แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Tamol

หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17
211
พูดคุยForexทั่วไป / การซื้อขายใน MT4
« เมื่อ: 28/ก.ค./2015 04:25:53 »
ในตลาด FOREX นั้น เราสามารถเก็งกำไรได้ 2 ทาง คือ
   1.การเล่นแบบ LONG คือ ซื้อเมื่อราคาต่ำ แล้วขายกลับไปในราคาสูง ใช้ในขาขึ้น
   2.การเล่นแบบ SHORT คือ ขายเมื่อราคาสูง แล้วซื้อกลับไปในราคาต่ำ ใช้ในขาลง
   ส่วนการเปิดปิดออเดอร์ มี 2 แบบ คือ INSTANT ORDER กับ PENDING ORDER
การเปิดออเดอร์แบบ INSTANT
สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
   - ดับเบิ้ลคลิกที่ MARKET WATCH
   - คลิกที่เครื่องมือ NEW ORDER ทางด้านบน
   - คลิกขวา TRADING -> NEW ORDER
   - กดคีย์ลัด F9
MT4ORDER1.JPG
   - ใส่จำนวน LOT ตามต้องการ
   - ใส่ราคาในช่อง STOP LOSS ( SL ) หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดอัตโนมัติ เมื่อราคาถอยไปถึงที่ตั้งไว้(ใส่ 0 หากไม่ต้องการ )
   - ใส่ราคาในช่อง TAKE PROFIT ( TP ) หากต้องการให้ ORDER ถูกปิดทำกำไร เมื่อถึงราคาที่กำหนด
ตัวอย่าง BUY ที่ 1.6035 ต้องการปิดออเดอร์เมื่อกำไร 30 PIP หรือ ขาดทุน 30 PIP ก็ตั้ง SL 1.6005 TP 1.6065
   - ใส่ MAXIMUM DEVIATION หากต้องการใช้ราคาคลาดเคลื่อนได้ไม่เกินกี่ PIP หากราคาที่ได้ คาดเคลื่อนเกินที่กำหนด โปรแกรมจะไม่เปิดออเดอร์ให้
   - พร้อมแล้วคลิกที่ SELL หากต้องการเล่นแบบ SHORT หรือ BUY หากต้องการเล่นแบบ LONG
MT4ORDER1ECN.PNG
   - หากบัญชีที่ใช้เป็นแบบ ECN จะไม่มีให้ตั้ง SL TP และ MAX. DEVIATION เนื่องจากออเดอร์ถูกส่งเข้าตลาดโดยตรง ไม่สามารถควบคุมราคาได้ แต่เมื่อเปิดออเดอร์แล้วสามารถคลิกขวา MODIFY เพื่อตั้ง SL TP ได้ครับ
MT4ORDERTERMINAL.JPG
   เมื่อเปิดออเดอร์ได้แล้ว จะปรากฎในหน้าต่าง TERMINAL มีรายละเอียดดังนี้
   - BALANCE คือ ยอดเงินที่มี ก่อนเปิดออเดอร์ทั้งหมด
   - EQUITY คือ ยอดเงินที่มี หากปิดออเดอร์ทั้งหมด
   - MARGIN คือ จำนวนเงินที่ใช้ไป ในการเปิดออเดอร์
   - FREE MAGIN คือ มาจิ้นที่เหลืออยู่ หากหมดหรือติดลบ จะไม่สามารถเปิดออเดอร์เพิ่มได้
   - MARGIN LEVEL % คือ เปอเซนต์ของมาจิ้นที่เหลือเทียบกับที่ใช้ไป หากลดต่ำลงถึงระดับ STOP OUT LEVEL ที่โบรกเกอร์กำหนด ( โดยมากกำหนดไว้ราวๆ 30% - 150% ) จะโดนบังคับปิดออเดอร์ทั้งหมด
การเปิดออเดอร์แบบ PENDING การตั้งราคาซื้อขายล่วงหน้า มี 4 แบบ
   BUY LIMIT คือ รอให้ราคาต่ำลง แล้วเข้าซื้อในราคาต่ำๆ หวังว่ามันราคาจะขึ้นกลับไปได้
   BUY STOP คือ รอให้ราคาพุ่งขึ้น แล้วเข้าซื้อ หวังว่ามันจะขึ้นไปสูงๆ
   ฝั่ง SELL ก็กลับกันครับ
   แต่เวลาใช้จริงเราไม่ต้องจำว่าจะใช้ LIMIT หรือ STOP เพราะมีวิธีง่ายกว่านั้น โดยการคลิกขวาบนพื้นที่กราฟในระดับราคาที่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง TRADING ดังรูป
MT4ORDER_PENDING.PNG
   การ นับ PIP
   ใน FOREX เราจะไม่นับเป็น "จุด" เหมือนหุ้นนะครับ เพราะมันวิ่งวันนึงไม่ถึง 1 จุด
   PIP จะนับในทศนิยมหลักที่ 4 กรณีคู่เงินมีทศนิยม 4 หรือ 5 หลัก และนับในทศนิยมหลักที่ 2 กรณีคู่เงินมี 2 หรือ 3 หลัก
   เช่น เปิดออเดอร์ BUY GBP/USD ที่ราคา 1.6036 ราคาวิ่งไป 1.6048 เท่ากับว่าเราได้กำไร +12 PIP
   หากโบรกเกอร์ไหนคู่เงินมี 5 หลัก หลักที่ 5 จะเป็นทศนิยม
   เช่น เปิดออเดอร์ BUY GBP/USD ที่ราคา 1.60365 ราคาวิ่งไป 1.60484 เท่ากับว่าเราได้กำไร +11.9 PIP
   แต่ใน MT4 มันจะนับ 5 หลัก เท่ากับ +119
   การปิดออเดอร์
   ทำเหมือนกับตอนเปิดออเดอร์ โดยคลิกขวาออเดอร์ที่ต้องการปิด แล้วเลือก CLOSE จะขึ้นหน้าต่างเหมือนตอนเปิดออเดอร์ แล้วใส่จำนวนลอตที่ต้องปิด แล้วกด CLOSE
   การตั้ง TRIALING STOP
   เป็นการเลื่อน SL เพื่อรักษากำไรครับ สมมุติว่าเราเปิด BUY แล้วราคามันขึ้น เรา +30 แต่ไม่รู้ว่ามันจะขึ้นไปสุดที่ไหน เราก็ตั้ง TS ไว้ ให้มันเลื่อน SL ตามมา เช่นตั้งไว้ 20 มันก็จะเลื่อนตามมาโดยรักษาระยะหว่างล่าสุดไว้ 20 PIP เรา+30 มันจะเลื่อนมาที่ +10 เรา+50 มันก็จะเลื่อนมา +30 อัตโนมัติไปเรื่อยๆ จนกว่าราคาจะถอยกลับไปชน TS มันก็จะปิดทำกำไรให้เราอัตโนมัติ
   วิธีตั้ง คือ คลิกขวาออเดอร์ที่ต้องการ เลือก TRIALING STOP แล้ว ใส่ POINT(PIP) ตามต้องการ
   การคำนวณมาจิ้น
   การซื้อขายใน FOREX ONLINE จะคิดเป็น LOT ซึ่ง 1 ลอต เท่ากับ 100 000 USD ต่ำสุดที่เทรดได้คือ 0.01ลอต หรือ 1000 USD
   แน่นอนเราไม่มีเงินขนาดนั้นมาเทรด โบรกเกอร์จึงให้เงินเรายืม ซึ่งเรียกว่า LEVERAGE ซึ่งเยอะสุดคือ EXNESS ให้ 1:1000
LEVERAGE ยิ่งมาก ยิ่งดี ทำให้เราเปิดลอตสูงๆได้ โดยไม่ต้องมีเงินมาก คำนวณดังนี้ครับ
   MAGIN = LOT X 100000 X LEVERAGE X ราคาเงินตัวหน้าเทียบกับUSD เช่น BUY GBP/USD หรือ GBP/JPY หรือ GBP/CHF จะใช้ ราคาตัวหน้าเทียบ USD คือใช้ราคาของ GBP/USD นั่นเอง สมมุติขณะนั้น GBP/USD อยู่ที่ 1.6035 เทรดที่ 0.1 LOT LEVERAGE 1:500
   เข้าสูตรได้ MAGIN = 0.1 X 100000 X1/500 1.6035 = 32.07 USD
   จะต้องใช้มาจิ้นเปิดออเดอร์ $32.07 ถ้าเรามีทุน $100 ก็จะเหลือให้ติดลบได้ 60 กว่าจุด
   คำนวณ PROFIT
   PROFIT คิดคร่าวๆก็ PIP ละ $10 ที่ 1ลอต หรือ $1 ที่ 0.1ลอต หรือ $0.1 ที่ 0.01ลอต ง่ายๆก็เอา LOT X 10 ครับ แต่ถ้าจะคำนวณให้เป๊ะๆ ก็ต้องใช้สูตรตามนี้
   PROFIT = ราคาตัวหลังเทียบกับ USD X LOT X 10 เช่น เทรด GBP/USD ใช้ราคา USD/USD ก็เท่ากับ 1
   PROFIT = 1 X 0.1 X 10 เท่ากับ $1 ต่อ PIP
   ถ้าเทรด GBP/JPY ใช้ราคา JPY/USD ตอนนี้อยู่ที่ 81.70/100 เท่ากับ 1.22
   PROFIT = 1.22 X 0.1 X 10 เท่ากับ $1.22 ต่อ PIP
   ถ้าเทรด EUR/GBP ใช้ราคา GBP/USD ตอนนี้อยู่ที่ 1.6030
   PROFIT = 1.6030 X 0.1 X 10 เท่ากับ $1.6 ต่อ PIP
   ที่เป็นเช่นนี้เพราะเงินของเราเป็น USD พอจะซื้อต้องเอาเงินไปแลกกับค่าเงินตัวหน้ามาถือไว้ พอค่าเงินสูงขึ้นจะเอากำไร ก็เอาไปแลกกับเงินตัวหลัง แล้วแลกกลับมาเป็น USD เข้าพอร์ตเราครับ

