แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - นักศึกษา22

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 14
76
นักเทรด Forex ต้องไม่พลาดเรื่องนี้แน่นอน มาอ่านต่อกันเลยกับเรื่อง forex trading system แจกระบบเทรด ใช้อย่างไร

แนวทางการเลือกใช้ Indicator

1.กำหนดเทรนของกราฟให้ได้เสียก่อน (สำคัญมากเพราะถ้ากำหนดตรงนี้ผิดคือจบเลย)

2.เลือกอินดี้ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดของคุณไม่เกิน 2-3 ตัว อย่าใส่อินดี้มากเกินไป จะทำให้รูปแบบการเทรดของคุณมีปัญหา

3.อย่าใช้อารมณ์จงเชื่อในอินดี้ของคุณ โดยปกติแล้วอินดี้มักจะทำจำนวนตาที่ถูกต้องประมาณ 6-10 ครั้งต่อการเทรด 10 ครั้ง

4.อย่าทำตัวเป็นคนเกือบรวย อย่าโยน Lot ใหญ่ๆ จำไว้ไม่ใช่การพนัน แต่นี่เป็นการเทรดของจริง

Indicator แนะนำสำหรับมือใหม่

MACD

ผมเชื่อว่าถ้าคุณเพิ่งเริมศึกษาในเรื่องของการเทรด forex แล้ว ค่า MACD นั้นยังสามารถใช้งานได้ และใช้งานได้จริงเสียด้วยสิ คุณเพียงแค่ดูการตัดกันของเส้นกราฟ MACD จากนั้นถ้าตัดขึ้นก็เปิดออเดอร์ซื้อ หรือถ้าตัดลงก็เปิดออเดอร์ขาย แค่นั้นเองครับ

สรุปแล้ว Indicator หรือตัวชีวัดนี้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้คุณสามารถเทรดทำกำไรในตลาด forex ได้อย่างรวดเร็วและที่สำคัญคือคือ คุณสามารถเลือกใช้อินดี้แบบง่ายๆในการทำกำไรในตลาด forex และทำให้คุณนั้นสามารถทำไงเงินได้จริงอีกด้วย

Indicator คืออะไร

คุณเคยได้ยินใครพูดถึงคำว่า “อินดี้” ไหมครับ ผมว่าอย่างน้อยก็ในบทความของผมล่ะ คำว่า “อินดี้”นี้ ไม่ได้หมายถึงนักร้อง หรือการแต่งกายแบบนอกกระแสนะครับ แต่หมายถึงเครื่องมืออันทรงพลังมากๆในการเทรด forex จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องมือเดียวเสียด้วยซ้ำที่ผมแนะนำให้กับคุณ มันคือ ตัว Indicator นั่นเอง ดังนั้นมาทำความรู้จักกับเจ้า Indicator ให้มากขึ้นไปพร้อมๆกันนะครับ

Indicator คืออะไร

Indicator คือตัวชี้วัดในการเทรด forex เป็นตัวที่สามารถบอกข้อมูลสำหรับการเทรดของคุณ ได้แก่การบอกแนวโน้มของกราฟแท่งเทียนว่าจะไปในทิศทางใด รวมถึงตัว Indicator บางตัวนั้นสามารถบอกจุดที่คุณจะเปิดคำสั่งซื้อ หรือคำสั่งขายได้ด้วยครับ โดยเจ้า Indicator มักมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “อินดี้”

ประโยชน์ของ Indicator

1.ช่วยบอกเทรน (trend) ว่าเป็นไปในทิศทางใด หรือว่าคุณนั้นสามารถเทรดไปในทิศทางใดจึงจะปลอดภัยที่สุด

2.สามารถบอกจุดทำสัญญาณซื้อ หรือขายได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกจุดที่เราจะทำการปิดคำสั่งซื้อ

3.ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด forex ให้เป็นมากกว่าการพนัน แต่คุณสามารถคาดเดาสิ่งต่างๆได้จากกราฟนั่นเอง

4.บอกจุด stop loss ของคุณได้อย่างชัดเจน ทำให้คุณมีข้อมูลตัดสินใจก่อนทำการเทรดต่อ

5.บอกจุดที่คุณนั้นควรที่จะ let Profit Run อย่างชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไร

77
คืนวันศุกร์ มือใหม่หัดเทรดมาลุยกันต่อเลยดีกว่ากับเรื่อง forex indicator แจกอินดี้ แจ่มๆ ใช้อย่างไร

forex indicator
Indicator “Fisher” : เครดิต admin เว็บ syscata.wordpress.com
รีวิวย่อ :  Indicator ตัวนี้นั้นมีคุณสมบัติในการบอกเทรน “Trend” ของหุ้นตัวที่เราสนใจ โดยถ้า Trend Up แท่งกราฟจะแทงขี้นเป็นสีเขียว ถ้า Trend Down แท่งกราฟจะแทงลงเป็นสีแดง Indicator “Fisher” นั้นการใช้งานนั้นค่อนข้างง่าย ได้ผลค่อนข้างแม่นยำมาก แต่การจะใช้แค่ตัวเดียวนั้นอาจจะไม่ปลอดภัย 100% ในจังหวะที่มีการสวิงแต่เป็นการสวิงแบบเล็กๆซึ่งบางที่เราเข้าไปอาจจะไม่คุ้มค่า ดังนั้นเพื่อดูความแข็งแรงของเทรนประกอบด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ตัวอื่นมาร่วมด้วยซึ่งผลที่ได้นั้นเป็นที่น่าพอใจมากทีเดียวเมื่อใช้ร่วมกับตัวอื่นๆ  การใช้ต้องใช้ร่วมกับ Indicator อีก 2 ตัวคือ CCI และ Stochastic ซึ่งสองตัวนี้ใน MT4 เองก็มีอยู่แล้วครับ

ให้ทำการโหลด และนำไฟล์ที่โหลดมาไปใส่ไว้ที่ Folder: …\experts\indicators แล้วเปิดโปรแกรม MT4 เปิดหน้ากราฟของคู่เงินที่คุณจะเล่น แล้วเปิด Indicator ทั้งสามตัวคือ Fisher, Stoch และ CCI

สำหรับ Stoch ให้ตั้งค่าตามนี้ %K period: 6, MA method: Simple ใส่เส้น Level 50 ลงไป นอกนั้นเหมือนเดิม
สำหรับ CCI ให้ตั้งค่าตามนี้ Period: 20, Apply to: Typical Price (HLC/3) ใส่เส้น Level 75 และ -75 ลงไป
สำหรับ Fisher ไม่ต้องปรับอะไรใช้ได้เลยครับ

forex indicator แจกอินดี้ แจ่มๆ
ทางทีมงานได้รวบรวมและคัดเลือก indicator ที่น่าสนใจจากแหล่งต่างๆ มาเอาใจแฟนๆ ให้โหลดไปใช้กัน โดยทางทีมงานจะพยายามหาสุดยอดอินดี้ มาให้เนืองๆนะครับ หรือใครจะสรรหาเอามาแจกกันใน page นี้ก็ยินดียิ่งครับผม


download

โค๊ด: [Select]
https://drive.google.com/file/d/0BybP3pdkPIi2aTZHY3dWSGZxUms/view?usp=sharing

78
คืนวันศุกร์ ใครยังไม่เข้านอนมาหาความรู้การเทรดกันต่อนะครับ Forex Currency Pairs (คู่เงิน) คืออะไร ใช้อย่างไร

คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

EUR/CHF – ประเทศแถบยูโรโซนถือเป็นหุ้นส่วนในการซื้อขายที่สำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องจากการที่ค่าเงินฟรังก์สวิสค่อนข้างจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า จึงเหมาะในการซื้อขายในระบบปฏิบัติการ carry trade โดยแนวโน้มความเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้เป็นไปในทิศทางบวกตั้งแต่ปี 2549

EUR/JPY – คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายอย่างแพร่หลาย โดยจะมีความเกี่ยวพันธ์กันระหว่างคู่สกุลเงิน USD/JPY และ EUR/USD นักลงทุนส่วนใหญ่มักจับตามองการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้ โดยจะมุ่งความสนใจไปที่อัตราดอกเบี้ยและค่าความต่างระหว่างอัตราการเติบโตของประเทศญี่ปุ่นและประเทศแถบยูโรโซน

NZD/JPY – คู่สกุลเงินนี้เป็นที่ต้องการมากที่สุดในการตกลงซื้อขายแบบ carry trade เนื่องจากมีค่าความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างที่สุด โดยคู่สกุลเงินนี้เหมาะสำหรับการสร้างสถานะซื้อ (Long Position) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีตัวชี้วัดพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ



EUR/GBP – สำหรับประเทศอังกฤษ ประเทศแถบยูโรโซนถือเป็นหุ้นส่วนในการซื้อขายที่มีความสำคัญเป็นอันดับสอง หากนักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่เกี่ยวเนื่องระหว่างประเทศอังกฤษและค่าเงินปอนด์เป็นหลักแล้ว เขาก็ต้องเลือกที่จะลงทุนในคู่สกุลเงินนี้อย่างแน่นอนเพราะ GBP/USD เป็นคู่สกุลเงินที่ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมากที่สุด

CAD/JPY – นักลงทุนสามารถทำนายแนวโน้มในการซื้อขายราคาน้ำมันได้โดยคำนวณจากคู่สกุลเงินนี้ ประเทศแคนาดามีแหล่งกักเก็บน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ถือเป็นประเทศส่งออกน้ำมันหลักดังนั้นจึงทำกำไรโดยการเพิ่มราคาน้ำมัน ในทางตรงกันข้ามประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันจะต้องพบกับภาวะขาดทุน ดังนั้นหากต้องการทำกำไรจากการเปิดสถานะซื้อคู่สกุลเงินนี้ ควรทำในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

จะเห็นได้ว่า Traderคู่เงิน ถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาดForex ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่เงินหลัก หรือคู่เงินรองก็ตาม นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนของเรานั้น มีกำไร และไม่มีปัญหาการขาดทุนในตลาดForexอีกแน่นอน  สุดท้ายนี้เราหวังว่าท่านผู้อ่านคงจะพอรู้กันแล้วว่า Trade คู่เงินคืออะไร ท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประเมินความเสี่ยงได้ครับ

Forex Currency Pairs (คู่เงิน) คืออะไร
สำหรับคนที่กำลังสนใจ อยากลงทุนกับ Forex นั้น สิ่งสำคัญนอกจากวิธีการเทรดแล้ว คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับ เทรดTrad คู่เงิน  (Forex Currency Pairs ) เราเชื่อว่า นักลงทุนมือใหม่หลายคน ยังคงสงสัยกันอยู่ว่า คู่เงิน คืออะไร สำคัญอย่างไรใน Forex ดังนั้น เพื่อให้คุณได้ลงทุนอย่างสบายใจ และมีกำไรจากการลงทุนมากขึ้น เราจึงนำสาระดีๆ เกี่ยวกับ Trade คู่เงิน มาฝากคุณ ดังนี้

Currency คืออะไร?

