แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - นักศึกษา22

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 14
91
สวัสดีตอนเที่ยงๆ  มาดูเกี่ยวกับเรื่อง วิธี forex E-currency คืออะไร ใช้อย่างไร

ตัวอย่าง e-currency
1.Bitcoin

เงิน BTC อ่านว่า บิทคอยน์ ถือเป็น e-currency ที่ดังที่สุด และมีคนรู้จักมากที่สุดในโลก เพราะเป็นค่าเงินที่มีการใช้ในการแลกเปลี่ยนและสามารถใช้ในการซื้อขายของ หรือสินค้าได้จริงๆในปัจจุบันด้วย โดยปัจจุบันค่าเงิน 1 BTC มีมูลค่า 8,500 บาท

2.litecoin

เงิน LTC อ่านว่า ไลค์คอยน์ ถือเป็น e-currency ที่ดังและได้รับความนิยมไม่แพ้กับตัวแรกครับ เพียงแต่มี Market Cap ที่อาจจะเล็กกว่า เงินตัวนี้สามารถใช้ในการซื้อขายสินค้ากันได้จริงเช่นเดียวกันกับในตัวแรก โดยปัจจุบัน 1 LTC มีมูลค่าอยู่ที่ 200 บาท (โดยประมาณ)

3.Dogecoin

สกุลเงินตัวสุดท้ายนี้คือ DOGE หรือเรียกว่า โดกี้คอยน์ เป็นอีกหนึ่งสกลุเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถขุดกันขึ้นมา หรือเทรดได้อย่างง่ายดาย จัดเป็น e-currency ที่ได้รับความนิยมในตลาดการเทรด ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 1000 DOGE เท่ากับ 20 บาท

e-currency กับเงินปกติ


ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคำที่ต่อไปจะค่อนข้างมีอิทธิพลมากยิ่งขึ้นในอนาคต กับ e-currency จะยิ่งมีอิทธิพลต่อวงการเทรดมากขึ้นตามไปด้วยดังนั้นอย่าลืมหมั่นศึกษาไว้ด้วยนะครับ

e-currency  คืออะไร ?
e-currency คำนี้อาจใหม่สำหรับใครหลายๆคนที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาการเทรด forex ในโลกออนไลน์ และคุณสามารถพบคำว่า e-currency ได้ทั่วไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ดังนั้นเพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคำนี้ ต้องอ่านบทความนี้ครับ ผมขอขยายความให้คุณมีความเข้าใจในคำว่า e-currency มากยิ่งขึ้น

e-currency ในทางทั่วไป คืออะไร ?   
e-currency  ย่อมาจาก eletrical currency หรือ มีอีกความหมายใกล้เคียงให้เรียกอีก อาทิ เช่น e-money electronic cash, electronic currency, digital money, digital cash หรือ digital currency  ซึ่ง e-currency ก็คือ เงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เงินเสมือนจริง ที่เราสามารถใช้จ่ายได้เหมือนเงินจริงๆ โดยมีแบล็คอัพเป็นเงินจริง หรือทองคำ เป็นสกุลเงินที่ใช้สำหรับ ทำธุรกรรมการเงินทางอินเตอร์เน็ตนั่นเอง




ประเภทของ E-currency
เราสามารถแบ่งประเภทของ e-currency ต่างๆ ได้จากระบบของฝากและการถอนเงินเพื่อเปลี่ยนเป็น e-currency นั้น ได้ดังต่อไปนี้

1.ระบบ Direct Payment

เป็นระบบที่ทำการผูกบัญชี e-currency ไว้กับบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิตการ์ด ผ่านธุรกรรมทางธนาคาร โดยสามารถนำเงินจากบัญชีธนาคารของเราแล้วเปลี่ยนให้เป็น e-currency นั้นได้โดยตรง หรือในทางกลับกัน สามารถถอนจำนวนเงินที่มีอยู่ใน e-currency นั้นๆ สู่บัญชีธนาคารของเราได้โดยตรงเช่นกัน e-currency เหล่านี้ได้แก่  Paypal , Moneybookers , Clickandbuy, Alertpay , Webmoney,และ Neteller

2.ระบบ Third Party

เป็นระบบที่ทำการซื้อขาย e-currency ผ่านตัวแทนต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเงินจากบัญชีธนาคารของเราเป็น e-currency ชนิดนั้นๆ ซึ่งตัวแทนแต่ละที่นั้นก็มีค่าธรรมเนียมการ ซื้อขายที่แตกต่างกันไป e-currency เหล่านี้ได้แก่  e-gold , Webmoney , Liberty Reserve ,Pecunix, c-gold และ e-dinar

มูลค่าขึ้นกับราคาทองคำ ได้แก่ e-gold , c-gold ,e-bullion, Pecunix และ e-dinar

มูลค่าไม่ขึ้นกับราคาทองคำ ได้แก่ Liberty Reserve

โดย การที่ e-currency ที่ขึ้นกับราคาทองคำนั้น หมายความว่า ถ้าค่าทองในตลาดโลกมีมูลค่ามากขึ้น ค่าเงินใน e-currency ชนิดนั้น ก็จะมีมูลค่ามากขึ้นตามเช่นกัน ในทำนองเดียวกัน ถ้าค่าทองในตลาดโลกลดลง ค่าเงินที่เรามีอยู่ ก็จะลดลงเช่นกัน  และยังมี e-currency บางชนิดเช่น e-bullion สามารถเลือกใช้ได้ทั้งมูลค่าที่ขึ้นกับราคาทองคำ หรือ ไม่ขึ้นกับราคาทองคำ



3.ระบบ Voucher Card

ระบบ นี้ จะคล้ายๆ เป็นบัตรเติมเงิน ซึ่งเราต้องนำเงินสดไปซื้อบัตร หรือสลิปมาจากตัวแทนจำหน่าย โดยในโซนยุโรปนั้นสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้านมินิมาร์กทั่วไป หรือตามตู้ขายบัตรอัตโนมัติ โดยที่ ในการ์ดหรือสลิปแต่ละใบ จะประกอบไปด้วยมูลค่าเงินที่เราซื้อ และรหัสเพื่อนำมากรอกในบัญชี e-currency ของเรา เป็นการเติมเงินในบัญชีโดยผ่านบัตร นั้นเอง  e-currency  เหล่านี้ได้แก่   Ukash , Paysafecard CashU รวมทั้ง Webmoney ด้วย

โดย ที่ e-currency บ้างชนิดก็สามารถใช้คุณสมบัติได้ทั้งสามระบบที่กล่าวมาข้างตน เช่น Webmoney และ CashU ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศที่ผู้ใช้งานสามารถนำระบบไหนมาใช้ได้



e-currency ในทาง Forex คืออะไร
e-currency ในทาง Forex คือ ค่าเงินสกุลออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ในการเทรดตามตลาดต่างๆ โดยเป็นสกุลเงินที่คุณนั้นอาจไม่คุ้ยเคย หรือไม่รู้จัก หรือไม่ได้รับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารของประเทศอื่นๆ แต่มีมูลค่าในโลกออนไลน์ และมีการเทรดกันจริงๆ โดยค่าเงิน e-currency ที่รู้จักกันมากที่สุดเช่น bitcoin (BTC) หรือ litecoin (LTC) เป็นต้น

จุดเด่นของการเทรด e-currency
จุดเด่นของ e-currency ที่น่าสนใจนั้นมีเป็นข้อๆดังต่อไปนี้คือ

1.มีการเทรดกันตลอด 24 ชั่วโมง

ถ้าเป็น e-currency ตามตลาดการเทรดแต่ละแห่งจะมีการเทรดค่าเงินเหล่านี้กันตลอด 24 ชั่วโมง และทุกวันทำการไม่มีวันหยุด ทำให้คุณสามารถเทรด เพื่อการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

2.มีสกุลเงินหลากหลาย

จากประสบการณ์ของผู้เขียนพบว่าสกุลเงินที่เป็นแบบ e-currency นั้นมีมากกว่า 400 สกุลเงิน และเพิ่มขึ้นเดือนละมากกว่า 2-3 สกุลเงินเลยทีเดียว ดังนั้นจึงมีตลาด e-currency ให้คุณได้ไปหยิบไปจับอีกมากมาย

3.ง่ายต่อการปั่นตลาด

คุณสามารถปั่นราคาของ e-currency บางตัวที่มีมูลค่าน้อยๆให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้คนที่เป็นเม่า เข้ามาเล่นทำกำไร โดยที่ทุนคุณ (เจ้า) นั้นต่ำกว่าราคาตลาดมากๆ




E-Currnecy กับการเทรด Forex

โบรกเกอร์ให้บริการเทรด Forex จำนวนมากเปิดให้บริการฝาก-ถอนเงินผ่าน E-Currency ดังนั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงินคุณสามารถเลือกใช้ E-Currency ในการฝาก-ถอนเงินได้อีกช่องทางหนึ่ง

E-currency จะใช้สำหรับถอนเงินหรือฝากเงินเข้าโบรกเกอร์ ก่อนที่จะสมัคร E-Currency ให้ดูก่อนนะครับว่าแต่ละโบรกเกอร์นั้นรองรับ E-Currency ตัวไหนบ้าง

Perfect Money
Perfect Money เป็น E-Currency อีกตัวหนึ่งที่โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการฝาก – ถอนเงินทาง Perfect Money และหาที่รับแลกเหรียญได้ง่าย


WebMoney
WebMoney เป็น E-Currency จากรัสเซีย โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่จะเปิดให้ฝาก – ถอนเงินทาง Webmoney และสามารถหาที่รับแลกเหรียญได้ง่าย
วิธีสมัคร WebMoney

Paypal
Paypal สามารถถอนเงินเข้าธนาคารไทยได้โดยตรงและหาที่รับแลกเหรียญได้ง่าย สมัคร Paypal โดยคลิ๊กที่ Banner
ลงทะเบียนกับ PayPal และรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทันที


OKPAY
OKPAY สามรถถอนเงินเข้าธนาคารไทยได้โดยตรงและยังมีบัตรเดบิตอีกด้วย จึงไม่มีปัญหาเหรียญล้นตลาด สมัคร

E-Currency คือสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ใช้ในการใช้จ่ายหรือแลกเปลี่ยนบนคอมพิวเตอร์ “E” เป็นอักษรตัวแรกของคำว่า “Electronic” ส่วน “Currency” เป็นระบบเงินตรา ดังนั้นคุณสามารถเข้าใจได้ว่า E-Currency นั้นก็คือสกุลเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนในอินเทอร์เน็ต
E-Currency จะใช้ในการซื้อและการขายสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันนี้ E-Currency มีการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากใช้ E-Currency ในการซื้อขายสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นแต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์ด้วย E-Currency อยู่เหมือนกัน
ประโยชน์ของ E-Currency
ด้วยสกุลเงิน E-Currency คุณสามารถส่งเงินจากที่หนึ่งไปยังอีกโดยไม่ต้องใช้เงินสด การใช้ E-Currency คุณสามารถชำระค่าใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดและสามารถใช้จ่ายได้ทั่วโลกแค่ปลายนิ้วคลิ๊กจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ จะใช้ E-Currency ใช้จ่ายอะไร ก็ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการเช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า บริการโฮสติ้ง ฯลฯ

92
เร่เข้ามา เร่เข้ามา มาดู อีบุคเทพๆ กันครับ forex E-book แจกอีบุคจากเซียนขั้นเทพ ใช้อย่างไร

หลังจากที่ได้ E-Book เล่มนี้มาสัปดาห์ก่อนจากเพจของ M-Snipper ที่แนะนำให้อ่านถึง 3 รอบแล้วในตัว E-Book เองก็บอกว่า (" อ่านไม่จบครบ 3 รอบ อย่าริอาจเทรด FOREX ")  และแล้วก็เพิ่งได้ไปเมื่อประมาณสองวันที่แล้วจนถึงวันนี้ เพิ่งอ่านได้ไป 285 หน้าแล้ว ไม่ได้โม้..น๊ะ คือ ได้อะไร ๆ ไปเยอะมาก บางอย่างที่เราไม่รู้ก็มีสอนให้ด้วย เช่นเรื่องของ การเทรดข้ามคู่เป็นยังไงต้องทำอย่างไร? การ Carry Trade ต้องเทรดคู่ไหนกับคู่ไหน? การวิเคราะห์ราคาจาก Timeframe ที่แตกต่างกันของคู่เงินเดียวกัน วิเคราะห์ยังไง?? การเทรดข่าวเราต้องทำตัวยังไง?? การวิเคราะห์จะใช้เทคนิคอลหรือปัจจัยพื้นฐานดีกว่ากัน??

แนวการสอนของ BabyPips.com เหมื่อนเอาเรามาเข้าโรงเรียน Forex โดยเริ่มตั้งแต่เตรียมอนุบาลกันเลย แล้วแบ่งเป็นชั้น ๆ เกรด 1 เกรด 2 เรื่อย ๆ ไป จนตอนนี้ผมจะจบเกรด 12 ละ(ม.ุ6)

หนังสือเล่มนี้แปลโดย MAMAY อ่านง่าย เหมาะแก่การศึกษาทั้งมือใหม่และมือเก่าอย่างยิ่ง อยากได้กันแล้วใช่มั๊ย ๆ !! กดโหลดตาม Link ด้านล่างเลยจร้า...

โค๊ด: [Select]
https://drive.google.com/file/d/0B45jLrnQcCnOWDRBdjFFWFhybFk/view?usp=sharing


E-Book แนะนำให้อ่าน

1. คู่มือการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดย คุณสุรชัย ไชยรังสินันท์ ท่านได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของกราฟ(Chart Pattern) รูปแบบของแท่งเทียน(Candlestick Pattern) อินดิเคเตอร์ต่างๆ(Indicators) ไฟโบแนซซี่(Fibonacci) รวมขั้นความรู้ขั้นสูงอย่าง อิเลียตเวฟ(Elliot Wave) อีกด้วย ดาวโหลดที่นี่
โค๊ด: [Select]
http://inv4.asiaplus.co.th/cms/uploads/pdf_investor/thai/technical.zip---------------------------------------------------------------------------------------

2. คู่มือ Technical Analysis โดย Taladhoon.com รวบรวมเทคนิคไว้มากมายอาทิเช่น รูปแบบการกลับตัว รูปแบบต่อเนื่อง รูปแบบแท่งเทียน อินดิเคเตอร์ ดาวโหลดที่นี่
โค๊ด: [Select]
http://www.4shared.com/file/xr0pckPB/taladhoon.html---------------------------------------------------------------------------------------

ภาษาอังกฤษ

3. Practical Fibonacci Method For Forex Trading วิธีการใช้ ไฟโบแนซซี่ในการเทรดฟอเร็ก หนังสือเล่มนี้ อธิบายว่า ไฟโบแนซซี่คืออะไร สอนวิธีใช้ไฟโบแนซซี่เพื่อหาแนวรับแนวต้านที่ระดับต่างๆ และหาจุดออกจุดเข้าโดยใช้ไฟโบแนซซี่ ดาวโหลดที่นี่
โค๊ด: [Select]
http://www.4shared.com/document/miVVweHa/Practical_Fibonacci_Methods_fo.html---------------------------------------------------------------------------------------

4. Reading Price Charts Bar By Bar การอ่่านกราฟจากแท่งเทียน หนังสือเล่มนี้อธิบายได้ละเอียดมากๆ วิธีการดูแท่งเทียน การเข้า ออก และกลยุทธิ์การทำกำไรในรูปแบบต่างๆ ดาวโหลดที่นี่
โค๊ด: [Select]
http://www.4shared.com/document/MqmSQkGL/Reading_Price_Bar.html----------------------------------------------------------------------------------------


5. E-Book Forex  สามารถเลือกดาวโหลดได้ที่นี่ E-Book Forex >>ดาวโหลด
โค๊ด: [Select]
https://www.4shared.com/dir/NaFaIEYN/sharing.html

93
มือใหม่คงงงๆ drawdown คืออะไร มันเกี่ยวอะไรกับการวาดรูปไหม เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยครับ ว่า forex Drawdown คืออะไร ใช้อย่างไร


สาเหตุที่ทำให้เกิด Drawdown
1.การเทรดโดยการขาดแผนการลงทุน forex ที่ถูกต้อง

เรื่องนี้ก็คือเรื่องของการขาดการใช้ในส่วนที่เป็นเครื่องมือนั่นเอง โดยปกติแล้วหากเป็นนักเทรดมืออาชีพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือที่ช่วยให้การเทรดของคุณสามารถทำกำไรได้ แต่ถ้าไม่มีเครื่องมือ หรือเทรดแบบการพนันแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการสะสมของค่า Drawdown นั่นเอง

2.การเทรดโดยขาดการบริหารจัดการการเงินที่ดี

การขาดการบริหารจัดการการเงินที่ดี (Money management) ย่อมส่งผลคือ โอกาสในการขาดทุนสะสมและทำให้เกิดค่าที่เรียกว่าค่า Drawdown นั่นเอง ดังนั้นหากคุณไม่ต้องการให้เกิดค่าตัวนี้สูงๆ การเรียนรู้ที่จะวางแผนการเทรด forex ทุกครั้งก่อนทำการเทรดจริง น่าจะเป็นทางออกในการลดค่า % ของ Drawdown

3.การขาดหลักจิตวิทยาการลงทุน

เรื่องสุดท้ายคือ การขาดหลักการที่เรียกกันง่ายๆว่า จิตวิทยาการลงทุน หรือหากกล่าวกันตามตรงแล้ว คือการเล่นกับความโลภที่อยู่ภายในใจของเรานั่นเอง หากคุณไม่ต้องการให้ตนเองนั้นขาดทุนและเกิดค่า Drawdown เป็นจำนวนมาก จงเทรด forex อย่างมีสติ และรู้จักเรื่องของการวางแผนในการเทรด พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ที่ดีด้วย



ประการหนึ่ง คุณควรตระหนักและทำใจยอมรับได้ว่า “ถึงแม้ว่ามันจะมีช่วงเวลาที่คุณจะสามารถทำกำไรจากการลงทุนหรือจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นอยู่เสมอ แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในทุกๆวันหรือทุกๆสัปดาห์ในแต่ละปี และจะมีแต่คนโง่ไร้สติเท่านั้นที่พยายามจะทำมัน เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะทำได้และไม่เคยเกิดขึ้นจริง” คำกล่าวของ Jesse Livermore ตำนานแห่ง Wallstreet

ผมชอบเรื่องของ Forex อย่างหนึ่งคือ มันเหมือนการปฏิบัติธรรมจริงๆ ผมพบว่าหากใจเรานิ่ง สุขุม มีสติ ก็จะสามารถเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายๆคนที่เทรดประสบความสำเร็จก็บอกเช่นนั้นครับ ^_^

สิ่งที่เราได้รับประโยชน์จากการอ่านค่า Drawdown
1.ช่วยบอกให้รู้ว่า เราเข้าโซนอันตรายหรือยัง

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ ค่า Drawdown ยิ่งมี % เข้าใกล้ 100 มากเท่าไหร่ นั่นหมายถึงโอกาสที่เรากำลังจะเข้าสู่การล้างพอร์ตกำลังเดินทางมาถึงแล้วในไม่ช้า ดังนั้นอย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเด็ดขาด คุมค่าตัว Drawdown ให้ต่ำเข้าไว้

2.ตัวเลขที่ปลอดภัยของค่านี้คืออย่าเกิน 25

ผมยอมรับว่าค่อนข้างขี้ตื่นกลัวมากไปหน่อยดังนั้นค่า Drawdown ที่ผมคิดว่าเหมาะสมมากที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับผมคือ ประมาณ 25-30% จงรักษาค่าให้อยู่ประมาณนี้แล้วผมการันตีว่า port forex ของคุณจะไม่ได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนครับ



บทสรุป
คุณควรตรวจสอบและพัฒนาระบบการเทรดของตัวเองอยู่เสมอ และค่า Drawdown ก็เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบความเสี่ยงและเช็คระบบการทุนของคุณเอง

ถ้าเกิดการขาดทุนติดต่อกันหลายๆครั้ง Drawdown ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็จะเตือนเราได้ว่า วิธีการลงทุนหรือระบบการซื้อขายของเรานั้นเริ่มมีปัญหา เราอาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อขายใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ

Drawdown จะมีกล่าวกันอย่างมากในเรื่องของ Money management ค่าDrawdown ใน % มากๆ หรือต่อเนื่องนานๆ จะทำให้นักลงทุนเกิดความกดดันอย่างมาก ทำให้เสียความมั่นใจ วิตก กลัว และถ้าไม่มีแผนการเทรดที่ดีหรือไม่ทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ก็อาจจะต้อง Cut Loss บ่อยเกินไปจากความกลัว จนพอร์ตของคุณมีปัญหา แต่ถ้าคุณมีแผนการเทรดที่ดีและทำตามอย่างเคร่งครัด คุณจะรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ สุดท้ายคุณก็จะเอาชนะเกมเทรดของคุณได้ครับ

Drawdown คืออะไร
Drawdown(DD.) หมายถึง % ของจำนวนเงินขาดทุนสะสมของ balance ซึ่งจะมีค่าที่ตรงกันข้ามกับการทำกำไรนั่นเอง โดยปกติแล้ว ถ้า % ของ Drawdown ไม่เกินกว่า 30% ยังถือว่า พอร์ตของคุณมีโอกาสในการกลับมาเติบโตได้ แต่ถ้าสูงกว่านี้เมื่อไหร่ มีความเสี่ยงทันทีครับ

ตัวอย่างที่ 1 : ถ้าคุณมีเงินทุนในพอร์ตอยู่ $10,000 และคุณขาดทุนไป $3,000 นั่นหมายความว่าคุณขาดทุนไป 30% ของพอร์ตการลงทุน

ตัวอย่างที่ 2 : คุณลงไป $10,000 ทำการเทรดไป 5 ครั้ง ครั้งแรกขาดทุน -$300 ครั้งที่สองขาดทุน -$300 ครั้งที่สามได้กำไร +$600 ครั้งที่สี่ขาดทุน -$200 ครั้งที่ห้าขาดทุน -$300 ดังนั้น

Drawdown(DD.) = (-$300)+(-$300)+$600+(-$300)+(-$300) = (-$600) หรือก็คือ 6% ของทุน $10,000



ซ้าย : Drawdown ขวา : Maximal Drawdown

ประเภทของ Drawdown
Maximal Drawdown (Max DD.) : คือจุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด นับจากผลต่างระหว่างจุดที่ขึ้นไปสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งเราจะใช้ค่านี้มากในการวัดประสิทธิภาพของ EA โดยตั้งเป้าไม่ควรเกิน 20 % ถ้าระบบ EA ตัวไหนที่มีค่า Max DD. สูงกว่านี้ถือว่ายังใช้ไม่ได้ครับ เพราะว่า Maximum Drawdown ที่สูงๆนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกันง่ายๆนะครับถ้าหากคุณมี Stop Loss ที่ดีพอ


บางที่ระบบมี Net Profit ที่มากน่าสนใจ และมี Absolute Drawdown ที่ไม่มากไป แต่ดันมี Maximum Drawdown เยอะ เรียกว่าบางครั้งได้กำไรเยอะก็ขาดทุนก้อนโตเยอะเหมือนกัน ซึ่งการขาดทุนก้อนโตเกินความเสี่ยงที่นักลงทุนรับไหว ก็อาจทำให้เราไม่สามารถทำตามระบบเทรดนั้นได้ตลอดเวลา



Relative Drawdown (RDD.) : จุดขาดทุนต่อเนื่องสูงสุด ณ จุดๆหนึ่งของ balance ค่านี้เป็นตัวบอกว่า ณ จุดๆหนึ่งของการเทรด หรือทดสอบระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบมือ หรือ EA จะมีการขาดทุนต่อเนื่องได้กี่ % ของ balance ณ ขณะนั้น เช่น = 20% หมายถึง จะมีช่วงใดช่วงหนึ่งที่ระบบของเราจะขาดทุนติดต่อกันถึง 20% ถ้าเราเข้าเทรดช่วงตลาดหรือระบบเกิดการ Drawdown ณ เวลานั้น
เช่น ถ้ามีทุนอยู่ 1000 เหรียญ ก็อาจถูกลากพอร์ตติดลบหรือขาดทุนติดต่อกันได้ ถึง 200 เหรียญ เป็นต้น ค่า RDD. ยิ่งมีค่าน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ค่าที่แนะนำคือ ไม่ควรเกิน 20% และยอมรับได้ไม่เกิน 30% ถ้าเล่นหลายคู่ ไม่ควรเกินคู่ละ 10-12 % เพราะเมื่อถึงเวลาเทรดจริงๆ ถ้าติดลบมากๆ เช่น 20% แล้ว จะมีความรู้สึกไม่มั่นใจว่า ระบบที่ใช้จะยังใช้ได้ดีหรือเปล่า ตลาดกำลังจะเปลี่ยนหรือเปล่า การ recover ทุนจากการติดลบมากๆก็อาจจะต้องใช้เวลาหรือความพยายามมาก กว่าจะได้ทุนคืน



Absolute drawdown หมายถึง ผลขาดทุนมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นนับจากต้นทุนเริ่มต้น(deposit) ตัวนี้จะช่วยบอกว่า หน้าตักที่คุณมีมันทนทานเพียงพอต่อระบบเทรดชนิดนั้นหรือไม่ เพราะระบบเทรดบางตัวอาจมี Total Net Profit ที่กำไรดี แต่มี Absolute Drawdown ที่เยอะจนหน้าตักเงินทุนเริ่มต้นเราไม่เพียงพอที่จะอยู่ทำตามระบบในระยะยาวได้ Absolute drawdown นี้ไม่ได้คิดเป็น % และส่วนใหญ่เราจะมักดูที่ Maximal Drawdown กับ Relative Drawdown กันมากกว่า
ความยากในการไต่ระดับเพื่อทำกำไรกลับคืน
การปล่อยให้เกิดการขาดทุนต่อเนื่อง จนทำให้ Drawdown สูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นไม่เป็นผลดีกับคุณเลย เพราะการที่จะทำกำไรกลับมาให้เท่าส่วนที่หายไป (recover) นั้นจะยากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นเรื่องของอัตราส่วน ไม่ใช่แค่การหักลบ ลองดูค่าจากตารางด้านล่างนี้นะครับ

% Drawdown   % ที่จะต้องได้กำไรคืน(เพื่อที่จะกลับมาเท่าทุน)
10%   11%
20%   25%
30%   43%
40%   67%
50%   100%
60%   150%
70%   233%
80%   400%
90%   900%
100%   ล้างพอร์ต