โค๊ด: [Select]
http://trip2investment.blogspot.com/p/mt4.html

212
MT4 หรือ Metatrader 4 เป็นโปรแกรมที่นักเทรดนิยมใช้มาก และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็ใช้ MT4 เป็นหลักเนื่องจากว่ามีฟัก์ชันการทำงานค่อนข้างมาครับ ไม่ว่าจะเป็น EA (expert Advisor) ซึ่งเป็น สคริปต์ที่มีไว้ในการเทรดแบบ ออโต้เทรด โดยที่เราไม่ต้องนั่งเล่นเองเป็นต้น และยังสามารถเพิ่มอินเคเตอร์เข้ามาได้อีกจากการไปหาโหลดตามที่ต่าง ๆ หรือถ้าใครเก่ง ๆ หน่อยก็เขียนอินดิเคเตอร์มาใช้เองได้ครับ  ถ้าจะเทรดกับโบรกเกอร์ไหนให้ไปโหลดโปรแกรมจากหน้าเวปของโบรกเกอรนั้นมาใช้นะครับ เพราะโบรกเกอร์แต่ละตัวก็ใช้ MT4 คนละตัวกันเหมือนกันแต่ว่าลักษณะหน้าตาจะเหมือนกัน ตัวอย่างที่ผมนำมาให้ต่อไปนี้คือ Metatrader 4 พื้นฐาน

ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า

พอโหลดมาเสร็จแล้วก็ กด Install โปรแกรมกด next ไปเรื่อยๆจนเสร็จครับ

พอเปิดโปรแกรมขึ้นมามันจะให้เรากรอกข้อมูลสำหรับ Demo Account ครับกรอกไป ติ๊ก ถูกในเครื่องหมายกด next เรื่อยๆ จนมันเร็จก็เรียบร้อยครับ

 

แต่เวลาเปิด Real Account  ไม่จำเป็นต้องกรอกตรงนี้ครับปิดหน้าต่างไปแล้วไปที่ Menu File --> Login

(Real Account คือ Accountจริงที่สมัครกับโบรกเกอร์นะครับ)

 

พอเสร็จแล้วจะได้หน้าตาประมานนี้ครับแต่อาจไม่เหมือนศะทีเดียวเพราะว่าอันนี้ผมปรับกราฟไปเยอะแล้ว



เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจุดไหนไว้ทำอะไรบ้างอาจต้องเพ่งดูในบางจุดขออภัยมา ณที่นี้ครับ อิอิ

1. อันนี้จะเป็นส่วนของกราฟครับ

2. อันนี้จะเป้นส่วนเกี่ยวกับการจัดการโปรแกรม

      - Account บอกว่าเราใช้ Account อะไรอยู่มีชื่อเราด้วย

      - Indicator มีอินดิเคเตอรืมาตรฐานต่างๆ ในนี้วิธีการเพิ่มอินดิเคเตอร์ลงในกราฟ ทำได้โดยการลากวางครับ

      - Expert Advisor เป้นคล้ายอินดิเคเตอรื แต่เราไม่ต้องเทรดเอง คล้ายๆ กับบอทอะครับ เปิดทิ้งไว้เลย

      - Custom Indicator อินดิเคเตอร์ที่เราหามาเอง สามารถนำไปไว้ใน Directory ที่ลง MT4 ใน folder expert-->indicatorsครับ

      - Script ไม่แน่ใจอะ แต่ไม่เคยใช้อะ

3. ในส่วนนี้เป้นราคาของ Forexครับ หรือ Marketwatch อะแหละ ปรับเพิ่มลดได้ครับส่วนนี้

4. จะเป็นหน้าต่างที่ไว้ดู position การเทรดModifu ปรับแต่ง stop loss หรือ ตั้ง Target ได้โดยคลิ๊กขวาที่ position ที่ต้องการ แล้วคลิ๊ก Modify Position  แล้วก็มีประวัิติการเทรด ข่าว จดหมายต่าง ๆ ด้วยในส่วนี้ครับ

5. ตรงนี้เอาไว้เปิด order  buy/sell โดยไปที่กราฟที่ตัวต้องการซื้อขายแล้วกดตงนี้ หรือคลิ๊กขวาที่กราฟตัวที่จะทำการซื้อขายแล้ว new orderได้ครับ กดF9ก็ได้เหมือนกัน ดดนหน้าต่างจะมีให้เลือก lot size take profit(target) stop loss ได้ครับ แล้วเลือว่าจะ buy หรือ sell ส่วน lot ใครไม่เข้าใจกลับไปอ่านที่ หัวข้อ leverage

 6. Time Frame ปรับเวลากราฟครับ

7.  เส้นต่างๆ ทั้งแนวตั้งแนวนอน และ Trend line กด แล้วนำไปลากในกราฟครับ

8.   Fibonacchi ใครใช้ก็อยู่ตรงนี้นะครับบอกไว้ก่อนเดี๋ยวหาไม่เจอ หุหุ

9.  เพิ่มกราฟใหม่ได้ตรงนี้ครับ

10. เปลี่ยนรูปแบกราฟว่าจะให้เป็นแบบ เส้น แท่งเทียน หรือ บาร์

โค๊ด: [Select]
http://forexstudy.exteen.com/20080925/mt4

213
แพลตฟอร์มการซื้อขายหลักทรัพย์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการทำธุรกรรมทางการเงินของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อคุณเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทางการเงินกับบริษัทที่เป็นตัวแทนให้บริการเข้าถึงการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนในรูปแบบออนไลน์  แพลตฟอร์มเมตาเทรดเดอร์ 4 จะตอบสนองวัตถุประสงค์พื้นฐานดังกล่าว ทั้งการตรวจสอบราคา การส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย และใช้ร่วมวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ  สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายเพื่อทำกำไรในตลาดการเงินแห่งนี้
นักลงทุนที่เลือกใช้บริการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนกับบริษัท Paxforex สามารถใช้งานแพลตฟอร์มเมตาเทรดเดอร์ 4 ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อประโยชน์ของสูงสุดของนักลงทุน เราเป็นหนึ่งผู้นำในเทคโนโลยี เมตาเทรดเดอร์ 4 ในยุโรปที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะทราบว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจากแพลตฟอร์มการซื้อขายคืออะไร. จากการพัฒนาระบบเทรดและเครื่องมือเหล่านี้ สามารถสร้างผลกำไรสูงสุดให้กับนักลงทุน

ปัจจุบันแพลตฟอร์ MT4 ที่สามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการต่างๆดังต่อไปนี้
 

MT4 for PC | MT4 Android | MT4 iPhone / iPad / iPod | MT4 Mobile
 

ภาพตัวอย่างซอฟแวร์ เมตาเทรดเดอร์ 4 บนคอมพิวเตอร์พีซีเดสทอปก์



Main view of Forex Trading Platform MetaTrader 4

เมตาเทรดเดอร์ 4 แพลตฟอร์มการซื้อขายที่อำนวยความสะดวกและสร้างความประทับใจ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เมตาเทรดเดอร์4 ยังมีประโยชน์อีกมากมายหลายประการ :
ประโยชน์การใช้งานหลักสำหรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 :
 

ใช้งานง่าย และ มีอินเตอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ (ทำให้ไม่สับสน)
สามารถปรับแต่งมุมมอง และ ใส่กลุ่มสี สำหรับกราฟต่างๆ ได้อย่างอิสระ
สามารถเลือกการแสดงผลกราฟได้ถึง 3 ประเภทหลักคือ Bar Chart, CandleSticksและ Line Chart
เลือกแสดงผลกราฟได้ 9 ช่วงเวลา
รองรับ "อินดิเคเตอร์" ที่มาพร้อมกับโปรแกรมจำนวนกว่า 50 รูปแบบ ที่จะช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์ทิศทางของราคาได้ง่ายขึ้น
สามารถเพิ่มอินดิเคเตอร์หลายชนิดได้ในกราฟเดียวกัน
สามารถแสดงผลราคาได้หลายคู่พร้อมกัน
รองรับการเทรดแบบอัตโนมัติ(EA)และส่งออกข้อมูลผ่านทางโปรโตคอล DDE


ถ้าหากนักลงทุนต้องการพิมพ์การแสดงผลของราคา แพลตฟอร์มดังกล่าวยังรองรับการพิมพ์ "บนกระดาษ A4" เหนือสิ่งอื่นใด แพลตฟอร์ม เมตาเทรดเดอร์ 4 เป็ฯนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมด้วย "รูปแบบธรรมดาแต่เรียบง่าย เพียบพร้อมต่อการใช้งานอย่างมืออาชีพ" มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ซอฟต์แวร์ช่วยการเทรดควรจะมี ผู้เชี่ยวชาญการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศออนไลน์ ได้แนะนำคุณสมบัติดังต่อไปนี้ในทุกซอฟแวร์การซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์:
 
ต้องมีความเร็วในการส่งคำสั่งและความสอดคล้องของทุกธุรกรรม(ทำรายการ ซื้อ-ขาย)
ค่าสเปรดต่ำ
อนุญาติการซื้อขาย สัดส่วนน้อย
ใช้งานและเข้าใจง่าย ในการดำเนินการ
 
บริษัท Paxforex ได้จัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุด  ที่พร้อมใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากที่สุด  รองรับความหลากหลายของกิจกรรมทางการเงินและการค้าของนักลงทุน ระบบเซิฟเวอร์ที่เสถียรที่มีความเร็วและความต่อเนื่องในการใช้งาน. แพลตฟอร์ม MetaTrader 4 ของเรามีความลงตัวและยอดเยี่ยม เพื่อช่วยให้การดำเนินการต่างๆ ของผู้ค้าหรือนักลงทุน สามารถวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงราคาของตราสารทางการเงิน ได้ด้วยเครื่องมือต่างๆอย่างชัดเจน
นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือที่แสดงผลเปลี่ยนแปลงราคาการเงิน Paxforex MetaTrader 4 ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการค้าในตลาดการเงินแห่งนี้ การซื้อขายด้วย แพลตฟอร์ม MT4 จะช่วยให้ผู้เทรด Forex ทำธุรกรรมได้หลายรายการและสามารถใช้ระบบ Expert Advisor หรือระบบซื้อ-ขายอัตโนมัติซึ่งได้ถูกออกแบบขึ้นให้รองรับกับแพลตฟอร์ม MT4 โดยเฉพาะ. Paxforex MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มได้ปรับแต่งอย่างเต็มที่ นักลงทุนจะรับทราบถึงความรู้สึกที่แตกต่างจากการใช้งาน ตามความต้องการ ในการซื้อ-ขาย ออนไลน์ที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ต้องสงสัยว่า บริษัท Paxforex มีระบบที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างจริงจังผ่านระบบออนไลน์ ตามต้องการ