Currency คือ สกุลเงินตราต่างประเทศ ในแต่ละประเทศจะมีสกุลเงินที่แตกต่างกันไป อย่างบ้านเรา ประเทศไทย คือ บาทไทย หรือ รู้จักันว่า (THB) แต่สกุลเงินหลักๆที่ทำการซื้อขายในตลาด Forex นั้นก็จะมีอยู่ 7 สกุลเงินด้วยกันก็คือ

ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD =  US Dollars)
ยูโร (EUR = Euro)
ปอนด์ (GBP = Great Britian Pound)
เยน (JPY = Japanese Yen)
ดอลลาร์แคนาดา (CAD = Canadian Dollars)
สวิสฟรังค์ (CHF = SwissFranc = Schweizer Franken )
ดอลล่าร์ออสเตรเลีย (AUD = Australian Dollars)
ดอลล่าร์นิวซีแลนด์ (NZD = NewZealand Dollars)
Forex Currency Pairs (คู่เงิน) คืออะไร (2)ทำความเข้าใจความหมายของคู่เงิน

Trade คู่เงินนั้น หากใช้ใน Forex มีความหมาย คือ สิ่งที่ใช้ในการลงทุน  เพราะการลงทุนกับ Forex นั้น  เป็นการซื้อ-ขายเงินสกุลต่างๆ ซึ่งต้องทำเป็นคู่ นั่นจึงเรียกว่าเป็นคู่เงิน ในการลงทุนนั้นเอง ส่วนความหมายโดยทั่วไป คู่เงิน จะหมายถึงเงินสองสกุลเงิน ที่ใช้ในการลงทุน ซึ่งเป็นการเลือกเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินตามที่ต้องการเพื่อเกร็งกำไรในอนาคต

ความสำคัญของคู่เงิน

นอกจากความหมายของคู่เงินแล้ว สิ่งที่จะสามารถบอกได้ว่า Traderคู่เงิน คืออะไร ก็คือความสำคัญของคู่เงินนั่นเอง เพราะหากทราบความสำคัญแล้ว จะทำให้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคู่เงินนั้น มีความสำคัญมากในForex เพราะเปรียบเหมือนหัวใจของการลงทุนของนักลงทุน คู่เงินจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้กำไร หรือขาดทุน

จุดเด่นของคู่เงิน

อย่างที่รู้กันแล้วว่า คู่เงินหมายถึงอะไร สำคัญอย่างไร  แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่ ถึงให้ความสนใจเกี่ยวกับคู่เงินกันมาก นั่นก็เพราะว่า จุดเด่นของคู่เงิน อยู่ที่การเป็นตัวกำหนดยอดเงินในอนาคตของเรานั่นเอง  เพราะการ Trade คู่เงิน เป็นตัวกำหนดว่า หากเราลงทุนไปแล้ว จะได้กำไร หรือขาดทุนนั่นเอง ทั้งนี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์การเงินมาประกอบในการเลือกคู่เงิน

คู่เงินหลักและคู่เงินรอง

ในการลงทุนกับ Forex นั้น Trader คู่เงินจะมีอยู่ 2 แบบ คือ คู่เงินหลัก ซึ่งเป็นคู่สกุลเงินหลักๆ ที่ใช้กันในหมู่นักลงทุนของ Forex และคู่เงินรอง คือคู่ของสกุลเงินที่มีใช้เป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้เป็นสกุลเงินที่นิยมกัน ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะทำการเลือกเล่นคู่เงินหลัก และมีการซื้อคู่เงินรองไว้เกร็งกำไรบ้างเล็กน้อย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอีกหนึ่งทาง


 Currency Pairs คืออะไร?

ในการเทรด Binary Option นั้น อย่างที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นว่าสิ่งที่เราจะเทรดกันมากที่สุด คือ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ซึ่งเวลาเทรด เราจะเลือกเทรดเป็นคู่เงิน ซึ่งเราจะเรียน คู่เงินแต่ละคู่ว่า Currency Pairs เช่น

EUR/USD
USD/JPY
AUD/USD
USD/THB
EUR/THB



ในการอธิบายเรื่องนี้เราจะเริ่มจากพื้นฐานง่ายๆก่อน โดยการให้ลืมเรื่องการเทรด ไบนารี่ออปชั่นไว้ก่อนไว้ก่อนชั่วคราว สมมุติว่าเราไปเที่ยว พักร้อน ที่ประเทศอเมริกา สิ่งที่เราจะต้องทำคือ แลกเงินจากสกุลเงินไทย (THB) ไปเป็น ดอลล่าสหรัฐ (USD)
 โดยเราจะสมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างคู่เงินนี้ คือ 32.582




                                  USD / THB

                              32.582     
   


ความหมาย คือ เราต้่องใช้เงิน ฿32.582 ในการซื้อ $1 

ถ้าเราจะแปลงสกุลเงินจาก THB เป็น USD  เราก็สามารถ ทำได้ สมมุติว่าเราต้องการจะแลก $500

เราสามารถทำได้ด้วยการ $500 x ฿32.582 = ฿16,291

คราวนี้สมมุติว่าเรากลับมาจากอเมริกา สมมุติว่าเราไม่ได้ใช้จ่ายเงินจำนวนนี้เลย แล้วเราต้องการที่จะแลก USD กลับมาเป็น THB เมื่อเราเดินทางมาถึงเมืองไทย อัตราแลกเปลี่ยนนั้นลดลงมาเป็น 31.572

(+) USD / THB (-)

 31.572 



เราสามารถทำได้ด้วยการ $500 x ฿31.572 = ฿15,786

ในสถานการ์ณนี้่ หมายความว่า ค่าเงิน ฿ นั้นอ่อนตัวลง (Weaken, Depreciate, Bearish, Dovish)
นั่นหมายความว่าเราไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ในวันหยุด แถมยัง ขาดทุน จากการไปพักผ่อนอีก เพราะเนื่องจากว่า ค่าเงิน ฿ นั้นอ่อนตัวลง และ ค่าเงิน $ นั้นแข็งขึ้น

ความหมายก็คือ เงินบาทไทยของเรา มีค่าน้อยลง เมื่อเทียบกับ เงินคดอลล่าสหรัฐ ฟัลงจากที่เรากลับบ้าน

ในทางกลับกันสมมุติว่าเรากลับมาจากอเมริกา และ ไม่ได้ใช้จ่ายเงินจำนวนนี้เลย แล้วเราต้องการที่จะแลก USD กลับมาเป็น THB เมื่อเราเดินทางมาถึงเมืองไทย อัตราแลกเปลี่ยนนั้นเพิ่มลงมาเป็น 34.572

  (-) USD / THB (+)

 34.572 



เราสามารถทำได้ด้วยการ $500 x ฿34.572 = ฿17,286

ในสถานการ์ณนี้่ หมายความว่า ค่าเงิน ฿ แข็งขึ้น (Strengthen, Appreciate, Bullish, Hawkish)
นั่นหมายความว่าเราไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ในวันหยุด แถมยัง กำไร จากการไปพักผ่อนอีก เพราะเนื่องจากว่า ค่าเงิน ฿ นั้นอ่อนแข็งขึ้น และ ค่าเงิน $ นั้นอ่อนลง

ความหมายก็คือ เงินบาทไทยของเรา มีค่ามากขึ้น เมื่อเทียบกับ เงินคดอลล่าสหรัฐ ฟัลงจากที่เรากลับบ้าน

จากทั้ง 2 เหตุการ์ณนี้ เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า  ในคู่สกุลเงิน ระหว่าง 2 สกุลเงินงั้นจะสวนทางกันตลอดเวลา

79
สวัสดีตอนบ่ายๆ นะครับ วันนี้เราจะมาศึกษาเรื่อง Forex correlations คืออะไร ใช้อย่างไร

ความสัมพันธ์ของโปรดักส์ต่างๆในตลาด Forex ที่สำคัญ

Forex pair: เป็นที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าถ้าคู่สกุลเงินเหมือนกัน ความสัมพันธ์ในการเคลื่อนไหวโดยรวมก็จะเป็นในทิศทางเดียวกัน อย่างเช่น EUR/USD, AUD/USD , NZD/USD , GBP/USD ที่มีสกุลเงิน USD เป็นสกุลเงินที่สองเหมือนกัน จะมีความสัมพันธ์เป็นบวก
กราฟตัวอย่าง USD/CAD, USD/CHF, USD/CNG, USD/CZK และ USD/SGD จะเห็นได้ว่าภาพพวกทิศทางเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกัน

 

USD กับ USD Index

ถ้าเราเทรดคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับ USD ก็ต้องติดตาม US Dollar Index เป็นหลัก เนื่อง USD Index จะช่วยให้เทรดเดอร์รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของค่าเงิน USD ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งสามารถมาประกอบการวิเคราะห์กับคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับ USD

กราฟด้านล่างแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง EUR/USD กับ USD Index ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ที่เป็นลบ (Negative) โดย EUR/USD ในส่วนของ USD เป็นคู่เงินสกุลเงินรอง จะให้ค่าความสัมพันธ์ที่เป็นลบ แต่ถ้า USD เป็นคู่สกุลเงินหลัก จะให้ค่าความสัมพันธ์ที่เป็นบวกกลับ USD Index

 



Commodities

เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์สายโภคภัณฑ์โดยหลักคือ Canadian dollar และ Australian dollar หรือที่เรียกกันว่า Commodity currencies

แคนนาดาเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกน้ำมันเป็นหลัก สภาพเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน ดังนั้นค่าเงิน CAD กับ ราคาน้ำมันจะมักไปในทิศทางเดียวกัน (ค่าความสัมพันธ์เป็นบวก)

 

ส่วนออสเตรเลียเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกทองคำเป็นอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นราคาทองคำกับค่าเงิน AUD มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน (ค่าความสัมพันธ์เป็นบวก)

 



Safe haven

   สินค้าที่มักเรียกกันว่า Safe haven คือเวลาตลาดแย่ หรือมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวอย่าง ภัยธรรมชาติ หรือสงคราม นักลงทุนจะหันมาลงทุนสินค้าพวกนี้ อย่างค่าเงิน Yen , Swiss franc และ ทองคำ นั่นเอง โดยพวกนี้จะมีทิศทางเดียวกัน

 

กราฟของ JPYUSD กับ ราคาทองคำ จะเห็นได้ว่ามีความสัมพันธ์เป็นบวก ทิศทางเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

 

วิธีการหาค่าความสัมพันธ์

2 วิธีง่ายๆ ที่สามารถหาค่าความสัมพันธ์ของสินค้าต่างๆ คือ

https://www.mataf.net/en/forex/tools/correlation : Website นี้จะให้เราเลือกคู่สกุลเงิน แล้วมาดูว่ามันมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ค่าความสัมพันธ์จะตกอยู่ในช่วง -100 (Negative) ถึง +100 (Positive)
https://www.tradingview.com/ : Website นี้มี Indicator ที่ชื่อว่า Correlation Coefficient ในการดูค่าความสัมพันธ์ของแต่ละโปรดักส์


Forex correlations คืออะไร

ความสัมพันธ์ของการเคลื่อนไหวในคู่เงินสกุลกับคู่เงินสกุลด้วยกันหรือสินค้าต่างๆ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเทรด แต่เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม ไม่ค่อยคำนึงถึง ที่บอกว่ามันสำคัญก็เพราะว่า บางคู่สกุลเงิน กับสินค้าโภคภัณฑ์บางอย่าง มีความสัมพันธ์การเคลื่อนไหวที่เป็นในทิศทางเดียวกัน พูดง่ายๆคือ ถ้ามันขึ้น ก็ขึ้นพร้อมกัน ถ้ามันลงก็ลงพร้อมกัน ดังนั้นการเทรดสินค้า 2 สินค้าที่มีความสัมพันธ์เป็นในทิศทางเดียวกันจะทำให้เหมือนเราไปเพิ่มความเสี่ยงในการเทรดให้มากขึ้น ไม่ได้เป็นการกระจายความเสี่ยงแต่อย่างใด

 

แต่ก่อนมาดูว่าสินค้าใดมีความสัมพันธ์กันบ้าง ให้เรามาทำความเข้าใจว่าอะไรคือ Correlations หรือ ความสัมพันธ์

 

ความสัมพันธ์ หรือ Correlations ในความหมายของการเทรดนั้นคือ เป็นการอธิบายการเคลื่อนไหวระหว่าง 2 โปรดักส์ทางการเงิน (คู่สกุลเงิน, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ) โดยถ้าเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียว ค่าความสัมพันธ์จะเป็นบวก (Positive correlation) และแต่ถ้าเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้าม ค่าความสัมพันธ์จะเป็นลบ (Negative correlation)

Positive correlation: เมื่อราคาของ 2 โปรดักส์นั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน จะมีค่าความสัมพันธ์เป็นบวก ตัวอย่างเช่น คู่สกุลเงินระหว่าง EUR/USE กับ EUR/CAD เป็นต้น

Negative correlation: เมื่อราคาของ 2 โปรดักส์นั้นเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม จะมีค่าความสัมพันธ์เป็นลบ ตัวอย่างเช่น EUR/USD กับ USD/CHF คือเมื่อ EUR/USD ขึ้น ส่วน USD/CHF จะลง แต่ถ้า EUR/USD ลง โดย USD/CHF จะขึ้นเป็นต้น

80
ทาง exness-free เว็บไซด์เกี่ยวกับ Forex ขอนำเสนอเรื่อง Forex Charts คืออะไร ใช้อย่างไร


Candlesticks charts

    ให้ข้อมูลเหมือนกับ Bar chart เลย แต่จะแตกต่างตรงที่หน้าตาที่ไม่เหมือนกันแค่นั้น โดย Candlesticks charts นั้นให้ข้อมูลทั้ง Open, High, Low และ Close ที่แตกต่างคือในส่วนของตัวแท่งเทียน (body) หรือช่วงระหว่าง Open กับ Close นั้นจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมขึ้นมา และมีสีที่แตกต่างกัน โดยปกติ ถ้าวันที่ราคาปิด ต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะมีสี “ดำ” และถ้าราคาปิด สูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะมีสี “ขาว”


หรือในปัจจุบันสามารถปรับแต่งสีแท่งเทียนเป็น เขียว แดง ได้

ถ้าให้แนะนำในการใช้งานก็คงเป็น Candlestick chart ก็เพราะว่าใช้งานง่าย ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน มีการแสดงข้อมูลที่ชัดเจนมากที่สุด และสามารถนำไปวิเคราะห์ในส่วนของ Candlestick analysis เพื่อเพิ่มประสิทธิในการเทรดได้ต่ออีกด้วย


Forex Charts คืออะไร
 
ประเภทของกราฟที่นิยมใช้กันในการเทรด Forex มากที่สุดมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

Line chart
Bar chart
Candlestick chart
 

Line chart

กราฟเส้น : เป็นกราฟที่มีลักษณะเป็นเส้นเดี่ยวๆ โดยส่วนมากจะใช้ราคาปิด (Close price) มา Plot ลงในกราฟ ต่อๆกัน สามารถเห็นการเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาได้อย่างชัดเจน

 



Bar chart

จะซับซ้อนขึ้นมาหน่อย Bar chart จะแสดงราคาเปิด (Open) , ราคาปิด (Close) , ราคาสูงสุดระหว่างวัน (High) และ ราคาต่ำสุดระหว่างวัน (Low)

            Bar chart สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “OHLC” chart หรือมาจากคำว่า Open, high, low, Close

 
Open: ส่วนเล็กๆ ยื่นออกมาทางแสดงมือของแท่ง

Close: ส่วนเล็กๆ ยื่นออกมาทางขวามือของแท่ง

Low: ส่วนที่ต่ำที่สุดของแท่ง

High: ส่วนที่สูงที่สุดของแท่ง

81
เรื่องต่อไปที่ต้องการนำเสนอคือ Forex Brokers (ฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ ) คืออะไร

 Forex Brokers หรือ ฟอเร็กซ์โบรกเกอร์ คือ ตัวกลางเชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างนักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อยกับตลาดฟอเร็กซ์ เรียกง่ายๆว่านายหน้านั่นเอง ซึ่งจะได้รายได้จากการที่เราทำรายการกับนายหน้า ยิ่งเราเทรดบ่อยๆ พวก Forex Broker พวกนี้เค้าก็จะยิ่งชอบ ไม่ว่าคุณจะเทรดกำไรหรือขาดทุน โบรกเกอร์เก็บเงินเข้ากระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่คุณเปิดรายการซื้อขาย “นักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อยไม่สามารถเทรดโดยตรงกับ Forex Markets ได้ ต้องผ่านฟอเร็กซ์โบรกเกอร์”

ในตลาดฟอเร็กซ์จะวัดการเคลื่อนที่ของราคามีหน่วยเป็น Pips หรือจะใช้คำว่าจุดก็ได้ แต่ขอให้เข้าใจตรงกันว่า 1 หน่วย หรือ 1 pip ยกตัวอย่างเช่น ณ เวลาหนึ่ง GBP/USD อยู่ที่ 1.5800 เวลาต่อมา ราคาเปลี่ยนเป็น 1.5810 อย่างนี้เรียกว่า GBP/USD เคลื่อนที่ไป 10 pips

ฟอเร็กซ์โบรกเกอร์เก็บเงินกินเปล่าเราอย่างไร เขาเก็บเงินเราโดยใช้ค่า Spread คือค่าที่กำหนดขึ้นมาเลยว่า ถ้าเปิดคู่นี้ต้องเสียก่อนเลยกี่ pips ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละโบรกเกอร์ และยังสามารถปรับเปลี่ยนค่าขึ้นลงตามใจโบรกเกอร์ได้อีกด้วยยกตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์แห่งหนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง ค่า Spread ของคู่ GBP/USD เท่ากับ 2 หมายความว่า หากเราเปิดรายการสั่งซื้อในตอนนี้เราจะติดลบทันที -2 pips ซึ่งจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับมูลค่า Order ที่เราเปิด มากน้อยตามกำลังทรัพย์ของนักเทรด

ในแต่ละโบรกเกอร์จะมีบัญชีอยู่สองลักษณะใหญ่ๆ คือ บัญชีเทรดจำลอง กับ บัญชีเทรดเงินจริง ขอแนะนำให้เปิดบัญชีเงินปลอมหรือบัญชีเทรดจำลองก่อน ฝึกเทรดในค่าเงินคู่หนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 เดือนจนมั่นใจแล้วจึงขยับไปเทรดบัญชีเงินจริงเจ็บจริง จะเป็นการดีกว่าเสียเงินจริงไปก่อน นี่เป็นคำเตือน

วิธีการง่ายๆในการเลือก forex broker
สำหรับขั้นตอนง่ายในการเลือก forex broker ที่ดีนั้น ผมขออนุญาตสรุปออกมาเป็นขั้นตอนอันกลั่นจากประสบการณ์ในการเลือก forex broker ด้วยตนเองเอามาฝากครับ



        1.ต้องมีภาษาไทย
        ถ้า forex broker ที่คุณกำลังจะสมัครเป็นสมาชิกไม่มีภาษาไทย อย่าสมัคร เพราะผมบอกเลยว่ามันจะค่อนข้างยุ่งยากมากในกรณีที่การฝากและการถอนเงินของคุณมีปัญหา ดังนั้นเลือกแบบเป็นภาษาไทยดีที่สุด

        2.ฝากถอนต้องง่ายและรวดเร็ว
        คุณไม่อาจรอจังหวะของการเทรดกราฟได้เป็นเดือนๆ เมื่อจังหวะมาถึง เงินทุนของคุณต้องพร้อม เพราะฉะนั้น เลือก forex broker ที่สามารถถอนเงินออกมาได้อย่างรวดเร็วจะดีที่สุด เชื่อผมครับ

        3.กราฟไม่ค่อยเกิดอาการรีโควทบ่อยๆ
        ถ้าคุณไม่เคยเทรด คุณจะไม่เข้าใจว่าอาการรีโควทมันคืออะไรและมันส่งผลต่อเราอย่างไร แต่ ผมบอกเลยครับว่า อาการนี้มันรุนแรงมาก เพราะมันสามารถทำให้กราฟที่เรากำลังทำกำไรอยู่พลิกกับกลายเป็นเรื่องของการขาดทุนได้เลย ดังนั้นโบรกที่มีคุณภาพ จะมักไม่ค่อยมีอาการรีโควทนี้บ่อยนัก คุณจึงมั่นใจได้ว่า ทุกๆการเทรดของคุณย่อมทำกำไรให้คุณอย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เชื่อว่าถึงตรงนี้หลายๆคน ที่เป็นมือใหม่ หรือว่าเป็นมืออาชีพก็ตาม คงมีความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า forex broker ได้ดีมากยิ่งขึ้นกันแล้วนะครับ ดังนั้นลองนำข้อมูลนี้ไปปรับใช้กับการเทรดของคุณดูครับ

Forex broker คืออะไร
คำศัพท์คำสำคัญต่อไปคือคำว่า forex broker ซึ่งถือว่าเป็นคำที่มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เรานั้นสามารถเทรด forex ได้นั่นเอง ดังนั้นเพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง ผมอยากพาคุณไปศึกษากับคำว่า forex broker ไปพร้อมกันครับ ว่าคืออะไร และมีประโยชน์ มีความเกี่ยวข้องกับเราอย่างไรบ้าง

Forex broker คืออะไร
forex broker คือ ตัวกลางเชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างนักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อย กับตลาดฟอเร็กซ์ เรียกง่ายๆว่า “นายหน้า” นั่นเอง ซึ่งเขาจะได้รายได้จากการที่เราทำรายการ ยิ่งเราเทรดบ่อยๆ พวก Forex Broker พวกนี้เค้าก็จะยิ่งชอบ เพราะไม่ว่าคุณจะเทรดได้กำไรหรือขาดทุน โบรกเกอร์ก็เก็บเงินเข้ากระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่คุณเปิดรายการซื้อขาย



“นักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อยไม่สามารถเทรดโดยตรงกับ Forex Markets ได้ จำต้องผ่านฟอเร็กซ์โบรกเกอร์” นั่นคือคุณจะสามารถเทรด forex ได้ ก็ต่อเมื่อเลือกสมัครสมาชิกกับบรรดา forex broker ทั้งหลายที่มีกันอยู่มากมาย เช่นที่ exness.com, fbs.com หรือ xm.com เป็นต้น ซึ่งตัวแทนก็มีตั้งแต่ที่มีความมั่นคงสูงไปจนกระทั่งตัวแทนห้องแถวครับ

ข้อดีของการมี forex broker
ข้อดีประการสำคัญของการมี forex broker คือ คุณต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า ตลาดการเทรด forex นั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไป ทั้งผมและคุณเข้าไปทำการเทรดได้ยกเว้นเสียแต่ธนาคาร ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ระบบ forex broker จึงเข้ามาทำหน้าที่แทนเราและทำให้เราได้โอกาสในการเข้าไปเทรดเช่นเดียวกับทางธนาคารนั่นเอง

ทุกโบรกเกอร์ก็ยังมีบริการเสริมที่เรียกว่า Forex Leverage ผมเรียกว่า บริการเทรดเกินตัว หรือยืมเงินมาเทรดก่อน โดยมีค่าเป็น 10:1 to 100:1 หรือมากกว่านี้ก็มี ยกตัวอย่างเช่น คุณเทรดกับฟอเร็กซ์โบรกเกอร์แห่งหนึ่ง ตัดสินใจใช้ค่า Leverage เป็น 10:1 หมายความว่า เมื่อคุณเปิด Order คุณจะใช้เงินตัวเองในบัญชี 1 ส่วน โบรกเกอร์ออกให้คุณ 9 ส่วน หรือ ถ้าคุณมีบัญชีกับ Forex Broker มูลค่า 1,000 US Dollars คุณจะสามารถเทรดได้ราวกับว่าคุณมีเงินในบัญชี 10,000 US Dollars เพราะพี่โบรกเกอร์ให้ยืมมาเทรดก่อน

Forex Leverage มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เปรียบเสมือนดาบสองคม เอาไว้จะลงรายละเอียดลึกๆเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้อีกครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ระบบเทรดที่ดีถ้าปรับเจ้าตัวนี้ไม่เหมาะสมก็จะกลายเป็นระบบที่ไม่ดีไปทันที

82
มาพบกันคำศัพท์ในวงการ Forex กันครับ วันนี้ขอเสนอคำว่า Forex Analytics คืออะไร ใช้อย่างไร

สรุปหลักการ Forex Analytics

        เทคนิคการเลือก Forex Analytics จากต่างประเทศ

        1.เลือกหา Forex Analytics จากโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง เช่น Exness หรือ FBS เป็นต้น

        2.สมัครสมาชิกเว็บไซต์ forexfactory.com เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

        3.เลือก Forex Analytics สัก 2-3 บทวิเคราะห์ในคู่เงินหลัก มาประกอบการสร้างกลยุทธ์เทรด

        4.ควรทำในวันหยุด เสาร์ –อาทิตย์

        เทคนิคการทำ Forex Analytics ด้วยตนเอง

        1.ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด (Indicator) ของตนเองให้ชัดเจน

        2.เขียนบทความ Forex Analytics ในแบบที่เป็นตัวเอง อย่างน้อยสัก 500 คำไทย

        3.คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้อ่านคนอื่นๆ สามารถประยุกต์หลักการได้

        4.อย่าลืมนำบทวิเคราะห์ข่าวเข้ามาประกอบการเขียนด้วยเสมอๆ

ดังนั้นหากคุณได้ยินคำว่า Forex Analytics ขอให้ทราบว่า มีความหมายตามที่ผมได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นนี้ และที่สำคัญ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการเป็น  forex trader มืออาชีพแล้ว คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ Forex Analytics ได้เลยครับ

Forex Analytics คืออะไร

คำศัพท์คำต่อไปที่คุณต้องรู้เมื่อเทรด forex คือ Forex Analytics คืออะไร ซึ่งผู้ที่เป็นนักเทรด forex มืออาชีพนั้นต่างต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน และที่สำคัญ คำว่า Forex Analytics มีความจำเป็นมากเพราะสามารถช่วยให้เราปลอดภัยจากการเทรด forex ได้และช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นมาศึกษาคำคำนี้ไปพร้อมๆกันครับ

Forex Analytics คืออะไร

คำว่า Forex Analytics คือ การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆของคู่เงินหลัก หรือคู่เงินรอง โดยเน้นไปที่การทำนายผลที่เกิดขึ้นในอนาคตของคู่เงินนั้นๆ ว่าจะมีทิศทางไปในทิศทางใด เช่นเป็นทิศทางขาขึ้น หรือขาลง หรือว่ามีลักษณะของการเคลื่อนที่ไปแบบด้านข้าง (Side way) นอกจากนี้ยังมีความหมายรวมถึงโปรแกรม Software Forex Analytics ที่เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย บ้างก็อาจนิยามรวมไปถึงตัว EA ว่าเป็น Forex Analytics อีกด้วย

วิธีการหาข้อมูล Forex Analytics

ลำดับในการหาข้อมูลของ Forex Analytics นั้น สามารถหาได้จากการอ่าน ในส่วนของเนื้อหาที่อยู่ภายในเว็บไซต์ที่ให้บริการด้านข้อมูลของการเทรด forex เป็นสำคัญ หรืออาจอยู่ในรูปของการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเองด้วย โดยปกติแล้วโบรกเกอร์ที่ให้บริการข้อมูลในการเทรด forex มักจะมี Forex Analytics คอยให้บริการแก่ผู้ที่เป็นสมาชิก หรือนักเทรดเดอร์กันอยู่แล้ว

คุณสามารถสร้าง Forex Analytics

นอกเหนือจากการอ่านข้อมูล Forex Analytics จากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อนำมาประกอบในการตัดสินใจเทรด forex ในคู่เงินต่างๆแล้ว คุณยังสามารถเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูล Forex Analytics ได้ด้วยตนเองอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะเลือกใช้ตัวชี้วัด (Indicator) ที่เราใช้ในการเทรด มาทำนายทิศทางของการทำกำไร หรือเทรนในอนาคตไปในตัวด้วย

83
exness-free ขอนำเสนอเรื่อง forex Fakey pattern คืออะไร ใช้อย่างไร

วิธีการเทรดรูปแบบนี้

            เช่นเดียวกับการเทรดรูปแบบของ Price action ในรูปแบบอื่นๆ คือการเข้าเทรดในจุดที่โอกาสการชนะของเรามากที่สุด อาศัยแนวรับ แนวต้าน , แนวโน้ม , และอื่นๆ เข้ามาช่วยหาจังหวะเทรดที่เหมาะสม โดย Fakey signal นี้สามารถเทรดได้ทุกสภาพตลอด ทั้ง Trending market และ Range bound market ยกเว้นช่วงที่ตลาดเป็นลักษณะแกว่งตัว Sideway สั้น ๆ (Choppy market) แค่นั้น เพราะช่วงนั้นจะไม่มีระยะทางให้รูปแบบนี้เข้าไปเทรดได้

 

          เราจะใช้แนวรับ แนวต้าน ในการช่วยการเทรดรูปแบบนี้ เพื่อให้เกิดโอกาสการชนะมากที่สุด โดยจะเป็นช่วงที่ราคาฟอร์มตัวรูปแบบนี้ พร้อมกับชนแนวรับ แนวต้านสำคัญๆ เดี๋ยวมาดูตัวอย่างกัน

 
จากกราฟด้านบน จะเห็นว่าก่อนหน้าราคาได้ลงมาสร้าง Low 2 รอบก่อนหน้า ก่อนเกิดรูปแบบ Fakey ซึ่งทำให้บริเวณนี้เป็นบริเวณแนวรับสำคัญ และในการลงทดสอบบริเวณแนวรับนี้ครั้งที่ 3 ราคาได้เกิดรูปแบบ Fakey และสุดท้ายก็กลับตัวแล้ววิ่งขึ้นต่อตามแนวโน้มหลัก

 
ตัวอย่างถัดมา เช่นเดียวกัน แต่เกิดในช่วงที่ราคาชนแนวต้านสำคัญ เกิดรูปแบบ Fakey ที่บริเวณดังกล่าว แล้วสุดท้ายก็อ่อนตัวลงในที่สุด

ลองเอาไปเป็นไอเดียในการเทรดกันดูนะครับ ถ้าเทรดเดอร์ท่านไหนสนใจเรื่อง Price action อยู่แล้ว เชื่อว่าเทรดเดอร์หลายคนจะเก็บรูปแบบนี้เอาไว้เป็น Set up ในการเทรดของตัวเอง เพื่อไว้สร้างกำไรในตลาด Forex ด้วยกันนะครับ

 Fakey pattern คืออะไร
 

เป็นรูปแบบในช่วง Flase-breakout ของ Inside bar คือการเกิดในช่วงที่ราคาได้เลือกทางในของรูปแบบ Inside bar แล้ววกกลับมาในอีกทางหนึ่ง

 

หลักการเบื้องหลังของ Pattern นี้คือ คนส่วนมากที่ใช้รูปแบบ Inside bar ในการเทรด เนื่องด้วยความนิยม ความดังของรูปแบบนี้ ทำให้พวกรายใหญ่ต่างๆ มักสวนรูปแบบนี้ คือจะดันราคาให้เลือกทาง ให้รายย่อยเกิดสัญญาณ ซื้อ และตบกลับให้หลุด Stop loss เพื่อเขย่ารายย่อยออกไป

 

หน้าตาของ Bearish fakey pattern และ Bullish fakey pattern



Fakey with pin bar pattern

 

84
มาพบกันคำศัพท์ในวงการ Forex กันครับ วันนี้ขอเสนอคำว่า forex Expert Advisors (EA) คืออะไร ใช้อย่างไร

Expert Advisors (EA) กับการหารายได้เสริมของเรา
จริงๆแล้ว ถ้าคุณนั้นมีแผนการเทรดที่ดีและสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง มีการเทรดแบบเป็นระบบอยู่แล้ว คุณสามารถเขียน Expert Advisors (EA) ออกมาได้และก็ขายมัน คิดดูสิถ้าคุณขาย EA ของคุณอันละ 10,000 บาทและมีคนซื้อสัก 100 คนจะเกิดอะไรขึ้น!!!



ข้อเตือนใจสำหรับการใช้ EA
ที่ผ่านมาผมอาจจะนำเสนอแต่ข้อดีของ EA นะครับ เรามาฟังจุดด้อยบ้างดีกว่า

ปัจจุบันยังไม่มีใครพัฒนา EA ที่กำไรมากมายโดยไม่ล้างพอร์ตได้สำเร็จ(หรืออาจสำเร็จแล้วแต่ไม่เผยแพร่ ^_^ ) ไม่ใช่เป็นเรื่องของการหวงอย่างเดียว แต่เพราะมันจะไปทำลายระบบตลาด ซึ่งถ้าทุกคนมี EA อัจฉริยะดังกล่าวกันมากๆ EA ตัวนั้นมันก็จะไม่อัจฉริยะอีกต่อไปครับ
EA แต่ละตัว มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน มีความแม่นยำแตกต่างกัน ควรทดลองด้วยเงินปลอมก่อน เพื่อดูว่า EA ตัวนั้นๆ มีความสามารถน่าพอใจหรือไม่ และขอให้ตระหนักว่า เรายังไม่มีเครื่องมือตัวไหนได้ผลเต็ม 100% และการวางใจให้ EA เล่นให้โดยไม่เหลียวแล อาจทำให้คุณล้างพอร์ตได้เช่นเดียวกับเทรดเองครับ
การใช้ EA เล่นอาจทำให้คุณได้เงิน แต่จะไม่ทำให้คุณเก่งขึ้น หากอยากเก่ง ให้เล่นและทดลองเทคนิคต่างๆด้วยตัวเองจะดีที่สุด ผมจึงเลือกใช้ EA ในช่วงที่ล้า หรือกดดันจากการเทรดมือ หรือช่วงเวลาที่ไม่มีเวลาเทรด เช่น ช่วงตระเวนไปเที่ยว โดยตั้งค่าให้ได้กำไรน้อยหน่อย แต่ปลอดภัยมากหน่อยครับ
EA นั้น ส่วนใหญ่ถ้าโดนข่าวแรงๆ ก็โดนล้างพอร์ตตามๆ กันได้ จึงควรเปิดเป็นช่วงเวลาหรือเปิดคู่เงินที่กราฟวิ่งไม่แรงมากนัก บางครั้ง EA ที่ออกใหม่ๆ แรกๆ ก็สามารถทำเงินได้สักพัก จากนั้นก็โดนล้างพอร์ตได้เหมือนกัน เราจะต้องทำการทดสอบ EA เป็นปีๆ กันเลยที่เดียว ซึ่งสามารถเข้าไปดู EA ที่ฝรั่งทำการทดสอบ EA แต่ละตัว รวมทั้งรีวิวเอาไว้ได้ที่ www.forexpeacearmy.com ได้ครับ
การโหลด EA นั้นควรโหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพราะ EA อาจจะทำให้เครื่องเราเสียหายได้ หรืออาจจะฝังตัวมาในรูปแบบของ Trojan มาดักจับ password หรือลักข้อมูลเราก็เป็นไปได้

Expert Advisors (EA) คืออะไร
คำศัพท์ที่น่าสนใจอย่างมากคำต่อมา คือคำว่า Expert Advisors (EA) ซึ่งถือว่ามีส่วนช่วยอย่างมากในการเทรด forex ของเรา ทำให้เราสามารถทำกำไรได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญคือไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอให้เสียเวลากันอีกด้วย ทีนี้คุณคงอยากรู้แล้วว่าเจ้า Expert Advisors (EA) มันคืออะไรกันแน่ บทความนี้มีคำตอบครับ

Expert Advisors (EA) คืออะไร
Expert Advisors (EA) หรือที่บางคนเรียกว่า “Bot” คือโปรแกรมช่วยการเทรดอัตโนมัติ ที่เราสามารถติดตั้งลงไปบน MT4 หรือว่า MT5 ซึ่งเปรียบเสมือนว่าเป็นตัวของเราที่ทำการเทรดเอง แต่จริงๆแล้วเป็นการใช้เครื่องมือในการเทรดต่างหาก ถือว่า Expert Advisors (EA) เป็นตัวช่วยที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีเวลาในการเทรด forex ค่อนข้างน้อย

EA แบ่งออกไปหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งแล้วแต่การนำไปใช้งาน อีเอบางชนิดก็ใช้ในการเทรดค่าเงินได้ทุกสกุลเงิน, อีเอบางตัวก็เทรดได้เฉพาะเจาะจงเพียงแค่คู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง หรือมีแม้แต่อีเอที่ใช้สำหรับเทรดเฉพาะช่วงข่าว เป็นต้น

EA คือการให้ระบบหรือสคริปต์ ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้ตามหลักทฤษฎีการเทรดให้ซื้อขายแทนเรา โดยที่บางคนต้องไปทำงานประจำ ไม่มีเวลานั่งเฝ้าหน้าจอ หรือแม้แต่ไปเที่ยวพักผ่อนก็ใช้ EA ช่วยทำงานแทนให้ได้ โดยมากแล้วสามารถช่วยทำกำไรได้(ถ้า EA ดีพอ) แต่ก็ไม่ร้อนแรงมากนักเท่าเทรดด้วยตัวเอง และแน่นอน EA ก็ล้างพอร์ตได้นะครับ…



ความสามารถโดยรวมของ EA
สั่งคำสั่ง Long หรือ Short ออกไปยังโบรกเกอร์ หรือแม้แต่อีเอบางตัวยังสามารถจัดการเรื่องระบบการเงิน คิดอัตราส่วนการลงทุนให้อัตโนมัติ
กำหนดเวลาเปิด-ปิดการทำงาน ช่วงเวลาในการทำงาน
กำหนดการทำงานกับคู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง หรือหลายคู่ได้
ใช้กราฟที่ Time Frame ใดก็ได้
ตั้งค่าจำนวน Lot ล่วงหน้าได้ทั้งแบบกำหนดตายตัว หรือปรับเปลี่ยนได้เองตามความเหมาะสม
เปิด-ปิด Order ให้เอง หรือเลื่อนจุด Stop loss ได้เอง และยังสั่งซื้อล่วงหน้าได้เองอีกด้วย เมื่อเข้ากันกับเงื่อนได้ที่ได้กำหนดเอาไว้
อื่นๆ ตามแต่โปรแกรมเมอร์จะพัฒนา
ประโยชน์ของการเลือกใช้ Expert Advisors (EA)
1.ช่วยให้คุณไม่ต้องเทรดเอง

ถ้าคุณชอบรถยนต์อัตโนมัติ หรืออะไรก็ตามที่มันมีลักษณะของความเป็นอัตโนมัติแล้ว ผมเชื่อว่า Expert Advisors (EA) คือสิ่งที่คุณชอบอย่างแน่นอน คุณไม่ต้องเทรดเอง ไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอให้เสียเวลา จริงๆแล้วคุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะโปรแกรม Expert Advisors (EA) จะทำหน้าที่แทนคุณทั้งหมด

2.ลดปัญหาเรื่องของความเครียด

เมื่อคุณตั้ง Expert Advisors (EA) ไว้เรียบร้อยพร้อมแผนการในการเทรด forex ที่สุดเยี่ยมแล้ว ที่เหลือของคุณไม่มีอะไรมากไปกว่าการออกไปเดินเล่น หรือว่าไปช้อปปิ้ง แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ มันง่ายเสียยิ่งกว่าที่คุณนั้นนึกถึงเสียอีก ดังนั้นหมดความเครียดได้ทันทีที่ใช้ Expert Advisors (EA) ครับ

3.Passive Income อย่างแท้จริง

ประโยชน์อีกข้อหนึ่งที่ผมเห็น และคิดว่าหลายๆคนนั้นก็อาจต้องการมันเช่นเดียวกัน นั่นคือการใช้ Expert Advisors (EA) ช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้ในรูปแบบที่เรียกว่า Passive Income (รายได้ต่อเนื่องที่ถึงแม้เราหยุดทำงาน แต่ก็ยังมีรายได้เข้ามาตลอด)ได้อย่างแท้จริง เพราะว่าคุณนั้นไม่ต้องทำอะไรเลย และเพียงแต่นั่งอยู่เฉยๆ รอระบบทำงานไปเท่านั้นคุณก็สามารถรับเงินได้อย่างต่อเนื่องแล้ว




เราจะใช้ Expert Advisors (EA) ได้อย่างไร
การใช้งาน EA นั้นเราต้องนำ EA ที่ได้เข้าสู่ Program MT4 ก่อน(ซึ่งวิธีการติดตั้งก็มักจะมีการแนะนำจากแหล่งที่ปล่อย EA อยู่แล้ว หลังจากนั้นคุณควรทำการ Back Test เพื่อทดสอบการทำงานกับเงินปลอมดูก่อน เพราะบางครั้งการเขียนคำสั่งใน EAก็ไม่โดนใจเราเสียทีเดียวนัก และเมื่อได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว จึงค่อยนำมาใช้กับเงินจริงครับ ซึ่งการใช้งาน EA เราจะต้องเปิดเครื่องให้ Run ตลอดเวลา เพื่อที่ EA จะได้ทำงานแทนเรา ซึ่งบางท่านอาจจะใช้ VPS Server Run EA ก็ได้ครับ

การใช้ Expert Advisors (EA) มีให้เราเลือกใช้ทั้งแบบที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (ทดลองใช้) ไปจนกระทั่งถึงแบบที่คุณนั้นต้องจ่ายเงินในราคาสูงลิ่ว ผมเองไม่อยากเชียร์ตัวไหนเป็นพิเศษ เพราะว่า Expert Advisors (EA) มีเยอะมากๆ แต่ผมอยากจะบอกว่า ลองเข้าไปหาดูที่ myfxbook ดูแล้วกันนะครับ น่าจะมีอะไรให้เห็นพอสมควร

ข้อดีของ Expert Advisors หรือ EA



1. ซื้อขายอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง ทำไม่พลาดโอกาสต่างๆที่ควรจะได้รับ

แน่นอนว่ามนุษย์เราต้องมีการพักผ่อน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะมาเฝ้าหน้าจอตลอด 24 ชั่วโมงได้ หรือจะส่งต่อให้คนอื่นมาดูแลมันก็ยังไม่ใช่วิธีที่ดี เพราะความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองคิดดูสิว่าจะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถเขียนความคิดของคุณออกมาเป็นโปรแกรมได้ เสมือนว่ามีตัวคุณอีกคนกำลังนั่งเฝ้าหน้าจอคอยรอเทรดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ลุกไปไหน



2. ตัดปัญหาการไม่ทำตามระบบที่เป็นสาเหตุให้คุณต้องล้างพอร์ต เช่น Overtrade ไม่กล้าปิดออร์เดอร์ถ้ายังขาดทุนอยู่ เป็นต้น

ธรรมชาติของมนุษย์แล้วมักจะมีอารมณ์อยากได้เงินส่วนที่คืนจากส่วนที่ขาดทุนไป จึงทำให้อาจจะทำให้ขาดระเบียบวินัียในการเทรด แต่ถ้าใช้ EA ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ EA จะทำตามเงื่อนไขเท่านั้น ไม่มีอารมณ์มาร่วมด้วย ถ้าทำตรงเงื่อนไขก็จะซื็อขาย ถ้าไม่ตรงแม้แต่นิดเดียวก็จะไม่ซื้อขายเลย



EA มีข้อดีอื่นๆ อีกมากมายที่ผมไม่ได้กล่าวไปเพราะมีข้อดีเยอะมากๆ





ข้อเสียของ Expert Advisors หรือ EA



1. ไม่มีความยืดหยุ่นในการซื้อขาย อันนี้เป็นเหมือนดาบสองคม จัดว่าเป็นข้อดีก็ได้หรือข้อเสียก็ได้



2. ถ้าเงื่อนไขในการเทรดหรือระบบที่เราเขียนไปใน EA ไม่ดีจริงก็ขาดทุนแน่นอน



3. EA ที่ทำกำไรได้จริง หายากมาก



เห็นได้ว่า EA ในปัจจุบันนี้มีทั้งแบบแจกให้ใช้ฟรี และขายราคาก็ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนหรือหลักล้านเลยก็มี แต่นั้นไม่ได้การันตีว่า EA ตัวนั้นจะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน



ข้อเสียของ EA มีไม่มากนัก แต่ถ้ามีข้อเสียแม้แต่นิดเดียวก็ทำให้คุณล้างพอร์ตได้ไม่ยากเลย ถึงแม้ข้อเสียจะมีน้อยแต่ถ้ามีข้อเสียอยู่มันก็ไปไม่รอด

แนะนำสำหรับคนที่อยากเทรด Forex ด้วย EA

ถ้าคุณอยากเทรด Forex ด้วย EA ผมอยากแนะนำให้คุณเขียนเองดีกว่า หรือถ้าคุณเจอ EA ที่ซื้อมาไม่ก็โหลดฟรีแล้วนำมาปรับแต่งแก้ไขเพื่อให้เหมาะสมกับตัวคุณเองมากที่สุดวิธีนี้ก็ดีไม่น้อย แต่จะหา EA ตามแบบที่เราคิดนั้นยากมากๆ



ดังนั้นวิธีที่ผมอยากแนะนำ คือ เขียนระบบ EA จากระบบเทรดมือของคุณเองที่ได้กำไรมาแล้วอย่างยั่งยืน แล้วนำมาเขียน EA ถึงแม้คุณจะเขียนโปรแกรมไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คุณต้องเขียนเงื่อนไขการซื้อขายให้ชัดเจน ว่าจะขายเมื่อไหร่ จะซื้อเมื่อไหร่ เขียนมันออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้ แล้วค่อยจ้างโปรแกรมเมอร์เก่งๆ มาช่วยเขียน เพราะภาษาที่ใช้เขียน EA ไม่ถือว่ายากเท่าไหร่ในวงการโปรแกรม ผมเชื่อว่าโปรแกรมเมอร์เก่งๆ เขียนตามที่คุณบอกได้แน่นอน แต่คุณต้องเขียนให้ชัดเจนว่าซื้อขายจากอะไร

Expert Advisors หรือ EA คืออะไร

สวัสดีครับหลังจากห่างหายกันไปนาน วันนี้ผมมีความรู้เกี่ยวกับ EA มากฝากทุกๆคน ความร้อนแรงของกระแส EA ในทุกวันนี้เรียกได้ว่าร้อนแรงมากจนหยุดไม่อยู่ ตอนแรกผมตั้งใจว่ายังจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ก็อดใจไม่ได้



Expert Advisors หรือ EA เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นยุคของเขาเลยก็ว่าได้ ในกลุ่มเทรดเดอร์ Forex แทบไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จัก EA หรือแม้แต่กลุ่มคนทำเว็บไซต์หรือโปรแกรมเมอร์ยังมีการพูดถึงการเขียน EA อีกด้วย แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า EA คืออะไร วันนี้ผมจะพามาทำความรู้จัก EA กันนะครับ เริ่มตั้งแต่ความหมายของ EA ก่อนเลย



Expert Advisors หรือ EA คือโปรแกรมช่วยเทรดอัตโนมัติ ซึ่งในวงการ Forex อาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน บางคนก็เรียก "อีเอ" บางคนก็เรียก "บอท" หรือ "โรบอท" แต่ไม่ค่อยจะมีใครเรียกชื่อเต็มสักเท่าไหร่



Expert Advisors หรือ EA ทำงานอย่างไร

EA คือ ชุดโปรแกรมหนึ่งชุด ที่เรารันไว้ในโปรแกรม MT4 หรือ MT5 จะมีการซื้อขายอัตโนมัติก็ต่อเมื่อ "ราคาเป็นไปตามเงื่อนไขของตัวโปรแกรมที่เราเขียนขึ้นมา" เรียกได้ว่าจะทำหน้าที่ซื้อขายเองตลอด 24 ชั่วโมงที่ตลาดเปิดทำการ หรือถ้าเปรียบเทียบกับคนแล้ว EA คือ คนที่เทรดแทนเรา โดยทำตามที่เราสั่งทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีบ่น ไม่มีเมื่อย ไม่มีหิว ไม่มีง่วง ไม่ลุกไปไหน สายตาจะจ้องไปที่คอมพิวเตอร์โดยไม่มองไปที่อื่นเลยแม้แต่วินาทีเดียว

85
มาลุยกันต่อกับอีกหนึ่งความรู้ที่จำเป็นสำหรับนักเทรดมืออาชีพกันครับ forex Expansion pivots คืออะไร ใช้อย่างไร


เงื่อนไขการเทรด

สำหรับฝั่งซื้อ (Long)

Explosion day – แท่งเทียนวันนี้ต้องเป็นแท่งเทียนที่มีความกว้าง (High-low) สูงสุดในรอบ 9 วัน
แท่งเทียนเมื่อวานนี้ หรือ วันนี้ เคลื่อนไหวต่ำกว่าหรือที่ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน
ซื้อ (เปิด Long) เมื่อแท่งเทียนถัดมาทะลุ High ของแท่งก่อนหน้า (Explosion day High)
วาง Stop ที่ใต้ราคาปิดของแท่งที่มีความกว้างสูงสุดในรอบ 9 วัน (Explosion day Close)
 

USD/CAD

ราคาขึ้นมาเทรดเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และเป็นแท่งที่กว้างที่สุดในรอบ 9 วัน โดยเข้าเงื่อนไขในการเทรด รอแท่งเทียนถัดมาขึ้นผ่าน High ของแท่งนี้ที่ 1.0397 ค่อยเปิด Long ตาม
ราคาขึ้นผ่าน High ที่ 1.0397 เปิด Long ตาม (ใช้คำสั่ง Buy stop) และวาง Stop loss ที่ 1.0383 (Close ของแท่งที่ 1)
 

สำหรับฝั่งขาย (Short)

Explosion day – แท่งเทียนวันนี้ต้องเป็นแท่งเทียนที่มีความกว้าง (High-low) สูงสุดในรอบ 9 วัน
แท่งเทียนเมื่อวานนี้ หรือ วันนี้ เคลื่อนไหวสูงกว่าหรือที่ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน
ขาย (เปิด Short) เมื่อแท่งเทียนถัดมาลงมาทะลุ Low ของแท่งก่อนหน้า (Explosion day High)
วาง Stop ที่เหนือราคาปิดของแท่งที่มีความกว้างสูงสุดในรอบ 9 วัน (Explosion day Close)
 

USD/JPY

แท่งเทียนลงมาต่ำกว่าระดับ 50 วัน และเป็นแท่งที่ช่วงกว้างของราคาสูงสุดในรอบ 9 วัน ตั้ง Sell stop order ที่ระดับ Low ของแท่งที่ 109.05
ราคาลงมา Match ที่ 109.05 ตั้ง Stop loss ที่ระดับ Close ของแท่งที่ 1 คือ 109.46
 

โดยกลยุทธ์นี้เป็นการเทรดตาม Momentum แต่จะเป็น Short-term momentum คือเก็บจังหวะการระเบิดของราคาแรงๆ แล้วเก็บการเคลื่อนไหวนั้นในช่วงสั้นๆ หลายครั้งที่ราคามักไปต่อ แต่เราไม่ได้จะไปเก็บรอบใหญ่นั้น ในกลยุทธ์นี้จะเก็บเพียงรอบสั้นๆ ซึ่งการเก็บลักษณะนี้โอกาสแพ้ค่อนข้างน้อยกว่าเยอะ

Expansion pivots คืออะไร
เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นลักษณะ Daily range expansion ไว้สังเกตพวกสถาบันว่ากำลังเข้าซื้อหรือขาย โดยกลยุทธ์นี้จะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นแกนหลักในการเทรด ในช่วงที่ราคาใกล้เส้นดังกล่าวมักจะมีการระเบิดของราคาเกิดขึ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และนี้เป็นโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถเข้าไปสร้างกำไรจากช่วงดังกล่าวได้

 

ที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นกำหนดก็เพราะว่า เทรดเดอร์สถาบันหลายสถาบัน และเทรดเดอร์ส่วนมากนั้นมักใช้เส้นนี้ในการเทรด ซึ่งเมื่อราคาเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยนี้ มักมีเหตุการณ์ไม่ว่าจะเข้าซื้อ หรือเทขาย อย่างรุนแรง เมื่อมีผู้ชนะได้เลือกทิศทางว่าจะให้ราคาไปในทางใดทางหนึ่งนั้น เราสามารถเทรดตามฝั่งดังกล่าว

86
มือใหม่นักเทรด เข้ามาดูกันต่อเลยนะครับ เรื่อง forex Expansion breakout TM คืออะไร ใช้อย่างไร

ตัวอย่างฝั่ง Long ของ USD/CAD

แท่งเทียนทะลุขึ้นทำ New High ในรอบ 20 วัน และเป็นแท่งเทียนที่กว้างที่สุดในรอบ 9 วัน
High ของแท่งที่ 1 = 1.3524 ตั้ง Buy stop order เมื่อราคาทะลุ 1.3524 ขึ้นไป โดยเราจะได้Long ที่ราคา 1.3524 และตั้งจุด Stop Loss ที่บริเวณต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนที่ 1 คือ 1.3497
 

ตัวอย่างฝั่ง Short ของ USD/CAD

แท่งเทียนทะลุขึ้นทำ New Low ในรอบ 20 วัน และเป็นแท่งเทียนที่กว้างที่สุดในรอบ 9 วัน
Low ของแท่งที่ 1 = 1.2282 ตั้ง Buy stop order เมื่อราคาทะลุลง 1.2282 ลงไป โดยเราจะได้ Short ที่ราคา 1.2282 และตั้งจุด Stop Loss ที่บริเวณสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนที่ 1 คือ 1.2295
 

โดยสิ่งที่หนุนการเทรด Expansion Breakout นั้นใช้ได้คือ 1. เป็นการเทรดตามแนวโน้ม และ 2. การ Breakout ของแท่งเทียนขนาดใหญ่เป็นการหนุนเทรดเดอร์คนอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะพวกฝั่งสถานบันที่มักเป็นการเทรดแบบ Momentum

Expansion breakout TM คืออะไร
ในบทความนี้จะนำเสนอ Set up ในรูปแบบของสาย Breakout ที่ถูกนำเสนอโดย Jeff Cooper เป็น Set up ที่ใช้เทรดในตลาดหุ้น แต่ก็สามารถมาประยุกต์ใช้ในตลาด Forex เช่นเดียวกัน เนื่องจากหลักการในการเทรดคล้ายกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าการเทรด Breakout รูปแบบนี้เป็นลักษณะ Short-term momentum คือจะเล่นสั้นๆ ไม่ได้ถือรันเทรนแต่อย่างใด

 

        โดยเขาเชื่อว่าการ Breakout ที่ดี ที่สามารถทำกำไรได้ภายใน 1-5 วันนั้น ควรมาจากแท่งที่ Break เป็นแท่งที่ช่วงการแกว่งตัวกว้างที่สุดในรอบ 9 วัน และการไปต่อของราคาที่แข็งแกร่งหลัง Breakout ไม่ควรเห็นการ Pullback ที่เยอะ (ไม่ควรย่อเยอะ)

 

ฝั่ง Long

แท่งเทียนที่ 1 > แท่งเทียนทะลุ High สูงสุดในรอบ 20 วัน
แท่งเทียนที่ 1 > แท่งเทียนนั้นต้องมีขนาดเท่ากับหรือกว้างที่สุดในรอบ 9 วัน
ตั้ง Buy stop เมื่อราคาทะลุขึ้นทำ High ของแท่งที่ 1
ตั้งจุด Stop ที่ใต้ระดับ ราคาปิดของแท่งที่ 1 (1-10 pips แล้วแต่คู่สกุลเงิน หรือแล้วแต่ความเหมาะสมของราคาสินค้าที่เทรด)
 

ฝั่ง Short

แท่งเทียนที่ 1 > แท่งเทียนทะลุ Low ต่ำสุดในรอบ 20 วัน
แท่งเทียนที่ 1 > แท่งเทียนนั้นต้องมีขนาดเท่ากับหรือกว้างที่สุดในรอบ 9 วัน
ตั้ง Sell stop เมื่อราคาทะลุขึ้นทำ Low ของแท่งที่ 1
ตั้งจุด Stop ที่เหนือระดับ ราคาปิดของแท่งที่ 1 (10-50 pips แล้วแต่คู่สกุลเงิน หรือแล้วแต่ความเหมาะสมของราคาสินค้าที่เทรด)

87
วันนี้ทีม Forex admin จะมาแนะนำ forex EUR/USD คืออะไร ใช้อย่างไร

ความหมายของคู่ค้าเงิน EUR/USD คือ เงินสกุลยูโรเทียบกับ ดอลล่าสหรัฐฯ โดยสกุลเงินด้านซ่้ายเรียกว่า Base Currency ส่วนด้านขวาเรียกว่า Quot Currency

ยกตัวอย่างเช่น
– หาก คู่เงิน EUR/USD หรือ E/U มีราคาตลาด 1.2800 ก็หมายความว่า ณ ขณะนั้นตลาดซื้อขายคุณจะต้องใช้เงิน 1.2800 ดอลล่าสหรัฐเพื่อซื้อเงิน 1 ยูโร
– หาก ราคาเปลี่ยนเป็น 1.3200 ก็หมายความว่า ค่าเงินยูโรแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับ ดอลล่าสหรัฐ ตลาดซื้อขาย EUR/USD ที่ 1.3250 ดอลล่าสหรัฐ/ยูโร นั่นเอง
– ในทางตรงกันข้ามหาก ราคาลดลงเหลือ 1.2730 แสดงว่า เงินยูโรอ่อนค่าลง(หรือดอลล่าฯ แข็งค่าขึ้น) จนตลาดซื้อขายเพียง 1.2730 ดอลล่าสหรัฐ/ ยูโร

ดังนั้นหากเวลาดูกราฟ อย่าได้สับสนไป เช่น หาก ดูกราฟ EUR/USD ให้เราดูเลยครับว่า หากค่าเงินไหนเป็นค่าเงินแรกค่าเงินนั้นแข็งกราฟจะขึ้น แต่ถ้าค่าเงินนั้นอ่อนกราฟจะลง ตัวอย่างเช่น ถ้า USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ EUR กราฟจะไปในทิศทางขึ้น ลักษณะกราฟขึ้นนั้นมีได้ 3 กรณีคือ 1. EUR แข็งค่า 2. USD อ่อนค่า 3. EURแข็งค่าในขณะเดียวกัน USD ก็อ่อนค่าลง แต่ตรงกันข้ามลักษณะกราฟลงนั้นมีได้ 3 กรณีเช่นกันคือ 1. EUR อ่อนค่า 2. USD แข็งค่า 3. EURอ่อนค่าในขณะเดียวกัน USD ก็แข็งค่าขึ้น ไม่ว่าลักษณะใหน ในกรณีที่ 3 จะมีการวิ่งที่แรงมากกว่ากรณีที่ 1 และ 2

ทำความเข้าใจในความหมาย EUR/USD
หลักการในการลงทุน Forex ต้องทำความเข้าใจในการเลือกคู่เงิน เพื่อใช้ในการลงทุน ทั้งนี้มีตัวอย่างคู่เงินที่น่าสนใจอย่างคู่เงิน EUR/USD ซึ่งเป็นคู่เงินสกุลยูโร เปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลล่าสหรัฐฯ ที่ใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์การแข็งตัวของค่าเงินเพื่อเกร็งกำไร

วิธีการอ่านกราฟ
เวลาอ่านกราฟจากคู่เงิน EUR/USD ที่หลายๆ คนมักจะสับสนว่าควรอ่านอย่างไร เพื่อให้ท่านทำความเข้าใจกับคู่เงิน EUR/USD มากยิ่งขึ้น มีความจำเป็นในการสร้างความชำนาญในการอ่านกราฟ ให้เราดูว่าค่าเงินไหนเป็นค่าเงินแรก เมื่อค่าเงินนั้นแข็งตัว กราฟจะขึ้น นอกจากนี้ยังมีกรณี EUR แข็งค่า ในขณะเดียวกัน USD อ่อนค่าก็จะทำให้กราฟขึ้น



กำไรเกิดขึ้นได้อย่างไร
ว่าด้วยเรื่องของกำไรจากคู่เงิน EUR/USD เกิดขึ้นได้จาก ส่วนต่างในการซื้อขายสกุลเงิน ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายเหตุการณ์ อย่างกรณี EUR แข็งค่า ในขณะเดียวกัน USD อ่อนค่า หากเราซื้อเกร็งกำไร เมื่อกราฟขึ้น แล้วมีการขาย ส่วนต่างที่ได้จากการซื้อขายนี้ ก็จะเป็นกำไรให้กับเรา

อย่าลืมวัตถุประสงค์ของการเทรด
สิ่งสำคัญของการเทรด คือ เพื่อการลงทุนอย่างมั่นคง และปลอดภัย หากเกิดความผิดพลาดในการเทรดเยอะๆ ให้ลดปริมาณการซื้อขาย หรือ การเทรดลดลง แล้วศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะในบางครั้งคนเราก็หลงไปกับความโลภ

สุดท้ายผู้เขียนขอฝากให้ท่านทำความเข้าใจกับคู่เงิน EUR/USD ไม่ว่าจะกรณี EUR แข็งค่า ในขณะเดียวกัน USD อ่อนค่า หรือกรณีใดๆ ก็ตาม ให้เข้าใจอย่างแท้จริง และเล่นเพื่อการลงทุน ใช้ความคิด วิเคราะห์ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ในการตัดสินซื้อขาย เพราะจะทำให้กลายเป็นการพนันแทน และเกิดความเสียหายในการลงทุนได้นะครับ

EUR/USD คืออะไร
คือ “คู่เงินหลัก โดยเป็นการเปรียบ   เทียบระหว่างเงินสกุลยูโร เปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลล่าสหรัฐฯ “

ถ้าหากเรามีจุดมุ่งหมายในการลงทุน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน และรายได้ของเราเอง ซึ่ง Forex ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุน แต่ในการลงทุนนี้ ต้องทำความเข้าใจเรื่องของคู่ค่าเงินอย่าง EUR/USD ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่จะทำให้คุณเข้าใจเรื่องการเลือกคู่เงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเริ่มลงทุนในกลุ่ม Forex ที่มีหลักการง่ายๆ ที่คุณควรรู้ดังต่อไปนี้

ทำความเข้าใจหลักการลงทุน
ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะทำการเริ่มลงทุนใน Forex ควรลองเล่นในส่วนของ Demo ก่อน เพื่อให้ทำความเข้าใจหลักการและวิธีการลงทุนได้ดี ซึ่งเป็นหลักการง่ายๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะลงทุนอะไร เราควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มลงทุน และเริ่มเล่นจากเงินมูลค่าน้อยๆ ก่อน จนเมื่อท่านมีความชำนาญในตลาดลงทุนนี้แล้ว ค่อยเพิ่มพอร์ตการลงทุน


88
วันนี้ exness-free ขอนำเสนอเรื่อง forex Equity คืออะไร ใช้อย่างไร

Equity จะแสดงเงินที่เรามีอยู่ในบัญชีเทรดรวมกับกำไรขาดทุนของ Order ที่กำลังเปิดอยู่ เช่น เรามีเงินในบัญชีเทรด 100$ (Balance) แต่ Equity มี 105$ นั้นหมายความว่าเรามีเงินจริงๆ 105$ ถ้าเราปิด Order ตอนนี้จะทำให้เงินใน Balance มีค่าเท่ากับ 105$

สูตรการคำนวณ Equity =Balance+จำนวนเงินรวมใน Order ทั้งบวกและลบ

เช่น  100$+(1$+3$+2$-3$)=103$ เป็นต้น

จากรูปด้านบนถ้าผมปิด Order ตอนนี้เงินใน Balance จะมีค่าเท่ากับ 299.14$  กำไร 0.17$

ข้อควรระวังเรื่องของ Equity
สำหรับข้อควรระวังในเรื่องของค่า Equity นั้นไม่มีอะไรมากครับ มีเพียงแต่ว่า ค่า Equity นั้นถ้ามันขาดทุนไปมากๆ มันหมายถึงช่องของ Balance ที่จะเหลืออยู่นั้นของคุณก็จะขาดทุนลงไปมากด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น ค่า Equity จึงเป็นเสมือนสัญญาณอันตรายที่คุณนั้นถ้าไม่สามารถปิดกำไรให้กลับมาเป็นบวกได้แล้ว ที่สุดคุณอาจจะต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก หรืออาจถึงขั้นต้องล้างพอร์ตกันเลยทีเดียวนะครับ ดังนั้นโปรดอย่าไปสับสนระหว่างค่า Equity กับค่าที่เรียกว่า Balance ก็แล้วกัน ให้จำไว้ว่า “Balance คือเงินต้น Equity คือเงินสุดท้าย” ครับ

สรุปแล้วค่า Equity ไม่มีอะไรมากหรือน่าตื่นเต้นไปกว่าค่าของจำนวนเงินที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เรานั้นทำการเปิดสัญญาเทรด forex นั่นเอง โดยค่าตัวนี้นั้นมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เราได้รับ หรือว่าจำนวนเงินที่เราเสียไปในระหว่างสัญญา ซึ่งเมื่อเราทำการปิดสัญญาเมื่อไหร่ เราก็จะได้เงินคืนมาคือค่า Balance ครับ

Equity คืออะไร
คำศัพท์คำต่อไปสำหรับการเทรด forex คือคำว่า Equity สำหรับคำนี้นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับคำศัพท์คำว่า Balance อยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อเป็นคำศัพท์ทาง forex ที่เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมองหาโอกาสในทำความเข้าใจกับคำศัพท์คำนี้กัน ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เรา มาทำความเข้าใจพร้อมๆกันครับว่าคำว่า Equity คืออะไร

Equity คืออะไร
คำว่า Equity มีความหมายว่า ค่าของเงินที่เราเทรดรวมกับผลกำไรหรือขาดทุนกับสัญญาทั้งหมดที่เราทำการเปิดเทรด อาจจะเรียกว่า Available Margin ก็ได้ เงินส่วนนี้นั้น ไม่เป็นเงินที่แท้จริง จนกว่าเรานั้นจะเลือกปิดสัญญา มีสูตรคือ

Equity = Balance + จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก – จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ

ตัวอย่างของ Equity
เพื่อประกอบความเข้าใจมากขึ้น ผมขออนุญาตในการยกตัวอย่างประกอบดังต่อไปนี้นะครับ เช่น เรามียอดเงินอยู่ในบัญชีที่ 1000 บาท เมื่อเราเปิดสัญญาเทรด forex เราที่ 100 บาท ได้กำไร 10 บาท ผลในช่องของ Equity จะกลายเป็น 1010 บาท แบบนี้เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราปิดสัญญา ค่าของ Equity ก็จะกลับกลายมาเป็น 0 นั่นเอง

Equity คืออะไร

คำใกล้เคียงที่ควรรู้ควบคู่ไปด้วย
Balance คือยอดเงินที่เราฝากเข้าไปในบัญชีรวมกัน Bonus ที่เรามี (ไม่รวมกำไรหรือขาดทุน) โดยปกติค่า Balance มักนิยมออกมาเป็นค่า เงินบาท หรือว่าเป็นค่า US ดอลล่าร์ เช่น ฝากเงินไป 200 $ Balance จะ = 200 $ ครับ
Margin คือจำนวนเงินที่เราใช้ลงทุนทั้งหมด(ทางคำศัพท์เรียกว่า “เงินประกัน”) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ Leverage ด้วย มีสูตรคือ
Margin = ราคา ณ เวลาที่เปิด x Lot x Contract size / Leverage

เช่น เมื่อเปิด EURUSD ที่ 1 lot ตอนราคาอยู่ที่ 1.3413 Leverage 1:500 จะต้องใช้ Margin = 1.3413 x 1 x 100,000 / 500 = 268.26

Free Margin คือ จำนวน Margin ที่เหลือเปิดออเดอร์ได้ มีสูตรคือ
Free Margin = Equity – Margin

Margin Level คือ เปอร์เซ็นต์ที่บอกระดับ Margin ของเราว่าเราเหลือกี่เปอร์เซ็นต์ มีสูตรว่า
Margin Level = Equity / Margin x 100 %



ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีเงื่อนไขไว้อยู่ว่า ถ้า Margin Level เหลือน้อยกว่าค่าใด ออเดอร์จะถูกปิดอัตโนมัติ(Stop Out) ค่านี้เรียกว่า Stop Out Level นั่นหมายความว่าออเดอร์จะมีโอกาสถูกปิดอัตโนมัติเมื่อ

เปิดออเดอร์โดยใส่ lot มากเกินไป ทำให้ Margin Level เหลือน้อย จากสูตร Margin Level = Equity / Margin * 100 ยิ่ง Margin มาก Margin Level ยิ่งน้อย
ขาดทุนมากเกินไปทำให้ Equity เหลือน้อย (ยิ่ง Equity น้อย Margin level ยิ่งน้อย)
Laverage คือจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ได้ยืมเงินมาจากโบคเกอร์ เพื่อให้สามารถเปิด Order ได้มากขึ้น จุดประสงค์ของ Laverage คือต้องการให้นักเทรด หรือ Scalper ได้สนุกในการเทรดแบบสั้นๆ สามารถเปิด order ได้จำนวนมากขึ้นถึงแม้จะมีเงินทุนน้อย
ข้อดีของ Laverage  สูง เช่น 1:1000,  1:2000 คือคุณมีเงินน้อยก็สามารถเปิด Order Lot ใหญ่ๆ ได้ และเป็นผลดีกับการเทรดแบบสั้นๆ

ขอเสียของ Laverage สูง  คือ เงินทุนน้อยแล้วเปิด Lot ใหญ่ๆ ถือว่าอันตรายเป็นอย่างมากสำหรับนักเทรดที่วางแผนเรื่องเงินทุนในพอร์ทลงทุนไม่เก่ง   เนื่องจากอาจล้างพอร์ทได้ในพริบตา



ทำอย่างไรให้ Equity เพิ่มขึ้น
หลักการในการทำให้ค่าของ Equity เพิ่มขึ้นนั้น มีหลักการง่ายๆคือ ถ้าเราสามารถเทรดและทำกำไรจากตลาด forex ได้เพิ่มขึ้น เราก็จะสามารถทำเงินได้มากขึ้นนั่นเองครับ ดังนั้นจำไว้ว่า ยิ่งคุณทำการเปิดสัญญาเทรดออกไปและเทรดกำไรมากเท่าใด ผลที่ตามมาคือ คุณก็จะเพิ่มค่า Equity เข้าไปมากขึ้นเท่านั้นด้วยนั่นเอง

89
บทต่อไปที่ต้องการนำเสนอคือ forex EMA 9 WMA 30 Trading setup คืออะไร ใช้อย่างไร

Long setup

EMA 9 อยู่เหนือ WMA 30
ราคาปิด ต่ำกว่า EMA 9 (หรือถ้าเทรดเดอร์ Conservative หน่อยอาจใช้ทั้งแท่งเทียนต่ำกว่า EMA9)
วาง Buy stop ที่ High ของแท่งเทียนที่ปิดต่ำกว่า EMA9 (คือจะเปิด Long เมื่อราคาดีดตัวเหนือ High ของแท่งเทียนที่ปิดต่ำกว่า EMA9)
 

Short setup

EMA 9 อยู่ต่ำกว่า WMA 30
ราคาปิด สูงกว่า EMA 9 (หรือถ้าเทรดเดอร์ Conservative หน่อยอาจใช้ทั้งแท่งเทียนสูงกว่า EMA9)
วาง Sell stop ที่ Low ของแท่งเทียนที่ปิดสูงกว่า EMA9 (คือจะเปิด Long เมื่อราคาดีดตัวเหนือ High ของแท่งเทียนที่ปิดต่ำกว่า EMA9)
 

ตัวอย่าง

 

Long: USD/AUD สังเกตช่วงที่เส้น EMA9 อยู่เหนือ WMA30 รอจังหวะที่ราคาลงมาปิดต่ำกว่าเส้น EMA9 และตั้ง Buy stop ที่ High ของแท่งดังกล่าว

 

Short: USD/AUD สังเกตช่วงที่เส้น EMA9 อยู่ต่ำกว่า WMA30 รอจังหวะที่ราคาลงมาปิดสูงกว่าเส้น EMA9 และตั้ง Sell stop ที่ Low ของแท่งดังกล่าว

EMA 9 WMA 30 Trading setup คืออะไร
 

9 / 30 trading setup ที่คิดค้นโดย Mike Bruns ผู้ก้อตั้ง TradingNaked ซึ่ง Set up นี้น่าสนใจ จึงอยากจะมานำเสนอให้เพื่อนๆเทรดเดอร์ทราบกับ ไว้เป็นไอเดียในการเทรดต่อไป

Trading rules – 9 / 30 trading setups

Set up นี้ประกอบด้วย เส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้น คือ 1. เส้นค่าเฉลี่ย EMA 9 วัน และ 2. เส้นค่าเฉลี่ย WMA 30 วัน

90
ทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วก็มาหาความรู้กันต่อที่เรื่อง forex Elliott Wave คืออะไร ใช้อย่างไร


ประโยชน์ของการใช้ Elliott Wave

การใช้ Elliott Wave จะสามารถช่วยทำให้เรา มองหาจุดข้าวของสัญญาณได้ หากเรามองกราฟของ Elliott Wave เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมันเป็นคลื่นลูกที่สาม และคุณสามารถเข้าไปอยู่ในช่วงต้นของคลื่นได้ ก็จะสามารถทำกำไรได้สูงมากๆ อาจมากเสียจนกลายเป็นกำไรตลอดทั้งปีของคุณเลยก็ได้

ข้อดีอีกประการหนึ่งของการเลือกใช้ Elliott Wave คือ คุณสามารถรู้จุดที่จะสามารถเทรด ทำกำไรได้ง่ายมากๆ และที่สำคัญคือมันเป็นความชัวร์อย่างแน่นอนที่คุณจะได้เงิน

ปัญหาของ Elliott Wave

ผมอยากจะกล่าวตามความจริงว่า แม้ผู้เขียนจะพอมีความรู้ในเรื่องของ Elliott Wave มากๆ แต่ปรากฏว่าเมื่อเอาเข้าจริงๆแล้ว ก็ยังเป็นอะไรที่ใช้งานยากมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของจังหวะของการใช้คลื่น เพราะบางคนก็ว่า เป็นคลื่นลูกที่สาม บางคน ก็ว่าเป็นคลื่นลูกที่อื่นๆ ทำให้ ไม่รู้ว่าตกลงแล้วจะเชื่อใครดี

แต่หลักการที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ที่เป็นลักษณะของมนุษย์วิเคราะห์จะดีที่สุด ชัวร์ที่สุดและมีความปลอดภัยมากที่สุดครับ การใช้ Elliott Wave สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมืออินดี้ที่น่าสนใจอย่าง Pinbar หรือ CPI V 1.5 เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว ผมค่อนข้างที่จะบอกว่าหากคุณยังไม่ชำนาญในการใช้ Elliott Wave ก็อย่าเพิ่งดันทุรังใช้กันตอนนี้เลยนะครับ เพราะว่ายังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ที่ดีและเจ๋งไม่แพ้กลับเครื่องมือที่ผมกล่าวมาแล้ว ทั้งหมดข้างต้น แต่ถ้าคุณชอบเครื่องมือตัวนี้ ก็สามารถทำได้ครับ

Elliott Wave คืออะไร

ทฤษฏีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด forex และกำลังนำมาใช้ในการเทรดมากขึ้น คือ Elliott Wave ซึ่งหากแปลกันแบบตรงๆตัวคือ “คลื่นของ Elliott “ เพราะว่า คิดค้นโดยมิสเตอร์เนลสัน อีเลียต เราจึงให้เกียรติกับผู้ที่สร้างมันขึ้นมาว่า Elliott Wave นั่นเอง สำหรับ Elliott Wave คืออะไร และเราจะสามารถใช้ประโยชน์อะไรจาก Elliott Wave บ้าง มาวิเคราะห์กันครับ

Elliott Wave คืออะไร

Elliott Wave คือ พฤติกรรมของกราฟที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่น (คือกราฟมีลักษณะของการขึ้น ลง ขึ้น ลง) ซึ่งพฤติกรรมการขึ้นลงดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมของคนที่เล่นหุ้น หรือเทรด forex นั่นเอง ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมซ้ำๆ หลายๆครั้ง จนสามารถนำมาคำนวณเป็นสูตรของ Elliott Wave ได้

โดยปกติแล้ว คลื่น Elliott Wave จะประกอบไปด้วย 5 คลื่นใหญ่ๆดังต่อไปนี้ คือคลื่นขาขึ้นจำนวน 5 ลูก และคลื่นขาลงอีก 3 ลูก และคลื่นที่มีความสำคัญมากที่สุดของการเทรดคือคลื่นลูกที่ 3 ครับ (นึกถึงคำว่า อัศวินคลื่นลูกที่สามของใครสักคน)



ทฤษฎี Elliott Wave สร้างขึ้นโดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งเขาได้พัฒนามาจากทฤษฎีดาว Down Theory โดยเนื้อหาบทสรุปของทฤษฎีนี้คือ Pattern ของราคาหุ้น , Forex มันจะมีพฤติกรรมเป็นลักษณะลูกคลื่นซึ่งสามารถแจงรายละเอียดในหลักการได้ดังนี้
1. ถ้ามีแรงกระทำย่อมีแรงโต้ตอบ ซึ่งอนุนามในการเล่น forex คือ เมื่อ ราคา forex มีขึ้น มันก็ต้องมีลงและเมื่อมันถึงจุดนึงแล้ว มันก็พร้อมจะขึ้นในรอบต่อไป ซึ่งภาษาที่นักวิเคราะห์หุ้นทั้งหลายเขาเรียกว่า ราคารีบาวน์ (Rebound) และราคาปรับฐาน(Retrace)
2. Elliott Wave ประกอบด้วยลูกคลื่นในขาขึ้น 5 ลูก (1-2-3-4-5) และลูกคลื่นขาลง 3 ลูก (a-b-c) ในขาขึ้นเราเรียกว่า Impulse ส่วนขาลงเราเรียกว่า Correction
3.ในหนึ่งรอบหรือ Cycles ของ Elliott Wave นั้นจะเป็น Series ของ Impulse และ Correction

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดาวโหลดได้ทีนี้ครับ Download E-Book Elliott Wave Here
โค๊ด: [Select]
http://www.4shared.com/document/OMWeZRL3/Elliott_Wave.html

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 14
SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums