากแหล่งต่างๆบางคนเลือกตามซิกเพื่อประกอบการตัดสินใจก็มี

ข้อดี คือ ไม่ต้องวิเคราะห์เอง เทรดได้ตามสบาย

ข้อเสีย : ต้องจ่ายค่าสมาชิก หากซิกไม่แม่น ทำให้ขาดทุน 2 ต่อ คือ ทั้งค่าสมาชิกและเงินในพอร์ต




4. ใช้ EA เทรดให้ สายนี้มีความเชื่อว่าโปรแกรม (หุ่นยนต์ ) สามารถทำกำไรได้ ต่างกับ Social Trading ที่เป็นคนเทรด ส่วนใหญ่จะมีความรู้ประสบการณ์พอสมควร จนมีความเชื่อระดับหนึ่ง เลือกที่จะแบ่งเงินมาลงทุนกับ EA และรอ backtest อยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิผลมากที่สุด

ข้อดี คือ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ บริหารพอร์ตตัวเองได้ ทำกำไรได้แบบไม่ต้องเหนื่อย

ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่า VPS หรือจำต้องเปิดคอมฯทิ้งไว้ ให้ EA ทำงาน ต้องคอย Backtest อยู่เรื่อยๆถ้า EA ไม่ดีก็โดนล้างพอร์ตเอาง่ายๆ