เมื่อเกิดการขาดทุน ก็จะเกิด Drawdown และการขาดทุนที่มากที่สุดเราเรียกว่า "Maximum Drawdown" ส่วนการขาดทุนโดยเฉลี่ยของพอร์ต ก็คือ "Average Drawdown" และถ้าเกิดการขาดทุนติดต่อกันหลายๆครั้ง Drawdown ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็จะเตือนเราได้ว่า วิธีการลงทุนหรือระบบการซื้อขายของเรานั้นเริ่มมีปัญหา เราอาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อขายใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งนักลงทุนที่ดีก็ควรที่จะตรวจสอบและพัฒนาระบบการซื้อขายของตัวเองอยู่เสมอ และ Drawdown ก็เป็นเสมือนเครื่องมือที่ช่วยเตือนว่าถึงเวลาที่จะต้องเช็คระบบ ตรวจสอบและซ่อมแซม เหมือนกับ เกย์วัดความร้อนของรถยนต์ ที่จะเตือนเมื่อเกิดความร้อนที่ผิดปรกติ

ในการวางแผนจัดการบริหารเงิน (Money management) จะทำให้เรารู้ว่าเมื่อเกิด Drawdown ขึ้นแล้วเราควรทำอย่างไร เราจะยอมขาดทุนได้แค่ไหน และถ้าเกิดการขาดทุนติดต่อกันเราก็ควรจะตรวจสอบว่าเป็นเพราะอะไรและหาทางแก้ไข การเกิด Drawdown ในเปอร์เซนต์มากๆ หรือนานๆ จะทำให้นักลงทุนเกิดความกดดันอย่างมาก ทำให้เสียความมั่นใจ วิตก กลัว และถ้าไม่มีแผนการเทรดที่ดีหรือไม่ทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ก็อาจจะต้อง Cut Loss บ่อยเกินไปจากความกลัว จนพอร์ตการลงทุนของคุณแคระเกรนไม่ยอมโต แต่ถ้าคุณมีแผนการเทรดที่ดีและทำตามอย่างเคร่งครัด คุณจะรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ และไม่วิตกหรือกลัวมากเกินไปกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะคุณได้วางแผนรับมือมันไว้แล้ว

การปล่อยให้เกิดการขาดทุนติดต่อกันทำให้ Drawdown มีเปอร์เซนต์สูงขึ้นเรื่อยๆ และนั่นไม่เป็นผลดีกับคุณเลย เพราะการที่จะทำกำไรกลับมาให้เท่าส่วนที่หายไป (Cover) นั้นจะยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ


Drawdown คืออะไร?

เชื่อว่าเทรดเดอร์ใหม่ๆหลายคนยังไม่รู้จัก Drawdown และไม่เคยรู้ว่ามันสำคัญอย่างไร จะมุ่งไปที่การเทรดเพื่อทำกำไร และคิดแต่จะต้องได้กำไร โดยมองข้ามสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งไปนั่นก็คือการขาดทุน

Drawdown คือ "การลดลงของเงินทุนที่เกิดจากการขาดทุน"  ยกตัวอย่างให้มองเห็นภาพอย่างง่าย คือ  ถ้าคุณมีเงินทุนในพอร์ตอยู่ $100,000 และคุณขาดทุนไป $50,000 นั่นหมายความว่าคุณขาดทุนไป 50% ของพอร์ตการลงทุน และเราเรียกสิ่งนี้ว่า Drawdown

94
โอ้ คำศัพท์ใหม่ๆ มีมาให้นักเทรดได้เรียนรู้กันเรื่อยๆ วันนี้มารู้จักกับคำว่า forex Donchian Channel คืออะไร ใช้อย่างไร

# หาจังหวะที่ High momentum ในการเบรก

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ในช่วง Breakout นั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ให้สัญญาณที่ 100% อยู่แล้ว แต่ถ้าเราเพิ่มโอกาส เพิ่มคุณภาพในช่วงจังหวะการ Breakout ให้เข้าไปประกอบกับ Donchian channel ก็จะส่งผลให้การ Breakout นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 
เราสามารถวิเคราะห์ช่วงการเบรกที่มีลักษณะ High momentum เพื่อคัดเฉพาะช่วงดังกล่าว ซึ่งถือว่าช่วงดังกล่าวนี้จะเป็นการ Breakout ที่แท้จริง โดยใช้ RSI เป็นตัววัด เพื่อตัดช่วง Low momentum ออกไป

 

# กรองแนวโน้มราคา

การกรอบแนวโน้มราคาเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มโดยรวมในช่วงนั้น ในที่นี้จะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน เป็นกำหนด Long/Short scenarios โดยถ้าราคาเคลื่อนไหวเหนือเส้น 100 วัน ก็จะใช้เฉพาะกลยุทธ์ฝั่ง Long และถ้าราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น 100 วัน ก็จะใช้เฉพาะกลยุทธ์ฝั่ง Short เพื่อเล่นตามแนวโน้ม

 



#ใช้หลัก Position sizing

การใช้กลยุทธ์ Position sizing strategy ในการเข้าก็จะเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเทรดได้ดีขึ้นเช่นกัน

“Scaling in” เป็นกลยุทธ์การเปิด Position เพิ่มขึ้นเมื่อราคาวิ่งไปถูกทางที่เราคาดการณ์ หรือกล่าวง่ายๆคือ ถั่วชนะ และขยับจุด Stop loss ขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อรักษากำไร

ข้อดีของการ Scaling in

ในช่วง ทะลุหลอก จะมี Position ที่เล็ก
จะเปิด Position ให้เต็มจำนวนเฉพาะช่วงที่ ทะลุอย่างแท้จริง

Donchian Channel คืออะไร

หลายคนเคยได้ยินชื่อการเทรดนี้จากกลุ่ม Turtle traders ที่ใช้เครื่องมือนี้ในการเทรด เป็นลักษณะ Trend-following indicator โดย Donchian channel วัดจาก High และ Low ของช่วงที่คำนวณ โดยปกติใช้ 20 วัน

 
            ในการเทรดทั่วไปเทรดเดอร์รอราคาทะลุช่วงกรอบราคาดังกล่าว เป็นสัญญาณในการซื้อ/ขาย เช่นถ้าราคาทะลุกรอบบนขึ้นก็เป็นสัญญาณ ซื้อ และถ้าทะลุกรอบล่างลงก็เป็นสัญญาณ ขาย โดยในบทความนี้จะเป็นการเสริมอาวุธให้กับเครื่องมือนี้ โดยใช้เครื่องมือต่างๆเข้ามาประกอบ

Tick & Tip วันนี้จะพูดถึงการใช้ Donchian Channel ในการ Trade สำหรับวันนี้จะขอพูดถึงการเทรดระยะสั้น (Short-Term Trading) ก่อน

Donchian Channel จะเป็นกรอบของราคาโดยมีเส้นกลางและเส้นขอบบนและล่าง(ส่วนรายละเอียดลึกๆและที่มาที่ไป ผมจะนำไปเขียนเป็นบทความที่ละเอียดกว่านี้)

สิ่งแรกที่ต้องวิเคราะห์ก่อนคือมองให้ออกว่าเป็น Bullish Zone หรือ Bearish Zone (อ่านไปก่อนนะครับแล้วจะเขียนอธิบายทีหลัง)

เมื่อหา Bullish Zone เจอแล้ว จากนั้นคิดต่อว่าจะเล่นสั้นหรือยาว ในครั้งนี้เราจะเล่นสั้น ดังนั้นการเล่นสั้นเราจะใช้วิธีการมองหาราคาปิดตัดเส้นกลางลงมา โดยให้ถือว่าจุดนี้เป็น Trigger ในการรอจังหวะเข้า

เมื่อไรที่มี Trigger เกิดขึ้นให้เอาเส้น Entry เข้าไปวางไว้ที่ราคาสูงสุดของวันที่เกิด Trigger แล้วเมื่อไรที่ราคาปิดเหนือเส้น Entry ได้ก็เข้าได้เลย ส่วนการออกเราจะใช้ Paraboric SAR(เส้นจุดไข่ปลาสีส้ม) เป็นเส้นอ้างอิงในการ Take Profit เมื่อไรที่ราคาปิดตัดลงที่ Paraboric SAR เส้นล่างก็ให้ออก ดูรูปประกอบนะครับ ไปหละพรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่

95
EUR/USD, EUR/JPY / forex Diverging คืออะไร ใช้อย่างไร
« เมื่อ: 15/มิ.ย./2017 05:05:46 »
อีกหนึ่งบทความดีๆ สำหรับนักเทรด Forex ที่ต้องรู้ forex Diverging คืออะไร ใช้อย่างไร

Positive divergence

 ราคาทำ Lower Low แต่ Indicator (ในที่นี้ใช้ RSI) กลับทำ Higher Low แสดงถึง Momentum การลงเริ่มอ่อนแรง และสุดท้ายราคาก็กลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นในรอบใหญ่เลยทีเดียว


Negative Divergence

 

จากกราฟข้างต้นนี้ราคาได้เกิด Negative divergence ถึง 2 รอบ ลักษณะเช่นนี้ยิ่งมีนัยสำคัญในการกลับตัวมากขึ้น ราคาได้ทำ Higher High ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ RSI กับทำ Lower High อย่างต่อเนื่องเช่นกัน และสุดท้ายราคาก็กลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นดังที่ปรากฏ

 

ซึ่งการดู Divergence ประกอบการเทรด ก็จะสามารถช่วยให้การเทรดของเรามีโอกาสการชนะมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเข้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ

Diverging คืออะไร
 

จริงๆ Indicators ส่วนมากเกือบ 90% ล้วนมาจาก Price โดยเป็นการนำข้อมูลของราคามาผ่านสูตรของแต่ละเครื่องมือนั้นๆ และได้ค่าใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องบอกว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการดู Price เปล่าๆ เลย แต่หัวใจสำคัญของ Indicators นั้นมันทำให้เราอ่านกราฟง่ายขึ้น มีตัวเลขออกมาอย่างชัดเจน สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้ Momentum , ความผันผวน , แนวโน้ม ต่างๆเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเราเข้าใจกลไลของ Indicator ที่ใช้ และใช้มันอย่างเหมาะสม มันจะมีประโยชน์มากในการเทรด

 

มาเข้าเนื้อหาของ Divergence กันต่อดีกว่า Divergence เป็นสัญญาณที่ ราคา กับ Indicator เคลื่อนไหวสอดคล้องกัน โดย Divergence ทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

Positive divergence – ราคาทำ Lower Low แต่ Indicator ทำ Higher Low
                   สัญญาณว่าราคามีโอกาสหยุดลงชั่วคราว หรือกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น

            2. Negative divergence – ราคาทำ Higher High แต่ Indicator ทำ Lower high   

สัญญาณว่าราคามีโอกาสหยุดขึ้นชั่วคราว หรือกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง

 

มาดูตัวอย่างการเทรดโดยใช้ Divergence กันดีกว่า

96
EUR/USD, EUR/JPY / forex Divergence คืออะไร ใช้อย่างไร
« เมื่อ: 15/มิ.ย./2017 04:59:59 »
มาต่อกันด้วยอีกบทอย่างรวดเร็วกับ forex Divergence คืออะไร ใช้อย่างไร



Divergence นั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุก Indicators แต่ที่นิยมกันมากที่สุดคือใช้กับ RSI (Relative Strength Index) โดย RSI เป็นเครื่องมือที่ไว้เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการขึ้นกับค่าเฉลี่ยการลงของราคาในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่มาคำนวณ เช่น เมื่อ RSI มีค่าต่ำ แสดงถึงความอ่อนแอของราคาในช่วงนั้น และเมื่อ RSI มีค่าสูง แสดงถึงความแข็งแกร่งของราคาในช่วง

 

ต้องขอบอกเพิ่มเติมหน่อยครับว่า Divergence ไม่ได้เป็นตัวบอกว่าราคาจะเปลี่ยนแนวโน้มจากลงเป็นขึ้น หรือจากขึ้นเป็นลง แต่เป็นการบอกว่าโมเมนตัมของราคาเริ่มเปลี่ยนไป อาจจะเป็นการแกว่งตัว Sideway ออกด้านข้างก็เป็นได้หลังเกิด Divergence

 

วิธีการเทรด Divergence :

เทรดเดอร์หลายคนมักใช้ Divergence ในการเทรดแบบผิด ๆ โดยที่เห็นบ่อยมากคือ ชอบเข้าออเดอร์ไว้เกินไปไม่รอให้ยืนยันสัญญาณ ตัวอย่างด้านล่าง


ที่ถูกต้องควรที่จะลองจนกว่าจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางก่อน จึงค่อนเข้าไปเทรด โดยตัวช่วงยืนยันสัญญาณอาจใช้เส้นค่าเฉลี่ย หรือว่าระดับ Low/High ก่อนหน้าเป็นตัวยืนยัน

 

การเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด Divergence อีกหนึ่งอย่าง คือ ใช้บริเวณแนวรับ หรือ แนวต้านก่อนหน้า เป็นตัวประกอบการตัดสินใจ โดยหากการเกิด Divergence ใกล้บริเวณแนวรับ หรือแนวต้านก่อนหน้า ก่อนหน้า ก็จะเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าราคามีโอกาสผ่านระดับดังกล่าวน้อยมาก

 Divergence เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเทรด หากเทรดเดอร์เข้าใจมันและใช้มันอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบของ Divergence คือ Hidden Divergence ซึ่งจะไปกล่าวในบทความถัดไป

Divergence คืออะไร
ในช่วงราคาเคลื่อนไหวไม่เป็นไปในรูปแบบเดียวกับ Indicator นั้นเป็นสัญญาณที่เรียกว่า Divergence ช่วยให้เทรดเดอร์หาจังหวะการกลับตัวของราคา ซึ่งประกอบด้วย 2 รูปแบบหลักๆคือ 1. Bullish Divergence และ 2. Bearish Divergence

 

1) Bullish Divergence : เกิดในช่วงแนวโน้มขาลง โดยราคาลงทำ Lower Low แต่ Indicator ทำ Higher Low เป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น

 2) Bearish Divergence : เกิดในช่วงแนวโน้มขาขึ้น โดยราคาขึ้นทำ Higher High แต่ Indicator ทำ Lower High เป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลง

divergence คืออะไร

 
Divergence คือรูปแบบทางกราฟเทคนิคชนิดหนึ่ง ที่นักเทคนิคคอลมักใช้ดูเป็นสัญญาญกลับตัวของราคา ปกติจะมีอยู่ 2 แบบ คือ bullish divergence และ bearish divergence

1. Bullish divergence เป็นสัญญาณซื้อที่เกิดในช่วงขาลง แล้วกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้น วิธีการดูก็คือให้ดูการขัดแย้งกันของ Indicator ( RSI หรือ MACD   ) กับ   ราคา จากตัวอย่างดังรูปข้างล่างจะเห็นว่าราคาลดต่ำลงมาเรื่อยๆ แต่ RSI ทำจุดต่ำสุด 2 จุดยกสูงขึ้น นั่นแปลว่าราคาอาจจะมีการกลับตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ให้เฝ้าดูหุ้นที่มีสัญญาณแบบนี้ไว้ให้ดี

ข้อควรระวัง: บางครั้งสัญญาณ bullish divergence เกิดขึ้นก็จริง แต่ราคาก็อาจจะไปได้ไม่ไกล นักลงทุนบางท่านขายไม่ทันทำให้กำไรอาจกลายเป็นขาดทุน ดังนั้นหากเราใช้สัญญาณ bullish divergence ร่วมกับ EMA10 หรือ EMA25 วันด้วยแล้วละก็จะทำให้แน่ใจได้ว่าสัญญาณอาจจะเป็นขาขึ้นจริง โดยมีจุดเข้าซื้อเมื่อราคายืนเหนือเส้น EMA ได้ (จุดวงกลมสีดำ)

2. Bearish divergence เป็นสัญญาณขายที่เกิดในช่วงขาขึ้น แล้วกำลังกลับตัวลง วิธีการดูก็คือให้ดูการขัดแย้งกันของ Indicator ( RSI หรือ MACD ) กับ   ราคา จากตัวอย่างดังรูปข้างล่างจะเห็นว่าราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ RSI ทำยอดสูงสุดลดต่ำลง นั่นแปลว่าราคาอาจจะมีการกลับตัวเป็นขาลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถ้าใครมีหุ้นก็อย่าเพิ่งซื้อแต่ให้เตรียมขายจะดีกว่า จุดขายที่ดีคือเมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้น EMA10 หรือ EMA25 วัน (ตรงจุดวงกลมสีดำ) จริงๆแล้วไม่อยากให้ยึดติดกับตัวเลขจำนวนวัน ของ EMA เท่าไรนัก เพราะนักลงทุนแต่ละท่านมีระยะการลงทุนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นผมแนะนำว่าหากใครเล่นระยะไหนก็ควรปรับเส้น EMA ตามสไตล์ของแต่ละคนจะดีกว่า

บางครั้งการเกิดสัญญาณ divergence อาจจะเกิดมากกว่า 2 จุด คืออาจจะมี 3 จุด หรือถ้าจะมองให้ง่ายขึ้นก็คือ มียอดเขามากกว่า 2 ลูก หรือมีก้นเหวมากกว่า 2 เหวก็ได้ (งงขึ้นไหม!) คือผมกำลังจะบอกว่าบางครั้ง 2 จุดมันไม่เกิดสัญญาณ แต่อาจจะเกิดสัญญาณกลับตัวในจุดที่ 3 ก็ได้ เพราะฉะนั้นเห็นสัญญาณ divergence แล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนซื้อ หรือขายในทันทีให้ใช้ EMA confirm หรือใช้ร่วมกับ Indicator ตัวอื่นก็จะได้ผลยิ่งขึ้น

97
EUR/USD, EUR/JPY / forex Deposit funds คืออะไร ใช้อย่างไร
« เมื่อ: 15/มิ.ย./2017 04:53:59 »
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมครับว่า forex Deposit funds คืออะไร ใช้อย่างไร

โบรกเกอร์ที่มี Deposit funds ที่ดี
สำหรับโบรกเกอร์ที่มีบริการทำ Deposit funds นั้นประกอบไปด้วย exness.com หรือ fbs.com หรือเกือบทุกโบรกเกอร์ ที่ผมได้ทำการแนะนำไว้ในเว็บไซต์นี้ครับ



สิ่งที่เราต้องเตรียมสำหรับการทำ Deposit funds
1.เตรียมเงินทุนของคุณ

สิ่งแรกที่คุณจะต้องเตรียมคือเตรียมเงินทุนของคุณ ให้เพียงพอกับจำนวนที่ต้องการเทรด โดยผมแนะนำว่าเริ่มต้น คือ 3,000 บาท แต่ถ้าคุณนั้นต้องการทำเงินมากๆ ผมแนะนำว่าสัก 10,000 บาทกำลังดีครับ

2.เตรียมบัตรเครดิต หรือเดบิต

ผมแนะนำว่าอย่างน้อยที่สุดคุณนั้นควรเปิดบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตเสียหน่อย เพื่อที่ว่าคุณจะได้สามารถทำการ Deposit funds เงินได้เร็วขึ้นกว่ารูปแบบอื่นๆ ผมก็ใช้รูปแบบนี้ด้วยเช่นเดียวกันครับ ส่วนใครที่ไม่สะดวกก็สามารถใช้รูปแบบเดิมๆได้ครับตามต้องการ

เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณมีความเข้าใจเรื่อง Deposit funds มากขึ้นหรือยังเอ่ย เชื่อว่าน่าจะมีความเข้าใจมากขึ้นครับ

Deposit funds คืออะไร

คำศัพท์คำต่อไปที่มีผลมากในการเทรดคือคำว่า Deposit funds ถ้าขาดความรู้เรื่องคำศัพท์คำนี้แล้ว รับรองว่า คุณนั้นจะต้องพลาดในการทำเงินแน่นอน คำว่า Deposit funds มีความหมายว่าอย่างไรและเกี่ยวข้องกับการเทรด forex อย่างไร มาสำรวจไปพร้อมๆกันเลยนะครับ

Deposit funds หมายถึงอะไร
Deposit funds หมายถึงการฝากเงินเข้าระบบการเทรดนั่นเองครับ ไม่มีความหมายซับซ้อนแต่อย่างใด โดยทางโบรกเกอร์แต่ละแห่งก็จะมีช่องทางในการฝากที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดนั้นทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เทรดได้สามารถเทรด forex ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยนั่นเอง


ช่องทางในการ Deposit funds
ช่องทางในการ Deposit funds สามารถทำได้หลากหลายดังต่อไปนี้ (ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์แต่ละที่ด้วย)

1.ฝากผ่านการตัดบัญชีธนาคารออนไลน์

แบบแรกนี้เป็นการ Deposit funds ที่สะดวกที่สุดคือ การตัดผ่านบัญชีธนาคารแบบออนไลน์ โดยธนาคารที่สามารถดำเนินการแบบนี้ได้นั้นประกอบไปด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย เป็นต้น ซึ่งสามารถทำระบบตัดบัญชีเพื่อทำ Deposit funds ได้อย่างง่ายดาย

2.ผ่านบัตรเครดิต

แบบที่สองคือการทำ Deposit funds ผ่านการตัดบัตรเครดิต อันนี้ก็ง่ายครับ ไม่ยากเลย คุณสามารถใช้รหัสบัตรเครดิตของคุณในการตัดบัตรเพื่อทำการ Deposit funds เข้าบัญชีการเทรดของคุณ แต่ว่าคุณต้องมีบัตรเครดิตนะ

3.ผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส

แบบที่สามคือผ่าน บริการของ 7-11 สำหรับการบริการผ่าน 7-11 คือการชำระเงินที่เคาเตอร์ได้เลย จากนั้นก็รอเพียงแค่ระบบทำการโอนเงิน Deposit funds เข้าบัญชีของเราก็สามารถใช้บัญชีได้แล้วครับ


98
คนทำงานอย่างเราๆ ส่วนใหญ่มักจะชอบคำว่าโบนัสแล้ว forex deposit bonus โบนัสเงินฝาก คืออะไร ใช้อย่างไร มันเหมือนโบนัสปลายปีเหรือเปล่านะ เรามาลองดูกัน



deposit bonus ดีอย่างไร
ปัจจุบันการเทรด forex ด้วยบัญชีจริงกับโบรกเกอร์นั้น มีโปรโมชั่นและโบนัสให้กับคุณมากกว่าเมื่อก่อน  สำหรับโบนัสเงินฝากที่โบรกเกอร์เสนอให้กับเทรดเดอร์ทุกคนที่ฝากเงินลงทุนกับทางโบรกเกอร์นั้นๆ จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นเทรด forex ได้ด้วยเงินทุนที่มากยิ่งขึ้น

โบนัสบางโบกเกอร์อย่าง XM สามารถใช้เป็นมาจิ้นได้ (โปรดอ่านรายละเอียดอัพเดทกับทางโบรกเกอร์ด้วย) สามารถเทรดติดลบเข้าเงินโบนัสได้ เท่ากับว่าคุณมีเงินทุนเพิ่มขึ้นอีก 100% เลยทีเดียว เช่น หากคุณฝากเงิน $500 + เงินโบนัส $500 คุณก็จะมีเงินทุนที่ใช้เทรดได้ถึง $1,000
โบนัสที่โบรกเกอร์ให้ เกือบทั้งร้อยถอนไม่ได้ โบรกเกอร์ทำไว้ให้เป็นแรงจูงใจแก่เรา ให้เราอยากเทรดมากขึ้น หรือเทรดได้ง่ายขึ้น(เพื่อให้โบรกได้กำไรมากขึ้น) เทรดเดอร์บางคนจึงมองว่าไม่ได้มีประโยชน์อะไรครับ แทบไม่ต้องสนใจเลย เป็นมาร์จิ้นก็ไม่ได้ พอเงินเราหมดมันก็ตัดออกอยู่ดี ข้อดีอย่างเดียวคือ สามารถซื้อเพิ่มได้มากขึ้น เวลาได้-เสีย ก็ได้-เสียเพิ่มขึ้น ทำหน้าที่คล้ายๆ เลเวอเรจ (Leverage)


โบนัสของบางโบรกสามารถถอนได้ แต่มีเงื่อนไข เช่น fbs , insta , roboforex เป็นต้น ซึ่งพวกนี้ต้องเทรดให้ได้ครบตามกำหนด เช่น FBS เมื่อเทรดได้จำนวนล็อตครบ 33% ของเงินฝากก็ถอนได้ roboforex ต้องเทรดให้ได้จำนวนล็อตครบ 100% ของเงินฝาก ส่วน instaforex ต้องเทรดให้ได้จำนวนล็อต เท่ากับจำนวนเงินฝากคูณ  6 (หมายเหตุ instaforex : 1 InstaForex lot มีค่าเท่ากับ 10,000 ต่างจากโบรกเกอร์อื่นที่ใช้ 100,000 USD.) และแน่นอนเงื่อนไขต่างๆค่อนข้างสลับซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก ตลอดจนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจหรือคิดคำนวณเปรียบเทียบ ควรอ่านรายละเอียดอัพเดทกับทางโบรกเกอร์ด้วย เรื่องของโบนัสเงินฝากนี้อย่างไรโบรกเกอร์ก็ได้ประโยชน์มากกว่าเราอยู่แล้ว แต่มีย่อมดีกว่าไม่มีครับ
มีประโยชน์อย่างมากในช่วงที่เราสามารถคาดการณ์ทิศทางได้ 80% ขึ้นไป ทำให้เราสามารถทำกำไรได้มากและสะดวกขึ้นครับ
โบนัสจากโบรกเกอร์ต่างๆนั้นมีเงื่อนไขแอบแฝงมากมายทั้งตรงไปตรงมาและอ้อมค้อม ดังนั้นจึงควรศึกษารายละเอียดให้ดี ถึงเงื่อนไขทั่วไป กฎของโปรโมชั่น พร้อมทั้งติดตามข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจศึกษาได้ที่เว็บที่เขารีวิวเรื่องโบรกเกอร์อย่างอัพเดทและตรงไปตรงมาได้ที่

deposit bonus โบนัสเงินฝาก คืออะไร
หากคุณทำการเทรด forex แม้ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือว่าเพิ่งเริ่มต้นทำการเทรดก็ตาม คำศัพท์คำนี้ดูจะเป็นอะไรที่คุ้นหูและสร้างความชื่นชอบให้กับผู้เทรด forex เป็นอย่างมาก คำนั้นคือคำว่า “deposit bonus โบนัสเงินฝาก” เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น ผมอยากพาคุณมาศึกษาถึงคำว่า “deposit bonus หรือโบนัสเงินฝาก” ให้มากขึ้นกันในบทความนี้ครับ

deposit bonus โบนัสเงินฝาก คืออะไร
 “deposit bonus โบนัสเงินฝาก” หมายถึงเงินพิเศษที่เราได้รับ ภายหลังจากที่เราทำการฝากเงินจริงเข้าไปในระบบของทางโบรกเกอร์ ซึ่งการจ่ายเงินของทางโบรกเกอร์นั้น มักจะคิดเป็นระบบ % ของเงินฝาก อาจจะมีเพดานสูงสุดหรือไม่มีก็แล้วแต่ละโบรกเกอร์ครับ

อีกมุมหนึ่ง deposit bonus โบนัสเงินฝาก ก็คือเงินประเดิมที่ไม่มีจริง(เป็นเพียงตัวเลข) ทำให้เราสามารถเทรดได้มากขึ้น แต่สำหรับบางโบรกหากเราสามารถทำตามเงื่อนไขอันซับซ้อนของเขาได้ ก็จะสามารถเบิกเงินออกมาได้จริงๆ และแน่นอนคุณอาจต้องเวียนหัวและเสียกำลังไปไม่ใช่น้อยที่จะได้กินเงินของบรรดาโบรกเกอร์ต่างๆเหล่านั้นครับ

99
คราวนี้มาถึงเรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์ forex day trade เดย์เทรด คืออะไร ใช้อย่างไร

กลยุทธ์ที่เหมาะกับการเล่น day trade เดย์เทรด

หากเป็นการเทรด forex การเลือกใช้ TF1m และ TF1h พร้อมกันในคู่เงินนั้นๆ ดูจะเป็นอะไรที่นิยมมาก ซึ่งตัวชี้วัด (Indicator) ที่นิยมนำมาใช้ในกรณีนี้ เช่น CPI v 1.5 หรือ Pinbar เป็นต้น (คุณสามารถหาดาวน์โหลดได้ในอินเทอร์เน็ต) ซึ่งสองตัวนี้จะบอกจุดของสัญญาณซื้อหรือขายได้แม่นยำมากๆ อีกทั้งลดความผิดพลาดของตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี

        สรุป

        1.เลือก TF1m และ TF1h

        2.ใช้ ตัวชี้วัดคือ CPI v 1.5 และ Pinbar เข้ามาช่วยตัดสินใจ

        3.ตัดสินใจจาก TF 1m เท่านั้น!

        4.อย่าปล่อยให้อารมณ์สองอย่างคือ โกรธ และ โลภเข้าครอบงำเด็ดขาด

ดังนั้นสรุปแล้ว day trade เดย์เทรด จึงเป็นการเทรดเพื่อการทำกำไรแบบรายวัน ซึ่งเน้นที่การได้รับผลตอบแทนหรือผลกำไรที่รวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเทรดที่ไม่ต้องรอเวลานานกว่าจะได้กำไรครับ

day trade เดย์เทรด คืออะไร

คำศัพท์สำคัญอีกหนึ่งคำที่ผู้เขียนเชื่อว่าคุณจะต้องเจอในการเทรด forex นั่นคือคำว่า day trade เดย์เทรด เพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ผมขอพาคุณผู้อ่านไปสำรวจกับคำว่า day trade เดย์เทรด ทั้งความหมาย และวิธีการเรียก day trade เดย์เทรด ให้ถูกต้องกันครับ

day trade เดย์เทรด คืออะไร

day trade เดย์เทรด หมายถึง การเทรด forex แบบ ให้จบภายในวันเดียว ซึ่งหมายถึงการเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย (Order buy or sell) และทำการปิดคำสั่งซื้อให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว โดยปกติแล้วการเทรดแบบ day trade เดย์เทรดนี้ มักเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า การเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งหากเป็นการ day trade เดย์เทรด หุ้นไทย อาจต้องใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ

ข้อดีของ day trade เดย์เทรด

แน่นอนว่า มีคนมากมายที่เลือกเทรด forex โดยใช้รูปแบบการเทรดแบบ day trade เดย์เทรด ถ้าจะให้กล่าวถึงข้อดีของมันแล้ว เราสามารถสรุปได้ดังนี้คือ

1.day trade เดย์เทรด ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้เร็วที่สุด

เพราะหมายถึงไม่ต้องรอข้ามวันก่อนจึงปิดคำสั่งเพื่อทำกำไร ซึ่งแน่นอนว่าความเสี่ยงเรื่องของความผันผวนค่าเงิน หรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้เกิดภาวะที่ทำให้เราได้รับผลกระทบได้

2.day trade เดย์เทรด ช่วยให้คำลดความเสี่ยงจากการผันผวนเรื่องค่าเงิน

อย่างที่กล่าวไปในข้อข้างต้นว่า หากเราปล่อยให้ระยะเวลาในการเทรดผ่านไปมากขึ้นๆ เราก็อาจเข้าไปเจอภาวะเหตุการณ์ของความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งมีหลายกรณีที่ หากเราเลือกเทรดแบบระยะยาวแล้ว มีผลทำให้คุณได้รับความเสี่ยงจากการทำกำไรกลายเป็นขาดทุน หรืออาจถึงขั้นล้างพอร์ตเลยก็มีมากมาย

อย่างแรกของการเทรดแบบ day trade นั้นจะช่วยให้เราทำกำไรได้ค่อนข้างเร็ว เพราะมันแค่ 1 วัน ไม่ต้องรอนานหลายวันค่อยทำการปิดออร์เดอร์ แต่แม้ว่ามันจะสั้นทำกำไรได้อย่างรวดเร็วทันทีก้ตาม ความผันผวนของค่าเงิน และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ทำให้ได้รับผลกระทบไม่น้อยเลย ฉะนั้นก่อนเล่นก็ทำใจยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน และข้อดีของ day trade อีกอย่างก็คือ ความเสี่ยงไม่สูงมากลดความเสี่ยงจากความผันผวนค่าเงินได้ ยิ่งเราใช้ระยะเวลาในการเทรด Forex นานแมากเท่าไร มันจะยิ่งต้องแบกรับความเสี่ยงสูงตามเช่นกัน ฉะนั้นแล้วการเทรดแบบ day trade จึงค่อนข้างจะดีในส่วนนี้



สำหรับการหากลยุทธ์ในการเทรดทางเราอาจจะไม่ขอแนะนำเพราะว่า เทรดเดอร์อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้หลักการต่าง ๆ และมองหาสูตร กลยุทธิ์ในการเทรดกันเอง วางแผนการเทรดด้วยตัวเอง เสียบ้างได้บ้าง อย่างน้อยก็เป็นสนามที่เราลงแข่งเอง


ทุกอย่างมันมีข้อดีและข้อเสียนะบอกเอาไว้ก่อน ทราบว่าทุกคนต้องหวังกำไรอย่างแน่นอนแต่ถ้าหากเทรด day trade แบบไม่มีการเตรียมตัวเลยบางทีโอกาสที่จะเจ๊งมันก็อยู่ใกล้เราเกินไปแล้วเพราะขนาดคนที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้วยังมีโอกาสพลาดได้เลย เอาล่ะเรามาดูข้อดีของการเทรดแบบ day trade กันเลย

รู้ว่าคุณรู้จักคำว่า day trade รู้ว่าเคยได้ยินแต่เราไม่รู้ว่าแต่ละคนนั้นเข้าใจความหมายและหน้าที่ของมันมากน้อยแค่ไหน คำนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเทรด Forex แต่มันจะถูกนำมาใช้งานแบบไหนกัน มีคือสูตร หรือ เครื่องมือ หรือชื่อของอะไรกันแน่ เพราะว่ามันแปลกอยู่เหมือนกัน day trade อ่านว่า เดย์เทรด เอ๊ะหรือมันจะเเปลว่าเทรด Forex แค่วันเดียวหรือเปล่า เรามาหาคำตอบพร้อมกันได้เลย

อะไรคือ DAY TRADE เดย์เทรด

day trade หมายถึง การเทรดฟอเรกศ์ชนิดหนึ่งที่ไม่แปลกอะไรเลย ใช้เวลาในการเทรด Forex แบบสั้น ๆ ใช้แค่วันเดียวตามชื่อเลย day trade ก็คือเทรดวันเดียวจบ ปิดเลย ระยะเวลาในการเปิดขายออร์เดอร์ไปจนถึงเวลาในการปิดออร์เดอร์คือ 24 ชั่วโมง 1 วันนั่นเอง เป็นการเทรดเก็งกำไร Forex แบบระยะสั้น แต่ว่าสำหรับคนที่จะเทรดแบบ day trade จะต้องมีการเตรียมตัวมามากพอสมควรเพื่อจะได้ไม่พลาดเพราะระยะเวลามันค่อนข้างสั้น

อ้างถึง
เล่น daytrade ต้องใช้กราฟครับ และก็ทำตามกราฟทุกอย่าง มีวินัยเสมอต่อให้ฝืนกับจิตใจของตน ไม่ต้องเดาทางเจ้ามือครับ ชื่อก็บอกว่าเดาแสดงว่าก็เหมือนซื้อหวยจริงนั่นแหละ
ไม่ต้องสนใจข่าวหรือบทวิเคราะห์ทั้งนั้น เว็ปบอร์ดทางที่ดีก็อย่าเข้าครับเพราะจะทำให้การตัดสินใจช้าลง กราฟจะแสดงออกถึงการตอบรับของข่าวต่างๆหมดแล้ว ทั้ง Demand supply
แล้วก็ตั้ง stoploss ดีๆ ขึ้นอยู่กับ atr(กรอปความผันผวนของดัชนีอ้างอิง) ควบคุม drawdown ให้แคบๆ ในระยะยาวพอร์ตก็เติบโตได้ครับ
TF ก็เล่นแบบ 1 min จะได้ไม่เสียโอกาสนั่งเฝ้าทั้งที แต่ถ้ารู้สึกไม่ไหวก็ค่อยๆปรับเพิ่ม 5 min

ถ้าเล่นไปซักพักแล้วไม่ใช่ก็เปลี่ยนแนวครับ หาที่เหมาะกับตัวเอง

100
เรื่องที่นักเทรดต้องรู้ forex Currency คืออะไร ใช้อย่างไร



เกร็ดความรู้เพื่อทำเงินของ currency
1.การเทรดค่าเงินบาท ไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมใน forex

ผมเชื่อว่า คนใหม่ๆ เมื่อเข้ามาในตลาด อาจจะมีความรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยากเทรดค่าเงินบาท ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้นะครับ เพราะว่าค่าเงินบาทเป็นตลาดที่แทบไม่ได้รับความนิยมอะไรเลยในการเทรด forex ส่งผลให้มีค่าสเปรดที่สูงมาก จนคุณต้องเบือนหน้าหนีเลยทีเดียว

2.จงเลือกเทรดในช่วงที่ตลาดใหญ่เปิด

ผมอยากให้คุณนั้นเลือกเทรด currency ในช่วงที่ตลาดใหญ่ทำการเปิดเท่านั้น เพราะว่าหากคุณไปเลือกช่วงเวลาที่มีการแกว่งตัวของกราฟน้อยแล้ว แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริงๆนะครับ ผมว่าเน้นช่วงที่ตลาดเปิด ให้กราฟมีการสวิงตัวแรงๆจะดีกว่ามากๆ

Currency คืออะไร

คำศัพท์ที่สำคัญในการเทรด forex อีกหนึ่งคำคือคำว่า currency ซึ่งมีความสำคัญมากๆ เพราะหากคุณนั้นไม่รู้จักคำนี้ เท่ากับว่าคุณไม่สามารถที่จะเทรด forex ได้เลย ดังนั้นเพื่อเป็นการต่อเติมเสริมปัญญาความรู้ทางด้านการเทรด forex มาดูกันครับว่าคำว่า currency นั้น หมายถึงอะไร

Currency คืออะไร
คำว่า currency คือ “ค่าเงิน” ต่างๆนั้นเอง เช่น ค่าเงินดอลล่าร์ ค่าเงินบาท ค่าเงินเยน ซึ่งเมื่ออยู่ในรูปแบบการเทรด forex เรามักเรียกสิ่งนี้ว่า currency คุณสามารถพบ currency ได้ในทุกๆโบรกเกอร์ที่มีการเปิดให้คุณทำการเทรด forex และการเปิดบัญชี แต่ละประเภทก็ส่งผลให้คุณนั้นเทรด currency ได้แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน โดยปกติ บัญชีขนาดเล็ก มักจะมีการการเทรดคู่เงิน currency ที่น้อยกว่า และมีค่า สเปรดที่มากกว่าด้วย

ตัวอย่าง currency ที่นิยมในการเทรด forex
สำหรับ currency ที่นิยมนำมาเทรดกันนั้นมีหลายๆ currency ได้แก่



Currency USD

จริงๆแล้ว ค่าเงิน USD ถือเป็นค่าเงินหลักที่ใช้ในการประกบคู่เทรด currency กันเลยทีเดียว และที่สำคัญหากคุณเลือกชุดค่าเงินนี้ จะพบว่ามีค่า สเปรดที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้คุณสามารถทำกำได้มากกว่าการเลือก currency อื่นๆเพื่อทำการเทรด forex

Currency JPY

ค่าเงิน JPY หรือค่าเงินเยน นั้น ถือเป็นอีกค่าเงินหนึ่งที่มีการเทรด currency มากที่สุด และมีช่วงของค่าสเปรดต่ำสุดในเวลาที่มีการเปิดตลาด forex เช่นเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกค่าเงินนี้เพื่อนำมาใช้ในการเทรดได้ และผมค่อนข้างแนะนำคุณเสียด้วยสิ เพราะว่าผมมักเทรด currency ของ JPY แล้วทำกำไรได้มาก

Currency อื่นๆที่น่าสนใจ
นอกจากที่ยกตัวอย่างไปสอง currency ข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายๆcurrency รวมทั้งสิ่งที่เรียกว่า e currency อีกด้วยซึ่งหมายถึงค่าเงินดิจิตอลทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Bitcoin (BTC), Litecoin (LTC), Dogecoin (DOGE) เป็นต้น ซึ่งสามารถเทรดกันได้แบบตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดวันพักของตลาดเลยทีเดียว หากคุณต้องการศึกษาเรื่องของการเทรดค่าเงิน e currency ลองเลือกใช้เว็บไซต์อย่าง coinligy.com เป็นแนวทางในการศึกษาและเลือกใช้เครื่องมือประกอบการเทรดได้ครับ

101
forex Copytrade คืออะไร ใช้อย่างไร


แนวทางการเลือก Copytrade

หลักการง่ายๆต่อไปนี้คุณสามารถนำมาใช้ในการเลือกทำ Copytrade ได้อย่างง่ายดาย และมีความปลอดภัยอย่างมาก มาดูกันครับว่าการทำ Copytrade นั้นมีแนวทางการเลือกบุคคลอย่างไร

1.ตรวจสอบประวัติก่อน

โดยปกติแล้ว เราสามารถมองเห็นประวัติการเทรดได้จากในเว็บไซตทของโบรกเกอร์ที่มีการเปิดให้บริการ Copytrade หรืออาจเป็นการเข้าไปดูที่ fxbook เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เราต้องดูก็เป็นเรื่องของการทำผลกำไร ความนานในการเทรด และดูจุดขาดทุนด้วยว่า มีมากน้อยแค่ไหน

2.เลือกวงเงินให้ใกล้เคียงกัน

สิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ คุณจะต้องเลือกวงเงินที่มีความใกล้เคียงกัน และมีการเปิดคู่เงินหรือว่า Lot ที่คุณมีความถนัด อย่าเพิ่งไปเลือกคนที่จะทำ Copytrade ในคู่เงินหรือแนวทางที่คุณไม่ชำนาญ เพราะว่าในอนาคตคุณอาจพลาดได้ ดังนั้นเลือกแบบที่กล่าวมานี้ถือว่าดีที่สุดครับ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Copytrade

1.โบรกเกอร์ที่เราเลือกใช้บริการ

สถานที่แรกที่เราสามารถเลือกใช้ Copytrade ได้คือ ที่โบรกเกอร์ของเราเองครับ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโบรกนั้นจะมีการสนับสนุนในเรื่องที่กล่าวมานี้ มีแต่เพียงบางโบรกเกอร์เท่านั้นนะครับที่สนับสนุน และซัพพอร์ตการทำ Copytrade ดังนั้นหากคุณคิดจะเล่นกลยุทธ์ข้อนี้ จงเลือกโบรกให้ดี

2.fxbook

ที่นี่ ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่คุณนั้นสามารถเลือกทำ Copytrade ได้ อีกทั้งยังมีผู้ที่ให้คุณเลือกทำ Copytrade มากมาย และมีการจัดอันดับต่างๆไว้อย่างง่ายดาย สะดวกในการหยิบใช้ครับ

สรุปแล้วการเลือก Copytrade ก็ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการทำกำไรจากการเทรด forex ของคุณ โดยที่มีความเสี่ยงคือ หากบุคคลที่เราทำการ Copytrade นั้นเกิดการเทรดที่ผิดพลาด นั่นหมายความว่า เราก็จะได้รับความผิดพลาดไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นโปรดระวังอย่าให้เกิด Copytrade กับคนเทรด forex ที่ไม่ดีครับ


Copytrade คืออะไร

ส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนที่เทรด forex ออกแนวค่อนข้างขี้เกียจทีเดียว ดังนั้นหากมีเครื่องมืออะไรก็ตามที่มาช่วยให้ผมนั้นประหยัดเวลาในการเทรดแล้ว ผมยินดีที่จะเลือกทั้งสิ้น ซึ่งหนึ่งในคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้นนั้น คือคำว่า Copytrade โดยคำนี้นั้นมีความหมายว่าอย่างไร และเรามีหลักในการเลือก Copytrade อย่างไรดี บทความนี้มีเฉลยให้กับคุณ

Copytrade คืออะไร

ความหมายของคำว่า Copytrade หมายถึง การเลือกบุคคลที่ทำการเทรด forex ที่เปิดให้เราสามารถทำ Copytrade ได้ โดยการ Copytrade สามารถทำบนเว็บไซต์ของทางโบรกเกอร์ที่ให้บริการเรา หรืออาจเป็นการทำ Copytrade บน MT4 หรือ MT5 ก็สามารถทำได้ ซึ่งการทำ Copytrade จะเหมาะสมมากสำหรับมือใหม่ เพราะสามารถทำกำไรจากตลาด forex แล้ว แม้ว่าเราจะยังไม่ชำนาญในการเทรดก็ตาม

มาดูทัศนะจากนักเทรดกันนะครับ

อ้างถึง
Copy trade ก่อน ต้องถามว่าก๊อบปี้จากไหนครับ ที่ผมรู้จักมีไม่กี่แห่งครับที่ใว้ใจได้ ถ้าก๊อบตามคนทึ่เก่งจริงๆก็ได้กำไรครับ

ค่าเงินใครๆก็เทรดได้ครับ ขอแค่โบรคที่ Regulated ประเทศดีๆหน่อยพวกไซปรัสอะไรพวกนั้นอย่าไปเสี่ยง

จำนวนเงินทุน $1000 นั้นน้อยมากครับต่อตลาดนี้

นักลงทุนเป็นร้อยๆล้านในตลาดนี้มีครับ แต่ไม่ได้ก๊อบปี้เขา
มันมีกลยุทธหลายรูปแบบในตลาดนี้ครับ ทั้งกำไรขาดทุนจากส่วนต่าง จาก สว๊อบ(Swap)  เทรดได้ 24ชั่วโมงใช่ครับแต่ช่วงเวลาเทรดไม่ใช่ 24 ชั่วโมงหรอกเทรดตอนที่ไม่มี Volatility ก็เสียเวลาเปล่าๆ

จากคำถามคุณเจ้าของกระทู้น่าจะไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยน่าจะอันตรายมากครับศึกษาไปก่อนดีกว่า

ตลาดค่าเงินนี้พวกหลอกลวงเยอะครับและคนไทยก็รู้จักจริงๆน้อย
ส่วนใหญ่ที่บอกเป็นการพนันเป็นอะไร เพราะพวกนั้นไม่รู้จักมากกว่าครับ

พิมพ์ตรงไหนไม่ชัดเจนหรือมีอะไรสงสัยถามเพิ่ม ยินดีตอบครับ

เพิ่มเติมครับ ปรกติเราฝากเงินเข้าโบรคไปจะได้เรทราคา USD/THB  ณ ตอนนั้นนะครับ ไม่มีการหักโดยไม่มีเหตุผลถึง 2บาท


อ้างถึง
ระบบ copy trade มีจริง มีหลายโบรกที่ทำได้ อย่างที่นิยมก็ etoro...
Copy trade เป็นระบบที่เราเลือกนักเทรดเก่งๆ (ทีคิดว่า) แล้วเปิดการ copy จะได้จะเสียก็อยู่กับคนที่เรา copy ส่วนค่าธรรมเนียม ก็แล้วแต่โบรกเกอร์...
แน่นอนว่า เป็นไปไม่ได้ (หรือยาก) ที่จะได้กำไรตลอด คนที่ว่าเก่งๆเซียนๆ ก็มีได้มีเสีย เหมือนกัน...

และอีกอย่างที่พึ่งระวัง มีพวก money game หลายๆตัวที่อ้าง forex มาหลอกให้ลงทุน โดยอ้างผลกำไรมากมาย โดยไม่ต้องทำอะไร...
Forex ก็เหมือนตลาดหุ้น..จะได้จะเสีย คือเราต้องสมัครเอง ฝากเงินเข้าพอร์ตเอง แล้วก็เทรดเอง (หรือเปิดการ copy เอง) ไม่ใช่เอาเงินไปวางไว้ แล้วได้กำไรเท่านั้นเท่านี้% หรือแนะนำคนมาสมัครเป็นทอดๆ...



102
เร่เข้ามามือใหม่หัดเทรด หัวข้อนี้พลาดไม่ได้นะครับ กับ forex Contests คืออะไร ใช้อย่างไร




ประโยชน์ของ Contests
เพิ่มแรงกดดันและแรงจูงใจของบัญชี Demo จากที่ไม่มีผลได้ผลเสียอะไร ซึ่งในแง่ของจิตวิทยาทางด้านแรงกดดันและแรงจูงใจจะน้อยกว่าบัญชี real มาก การที่นักเทรด Forex ที่เทรดบัญชี Demo จนชำนาญดีแล้ว ลองชิฟตัวเองมาเข้าสนามแข่งขัน จะช่วยให้เห็นแรงกดดันในเกมส์นี้มากขึ้น และแน่นอนจะนำไปสู่การเรียนรู้ในการควบคุมอารมณ์ตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบสนามบัญชีจริงต่อไป
ผู้ชนะจะได้เงินรางวัลโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ในกรณีเทรดบัญชี Demo แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราจะได้ซึ่งความภาคภูมิใจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ และอาจจะเป็นเครื่องการันตี เพื่อการต่อยอดความน่าเชื่อถือในกรณีที่คุณจะผันตัวเองมาเป็นคนสอนเทรดหรือขายซิกแนลการเทรด Forex ครับ
ถือเป็นสนามฝึกวิชาการเทรดที่สามารถใช้ทดสอบกลยุทธ์ในการเทรดภายใต้เงื่อนไขต่างๆ เป็นการลับเขี้ยวเล็บไปในตัว และสำหรับบางท่านมองว่าเป็นเรื่องสนุกสนานและท้าทาย และอาจใช้เป็นเครื่องวัดประเมินตัวเองได้ว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้วคุณอยู่ในระดับไหน มีฝีมือมากน้อยขนาดไหน หรือต้องปรับปรุงอะไรบ้าง
โอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น คนที่เทรดเงินจริงอยู่แล้ว เมื่อเข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นการเพิ่มโอกาสให้ได้กำไรมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าคุณแพ้คุณก็เสมอตัว แต่ได้ประสบการณ์ในเกมส์ ในขณะที่คุณชนะคุณก็จะได้ความภาคภูมิใจ ประสบการณ์และเงินรางวัลอีกด้วย


วิธีแข่งขัน Contests ให้ชนะ
1.ตรวจสอบดูเงื่อนไขก่อน

สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำคือ ทำการตรวจสอบดูเงื่อนไขต่างๆของการแข่งขัน forex Contests เสียก่อน เพื่อที่ว่าคุณจะได้รู้ว่าเงินทุนของคุณ และความรู้ด้านการเทรด forex ที่คุณมีนั้นจะสามารถช่วยให้คุณมีโอกาสประสบกับชัยชนะในการเทรด forex Contests หรือไม่ ถ้าไม่อยู่ในวิสัยแม้เพียงเล็กน้อย ก็โปรดอย่าเข้าไป Contests ให้เสียเวลาครับ

2.เตรียมเงินทุนของคุณให้พร้อม

เมื่อทุกอย่างพร้อม ส่วนต่อไปที่คุณจะต้องทำคือ การเตรียมเงินทุนใน Balance ของคุณให้พร้อม พยายามเตรียมยอดเงินของคุณให้มากเสียหน่อย แต่อันนี้แล้วแต่เงื่อนไขนะครับ บางเกมส์เขาจะกำหนดยอดเฉพาะเพื่อความเสมอภาคกัน

3.จงเทรดตามวิธีของคุณเท่านั้น

มีแผนหรือยัง นี่เป็นคำถามสำคัญมาก เพราะหากคุณจะ Contests เพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเทรด forex คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแผนการที่สำคัญเสียก่อน เพื่อที่ว่าอย่างน้อยที่สุดแล้ว คุณจะได้เอาชนะได้ และรู้ว่าที่ตนเองชนะนั้นมาจากเรื่องใด หรือว่ามาจากเหตุการณ์ใดนั่นเองครับ

4.เรียนรู้อย่างจริงจัง

จงเรียนรู้อย่างจริงจังเสมอ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับคุณเมื่อคุณนั้นทำการเทรด forex และทำ Contests สำคัญที่สุดคือ คุณจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างจริงจังและเต็มที่ให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นแล้ว ความพยายามที่คุณลงมือทำไปนั้นก็จะสูญเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ในเรื่องใดๆเลยนะครับ ดังนั้นจงเริ่มที่ตรงนี้เสมอๆ คือ “เรียนรู้ตลอดเวลา” ครับ

วิธีการหา Contests
โดยปกติแล้วเมื่อเราสมัครเป็นสมาชิกกับทางโบรกเกอร์เพื่อเทรด forex ที่ใดก็ตาม ทางโบรกเกอร์ก็จะมีการจัดกิจกรรม Contests ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เกี่ยวกับการเทรด forex ให้คุณได้เข้าร่วม โดยแต่ละโบรกเกอร์นั้นก็จะมีรูปแบบของการแข่งขันที่มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่ หรือบางเว็บไซต์/บางเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับ Forex อาจจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นด้วยเช่นกัน ก็ต้องคอยฟังข่าวหรือค้นหาข้อมูลดูครับ ซึ่งจะจัดถี่บ่อยเท่าไร รางวัลเป็นอย่างไรบ้าง เราก็สามารถหาอ่านได้ครับ หูไว้ตาไวสักนิด ก็จะได้มีสนามประลองทักษะการเทรด เผลอๆได้เงินใช้แถมเป็นเกียรติ์ประวัติแก่ตนเองอีกด้วย



ตัวอย่างประเภทของ Contests
รูปแบบของ Contests นั้นมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ก็แล้วแต่โบรกเกอร์หรือผู้จัดจะกำหนดรูปแบบหรือรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปก็มีประมาณนี้ครับ

Forex Demo Contests : เทรดเงินปลอม ชิงเงินจริง เป็นการแข่งขันฟอเร็กซ์ Contests  ด้วยบัญชี Demo โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเงินจริง ซึ่งรูปแบบนี้ทางโบรกเกอร์ต่างๆมักจัดขึ้นเพื่อให้นักเทรดทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ได้แข่งขันกัน ประโยชน์คือโบรกเกอร์จะได้สร้างแรงจูงใจแก่ลูกค้า และเป็นการประชาสัมพันธ์ทางด้านการตลาดของโบรกนั้นๆ ส่วนประโยชน์ที่เราจะได้คือ “เงินรางวัล” หากชนะในอันดับต่างๆ และยังเป็นโอกาสที่จะใช้สนามนี้ในการฝึกสกิลในการเทรด พร้อมทั้งมีผลต่อการสร้างแรงกดดันและแรงผลักดันในการต้องการเอาชนะ เพื่อใช้เป็นบาทฐานทางอารมณ์ในการเทรดด้วยเงินจริงต่อไป อันนี้สำคัญนะครับ ใครที่เทรดเงินปลอมได้สักพักผมแนะนำให้ไต่ระดับมาแข่ง Contests แบบนี้ดูครับ



Forex real Contests : เทรดเงินจริง ชิงเงินจริง แบบนี้จะพบน้อยกว่าแบบแรก ส่วนมากจะเป็นการจัดโดยเว็บบอร์ด Forex ที่มีขนาดใหญ่ๆ และจะทำในโอกาสสำคัญๆ เช่น ครบรอบ 6 ปี เป็นต้น เงื่อนไขการสมัครส่วนมากก็ได้แก่ต้องเป็นสมาชิกที่ทางเว็บนั้นเป็น Partner อยู่ โดยอาจจะมีการแฝงโดยการให้กดสมัครสมาชิกผ่านระบบ IB ที่เว็บนั้นทำไว้ให้ครับ อันนี้ผมแนะนำให้สมัครผ่านกับเขานั่นแหละครับดีแล้ว เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลหมุนเวียนกันในสังคม Forex ของเรา เพราะถ้าสมัครผ่านเว็บโดยตรง โบรกเกอร์ซึ่งทั้งหมดเป็นของชาวต่างชาติเงินทั้งหมดที่เป็นกำไร ชาวต่างชาติก็เอาไปทั้งหมดครับ จะได้เป็นกำลังใจให้ IB สร้างสรรค์เว็บหรือลงบทความดีๆให้เราได้อ่านกันเยอะๆครับ ^_^ 

เงื่อนไขหลักของการแข่งแบบนี้คือต้องฝากเงินจริงในบัญชี แต่ก็ไม่มากครับ ราวๆหลักพันบาทต้นๆซึ่งผู้แข่งขันก็จะไม่หนักอะไรมากนัก ข้อดีคือถ้าคุณนั้นอย่างไรก็เทรดอยู่แล้ว แล้วหาจังหวะมาแข่งด้วย ถ้าชนะขึ้นมาก็ได้กำไรอีกต่อหนึ่ง พร้อมทั้งยังเป็นสกิลในการฝึกอารมณ์เชิงจิตวิทยาในการเทรดด้วย ลองคิดดูนะครับ เราใช้ทั้งเงินจริง ทั้งต้องแข่งขันกับคู่แข่งอีกมากมาย มันกดดันหรือสนุกกว่าเทรดตัวคนเดียวขึ้นอีกมาก สำหรับการแข่งประเภทนี้บางทีโบรกเกอร์ก็ให้แรงจูงใจสูงขนาดมอบรถยนต์ให้กับผู้ชนะกันเลยทีเดียว และแน่นอนเงื่อนไขหรือการฝากเงินเข้าเทรดในเริ่มแรกก็จะหนักขึ้นกว่ารางวัลที่เป็นรางวัลที่มีมูลค่าไม่สูงมากนักครับ



Week with CFD : เทรด CFD เป็นรายสัปดาห์ เป็นการแข่งขันสำหรับการซื้อขายตราสาร CFD โดยจะจัดขึ้นเป็นรายสัปดาห์ มักจะเป็นบัญชี Demo ผู้ชนะซึ่งมักจะเป็นระดับ Top10 ของผู้แข่งขันทั้งหมด จะได้เงินรางวัลโดยจะโอนไปยังบัญชีเทรดจริงของผู้ชนะในรูปแบบโบนัส ซึ่งสามารถถอนได้เมื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด (เห็นไหมล่ะครับ อย่างไรโบรกก็มีเงื่อนไขให้เขาเองนั้นอย่างไรก็มีกำไรแฝงๆอยู่ดี)

Demo Option : แข่งเทรด binary options ด้วย Demo เป็นการแข่งขันด้วยบัญชีทดลอง สำหรับการเทรด binary options โดยผู้เทรดระดับ Top10 คือสิบอันดับคนที่มีผลการซื้อขายที่ดีที่สุด จะเป็นผู้ชนะ เงินรางวัลจะถูกโอนไปยังบัญชีจริงของผู้ชนะในรูปแบบโบนัส ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น ๆ ของการแข่งขันและจำนวนเงินรางวัลระบุไว้ในหลักเกณฑ์ของการแข่งขันครับ

The KingSize MT5 : เทรดวันสำหรับ MT5  การแข่งขันสำหรับบัญชี Demo ด้วยโปรแกรม MetaTrader5 ที่แข่งขันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สำหรับ 10 อันดับสูงสุดจากการแข่งขัน จะได้รับเงินรางวัลโดยจะถูกโอนไปยังบัญชี Metatrader5 ของผู้ชนะในรูปแบบโบนัส (อันนี้เป็นการจูงใจให้คนใช้โปรแกรม Metatrader5)

The Trade Day : เทรดวันสำหรับ MT4 เป็นการแข่งขันสำหรับบัญชี MT4 โดยจะแข่งขันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ผู้เทรด 10 อันดับแรกที่มีผลลัพธ์การซื้อขายดีที่สุดจะถือเป็นผู้ชนะ โดยจะได้รับเงินรางวัลผ่านการโอนไปยังบัญชีของผู้ชนะในรูปแบบโบนัส ซึ่งสามารถถอนได้หลังจากเป็นไปตามข้อกำหนดทุกอย่างเท่านั้น

Contests คืออะไร
จุดเด่นประการสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นเสน่ห์ของการเทรด forex นั่นก็คือ การมี Contests หรือมีการจัดการแข่งขันครับ สำหรับการแข่งขันนั้น ในวงการ forex เป็นอย่างไร และมีรายการประเภทไหนที่น่าสนใจ วันนี้บทความนี้จะขอเสนอให้ทราบไปพร้อมกันครับ

Contests คืออะไร
Contests คือการจัดกิจกรรมการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลต่างๆในวงการ forex โดยปกติแล้วจะเป็นเรื่องของแต่ละโบรกเกอร์จะดำเนินการกันเอง โดยรางวัลจูงใจสำหรับแต่ละโบรกเกอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของเงินรางวัลเป็นสำคัญแต่บางโบรกก็ให้รางวัลถึงขนาดเป็นรถยนต์หรูกันเลยทีเดียว ดังนั้นหากคุณเลือกเทรด forex เป็นอาชีพแล้ว การมองหา Contests และเข้าร่วมแข่งขันกับเขาก็เป็นเรื่องที่น่าลองมิใช่น้อยครับ

การแข่งขันเทรดฟอเร็กซ์ (Forex Contests) 2017

 
บางครั้งโบรกเกอร์ Forex จะจัดการแข่งขันเทรดฟอเร็กซ์สำหรับบัญชี Demo และบัญชี Real (Live) พร้อมด้วยเงินรางวัลจำนวนมาก!

ในการแข่งขันฟอเร็กซ์ Demo คุณจะแข่งกับผู้เทรดรายอื่นด้วยบัญชีฝึกหัด (เงินจำลอง) ดังนั้นคุณสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ฟรีและมีโอกาสชนะเงินรางวัลจริง โดยปกติแล้ว ผู้ที่ทำกำไรสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน! ดังนั้นคุณควรมีกลยุทธ์ที่ดีและทำให้การซื้อขายสร้างผลกำไรได้มากที่สุด เพื่อเอาชนะการแข่งขันบัญชีทดลอง!
การแข่งขันฟอเร็กซ์ Live จะจัดขึ้นในบัญชีเทรดจริง เป็นการแข่งขันซื้อขายด้วยเงินจริงที่ฝากเอาไว้ในบัญชี ซึ่งต่างจากการแข่งขัน Demo การแข่งขันฟอเร็กซ์ Live เหมาะสำหรับผู้เทรดที่มีประสบการณ์และมืออาชีพเท่านั้น การซื้อขายด้วยเงินจริงต้องมีระเบียบวินัยมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันฟอเร็กซ์


103
มาตามกันอีก 1 กลยุทธ์ในการเทรดกันดูนะครับ วันนี้ขอเสนอ forex Scalping คืออะไร ใช้อย่างไร

อินดี้ที่เหมาะสมกับการทำ Scalping
คุณสามารถเลือกใช้อินดี้ที่เหมาะสมตามที่ตัวเองต้องการในการเทรดได้เลย แต่การตั้ง Time Frame (TF) นั้นมักจะใช้ TF ที่ 1 นาที หรือ 5 นาทีในการเทรด Scalping เท่านั้น



เทคนิคของการเทรด Scalping
หัวใจของการเทรดแบบ Scalping คือ “เข้าทำกำไรให้ไว รีบออกให้ไว เน้นกำไรจุดน้อยๆแต่บ่อยๆ” จะไม่ถือ position นานเด็ดขาด
ตั้ง risk/reward ประมาณ 1:1 ถ้ากำไรแล้วต้องรีบออกทันที อย่าคิด let profit run อย่ามัวแต่เสียดาย ตัวอย่างการตั้งค่าเช่น ซื้อ true 10 $ ตั้งขาย 10.10 $ Cut Loss 90 $
Win/loss ratio ต้องสูง การ Scalping เราอาศัยหลักการ “กำไรน้อยได้ง่าย กำไรมากได้ยาก” ดังนั้น%ความถูกต้องจะต้องสูงกว่า%ผิด คืออย่างน้อยควรมากกว่า 2:1
จงมีวินัยต่อ Cut Loss สูง ห้ามขาดทุนก้อนใหญ่เด็ดขาด การ Scalping จะอาศัยเก็บกำไรทีละน้อยๆแต่อาศัยบ่อยๆ ถ้าเราขาดทุนก้อนใหญ่กำไรที่สะสมเอาไว้จะหมดทันที
เน้นจำนวนรอบ การเทรด Scalping เราต้องอาศัยความถี่ วันหนึ่งอาจเป็นสิบรอบ ถึงหลักร้อยรอบครับ


สิ่งที่ต้องใส่ใจ ในการทำ Scalping
การทำ Scalping นั้นมีจุดที่ต้องระวังอยู่พอสมควร จุดหลักที่ต้องรู้คือ

ค่าสเปรด การทำ Scalping โดยปกติจะทำอยู่ในระหว่างช่วง 5-20 pip เท่านั้น ดังนั้นคุณต้องไม่ลืมในการคิดค่าสเปรดเข้าไปด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อคุณทำ Scalping คุณจะขาดทุนในทุกออเดอร์ที่เข้าไปทันที
อย่าลืมดูเงื่อนไขแต่ละบัญชีของแต่ละโบรกเกอร์ด้วย เพราะว่าในหลายๆโบรกและหลายๆประเภทบัญชีนั้นไม่อนุญาตให้มีการเทรดแบบ Scalping หรือสามารถเทรด Scalping ได้ แต่ว่าก็มีเงื่อนไขประกอบมากมาย ตรงนี้ต้องศึกษาให้ดีนะครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะงงว่าทำไมเปิดออเดอร์ และกดปิดไม้ทันทีไม่ได้
traders ส่วนมากจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เมื่อเทรดด้วยเงินจริงๆ ดังนั้น กฎเหล็กข้อหนึ่งก็คือ ให้ทดลองการเทรด Scalping กับบัญชี Demo ก่อนให้ชำนาญและชิน เพราะไม่ได้ใช้เงินจริงๆในการเทรด ดังนั้นก็เลยไม่มีความเสี่ยงใดๆที่จะสูญเสียเงิน การเทรดแบบ scalping เทรดเดอร์จะต้องอยู่ในตลาดตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนมันคือความเครียดที่จะนำไปสู่การกระทำที่ไม่รอบคอบและการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้


Scalping คืออะไร


Scalping คืออะไร
ผมเชื่อว่าคำศัพท์คำนี้อาจจะดูเป็นอะไรที่เข้าใจยากสำหรับมือใหม่ กับคำว่า Scalping ว่าคืออะไร และทำกันอย่างไร ซึ่งจริงๆแล้วคำศัพท์คำนี้นั้นไม่ยากเลยในการทำความเข้าใจในส่วนของความหมาย และถ้าคุณมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคแล้ว การทำ Scalping จะช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

Scalping คืออะไร
Scalping คือการเทรดทำกำไรในช่วงสั้นๆ โดยมักจะอยู่ระหว่าง 5-20 pip ต่อการเทรดทำกำไรหนึ่งครั้ง โดยหลักการเทรดแบบนี้มีความเชื่อว่าการแกว่งตัวที่น้อยที่สุดนี้สามารถทำกำไรได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นพวกการเทรด Lot ใหญ่ๆ ซึ่งแม้เพียง 2-5 pip ก็สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลแล้ว

ข้อควรรู้ในการทำ Scalping
การทำ Scalping เป็นการทำการเปิดออเดอร์ซื้อขาย แบบเล็กๆ โดยจะเลือกทำกำไรที่จำนวน pip ไม่มาก อาจน้อยมากจนเหลือแค่ 1 pip หรือสูงสุดไม่เกิน 15 pip
การทำ Scalping มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกันและไม่น้อยกว่าการเทรดแบบอื่นๆ และเนื่องจากการเทรดแบบนี้เราจะต้องเฝ้ากราฟตลอดจึงถือว่าเป็นการเทรดที่ควบคุมความเสี่ยงได้มาก(ถ้าเราคุมอารมณ์ตัวเองได้นะครับ)
การทำ Scalping ต้องดูเงื่อนไขของบัญชีต่างๆด้วยว่ามีการอนุญาตมากน้อยแค่ไหนในการทำ แต่ละโบรกเกอร์ก็จะแตกต่างกันไป แต่โดยปกติแล้วโดยรวมๆจะเป็นดังนี้ครับ
บัญชีไมโคร – ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
บัญชีมินิ – ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
บัญชี Nano – ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
บัญชี ECN Interbank – ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
บัญชี ECN Scalping – อนุญาตให้เทรดแบบ Non-Aggressive Scalping ได้ (Scalping ได้ไม่เกิน 50% ของออเดอร์ทั้งหมด)
เหมาะกับตลาดราคาวิ่งในกรอบ ถ้าตลาดมีเทรนด์หรือแกว่งแรง ความเสี่ยงจะสูงขึ้นตาม ถ้าจะ Scalping ก็ไม่ควรฝืน trend รอซื้อตามแนวรับ หรือรอรับในช่วงที่ย่อตัวครับ

เงื่อนไขในการ Scalping ของแต่ละบัญชี
1. บัญชี Micro - ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
2. บัญชี Mini - ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
3. บัญชี ECN Light - ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
4. บัญชี ECN Interbank - ไม่อนุญาตให้เทรดแบบ Scalping
5. บัญชี ECN Scalping - อนุญาตให้เทรดแบบ Non-Aggressive Scalping ได้ (Scalping ได้ไม่เกิน 50% ของออเดอร์ทั้งหมด)

Scalping คืออะไร

Scalping  คือการเทรดสั้น ถ้าไม่ให้เป็น scalping ออเดอร์นั้นๆจะต้องปิดให้มากกว่า 3 เท่าของ spread ของคู่สกุลเงินนั้นๆ และถือออเดอร์ให้นานตั้งแต่ 3 นาทีขึ้นไป ถ้าเข้าเงื่อนไขทั้งหมด 2 อย่างนี้ก็จะไม่เป็นการ scalping

คือการเทรดโดยการเปิดและปิดการซื้อขายในช่วงสั้นๆ โดยจะปิดทำกำไรเพียงไม่กี่จุด (ส่วนมากจะมีระยะประมาณ 5-20 จุด) โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ แต่ละรูปแบบที่นำเสนอนี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายรูปแบบที่เทรดเดอร์นิยมใช้กัน รูปแบบนี้เรียกง่ายๆ ว่า Flag (แบบธง) เป็นการ Scalping ในรูปแบบที่อาศัยการกลับตัวหรือพักตัวของราคาเป็นช่วงๆ โดยส่วนมากจะเกิดในช่วงที่ตลาดมีการซื้อขายเป็นจำนวนมากๆ เสร็จแล้ว หรืออยู่ในช่วงที่กำลังรอข่าวสำคัญๆ โดยตลาดช่วงนั้นต้องค่อนข้างราบเรียบไม่มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวที่รุนแรง โดยกราฟจะมีรูปแบบที่เป็นแท่งเรียงกัน การเทรดช่วงนี้ไม่อันตรายมากเหมือนตอนช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การเทรด Scalping ในแบบนี้ จะไม่มุ่งหวังกับผลกำไรมากโดยเน้นการสะสมทีละน้อย และเป็นการเทรดในมุมมองของคนเล่นตามเทรนด์ ผู้เทรดต้องใจเย็นและรู้จักสังเกตตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยรูปแบบนี้เป็นเพียงรูปแบบ หนึ่งในหลายๆ กลยุทธ์ที่เทรดเดอร์แต่ละคนควรได้ศึกษาและนำมาปรับใช้ตามความถนัดของแต่ละคน

 ราคาบนตลาด Forex มีทั้งลงและขึ้นเป็นไปตามวงจรการตลาด ถ้าราคามีการเปลี่ยนแปลงประมาณ 60 จุดภายในหนึ่งวัน ระยะห่างระหว่างค่าสูงสุดและต่ำสุดจะค่อนข้างมาก การเทรดโดยใช้การเปลี่ยนแปลงราคาแบบรายชั่วโมง (ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุด) ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลกำไรที่มากกว่า มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ pipsing และScalping เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ สำหรับผู้เริ่มต้นในตลาด Forex อาจจะคิดว่าการเทรดโดยวิธีแบบนี้สามารถทำให้เกิดผลกำไรได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จำนวนเงินที่คาดหวังเอาไว้อาจจะวิ่งไปไกลเกินขอบเขตความจริง และมีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มอีก แต่ในโลกของการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนนั่นคือสติ และข้อมูล รวมทั้งระเบียบวินัยที่ดี ก็จะช่วยให้คุณไม่คาดฝันไปไกลเกินกว่าสิ่งที่เป็นจริงและข้อมูลที่เป็นจริง อันจะนำคุณไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดน้อยที่สุด

บทสรุป
โดยสรุปแล้วถือว่ากลยุทธ์การเทรด forex แบบ Scalping เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ และสามารถใช้เทคนิค Scalpingได้ดีในช่วงที่กราฟมีการสวิงตัวอย่างแรง โดยมากแล้วจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของข่าวต่างๆนั้นเอง แต่ด้วยความที่มันสั้นมากๆ คุณจึงต้องระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรดประกอบด้วยเช่นเดียวกัน

https://www.youtube.com/watch?v=kLD2xVIWPzU

104
เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เพื่อนๅ ถามกันเข้ามาเยอะ เกี่ยวกับเรื่อง forex Round numbers คืออะไร ใช้อย่างไร


ประยุกต์ใช้ในการเทรด

          สามารถนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับการวาง Stop loss และจุด Take profit คือในการวาง Stop loss นั้น ควรวางหลังจากจุด Round number ออกมา 1 ระดับ เพื่อป้องกันการลากกิน Stop loss ของเทรดเดอร์รายใหญ่ที่รู้ว่ารายย่อยมักวางออเดอร์ตรงไหน ส่วนการวางจุด Take profit ก็ควรวางก่อนที่ราคาจะถึงจุด Round number เนื่องจากป้องกันการแตะไม่ถึงของราคา จากออเดอร์ที่ขวางไว้จำนวนมาก คือเราควรยืนหน้าควรส่วนมากก่อน 1 จุด

Round numbers คืออะไร
 

การรู้ว่าเทรดเดอร์คนอื่นกำลังทำอะไรอยู่นั้น จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดได้มากขึ้นอีกหนึ่งระดับ ซึ่งข้อสังเกตอย่างหนึ่งในที่จะทำให้เราประเมินเทรดเดอร์คนอื่นทำกำลังทำอะไรอยู่นั้น ดูได้จากการวางออเดอร์ โดยการวางออเดอร์ของคนส่วนมากในตลาดมักใช้ตัวเลขกลมๆ หรือ Round numbers (ช่วงที่ตัวเลขลงท้ายด้วย 0) ในการกำหนดจุด Stop loss และจุด Take profit อีกทั้งยังนำไปใช้ในการกำหนดแนวรับ แนวต้าน อีกด้วยเช่นกัน

 

ใน Website ของ https://www.oanda.com ที่ให้บริการข้อมูลเฉพาะของทางโบรกเกอร์ คือ แสดงออเดอร์ของลูกค้าทั้งหมดว่าลูกค้าส่วนมากนั้นวางออเดอร์ในจุดใดบ้าง และมากน้อยเพียงใด

 

ออเดอร์ซื้อของ EUR/USD

 

ออเดอร์ขายของ XAUUSD

            ในส่วนที่พื้นที่เข้มๆ นั้นแสดงถึงบริเวณออเดอร์ที่ตั้งไว้ในจำนวนมาก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าส่วนมากจะเป็นช่วงที่เป็นตัวเลขกลมๆ จากอย่างตัว ออเดอร์ซื้อของ EURUSD นั้น ออเดอร์ตั้งซื้อส่วนมากจะอยู่ที่ 1.10 / 1.20 / 1.30 เป็นส่วนมาก และ ออเดอร์ขายของทอง (XAUUSD) ออเดอร์นั้นจะอยู่ที่ 1200 เป็นส่วนมาก

 

ตัวอย่างแนวรับ แนวต้าน จาก Round number

105
กระทู้นี้มีคนถามกันเข้ามาเกี่ยวกับเรื่อง forex Risk Reward Ratio 101 คืออะไร ใช้อย่างไร

ในการเทรดนั้นอาจเพิ่มความซับซ้อนขึ้นมาหน่อย หน่อยจะเราจะรู้ 2 อย่างคือ 1. Risk และ 2. Reward … ประเด็นมันอยู่ที่เราจะหามันได้อย่างไรให้ได้ใกล้เคียงกับความประจริง และเกิดประสิทธิภาพการเทรดมากที่สุด

 

Risk: เริ่มต้นในการหา ความเสี่ยง ในการเทรดนั้นคือหาจุด Stop loss … ความเสี่ยงคือค่าความแตกต่างระหว่างจุดเข้าและจุด Stop loss

Reward: เป้าหมายการทำกำไร คือวัดจากจุดเข้าและจุด Take profit

 



ตัวอย่าง  USDEUR ถ้าเล่นสไตล์ Breakout มองรูปแบบราคาฟอร์มตัวคล้าย Double bottom เทรดเดอร์สายนี้จะเข้าเปิด Long ที่บริเวณ 0.7260 และกำหนด Stop loss ที่ Low เดิมแถวๆ  0.7150 ตั้ง Target ที่ 0.7400

คำนวณ

Risk = 0.7260 – 0.7150 = 0.0110

Reward = 0.7400 – 0.7260 = 0.0140

Risk reward ratio = 0.0110 / 0.0140 = 0.7857

Reward / risk = 1.27

หมายความว่าแทง 1 หน่วย คาดหวังผลตอบแทน 1.27 หน่วย

 

ส่วนในการเทรดการทราบถึง RRR อย่างเดียวคงไม่พอ ยังต้องทราบถึง %Win ของกลยุทธ์ที่เราใช้ด้วย ถ้าสมมติกลยุทธ์ที่เราใช้

สมมติ Reward / risk = 2.50

– ต้องใช้กลยุทธ์ที่มี %Win ไม่น้อยกว่า 28.57% ถึงจะเท่าทุน

1 / (1+2.5)

หรือสมมติ %Win = 70%

– Reward / risk อย่างน้อยต้อง = 0.428

(1 / 0.70) – 1

 

เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเทรด เราก็ควรเทรดในจังหวะที่เราได้เปรียบ ในจังหวะที่ Reward/risk สูงๆ เพราะยังมีเรื่อง slippage และค่าธรรมเนียมการซื้อขายอีกที่ยังไม่ได้เข้าไปคำนวณ ในการเทรดจริงก็ควรเอาตัวเลขเหล่านี้บวกเข้าไปอีก เพื่อความเหมาะสมในการเทรด

Risk Reward Ratio 101 คืออะไร
ทางทฤษฎีของ Risk reward ratio มันง่ายมากเลยคือ ถ้าคุณลงทุนอะไรอย่างหนึ่ง โดยเสี่ยง 100 บาท เพื่อหวังผลตอบแทน 200 บาท … ถ้าชนะจะได้ 200 บาท แต่ถ้าแพ้ก็เสีย 100 บาท … ดังนั้น RRR (ต่อไปนี้ขอเรียก Risk reward ratio สั้นๆ ว่า RRR) จะเท่ากับ 100 / 200 = 0.50 .. ยิ่ง RRR ต่ำเท่าไหร่ แสดงถึงผลตอบแทนนั้นให้มูลค่ามากกว่าความเสี่ยงค่อนข้างเยอะ (ถ้าเป็น Forex อย่างนี้น่าเทรด) แต่ถ้า RRR > 1 นั้นแปลว่า ความเสี่ยงที่ลงไปนั้นมากกว่าผลตอบแทนที่ได้รับ (อย่างนี้ไม่น่าเทรด)

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 14
SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums