Topics

Bitcoin ลดลง 4.9% ในวันพฤหัสบดี ปิดที่ราว 20.7K ดอลลาร์ โดยซื้อขายใกล้ 20.8K ดอลลาร์ในตอนต้นของวันในวันศุกร์ ในด้าน Ethereum ก็ลดลง 6.4% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 1.1K ดอลลาร์ Altcoins 10 อันดับแรกลดลงอาทิ 2.9% (BNB) เป็น 8.8% (Polkadot) มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 3.5% ในชั่วข้ามคืนเป็น 903K ล้านดอลลาร์ ดัชนี Dominance Bitcoin ลดลง 0.3 จุดมาอยู่ที่ 44.0% ดัชนี Cryptocurrency Fear and Greed เพิ่มขึ้น 2 จุดเป็น 9 ในวันศุกร์

แม้ว่าเราจะไม่เห็นระดับต่ำสุดใหม่ใด ๆ ระหว่างวัน แต่ Bitcoin ยังปิดในแดนลบต่อเนื่องเป็นวันที่สิบ โดยจุดเน้นที่เป็นขาลงยังคงอยู่ที่ระดับ 20K ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในอดีตของปี 2017


การปิดรอบสัปดาห์ที่ต่ำกว่า 22.3K จะกลายเป็นสิ่งใหม่ เนื่องจากจะเป็นการปิดครั้งแรกที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ แม้ Bitcoin เคยร่วงลงต่ำกว่าระดับนี้มาแล้วแต่ก็ฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็วจากอุปสงค์ของนักลงทุนระยะยาว แต่ประเด็นล่าสุดที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนคือความไม่แน่นอนของกองทุนคริปโตเคอเรนซีที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์อย่าง Three Arrows Capital (3AC) ในประเด็น การล้มละลายที่อาจเกิดขึ้น

Christy Goldsmith Romero กรรมาธิการ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) เรียกร้องให้รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐปิดช่องว่างด้านกฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัล และเปรียบเทียบการล่มสลายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008

แหล่งข่าว Bitcoin will test historical patterns โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุด ตามคาดการณ์ของตลาด แม้บางส่วนมองว่าอาจขึ้นถึง 100 จุด การดำเนินดังกล่าวไม่ได้ดึงตลาดให้ร่วงลงแต่ก็ไม่ได้หนุนตลาดแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยอยู่มากเกี่ยวกับความยั่งยืนของการดีดตัวขึ้นของหุ้นเมื่อวานนี้และการอ่อนค่าของดอลลาร์

ในการซื้อขายในยุโรป เงินดอลลาร์ส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากการขาดทุนและตลาดตราสารทุนต่างรีบาวด์ แต่ปฏิกิริยาของตลาดในวันนี้ดูเหมือนเป็นบทนำของแรงกระตุ้นที่ลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยพิจารณาจากเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นจากเฟดและการคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่จะชะลอตัวลง โดยเฟดได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการว่างงานช่วงสิ้นปีขึ้นเป็น 3.7% พร้อมปรับลด GDP สำหรับปีนี้จาก 2.8% เหลือ 1.7% และอัตราเดียวกันในปีหน้า


ปัจจัยบวกที่อาจเป็นไปได้สำหรับตลาดคือการประกันว่าการเคลื่อนไหวของเมื่อวานนั้นยอดเยี่ยมและ FOMC ตั้งใจที่จะปรับขึ้นอีก 50 จุดเมื่อสิ้นสุดการประชุมเดือนกรกฎาคม

นอกจากนี้ ยังจำเป็นสำหรับตลาดที่จะต้องเข้าใจว่าเฟดตั้งใจจะดำเนินการอย่างไร การคาดการณ์โดยเฉลี่ยจากสมาชิก FOMC แนะนำให้ระดับ 3.75% ซึ่งสูงกว่าอัตราปัจจุบัน 200 จุดและต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ตลาดฟิวเจอร์สตั้งขึ้นในวันก่อน 150 จุด

ทั้งนี้ แม้พาวเวล์จะพยายามสร้างความมั่นใจ แต่ตลาดแทบไม่เชื่อจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยที่ไม่เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของค่าเงินดอลลาร์และราคาหุ้นที่ลดลงเพื่อตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่วันหรือสัปดาห์ต่อจากนี้ ตลาดมีโอกาสสูงที่จะปรับตัวเข้ากับความเป็นจริงชุดใหม่


ฟิวเจอร์ส S&P500 ลดลงเหลือ 3,700 ใกล้ 3,500 เพียงไม่กี่ก้า ซึ่งเป็นเส้นแนวโน้มระยะยาวที่สำคัญ เว้นแต่ว่าตลาดจะเข้าสู่โหมด Free-fall ใกล้ 3500 ซึ่งผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์ ตลาดสามารถหาแนวรับได้เช่นเดียวกับในปี 2016 และ 2018 การร่วงลงของ S&P500 ที่ต่ำกว่าเส้นนี้ ในมุมมองของเรา อาจทำให้เฟดดำเนินการอย่างนุ่มนวลมากขึ้น

แหล่งข่าว S&P500 could fall to 3,500 before Fed softens its approach โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

น้ำมันและก๊าซได้รับผลกระทบอย่างมากระหว่างช่วงการซื้อขายในนิวยอร์ก น้ำมันและก๊าซร่วงลงอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ในทั้งสองกรณี เราอาจเห็นการกลับตัวของพลังงานหลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าจากระดับต่ำสุดของในเดือนเมษายน 2020

ก๊าซธรรมชาติร่วงลงมากกว่า 20% ในวันอังคารจากรายงานการกลับมาเริ่มงานอีกครั้งภายใน 90 วันของ Freeport ซึ่งเคยคาดว่าจะใช้งานได้ในช่วงสิ้นปี


มันตรงกันข้ามกับวันที่มีการประกาศเพลิงไหม้ใน Freeport LNG เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งทำจุดสูงสุดที่ 9.6 ดอลลาร์ ราคาได้ลดลงหนึ่งในสี่ หากเราเห็นการกลับตัว จะไม่น่าแปลกใจหากราคาจะร่วงกลับไปที่ 6.5 หรือ 6.0 ดอลลาร์

น้ำมันยังเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ เบรนต์อยู่ในช่วงการซื้อขายที่ห้าซึ่งแสดงแนวโน้มขาลง เมื่อเช้าวันก่อน เราเห็นความพยายามของกระทิงในการทำลายเทรนด์ซึ่งทำให้เกิดการเทขายอย่างหนัก เนื่องจากราคาร่วง 5% หรือเกือบ 6 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง


เราได้เห็นแล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าน้ำมันมีราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ซื้อในตลาดและเศรษฐกิจ ทำให้เกิดอุปสงค์ชะงักและทำให้เกิดการปรับฐาน ข้อมูลใหม่จาก IEA พบว่าสินค้าคงคลังทั่วโลกเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี อย่างไรก็ตาม OPEC+ กลับผลิตได้ต่ำกว่าโควตามากขึ้นเรื่อยๆ และการผลิตของสหรัฐหยุดนิ่งที่ราว11.9 ล้านบาร์เรลนานนับ 10 สัปดาห์แล้ว

ประมาณการของเราคือเราจะเห็นการสิ้นสุดของการแรลลี่ที่ยาวนาน หากเบรนต์สร้างฐานที่ต่ำกว่า 114 ดอลลาร์ และอีกสัญญาณที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นคือการสร้างฐานที่ต่ำกว่า 110 ดอลลาร์ ซึ่งผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน อาจปูทางไปให้ร่วงลงไปสู่ 100 ดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาจะอยู่ในช่วง 100-120 ดอลลาร์ในช่วงที่เหลือของปี

แหล่งข่าว Yesterday’s oil and gas crash is the first sign of a break โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ทองคำร่วงลงราว 3% ในวันจันทร์ แตะระดับ 1,809 ดอลลาร์เมื่อเริ่มซื้อขายในวันอังคาร จากการเทขายเมื่อวานทำให้สัญญาณขาลงที่เริ่มปรากฏขึ้นในกรอบเวลารายวันถึง 4 ประการ อย่างแรก แท่งเทียนรายวันที่กลืนกินโมเมนตัมขาขึ้นของวันศุกร์อย่างสมบูรณ์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของตลาดหมีประการที่สอง การฟื้นตัวของทองคำหยุดชะงักเมื่อเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน บ่งชี้ว่าแนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นขาลง


ประการที่สาม ทองคำเคลื่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณแนวโน้มระยะยาวที่สำคัญ การสร้างฐานในด้านล่างเส้นนี้เป็นตัวนำไปสู่แนวโน้มขาลงต่อไป ซึ่งเมื่อปรากฎเช่นนี้ นักลงทุนมักจะเพิ่มการขายจากสัญญาณดังกล่าวและตามมาด้วยการร่วงลงอย่างรุนแรงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ประการที่สี่ การฟื้นตัวของทองคำในสัปดาห์นี้เกิดขึ้นในกรอบแคบ ๆ ใกล้ระดับ Fibonacci retracement 61.8% จากจุดสูงสุดในเดือนเมษายนถึงระดับต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม

ทั้งนี้ เป้าหมายระยะสั้นของหมีน่าจะอยู่ที่ราว 1,790 ดอลลาร์ และหากความเชื่อมั่น risk-off ในตลาดโลก ทองคำอาจกลับมาที่บริเวณ 1,730-1,770 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว


หากเราพิจารณาในกรอบเวลารายสัปดาห์ จะเห็นการเทขายครั้งสุดท้ายในเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์ที่ 1,630 ดอลลาร์ ซึ่งเป็น 50% retracement ของการขึ้นปี 2018-2020 ที่เกิดขึ้นจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย

แหล่งข่าว Bearish signals in gold set up a drawdown potentially to $1630 โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

Bitcoin ทรุดลง 15.1% ในวันจันทร์ ปิดที่ราว 23,200 ดอลลาร์ และลดลงอีก 10% ในเช้าวันอังคาร ก่อนที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ซื้อหลังจากแตะระดับ 20,800 ดอลลาร์ Ethereum ดิ่งลง 7.8% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมากกว่า 30% ในสัปดาห์ altcoins 10 อันดับแรกเพิ่มขึ้นจากการเข้าช้อนของผู้ซื้อ โดย Solana เพิ่มขึ้น 9.5% และ Cardano เพิ่มขึ้น 7.3% แต่บางเหรียญยังคงลดลงอาทิ Tron -8% และ BNB -3.5%

มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 6% ในชั่วข้ามคืนเป็น 0.965 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนีความกลัวและความโลภลดลง 3 จุดเป็น 8 ในวันอังคารและยังคงอยู่ใน "ความกลัวสุดขีด"

Bitcoin ทรุดตัวลงในวันจันทร์ เป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตในเดือนมีนาคม 2020 ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ร่วงลงและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า โดยแตะบริเวณด้านล่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ธรรมดา 200 สัปดาห์ แต่ในมุมมองของเรา Bitcoin จำเป็นต้องแตะระดับใกล้ปี 19,500: จุดสูงสุดในปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่การเติบโตเชิงรุกที่สุดเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายปี 2020 เพื่อความชัดเจนสำหรับผู้ซื้อระยะยาว


three-point checklist ที่คล้ายกันของ Ether ก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน ETHUSD แตะระดับเฉลี่ย 200 สัปดาห์และดิ่งลงต่ำกว่าระดับสูงสุดของรอบก่อนหน้าในปี 2018 อย่างไรก็ตาม การแรลลี่ที่ดุเดือดที่สุดในช่วงปลายปี 2020 จาก $740 ซึ่งต่ำกว่าระดับต่ำสุดของวันนี้ที่ $1,075 อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลังอาจทะเยอทะยานเกินไปสำหรับหมี

นอกจาก BTC แล้ว หุ้นที่เน้นสกุลเงินดิจิทัลก็ทรุดตัวลงเช่นกัน หุ้น MicroStrategy ร่วง 25.2% ในขณะที่ Coinbase ร่วง 11.4%

ตัวกระตุ้นสำคัญสำหรับการขายออกครั้งนี้คืออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ปรับขึ้นเป็น 8.6% ในวันศุกร์ ตามมาด้วยการเก็งกำไรว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดในการประชุมวันพุธหรือปลายเดือนกรกฎาคม


ตาม IntoTheBlock ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ถือสกุลเงินดิจิทัลกำลังขาดทุน Chris Marszalek CEO ของ Crypto.com กล่าวว่าตลาดได้เข้าสู่ช่วงของ “cryptozyma”

Celsius ประกาศระงับการถอน การแลกเปลี่ยน และธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลเนื่องจาก "สภาวะตลาดที่รุนแรง"

สำนักงานบัญชีกลางแห่งสหรัฐอเมริกาได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin โดยอ้างถึงการล่มสลายของโครงการ Terra กระทรวงการคลังของสหรัฐเชื่อว่าหน่วยงานของประเทศควรมีความกระตือรือร้นในการควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น

แหล่งข่าว Bitcoin and Ether reached two of three bears’ targets โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

Bitcoin ร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ณ จุดหนึ่งในเช้าวันจันทร์ที่ระดับต่ำกว่า $25K เช่นเดียวกับ Ethereum ที่ร่วงลงถึง 28% ในรอบ 7 วัน ขณะที่ Altcoins 10 อันดับแรกลดลงเช่นกัน อาทิ 14.5% (Tron) และ 32% (Solana)

มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 20% ในสัปดาห์ ซึ่งเข้าใกล้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญขณะที่ปริมาณการซื้อขายก็ลดลงเช่นกัน โดยกำลังสะท้อนถึงการหนีตายของนักลงทุน แต่น่าสังเกตว่าตลาดดั้งเดิมก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

ดัชนีความกลัวและความโลภลดลงเหลือ 11 จุดในวันจันทร์ ความการแกว่งตัวที่ยืดเยื้อนี้คล้ายกับในเดือนธันวาคม 2018 และมีนาคม 2020 ในตอนแรก ซึ่งได้กลายเป็นจุดสิ้นสุดของ crypto-winter


อย่างไรก็ตาม อาจยังเร็วเกินไปที่จะสรุปมัน Bitcoin ยังไม่ได้ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ โดยตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวผ่าน 22K เป้าหมายที่ทะเยอทะยานมากขึ้นสำหรับตลาดหมีคือความพยายามที่จะผลักดัน Bitcoin กลับสู่ระดับสูงสุดในปี 2017 ที่เหนือ 19,000 ดอลลาร์

อนึ่ง Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเรียกสกุลเงินดิจิทัลว่าเป็นตัวเลือกที่มีความ "เสี่ยงมาก" สำหรับการออมเพื่อการเกษียณ

Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital เตือนนักลงทุนถึงระยะที่ยืดเยื้อของการสร้างฐานของตลาด ท่ามกลางนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด

Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้งบล็อคเชนของ Cardano เชื่อว่าในสถานการณ์ตลาดปัจจุบันยังคงมีข้อดี เนื่องจากแนวโน้มขาลงเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับวัฎจักรสกุลเงินดิจิทัล

แหล่งข่าว Bitcoin is unlikely to gain support before falling to $20K โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น 8.6% ในเดือนพฤษภาคม จาก 8.3% ในเดือนก่อนหน้า เหนือคาดการณ์ก่อนนี้ ย้อนกลับความหวังว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง

เงินเฟ้อที่สูงเช่นนี้อาจทำให้เกิดจุดยืนของ FOMC เข้มงวดยิ่งขึ้นไปอีก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เฟดถูกคาดหมายว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดในสัปดาห์หน้า และอีกทีในปลายเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง จึงมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองเท่าอีก ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับการเก็งกำไรสำหรับค่าเงินดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


อีกประเด็นคือการทำ QT เฟดยังสามารถปรับเปลี่ยนแผนการขายสินทรัพย์ออกจากงบดุลเพื่อกระชับเงื่อนไขทางการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาดหุ้นเพราะจะบังคับให้เฟดกระชับนโยบายการเงินให้รัดกุมยิ่งขึ้น ในสภาพแวดล้อมนี้ สินทรัพย์ในตลาดเงินที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์มีความน่าสนใจเนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น

สิ่งนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับปีที่แล้วที่เฟดให้ความมั่นใจกับเราว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยตัวมันเอง ดังนั้นนักลงทุนจึงเทขายดอลลาร์จากมูลค่าที่ร่วงลง


แหล่งข่าว Accelerating US inflation weighs on stocks, strengthens USD โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

Bitcoin ลดลง 0.3% ในวันพฤหัสบดี และเคลื่อนที่รอบๆ $30,000 การลดลงครั้งนี้นับเป็นการลดลงของความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินดิจิตอลและตลาดหุ้นในเดือนที่แล้ว Ethereum ลดลง 0.4% โดยปิดที่ 1,800 ดอลลาร์ altcoins 10 อันดับแรกเคลื่อนไหวแบบผสม อาทิ ลดลง 2.5% (Cardano) หรือเพิ่มขึ้น 3.6% (Solana) Peter Brandt ผู้มีประสบการณ์ในตลาดการเงินเชื่อว่า Ethereum อยู่ในรูปสามเหลี่ยมขาลง และอาจตกลงสู่ระดับ 1268 ดอลลาร์ภายในหนึ่งเดือน

มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 0.2% ในชั่วข้ามคืนมาที่ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนีความกลัวและความโลภเพิ่มขึ้น 2 จุดเป็น 13 ในวันศุกร์ และยังคงอยู่ในโหมด "ความกลัวสุดขีด"

Bitcoin แตะเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์เกือบทุกวันในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายยังคงไม่ให้ความสำคัญกับแนวโน้มที่ชัดเจน

โดยทั่วไป ช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินดิจิทัลกับตลาดหุ้นถือเป็นข่าวดีในระยะยาว เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนมืออาชีพที่กำลังหันมามองที่สกุลเงินดิจิทัลในฐานะเครื่องมืออื่นในพอร์ต


Jim Cramer เจ้าของ Mad Money ของ CNBC เรียก BTC และ ETH ว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเกิน 5% ของพอร์ตการลงทุน ขณะที่ PwC ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชี รายงานว่ากองทุนป้องกันความเสี่ยงส่วนใหญ่ลงทุนน้อยกว่า 1% ของสินทรัพย์ในสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้ จากการสำรวจของ Deloitte 75% ของผู้ค้าปลีกในสหรัฐจะดำเนินการสนับสนุนการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลภายในสองปี

USDT ซึ่งโดดเด่นที่สุดในโลกตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ใกล้ที่จะสามารถใช้งานบนบล็อกเชนของ Tezos โดยขณะนี้ USDT เปิดให้บริการแล้วใน 12 เครือข่าย รวมถึง Ethereum, Solana, Polygon, Tron และ Algorand

แหล่งข่าว Loss of correlation with stocks will pave the way for crypto to portfolios โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst