Messages

สวัสดีค่ะ ในตอนนี้เชื่อว่าทุกคนคงจะเบื่อเพราะต้องอยู่บ้าน เพื่อป้องการการระบาดของโรคโควิด 19 แน่นอนว่าการอยู่บ้านทำให้หลายคนสูญเสียรายได้ไม่มาก็น้อย และสิ่งที่สำคัญคือ ถ้าหากใครที่สนใจเทรด Forex สิ่งที่จะต้องระวังมิจฉาชีพ เพราะมีมากมายในปัจจุบัน และวันนี้มาดู 4 ข้อควรระวังมิจฉาชีพ Forex หลอก อัพเดต 2021 ไปดูกันเลยค่ะ


 



1. ระดมทุน Forex จากกลุ่มมิจฉาชีพ

สำหรับตัวอย่างแรกเลย ที่คุณจะต้องดูแลตัวไว้เนื่องจากว่าเผื่อคุณโดนเหล่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งมันก็คือ การระดมเงินทุนในกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งบอกก่อนเลยว่าเหล่ามิจฉาชีพส่วนใหญ่มักจะใช้การระดมเงินทุนไปหลอกลวงผู้อื่น อย่างเช่น ลงทุนน้อยแต่ว่าได้ปันผลกลับคืนมาเร็ว หรือลงทุนเยอะก็ได้ปันผลเยอะแล้วก็ได้คืนทุนไว้อะไรทำนองนี้ ซึ่งจากการหลอกลวงซ้ำไปซ้ำมาจนทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อแล้วลงทุนด้วย สุดท้ายเหลามิจฉาชีพพวกนั้นก็ไหวตัวทันหอบเงินหนีหายไปอยู่ที่อื่นกัน ซึ่งผู้เสียหายก็ไม่อาจจะฟ้องร้องอะไรได้แม้แต่น้อย แบบนี้เพราะการระดมเงินทุนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นก็เท่ากับว่าผู้เสียหายทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็คือสิ่งแรกที่คุณควรระวัง



2. การหลอกขาย EA ราคาแพงแต่ทำกำไรไม่ได้

สำหรับตัวอย่างที่สองเลย ที่คุณต้องระวังตัวไว้เพราะเหตุว่าเผื่อคุณโดนเหล่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งมันก็คือ การหลอกขายสินค้าดังเช่น EA แพงๆให้กับคุณ ซึ่งบ่อยครั้งตามเว็บไซต์ต่างๆมักจะมีเหล่ามิจฉาชีพคอยหลอกล่อและก็มองหาเหยื่อเพื่อหลอกขาย EA ให้กับเหยื่อซึ่งต้องอธิบายก่อนว่า EA ซึ่งก็คือ (Expert Advisors) หรือก็คือบอทเทรดนั่นเอง ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้จะหลอกขาย EA เน่าๆให้กับคุณ ซึ่งเมื่อคุณซื้อไปแล้วใช้มัน ไม่ว่าจะรอนานเท่าไหร่มันก็ไม่ทำกำไรให้คุณอย่างแน่นอน แน่แหละเพราะมิจฉาชีพหลอกไปแล้วนั่นเอง



3. การหลอกขายคอร์สสอนเทรดราคาแพงหูฉี่

สำหรับตัวอย่างที่สามเลย ที่คุณจะต้องระวังตัวไว้เพราะเหตุว่าเผื่อคุณโดนเหล่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งมันก็คือ การหลอกขายคอร์สสอนเทรดราคาแพงหูฉี่ ซึ่งนักเทรดหลายคนมากที่ต้องการจะเทรด Forex ซึ่งพวกเขาก็จำเป็นจะต้องเรียนรู้ผ่านการเรียนเทรดเป็นคอร์สๆทั้งนี้นั้นก็เกิดมีมิจฉาชีพหัวใส อยากจะหลอกขายของ เลยหลอกขายคอร์สสอนเทรดราคาแพงๆเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อแล้วซื้อไป แล้วเมื่อมีนักเทรดเข้าไปพบเจอต่างก็อาจจะโดนหลอกกันได้ง่ายๆดังนั้นหากคุณอยากจะซื้อคอร์สเรียนสอนเทรดอะไรเช่นนี้ สิ่งที่คุณควรทำก่อนคือการตรวจสอบและก็เช็คให้มันดีๆ



4. โบรกเกอร์เถื่อน

สำหรับตัวอย่างสุดท้ายเลย ที่คุณจำเป็นต้องระวังตัวไว้เพราะเผื่อคุณโดนเหล่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งมันก็คือ มิจฉาชีพในรูปของ โบรกเกอร์เถื่อน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าก่อนที่จะเทรด Forex ควรจะมีโบรกเกอร์เพื่อเปิดบัญชีเสียก่อน ซึ่งบางโบรกเกอร์ก็มีทั้งโบรกเกอร์ดีโบกเกอร์ไม่ดีปะปนกันไป แต่ในปัจจุบันมันก็มีโบรกเกอร์เถื่อนเกิดขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นอันตรายต่อตัวนักเทรดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ ถ้าหากว่ามือใหม่หักเทรดเลือกโบรกเกอร์แบบไม่ดูอะไรเลยแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะโดนหลอกไปลงทุนกับโบรกเกอร์เถื่อนก็มีสูงเป็นอย่างมากทีเดียว ดังนั้นแนวทางการหลีกเลี่ยงง่ายเลยก็คือเลือกโบรกเกอร์จากชื่อเสียงหรือโบรกเกอร์ที่ดังๆทั่วโลกนั่นเอง

เพื่อนๆ หลายคนที่สนใจเทรด Forex แต่ยังไม่ศึกษาข้อมูล และไม่ได้ทดลองบัญชีเดโม่ แนะนำว่าต้องทบทวนใหม่นะคะ เพราะถ้าหากเพื่อนๆ อยากเป็นเซียน Forex ที่เก่งและสามารถทำกำไรได้มหาศาล ต้องห้ามพลาด เพราะวันนี้มาดู 4 ข้อควรระวัง และไม่ควรทำ ถ้าอยากเป็นเซียน Forex ต้องรู้!!! ไปดูกันเลยค่ะ


 


1. การเทรดเยอะเกินไปจนกลายเป็น Overtrade

ปัญหา Overtrade คือปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ทุกเพศ ทุกวัย ทุกประสบการณ์ Overtrade เหมือนกับการถือศีลของพระ เนื่องจากว่า คุณจะผิดศีลเมื่อไหร่ก็เกิดขึ้นได้ แม้คุณจะบอกว่าคุณเทรดมา 10 ปีแล้วแต่การ Overtrade ก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณอยู่ อาการ Overtrade นั้นเกิดจากการที่พวกเราลุ่มหลงสำหรับในการเทรด อาการนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยความรู้สึกที่ว่า พวกเราน่าจะแม่น หรือว่าพวกเราน่าจะเทรดได้แม่นยำ อาการที่มั่นใจเกินเหตุว่า ราคาจะเป็นไปตามที่ตัวเองคิด เมื่อมีความมั่นใจเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่จะทำต่อไปคือ ส่ง Lot ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากว่าคิดว่าปลอดภัย หรือ คิดว่าจะได้กำไรเยอะขึ้น ซึ่งเมื่อรู้สึกอย่างนี้แล้วทำให้ขาดความระมัดระวัง ตกหลุมพรางของตัวเองได้ง่ายๆเมื่อชน Stop loss แล้วบางราย ที่เป็นมือใหม่สำหรับในการเทรด ก็ยังดันทุรังจะเอาคืน เพื่อที่จะได้ให้ Cover ส่วนที่ขาดทุน และคิดว่า พวกเราน่าจะเอาคืนได้ นั่นแหละค่ะ ทำให้มันเสียหาย และก็เลวร้ายลงไปได้อีก ด้วยเหตุดังกล่าวการเทรดเยอะเกินไปจนกลายเป็น Over Trade นั้นเป็นปัญหาระดับชาติของเทรดเดอร์ที่จำต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายๆรูปแบบดั่งที่ว่าไปแล้วนั้น



2. ใช้เวลาคิดเยอะเกินไปสำหรับในการดูกราฟ

อีกปัญหาหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับมือใหม่ในตลาด Forex คือ การใช้เวลาบนหน้าจอมากเกินไป ปัญหานี้เคยเกิดกับผู้เขียน เนื่องจากว่าในสมัยที่ยังเป็นเทรดเดอร์หน้าใหม่ เนื่องจากว่าคิดว่า จะต้องได้กำไรหรือขาดทุน พอทำอย่างนั้นปุ๊บสิ่งที่พวกเราอยากจะทำมากที่สุดคือ การนั่งรอดูผลการเทรดของคำสั่งที่ตัวเองได้สั่งไป เมื่อส่งคำสั่งและอยากจะดูว่าได้กำไรเท่าไหร่ เปิดกราฟแล้ว เปิดหน้าจอแล้ว เปิดมองซ้ำๆซากๆ เปิดวนไปมา จนไม่ต้องทำการทำงาน ไม่ทำอะไรอย่างอื่นในชีวิตเลย นี่เรียกว่า ทำให้คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลง ซึ่งการใช้เวลาในการดูกราฟเยอะแบบนี้เพราะว่า คุณส่ง Lot เยอะเกินไปทำให้คุณ commit พอร์ท หรือเนื่องจากอยากได้เงินเยอะ ส่งออเดอร์ใหญ่แล้วโลภ เพื่อมองกำไร นั่นแหละค่ะ คุณมีส่วนได้เสียกับพอร์ทแล้ว อารมณ์มันก็เหมือนกับการเล่นไพ่ป็อกเด้งนั่นแหละค่ะ ต้องลุ้นทุกตา นั่นมันไม่ใช่การเทรดแล้วค่ะ นั่นมันการพนันชัดๆเลย โดยเหตุนี้เลิกติดตามหน้าจอ กลับไปใช้ชีวิตปรกติ แล้วก็เทรดอย่างถูกต้อง



3. เทรดจาก Time Frame เล็กๆ

การเทรด Time Frame เล็กๆไม่ใช่ปัญหาใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่เทรด แบบ Scalping แต่ที่จะกล่าวนี้คือ เทรดเดอร์พวกหนึ่งที่อยากจะทำกำไร ทำรอบให้ได้กำไรหลายๆรอบ โดยการ เทรด Time Frame เล็กๆสิ่งที่เกิดตามมาคือ ทำให้เราพลาดได้ง่าย เพราะ กราฟ Time Frame เล็กเปลี่ยนแปลงเร็ว เมื่อมันเปลี่ยนแปลงเร็วแล้ว ทำให้พวกเราไม่กล้า Cut loss รวมทั้งรู้สึกว่ามันจะกลับมา แต่อย่าลืมนั่นมัน Time Frame เล็ก นะ เมื่อมันจะเปลี่ยนแปลง มันบางทีอาจจะเปลี่ยนแปลงมหาศาลเลยก็ได้ ซึ่งถ้าหากพวกเราใช้ Time Frame เล็กในการเทรด พวกเราก็ต้องระบุ Stop loss ให้ชัด ไม่ใช่มาเปลี่ยนเป็น VI เอาตอนนี้ และใช้ Time Frame เล็กตัดสิน อารมณ์มันเหมือนอย่างไรหน่ะหรือ ก็เหมือนกับ พายเรือแจวในมหาสมุทรและไม่มีเข็มทิศ แถมมีพายุอีกต่างหาก เพราะคุณไม่รู้เลยว่าคลื่นมันจะใหญ่ขนาดไหน เรือคุณเล็กเกินไป



4. ซัดเงินจริงเลยไม่ต้องลองเดโม่

นี่เป็นข้อผิดพลาดซึ่งสามารถพบเจอได้บ่อยมากที่สุด เนื่องจากว่า คนส่วนใหญ่ใจร้อน รีบรวย พอเห็นว่าระบบตัวเองทำเงินได้หน่อยหนึ่งแล้วไม่ต้องไปทำ Demo Trade หรือ Back Test อะไรแล้ว จัดเงินจริงไปเลย ซึ่งเงินที่พวกเราหามาด้วยความยากลำบากแต่กลับปล่อยให้มันเสียไปอย่างง่ายดายนั้น ทำให้กว่าจะได้คืนนั้นเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งการเทรด Forex เป็นสิ่งที่ต้องทำการทดสอบให้รู้และเข้าใจความต่างของสภาพแวดล้อมจริง กับสภาพแวดล้อมสำหรับในการทดสอบ ว่ามันไม่เหมือนกัน

ในการเทรดนั้น การตีเทรนไลน์ เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนใช้ในการวิเคราะห์ตลาดนั่นเอง และวันนี้มาดูการตี Trend line สำหรับเทรดเดอร์ Forex ที่ควรรู้ ไปดูกันเลยค่ะ

 


การตีเทรนไลน์ อาจทำให้คุณได้จุดเข้าออกที่ดีแต่ ไม่ได้ มีความหมายว่าจะทำให้วิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ หรือจะเป็นไปตามทิศทางที่ตีเสมอไป การตีเทรนไลน์ ไม่ได้มีกฎตายตัวสำหรับในการตี แต่ตีเพื่อช่วยให้มีแนวทางสำหรับในการเทรด ซึ่งก็มีข้อแนะนำในการตีง่ายๆดังต่อไปนี้


Trend line ขาขึ้น

การลากเส้นจากจุดต่ำสุดนึง ไปหาจุดต่ำสุดอีกอันหนึ่ง ให้ได้อย่างน้อย 2 จุดขึ้นไป ยิ่งมีจุดสัมผัสที่สอดคล้องกันมาก ยิ่งดี ไม่มีกฎตายตัว ว่าจะเป็นตรงใส้เทียน หรือ จะตรงตัวแท่งเทียน 2 จุดมองเป็น Tentative Trend Line 3 จุดขึ้นไป จะเป็น Valid Trend Line ซึ่งเอาไปใช้งานได้ดีกว่า




นอกจากนี้ยังสามารถลากเส้นเพิ่มอีกเส้นที่องศาเดียวกันเพื่อเป็นกรอบแนวโน้ม (Parallel line)



Trend line ขาลง

คือการลากเส้นจากจุดสูงสุดหนึ่ง ไปยังจุดสูงสุดอีกอันหนึ่ง ที่อยู่ต่ำกว่า เช่นเดียวกับตอนตีขาขึ้น แต่กลับทางกัน



นอกจากนี้ยังสามารถลากเส้นเพิ่มอีกเส้นที่องศาเดียวกันเพื่อเป็นกรอบแนวโน้ม (Parallel line)



จากตัวอย่างทั้ง 2 เมื่อตีเส้นแล้ว มองภาพดู ก็จะได้ไอเดียร์ในการซื้อขายหุ้น ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยทำการซื้อขายในกรอบเส้นแนวโน้มไป ซึ่งในชีวิตจริงนั้น การตีเส้น อาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนในตัวอย่าง ต้องลองไปฝึกฝนลองตีเส้นดูค่ะ ตีออกมาแบบไหนก็ให้ทำตามนั้น เมื่อราคาหลุดกรอบจากเส้นแนวโน้มที่ตี ก็หมายความว่าแนวโน้มที่ตีนั้นเปลี่ยนแล้วค่ะ จะได้ไม่ต้องทนถือขาดทุน รอค่อยราคานั้นกลับมา หรือถ้าเป็นขาขึ้น พวกเราก็รอราคาย่อลงมาที่เส้น trend line แล้วค่อยรอซื้อ ก็จะเป็นจุดเข้าที่ดี หากราคาลงมาแล้วไม่หลุด trend ถ้าหลุด trend ก็ตัดขาดทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ถอนเงินเร็ว ต้องห้ามพลาด เพราะวันนี้เรามีโบรกเกอร์ Forex ที่ถอนเงินเร็วที่สุด 3 อันดับแรก จะมีโบรกเกอร์ไหนบ้าง ไปดูกันเลยจ้า

 


1. โบรกเกอร์ Exness

โบรกเกอร์อันดับที่หนึ่งที่พวกเราได้เอามาแนะนำคุณถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องของความมั่นคง และก็ใช้งานง่ายเหมาะกับมือใหม่ มันก็คือโบรกเกอร์ Exness นั่นเอง ซึ่งโบรกเกอร์ Exness ถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่ไม่แพ้ใครในเรื่องของการทำธุรกรรมการฝากเงินการถอนเงิน ซึ่ง โบรกเกอร์ Exness


2. โบรกเกอร์ XM

โบรกเกอร์ลำดับที่สองที่พวกเราได้เอามาแนะนำคุณถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆของโบรกเกอร์ในไทยเช่นกันซึ่งโบรกเกอร์นี้ก็จัดว่าขึ้นชื่อสุดๆในเรื่องของการฝากถอนเงิน นั่นก็คือ โบรกเกอร์ XM นั่นเอง สำหรับโบรกเกอร์ XM ถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับนักเทรดหน้าใหม่ เนื่องจากว่าสามารถใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว หากจะเทียบระยะการถอนเงินกับสองโบรกเกอร์ก่อนหน้าแล้วถือว่าโบรกเกอร์ XM ถอนเร็วกว่ามากๆถ้าหากว่าคุณอยากได้โบรกเกอร์ใช้งานง่ายๆเหมาะกับมือใหม่ ถอนเงินไวๆXM ก็ถือเป็นโบรกเกอร์ที่จะตอบโจทย์สิ่งเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน


3. โบรกเกอร์ FBS

โบรกเกอร์ลำดับที่สามที่พวกเราได้นำมาแนะนำคุณถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในไทยมาเป็นระยะเวลาเนิ่นนานอีกทั้งยังมีโลโก้ที่โดดเด่นอีกทั้งยังเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่แสนจะปลอดภัยและก็รัดกุม นั่นก็คือโบรกเกอร์ FBS สำหรับโบรกเกอร์ FBS ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่คนไทยหลายคนต่างติดใจเนื่องจากว่าโบรกเกอร์ FBS มีการรองรับแล้วก็ซัพพอร์ตลูกค้าชาวไทยอย่างเต็มที่ การทำธุรกรรมผ่านธนาคารไทยก็เป็นเรื่องง่ายอีกทั้งยังมีออฟฟิศย่อยตั้งอยู่ที่ประเทศไทยอีกด้วย และก็ที่สำคัญคือโบรกเกอร์ FBS ทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยและรัดกุมนั่นเอง ถึงแม้ว่าโบรกเกอร์แห่งนี้จะขึ้นชื่อเรื่องของการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยรวมทั้งรัดกุม แต่โบรกเกอร์แห่งนี้ก็สามารถที่จะถอนเงินได้อย่างเร็ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้เองจึงทำให้ผู้ใช้งานหลายๆคนเกิดความพึงพอใจที่สูงและต่อเนื่องนั่นจึงทำให้โบรกเกอร์ FBS สามารถครอบครองใจของเทรดเดอร์ชาวไทยได้มากมายหลายคนนั่นเอง

ในช่วงนี้ ถ้าหากเราเริ่มศึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการเทรดในอนาคต จะทำให้เราสามารถทำกำไรในตลาดได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอนจ้า
 


Divergence คือ รูปแบบทางกราฟเทคนิคอย่างหนึ่ง เป็นการแยกออกจากกันของราคาและตัวชี้วัด (Indicator) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ Oscillator นั่นหมายความว่าทิศทางของราคารวมทั้งตัวชี้วัดจะสวนทางกันหรือตรงกันข้าม นักเทรดก็มักจะได้ยินอีกหนึ่งคำคือ Convergence คือการลู่เข้ากัน นั่นเมื่อทิศทางราคาแล้วก็ตัวชี้วัดแสดงไปในทางเดียวกัน


Divergence ในทางเทคนิคมีด้วยกัน 2 แบบ คือ


1. Regular Divergence เป็นรูปแบบไดเวอเจนทั่วไป สามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ

- Bullish Divergence คือราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ หรือ Lower low (LL) เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดเก่า แต่ตัวชี้วัดอย่างอินดิเครเตอร์ทำจุดต่ำใหม่แต่สูงกว่าจุดต่ำสุดเก่า สำหรับเทคนิคง่ายๆในการดู Bullish Divergence ให้ได้ผลที่ทรงประสิทธิภาพ คือต้องรอให้ราคาที่มาทำ new low มีการดีดตัวกลับเสียก่อน ตรงบริเวณตำแหน่ง new low ต้องเกิด Bullish Candle คือการดีดตัวกลับ แล้วเราจึงมาดูอินดิเครเตอร์ว่า new low นั้นสูงกว่าเดิมหรือไม่ ถ้าสูงกว่าก็คือสัญญาณ Bullish สามารถทำการซื้อได้

- Bearish Divergence คือราคามีการขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ หรือ Higher high (HH) แต่ตัวชี้วัดกับทำlower high คือสร้างจุสูงสุดใหม่ที่ต่ำกว่าจุดสูงสุงเดิม และเมื่อใดที่ราคาลดต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิม ทำให้ตลาดอยู่ในสภาวะที่มีโอกาสอย่างมากที่จะกลับตัวจากขาขึ้นเปลี่ยนเป็นขาลงคะ ให้ระวังการลับตัวจาลขาขึ้นเป็นลง


2. Hidden Divergence เป็นรูปแบบที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงทิศทาง สามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ

- Bullish Hidden Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่อยู่สูงกว่าเดิม หรือ higher low (HL) แต่อินดิเคนเตอร์กลับมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ เรียกว่า Lower Low (LL) จะเกิดขึ้นในเทรนขาขึ้น สัญญาณจากอินดิเคเตอร์จะเป็นสัญญาณที่บอกว่าราคาจะมีการพักตัวในเทรนขาขึ้น ให้หาจุดเข้าออเดอร์

- Bearish Hidden Divergence จะเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่อยู่ต่ำกว่าเดิม หรือ lower high แต่อินดิเคเตอร์กลับสร้างจุดสูงสุดใหม่ หรือ Higher high เป็นการส่งสัญญาณว่าราคากำลังจะปรับตัยในเทรนขาลง
การใช้ไดเวอเจนสำหรับในการเทรดนั้น เทรดเดอร์บางคนมักนิยมเปิดออเดอร์เร็วเกินไปหรือเปิดทันทีที่เห็นไดเวอเจน ไม่รอสัญญาณที่แท้จริง ควรรอจนกว่าจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางที่แน่นอนเสียก่อน โดยช่วงยืนยันสัญญาณอาจใช้เส้นค่าเฉลี่ย หรือว่าระดับLow/High ก่อนหน้าเป็นตัวยืนยัน หรืออาจจะดูบริเวณแนวรับ หรือ แนวต้านก่อนหน้า เป็นข้อมูลประกอบสำหรับในการเข้าเทรดได้ หากเกิดไดเวอเจน ใกล้บริเวณแนวรับหรือแนวต้านก่อนหน้า ก็จะเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าราคามีโอกาสผ่านระดับนั้นได้มากหรือน้อย

ถ้าหากว่าคุณเป็นมือใหม่และสนใจอยากเทรด Forex แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี คุณจะต้องห้ามพลาดเลย เพราะวันนี้เรามาดูการเลือกโบรกเกอร์ Forex สำหรับมือใหม่กันค่ะ

 

นักลงทุนส่วนมากให้ความสำคัญกับการเลือกโบรกเกอร์เป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าแต่ละโบรกเกอร์ต่างก็มีคุณสมบัติเด่นที่ไม่เหมือนกัน นักลงทุนก็เลยจะต้องเลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะสมกับทักษะหรือเทคนิคการเทรดของแต่ละคน สำหรับนักลงทุนมือใหม่การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีบางทีอาจมองเป็นเรื่องยาก ก็เลยต้องเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์ที่ดี ซึ่งทาง Indy Trader ได้รวบรวมเทคนิคง่ายๆมาฝากกันดังต่อไปนี้



1. พิจารณาตามความต้องการของตัวเองศึกษาข้อมูลตลาด Forex

ก่อนจะเริ่มได้กำไรในตลาด Forex ผู้ลงทุนต้องถามตนเองก่อนว่าต้องการทำกำไรแบบไหนหรือต้องการเทรดทำกำไรเล็กน้อยแบบรายวันหรือไม่ การประเมินสิ่งที่มีความต้องการก่อนเลือกโบรกเกอร์ก็เลยเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยเหตุว่าหากต้องการเทรดแบบระยะสั้นและเป็นช่วงที่มีการแกว่งตัวน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เป็น ECN แต่ว่าถ้าเกิดอยากเทรดช่วงจังหวะที่มีการแกว่งตัวสูงหรือช่วงข่าว จำเป็นต้องมองหาโบรกเกอร์แบบ ECN

ดังนี้ถ้าหากมีเงินลงทุนน้อยกว่า 500 $ เหมาะกับเปิดบัญชีแบบ Micro และหากมีเงินทุนมากกว่า 500 $ ก็สามารถเปิดบัญชีแบบ Standard ได้เลย ด้วยเหตุผลเหล่านี้นักลงทุนจึงต้องทำความรู้จักกับนิสัยการทำกำไรของตนเองเสียก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยในการมองหาโบรกเกอร์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด



2. อ่านรีวิวของนักเทรดที่มีการขาดทุนในแต่ละโบรกเกอร์

หนึ่งในตัวช่วยในการเลือกโบรกเกอร์คือควรอ่านรีวิวของแต่ละโบรกเกอร์ (ถ้ามี) หรือการพูดคุยเกี่ยวกับตลาด Forex เพราะนักลงทุนหลายคนจะเขียนรีวิวของแต่ละโบรกเพื่อให้เราพิจารณาและระมัดระวังได้มากขึ้น นักลงทุนบางคนจะเขียนถึงเหตุผลที่ขาดทุนรวมทั้งข้อเสียของแต่ละโบรกเพื่อเตือนนักเทรดคนใหม่หลายๆคน ซึ่งการอ่านรีวิวของนักลงทุนที่มีประสบการณ์นั้น จะช่วยให้รู้จักข้อดีข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์ได้สะดวกเป็นตัวช่วยสำหรับในการตัดสินใจอีกด้วย



3. ตรวจสอบข้อเสนอของโบรกเกอร์

หลังจากเข้าใจแล้วว่าต้องการเปิดบัญชีจำพวกไหน ควรจะตรวจสอบเพราะว่าโบรกเกอร์ที่เลือกนั้นรองรับระบบการโอนเงินรวมทั้งถอนเงินในประเทศหรือไม่ การฝากถอนนั้นมีปัญหาบ่อยหรือไม่ เพราะการโอนเงินหรือการถอนเงินนั้นเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุดที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับในการเลือกคือ เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าเสปรดไม่สูงนัก อย่างเช่น คู่เงินพื้นฐาน EUR/USD ควรจะมีค่าสเปรดที่ 1 pip (หากไม่ใช่บัญชีแบบ ECN) 2 pip นั้นเป็นค่าที่สูงมากแล้วก็ถ้าเป็นบัญชีแบบ ECN ค่าสเปรดต่ำจะช่วยให้เราประหยัดได้อย่างมาก

สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มเทรด Forex สิ่งแรกและเป็นขั้นตอนแรกสุดของการเทรด Forex คือ เราจะต้องรู้ว่า เราควรเตรียมอะไรบ้าง เพื่อจะทำให้การเทรดเป็นไปได้อย่างดีเยี่ยม และวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะเอามาฝากเพื่อนๆ ไปดูกันเลยจ้า

 


1. คอมพิวเตอร์ PC Notebook หรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต
2. อินเตอร์เน็ตที่มีความเสถียร
3. อีเมล (email) เพื่อใช้ลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีเทรด Forex
4. เลือกโบรกเกอร์ที่ต้องการเปิดพอร์ตบัญชีเทรดซื้อขาย เช่น Exness, XM, FBS, Weltrade
5. บัญชีธนาคารในประเทศไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย เป็นต้น
6. จำนวนเงินที่ต้องการฝากเข้าพอร์ตบัญชีเทรด เริ่มต้นเพียง $1 ( 33 บาทไทย )
7. หากยังไม่มีทุน แนะนำให้เปิดบัญชีเดโม (Demo)
8. เอกสารที่ใช้ยืนยันเพื่อเปิดบัญชีเทรด บัตรประชาชน บิลค่าน้ำค่าไฟ
9. ติดตั้งโปรแกรมเทรดชื่อว่า MetaTrader 4-5 (mt4,mt5) ติดตั้งได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ ios,android,windows



เทรด Forex ในไทยผิดกฎหมายหรือไม่

ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ในปัจจุบันในประเทศไทย เทรดเดอร์ก็สามารถ เปิดบัญชีเทรด Forex ได้โดยผ่านโบรกเกอร์ต่างๆและก็สามารถซื้อขายหรือเทรดได้ด้วยตัวเองโดยผ่านโปรแกรมเทรด MT4 MT5 ที่สามารถใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ



เวลาเปิดปิดตลาด Forex

ตลาด Forex เปิดให้ทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง วันจันทร์-วันศุกร์ โดยจะเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์เวลา 04.00 น. และปิดตลาดในเช้าวันเสาร์ เวลา 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ตลาดปิดเสาร์และอาทิตย์



เปิดบัญชีเทรด Forex

เมื่อเลือกโบรกเกอร์ Forex ได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเปิดพอร์ตบัญชีเทรด ซึ่งแต่ละโบรกก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป แม้กระนั้นข้อมูลที่ต้องมีและก็ต้องกรอกเหมือนๆกัน คือ

1. ชื่อ-สกุล
2. วันเดือนปีที่เกิด
3. ที่อยู่
4. เบอร์โทรศัพท์
5. อีเมล์

รวมทั้งเอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตนบัญชี คือ บัตรประจำตัวประชาชน ใบเสร็จรับเงินค่าสาธารณูปโภค ได้แก่ ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำประปา ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ใบเสร็จรับเงินค่าอินเตอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลชื่อที่อยู่จะต้องตรงกับรายละเอียดที่พวกเรากรอกข้อมูลไป