โค๊ด: [Select]
https://th.paxforex.com/metatrader4-forex-trading-platform

214
โปรแกรมนี้เราต้องศึกษาให้รู้ทุกฟังก์ชั่นว่าแต่ละอย่างสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เชื่อว่าหลายคนที่เคยเล่นหรือแม้แต่เชียวชาญการเล่น Marketiva แล้วอาจจะไม่รู้ครบทุกฟังก์ชั่นก็ได้ ซึ่งเป็นความผิดผลาดมากทีเดียว เนื่องจากโปรแกรมมีส่วนช่วยให้เรา วิเคราะห์หุ้นของ Marketivaได้แม่นยำมากขึ้น แถมเป็นตัวช่วยชั้นดีอีกด้วย เราสามารถแบ่งโปรแกรมได้ 4 ส่วนดังนี้

ส่วนที่ 1 ค่าแสดงอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ

Forex
Funds
Indexes
Commudities

1.Forex คือ ส่วนที่แสดงค่าเงิน จะมี 2 ส่วนคือ
Suscriptions คือตัวลบหรือเพิ่ม ข้อมูล Marketiva

marketiva

 Columns คือส่วนที่เพิ่มหรือลบ ค่าบ่งชี้ต่างๆในตาราง Marketiva

marketiva

 ตาราง Forex มีอะไรบ้าง


Currency Pair แปลว่า คู่สกุลเงิน หมายถึงอัตราค่าเงินระหว่างสกุลเงินหนึ่งต่อสกุลเงินหนึ่ง
Last หมายถึง ดัชนีการซื้อ-ขายล่าสุด
Bid หมายถึง ดัชนีราคาขายของค่าเงินที่เราสนใจ ถ้าเราขายจะได้ ดัชนีนั้น
Offer หมายถึง ดัชนีราคาซื้อของค่าเงินที่เราสนใจ ถ้าเราซื้อจะได้ดัชนีนั้น
Change หมายถึง ผลต่างระหว่างของราคาเปิดตลาด
High หมายถึง ราคาสูงสุดของวัน
Low หมายถึง ราคาต่ำสุดของวัน
Time หมายถึง เวลา ณ.ปัจจุบัน

2.Funds เป็นส่วนของการค้าแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งไม่นิยมเล่นกันมากนัก (แร่ชั้นกลาง)

3.Indexes เป็นการเล่นตลาดหุ้นจากที่ต่างๆ เช่น Dow Jones, Nesdaq, S&P

4.Commodities เป็นการเล่นทอง เงิน (แร่ชั้นสูง)

ส่วนที่ 2 เป็นค่าแสดงกราฟของค่าเงินนั้นๆ และยังมี ห้องสำหรับ Chat และ ฟอรั่มข่าวอีกด้วยมีรายละเอียดดังนี้

Charting เป็นส่วนที่แสดงกราฟข้อมูลต่างๆเพื่อให้เราวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนต่อสกุลเงินนั้นๆ และยังเป็นส่วนที่ให้ใช้บริการเครื่องมือ วิเคราะห์อีกด้วย ในส่วนนี้ จะแบ่งแยกออกเป็น 7 ส่วนย่อยๆอีกด้วย ประกอบด้วย

Customize เป็นส่วนที่รวมส่วนย่อยไว้ทั้งหมด โดยได้เพิ่ม new Charting tab เป็นส่วนที่สร้าง Charting เพิ่มเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานเวลาที่เล่นหุ้นหลายตัว
Indicators เป็นส่วนที่รวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมด จะขอไปอธิบายในหัวข้อวิธีใช้เครื่องมือแทนนะครับ
My Charting เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลของ Charting ที่เราตั้งค่าเอาไว้ครับ
Save Chart เป็นส่วนที่ Save Charting เอาไปใช้ใน My Charting
Buy / Sell เป็นส่วนที่เอาไว้ซื้อ-ขายครับ จะขอไปอธิบายในหัวข้อ วิธีการซื้อ - ขายนะครับ
ช่องเลือกค่าสกุลเงิน ช่องนี้สามารถเลือกได้ตามที่เราต้องการเพียง คลิกที่ช่องแล้วเลือก กราฟก็จะเปลี่ยนไปด้วยครับ
ช่องเวลาที่เป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลกราฟ

marketiva

Discussions เป็นส่วนที่เกี่ยวกับช่องพูดคุยต่างๆทั้ง Supports ให้ความช่วยเหลือต่างๆ และยังสามารถแบ่งแยกประเทศได้อีกด้วย สามารถแบ่งได้ 3 ส่วนย่อยๆดังนี้


Group ตรงนี้เราสามารถเลือก Channel พูดคุยได้
Save เป็นส่วนที่เราต้องการจะเซพข้อมูลที่เราได้คุยไว้ครับ
Clear เป็นส่วนที่เราต้องการลบข้อมูลที่เราคุยไว้ครับ
เพิ่มเติม: ปกติแล้วห้อง Chat ที่ทางโปรแกรมจะให้มาอัตโนมัติเลยนั้นจะมีอยู่ 4 Cheannel ซึ่งมีประโยชน์มากทีเดียว ประกอบไปด้วย


ห้อง Support เป็นห้องที่ติดต่อสอบถามเรื่องทั่วๆไปกับเจ้าหน้าที่ของทาง Marketiva โดยตรงเลย ซึ่งเค้าจะบริการดีมากๆ
ห้อง Advanced Support จะเป็นห้องให้บริการเหมือนกับอันแรก แต่จะเน้นเทคนิคมากขึ้น เหมาะสำหรับมือเก่าแล้ว
ห้อง Internationnal Support ห้องนี้ไม่ว่าคุณจะไม่เป็นภาษาอังกฤษ คุณก็สามารถสอบถามเค้าเป็นภาษาไทยได้ครับ
Market Chat เป็นห้องยอดฮิตของมือโปรทุกชาติรวมตัวกันอยู่ ถ้าคุณอยากรู้เทคนิคแปลกๆคุณจะพบได้ที่ห้องนี้ครับ

ส่วนทีี่ 3 เป็นส่วนที่บอกรายละเอียดของเงินที่เราเหลืออยู่ และ เงินที่เรากำลังจะได้หรือเสียในอนาคต และ การเตือนข่าวต่างๆอีกด้วย ปกติจะแบ่งเป็น Virtual Forex, Live Forex, Virtual Funds, Live Funds เราสามารถรวมเงินของ Forex และ Funds ได้ จะกล่วงในเรื่อง วิธีการรวมเงิน Forex และ Fund

ส่วนที่ 4 เป็นส่วนการจัดการต่างๆแบ่งเป็น 4 ส่วนย่อยๆดังนี้
 order เป็นส่วนที่เราสั่งซื้อ-ขาย มีหน่วยต่างๆที่สำคัญดังนี้


order ID: เป็นรหัส ของการสั่งซื้อ-ขาย
Desk : บอกว่าเป็นการเล่นแบบใด เงินปลอมหรือเงินจริง
Instrument : บอกว่าเรากำลังเล่นค่าเงินอะไรอยู่
Side : เป็นการเล่นรูปแบบใด ซื้อ หรือ ขาย (Buy / Sell)
Phase : เป็นการบอกว่า กำลังเล่น(Entry) หรือว่า ปิดการ ซื้อ-ขายแล้ว (Exit)
Price Type : เป็นการเลือกชนิดของราคา มี 3 แบบ 1.แบบ Limit 2.แบบ Market 3.แบบ Stop ซึ่งแต่ละแบบจะอธิบายในหัวข้อ Price Type ครับ
Price : เป็นราคาที่เริ่มซื้อ
 
Trades : บอกว่าเราซื้อ-ขายเท่าไหร่

Stop Loss :เป็นการบอกว่าเราจะหยุดเมื่อขาดทุนเท่าไหร่ จะอธิบายในหัวข้อ Stop Loss และ Target ครับ
Target : เป็นการบอกว่าเราจะพอใจสำหรับกำไรเท่าไหร่ จะอธิบายในหัวข้อ Stop Loss และ Target ครับ
Trades เป็นส่วนที่บอกรายละเอียดคร่าวๆถึงการซื้อ-ขาย
Quantity : เป็นหน่วยว่าเราลงทุนไปกี่หน่วย
Positions : เป็นรายละเอียดว่า ณ. เวลานั้นราคาที่เราซื้อ-ขายเป็นอย่างไรแล้ว เสียเท่าไหร่ ได้เท่าไหร่
Side : เป็นส่วนที่บอกว่า ซื้อ (Long) หรือ ขาย (Short)
Open : เป็นส่วนที่บอกว่า เราเริ่ม ซื้อ-ขาย ที่จุดใด
Close : เป็นส่วนที่บอกว่า เราหยุด ซื้อ-ขาย ที่จุดใด
Point : เป็นส่วนที่บอกว่า ราคาที่เราได้หรือเสีย เ็ป็นจำนวนกี่จุดแล้ว
Profit : เป็นเงินที่เราจะได้ หรือจะเสีย ณ. เวลานั้น หน่วยเป็น $US

Account Center เป็นส่วนที่จัดการ Account ของเรา สามารถตรวจสอบบัญชีทุกอย่างได้เหมือนในเวปหลัก

โค๊ด: [Select]
http://marketiwa-thai.blogspot.com/2010/06/programs-marketiva.html

215
พูดคุยForexทั่วไป / Marketiva คืออะไร
« เมื่อ: 28/ก.ค./2015 04:14:27 »
Marketiva เป็นบริษัทที่ให้บริการในการเล่นเก็งกำไรค่าเงิน หรือ Forex trading services Marketiva Corporation เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ Switzerland หมายเลข Registration number IBC CAP. 291 Reg. № 646819 อยู่ภายใต้หน่วยงาน Jurisdiction of Financial Services Commission (FSC) Marketiva เปิดตัวช่วงต้นปี 2005 ที่ผ่านมา ด้วยสโลแกนที่ว่า
"Forex ใครๆ ก็เล่นได้" เพราะ ฟรี แถมมีเงินให้เล่นก่อน 5$ และมีเงินให้ทดลองก่อนใช้เงินจริงอีก 10000$ ทำให้ตอนนี้ Marketiva กลายเป็นบริษัท Forex ที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ มีคนให้ความสนใจและไปเปิดบัญชีลงทุนกันอย่างมากมาย

marketiva

ก่อนที่เราจะรู้ว่า Forex สามารถทำรายได้ ได้อย่างไร เราควรรู้ก่อนว่า
Forex คืออะไร Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange บางครั้งเรียกย่อว่า FX คือ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
Forex Market หรือ ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า US$ 2 trillion (2 ล้านล้านดอลลาร์) ต่อวัน เป็นตลาดการเงิน ที่มีสภาพคล่องสูงมาก ตลาดเปิดทำการซื้อขาย 24 ชั่วโมง ตลอดวันทำการ โดยหยุดการซื้อขาย แค่วัน เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น การซื้อขายใน ตลาด Forex เป็นการซื้อขายค่าเงิน โดยซื้อเงินสกุลหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ขายเงินอีกสกุลหนึ่งออกไป หรือเป็นการจับคู่แลกเปลี่ยน ซื้อขายค่าสกุลเงินนั่นเอง ตัวอย่างเช่น เงินสกุลยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ (EUR/USD) หรือ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น (USD/JPY) เป็นต้น

แต่การที่เราจะเล่น Forex เราจะต้องเล่นผ่าน โปรเกอร์ทางอินเตอร์เน็ต และในที่นี้โปรเกอร์ที่แนะนำก็คือ Marketiva ทำไมถึงต้องเป็น Marketiva เพราะสมัครฟรี เมื่อแรกเข้าเราจะได้ 5 เหรียญเป็นเงินจริง ๆ นะ เขาให้ไว้เพื่อลองเล่น (แต่บางคนสามารถทำ 5 เหรียญ ให้เป็น 10,000 เหรียญ ได้นะ) และมีอีก 10000 เหรียญ ที่เป็นเงินปลอมไว้ให้หัดเล่นกันครับ
ข้อแตกต่างระหว่าง คือ

Forex เปรียบได้กับตลาดหุ้น
Marketiva เป็นบริษัทโบรกเกอร์ ซึ่ง นอกจาก Marketiva แล้วยังมีอีกหลายโบรกเกอร์ที่ให้บริการนี้อยู่อีกมาก แต่ที่เรานำเสนอ Marketiva เพราะว่า ฟรี แถมให้เราทดลองเล่นได้อีกด้วย

หลักการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานมีความสำคัญในการเล่นหุ้น เวปนี้จึงเสนอทางเลือกบทความต่างๆที่น่าสนใจครับ ความจริงแล้วมีอีกหลายเวปที่สอนด้านนี้โดยเฉพาะแต่ผมเห็นว่าอ่านแล้วดูยากจังไม่เข้าใจเลย ผมจึงเห็นว่าถ้าได้ง่ายขึ้นคงจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับทุกท่านครับ

โค๊ด: [Select]
http://marketiwa-thai.blogspot.com/

216
1.ควรเข้าซื้อ – ขาย (Trade) ตัวที่มีค่า PIP.(ค่าระหว่างจุด Bid กับ Offer) ต่างกันไม่เกิน 5 จุด เพราะถ้าค่า PIP.ตรงนี้
ต่างกันยิ่งมากเท่าไร นั่นหมายถึง เมื่อคุณเข้าซื้อ หรือขาย คุณก็จะขาดทุน(ติดลบ) ในขั้นต้นทันที ตามค่านั้นๆ ครับ ดังนั้นโอกาสที่จะได้กำไรมาก-น้อย ก็จะขึ้นตามค่าตัวนี้ด้วย (ในเบื้องต้นแนะนำ EUR/USD กับ USD/JPY )

2.การเข้าเทรดแต่ละครั้ง จะต้องเหลือเงินติดบัญชีไว้เสมอ ที่เราเรียกว่า Margin (มาร์จิ้น) ไงครับ โดยปกติแนะนำให้ค้างบัญชีไว้ที่ 40 – 50 % เช่น ถ้าคุณจะใช้เงินจริงที่เค้าแจกมา 5 เหรียญ คุณควรจะใช้ซื้อหุ้นรวมแล้วไม่เกิน 3 เหรียญ ค้างไว้ในบัญชีสัก 2 เหรียญ เพราะช่วงที่คุณยังไม่ปิดการซื้อขาย หากมันลบ ค่าเงินในบัญชีของคุณจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อใดที่เงินในบัญชีคุณเหลือต่ำกว่า 0.1เหรียญ มันจะปิดการซื้อขายหุ้นตัวนั้นทันที แน่นอนคุณต้องขาดทุน ทั้งๆ ที่อีกสัก 15 นาทีต่อมาหุ้นตัวนั้นก็จะกลับมาบวก คุณก็จะได้กำไรแล้ว แต่บังเอิญว่าเงินในบัญชี Margin (มาร์จิ้น) หมดก่อนครับ หุๆ อันนี้ต้องระวัง..!!

3.อย่าหวังรวยด้วยการตั้งจุด Target ไว้เยอะๆ ในเบื้องต้นขอแนะนำให้ปิดที่ +10 ถึง +15 จุด ก็เหลือเฟือแล้วครับ (อย่าโลภครับ คิดถึงความเป็นจริงคงไม่มีที่ใหนที่คุณสามารถลงทุนทำกำไรได้ชั่วโมงละ 10 – 15 % ใช่ใหมครับ แต่ในที่นี้คุณสามารถทำได้ครับ โดยเฉลี่ยแล้ว ถ้าหุ้นคุณ + 1 ถึง 2 จุด ก็หมายถึงคุณได้กำไรไปแล้ว 1 %จากเงินลงทุน แน่นอนครับ
ถ้าคุณ + 15 จุด สัก 2 ถึง 3 รอบ ก็หมายถึงว่าวันนั้น คุณลงทุนแล้วได้กำไรไป 30 ถึง 40 % เลยทีเดียวครับ…แค่นี้ก็พอแล้ววว..) แม้บางครั้งคุณอาจได้ซิกแนล ( คำแนะนำล่วงหน้าว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้น – ลง ไปที่จุดนั้น จุดนี้ )มาว่าให้ตั้งเป้าไว้ +50 ถึง + 60 จุด แต่เมื่อคุณเห็นว่าได้กำไรพอสมควรแล้วสัก +10 ถึง+15 จุด ให้รีบปิดการซื้อขายก่อน ถ้าหุ้นตัวนั้น ยังมีทีท่าว่าจะไปตามซิกนั้นอยู่ค่อยเข้าทำการซื้อ-ขายใหม่ อีกเรื่อยๆ จะดีกว่า เพราะโดยปกติแล้วจะไม่ค่อยมีหุ้นตัวใหนที่จะขึ้นหรือลงไปอย่างเรียบๆ สม่ำเสมอ ส่วนมากระหว่างทางมันจะเกิดการ สวิง หรือสวนกระแสกลับแบบไม่ทันตั้งตัว ช่วงนี้หละอาจทำให้ขาดทุนได้ง่ายๆ สำหรับท่านที่ตั้งเป้ากำไรไว้เยอะๆ แล้ว Margin ไม่พอช่วงมันสวิงครับ.. ถ้าชำนาญและเข้าใจการเล่นดีแล้วค่อยกินระยะยาวทีละเยอะๆ ไม่ว่ากันครับ ช่วงใหม่ๆ ขอแนะนำให้กินน้อยๆ แต่บ่อยๆ ก็รวยได้จ้าาา… อิๆๆ.. ( โปรดระวังด้วยหละ ภายใน 4 ช.ม.ต้องไม่เทรดเกิน 10 ครั้งนะ แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วคราบบ.)


4.สามารถซื้อหุ้นตัวเดิมซ้ำได้เท่าที่คุณต้องการ เช่น คุณเข้าซื้อ USD/JPY ไว้แล้ว เห็นแนวทางว่ากำไรชัวร์ๆ ก็สามารถซื้อเพิ่มได้อีก กี่ครั้งก็ได้ ไม่ได้มีข้อห้ามนะครับ

5.คุณสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลจุด SL , Target ,Close ของแต่ละตัวได้ตลอดเวลาที่หุ้นตัวนั้นของคุณยังไม่ปิด เช่น เบื้องต้นคุณตั้ง SL (stop-loss) USD/JPY เอาไว้ที่ 115.25 ตั้ง Target ไว้ที่ 116.00 ถ้าคุณเห็นว่า มันขึ้นไม่ถึง 116.00 แน่ๆ ก็คลิกเข้าไปตรงแถบข้อมูลการซื้อขายตัวนั้นๆ ของคุณ มันก็จะมี กล่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาถามว่าจะทำอะไรหลักๆ ก็มีปุ่ม Close คือปิดการซื้อขายเมื่อเห็นว่าพอใจจุดนั้นแล้ว ปุ่ม Change คือเปลี่ยนแปลงข้อมูล สามารถคลิกเข้าไปตั้ง SL หรือ Target ใหม่ได้ตลอดครับ จะเพิ่มจะลดลงยังไงก็ดูตามสภาวะการณ์นั้นๆ ได้เลย

โค๊ด: [Select]
http://www.marketivaclub.com/index.php?topic=506.0

217
 เทคนิคการเล่น forex

1.เราต้องทำการเซ็ต Indicators ก่อน โดยดูที่ช่องกราฟนแล้วคลิกขวาจะมีให้เลือก Indicators
แต่ก่อนอื่นเอาอันเก่าออกก่อน อันเก่าจะมีสองเส้น ที่ไม่ใช่เส้นหุ้นให้คลิกทีละเส้น แล้ว remove ออกไปก่อนคทั้งสองเส้น
แล้ว เซ็ตใหม่ดังนี้ครับ
2.คลิกขวา เลือก Indicators แล้วไปที่ moving average แล้ว Set สีอะไรก็ได้ ตั้งไว้ที่ 20 ชนิดก็เป็น Simple
3.คลิกขวา เลือก Indicators แล้วไปที่ moving average แล้ว Set สีอะไรก็ได้ ตั้งไว้ที่ 5 ชนิดก็เป็น Simple

เอาละเมื่อทำการเซ็ต Indicators เรียบร้อยเรามาดูกันว่าเราจะเข้าทำกำไรยังไง
มาเข้าหลักการเลย ถ้า เส้น 5 อยู่ข้างล่าง และ เส้น 20 อยู่ด้านบน แล้วตัด x กันพอดี ย้ำว่าต้องตัดกันพอดี แสดงว่า แนวโน้มกราฟ กำลังจะขึ้น ถ้าตรงกันข้ามแสดงว่า กราฟ มีแนวโน้มลง

เมื่อเซ็ต Indicators แบบนี้แล้ว ลองดูกราฟย้อนหลังดู เพื่อเทียบผล วิธีนี้ เยี่ยมมากๆเลย ถ้าสนใจก็ลองดูนะครับ

โค๊ด: [Select]
http://www.marketivaclub.com/index.php?topic=506.0

218
Forex4you ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ 2550 Forex4you เป็นโบรกเกอร์ของ E-Global Trade & Finance Group, Inc. โดย E-Global Trade & Finance Group,Inc. ได้จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หมายเลข: 1384287

Forex4you เป็นโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน  คนไทยใช้เยอะพอสมควร โดดเด่นในเรื่องการซื้อขายที่ค่อนข้างเร็ว มีซับพอร์ตภาษาไทย   มีหน้าภาษาไทยที่ค่อนข้างละเอียด ใช้งานง่าย ถ้าเลือกโบรกนี้แนะนำบัญชี Pro เท่านั้น

ข้อเสีย สเปรดค่อนข้างสูง,  การถอนเงินค่อนข้างช้า มีปัญหา เรื่อง no conneting บ่อย, โบนัสยังไม่เป็นที่ดึงดูดเท่าที่ควร  , ช่องทางการฝากถอนไม่หลากหลาย

สเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ 2 pip
บัญชีโปร คอมมิชชั่น 10 USD ต่อ lot (หรือสเปรด 1 จุด)
มีการดำเนินการส่งคำสั่งซื้อขายรวดเร็ว
ไม่จำกัดเงินฝากขั้นต่ำ คือ คุณจะฝากเพื่อเปิดบัญชีเท่าไหร่ก็ได้
สามารถรองรับ EA ได้ทุกรูปแบบ
สามารถรับข่าวการคาดการณ์จาก Dow Jones (UK) ได้
ได้รับการวิเคราะห์และสัญญาณจาก Trading Central (US) ได้
ระบบเทรดแบบ MT4
การฝากเงินผ่านระบบ E-Currency และ บัตรเครดิต เดบิตการ์ด ฝากถอนได้ทันที
มีทีมงานซัพพอตที่เป็นคนไทย และ Live Support ตลอด 24 ชั่วโมงในเวลาทำการ
มีหลายอย่างให้เลือกเทรดทั้ง Forex, CFD, Commodities และ Future

โค๊ด: [Select]
http://www.thaibrokerforex.com/320-2/

219
ข้อดีของการเลือกเทรดกับ Forex4you คือ
1. เปิดบัญชีเทรด  และใช้งานได้เลย  (ยืนยันตัวตนภายหลังได้ค่ะ)
เอกสารสำหรับยืนยันตัวตน
- บัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต หรือ ใบขับขี่  สแกนสีจากต้นฉบับเท่านั้น
- บิลยืนยันที่อยู่ (ชื่อ-ที่อยู่ในบิลต้องเป็นภาษาอังกฤษ อายุบิลไม่เกิน 3 เดือน)
- แบบฟอร์ม Application  ดาวน์โหลดได้จากในเว็บ  (ลายเซ็นต์ที่ใช้เซ็นต์ในฟอร์มใช้เป็นภาษาไทยนะคะ)
2. มีประเภทบัญชีหลากหลายให้เลือก  ตามความเหมาะสมของทุนในการเริ่มต้น  ตั้งแต่หลักสิบ - หลักพัน
หรือหมื่นเหรียญ ( cent1, cent2, cent3, classic, pro )
3. ฝากขั้นต่ำที่ 1$ เท่านั้น ( 33.00 บาท )
4. ฝากทุกครั้ง  สามารถขอโบนัสได้สูงสุดถึง 50% ทุกครั้งที่ฝากเงิน   โบนัสนี้  สามารถถอนออกได้ด้วยค่ะ
** เงื่อนไขการเบิกโบนัส  ปรึกษากับเปิ้ลได้ค่ะ  ทักมาทาง msn หน้าเว็บก็ได้ค่ะ
5. รับลงทุนผ่าน  e-currency  หลายชนิด  ทั้ง  Moneybooker, Webmoney 
6. 1 คนเปิดบัญชีได้ไม่จำกัด
7. live support  ให้บริการแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชม. หากเกิดปัญหาในการใช้งาน  ไม่ว่าจะเรื่องการฝาก 
การถอน  หรือปัญหาอื่น ๆ

โค๊ด: [Select]
http://www.thaiexchanger.com/articles/545577/Forex4You--%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%9A-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94-50--%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99.html

220
          การลงทุนในตลาด Forex นั้นจะต่างจากการเทรดหุ้นตรงที่ จะเทรดกันเป็นคู่ๆ เช่น เทรดค่าเงิน EUR กับ USD ซึ่งมักจะเห็นรูปแบบราคาซื้อขาย ดังนี้ EUR/USD bid= 1.3500 offer= 1.3502 โดยโบรกเกอร์จะทำเงินจากนักลงทุนจากส่วนต่างของ ราคา bid-offer  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทุกครั้งที่คุณเปิดการเทรด คุณมักจะติดลบก่อนเสมอ แต่จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับส่วนต่าง bid-offer

          หลักในการทำเงินกับ Forex เรามองตลาดก่อนว่าจะเป็นขาขึ้นหรือลง หากมองออกแล้ว ให้เราทำการเข้าซื้อ โดยถ้ามองขึ้นให้ซื้อแบบ Long ถ้ามองลงให้ซื้อแบบ Short หลังจากซื้อแล้ว เมื่อราคาถึงเป้าหมายที่เราต้องการให้ทำการ Close position เพื่อทำกำไร หากผิดทาง ทำการตัดขาดทุนหรือ Stop loss นั่นเอง แต่ถึงแม้จะดูง่ายๆ แต่ก็ยังมีรายละเอียด เทคนิคต่างๆ อีกมากมายให้นักลงทุนได้เรียนรู้ ทดลอง เพื่อสะสมประสบการณ์การทำกำไรอีกมากมายหลายวิธี

“สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น การเริ่มทำกำไรจากวิธีการที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ก็จะช่วยให้คุณไม่สับสน จนท้อไปเสียก่อน”

          ในตลาด Forex ยังมีข้อดีอีกข้อที่น่าสนใจนั่น คือ คุณสามารถเทรดขาลงได้ด้วย วิธีการคือ เมื่อคุณมีคำสั่งขาย (เรียกว่า Sell หรือ Short) ในตอนที่คุณเปิด order (เปิด Order SELL ได้ในราคา Bid และเมื่อคุณสั่งปิด order นี้ ก็จะได้ราคาที่ Offer การ Sell คือการที่เราสั่งโบรกให้ขายออกไปก่อน เพื่อรออัตราแลกเปลี่ยนตกลงมา และเราจะปิด order นี้ โดยการ Buy คืน (การสั่ง close order จะเป็นการ buy อัตโนมัติครับ – ไม่ใช่ให้เราเปิด order buy อีกอัน) ไปในราคาที่ต่ำกว่า (ถ้า Buy คืนในราคาสูงกว่า เราก็ขาดทุน) เรียกว่า ขายแพง แล้วซื้อถูก

สำหรับนักลงทุนที่มีทุนน้อย แต่สนใจที่จะลงทุนในตลาด Forex ควรจะทำอย่างไร และมารู้จักกับ Leverage ว่าคืออะไรจะช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้นอย่างไร มาหาคำตอบกัน
          เพื่อให้เห็นภาพง่ายชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น Leverage 1:100 หมายถึงว่า คุณใช้ทุนเพียง $1 เพื่อสั่งซื้อ-ขาย $100 เช่น ถ้าคุณต้องการจะสั่งซื้อสกุลเงิน EUR มาถือไว้ โดยจะซื้อที่ราคา 1.3502 จำนวน $100 (คือได้สกุลเงินมาถือไว้ที่ 74.0631 EUR) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ $100 แต่ใช้เพียง $1 เพื่อแลกกับ 74.0631 EUR มาถือไว้ และต่อมาเมื่อคุณขายคืนไปที่ 1.3552 หรือกำไรที่ 0.0050 แทนที่คุณจะได้กำไรแค่นั้น ก็กลายเป็นว่าคุณจะทำกำไรได้ $0.50 ความหมายก็คือ คุณสามารถทำกำไรได้ถึง 50% จากเงินที่ลงทุนไป (คือลงเพียง $1 เพื่อทำกำไร $0.50) แต่ที่สำคัญไม่ควรลงทุนเกินที่คุณกำหนดไว้ในแผน จำนวนที่แนะนำคือ 10% ของเงินลงทุน เพื่อจะได้มีเงินทุนเหลือไว้สำหรับกรณีมีสิ่งใดผิดพลาด เรียกว่าค่อยๆ สะสมไปทีละน้อย แต่อยู่ในตลาดได้นานที่สุด รวมถึงในบางโบรกเกอร์จะมีทุนให้ฟรีที่ $5 เป็นทุนเริ่มต้น ซึ่งที่เหลือก็แล้วแต่เทคนิค และประสบการณ์การบริหารของคุณเองว่าจะปั้นเงินจำนวนนี้ให้ไปสู่กำไรตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างไร

โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/make-money-forex/

221
  การเทรดที่ประสบความสำเร็จ คือการใช้เงินลงทุนที่น้อย เพื่อให้เกิดกำไรสูงสุด ภายใต้ความเสี่ยงต่ำ รวมถึงในตลาด Forex ก็เช่นเดียวกัน วัตถุประสงค์ของการเทรด Forex คือการแลกเปลี่ยนเงินสกุลหนึ่งเพื่อให้ได้เงินอีกสกุลหนึ่ง โดยคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงของราคา ซึ่งก็หมายความว่าค่าของสกุลเงินที่คุณถืออยู่นั้นจะเพิ่มมากขึ้น รูปแบบการเทรดจะมีการเทรดเป็นคู่ๆ หมายถึง คุณต้องซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายให้อีกสกุลเงินหนึ่ง

          ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อสกุลเงินยูโรมาจำนวน 1,000 EUR ในอัตราแลกเปลี่ยน 1.18 หรือกับว่าคุณได้เงินมา 1,180 EUR และในอีก 2 สัปดาห์ต่อมาได้นำเงินยูโรไปแลก กลับมาเป็น US ดอลลาร์ ในอัตราแลกเปลี่ยน 1.25 หรือ 1,250 เท่ากับว่าคุณได้ส่วนต่าง 70 ดอลลาร์

          การเทรด Forex ให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน ขั้นตอนการวิเคราะห์กราฟ Forex และหาราคาเป้าหมายด้วยตัวเองอย่างง่ายสำหรับมือใหม่

วิเคราะห์กราฟ Forex จากภาพใหญ่มาภาพเล็ก timeframe ใหญ่ไปหา timeframe เล็กให้มองภาพใหญ่ให้ได้ก่อนเพื่อวางแผนหลัก จากนั้นค่อยมาปรับกลยุทธ์การเล่นในส่วนของภาพเล็ก ตามแนวโน้ม ศึกษากราฟระยะยาวศึกษากราฟระยะยาวจบแล้ว ก็ควรวิเคราะห์กราฟรายเดือน และรายสัปดาห์ รวมถึงศึกษากราฟรายวัน และกราฟเทรดภายในวัน เพราะการดูกราฟระยะสั้นเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดได้ แนวโน้มและการตัดสินแนวโน้ม ควรซื้อขายตามแนวโน้มตลาด ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว โดยใช้กราฟในการเทรด ควรยึดหลักการนั้นไว้ เพราะทำตามอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้อารมณ์มาตัดสินใจ เพราะโอกาสพลาดค่อนข้างสูง
ดูแนวรับแนวต้านจุดสำคัญๆ ที่ราคาเคยพักตัวการเคลื่อนไหวของราคามักเกิดขึ้นซ้ำๆ เคยไปพักที่จุดใหนมันก็จะไปวนอยู่จุดนั้นแหละ หา pattern ให้เจอแล้วทำกำไรจากมันซะหาจุดต่ำสุด และสูงสุดของมัน ตำแหน่งที่ดีสำหรับการซื้อคือ ซื้อใกล้กับแนวรับ ตำแหน่งที่ดีสำหรับการขายคือ ใกล้เคียงกับแนวต้าน
          การเทรดเพื่อให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น การลากเส้น วาด เส้นแนวโน้ม (Trendline) เส้นแนวโน้มเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด ตามค่าเฉลี่ย เรียนรู้การเปลี่ยนแนวโน้ม โดยตรวจดูจากเครื่องมือต่างๆ เรียนรู้เกี่ยวสัญญาณเตือนที่จะช่วยลดภาวะขาดทุน เรียนรู้ถึงการสนับสนุนสัญญาณการซื้อขาย ราคาที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือขาลง เพื่อจะได้รู้ว่าคุณควร Cut-Loss หรือ เพิ่มทุน อันจะมีผลอย่างยิ่งต่อผลกำไรมาก-น้อย หรือขาดทุน

ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นนักเทรด forex มือเก่าหรือใหม่ควรบันทึกการเทรด บันทึกการเปิดออเดอร์แต่ละครั้งไว้ด้วยนะครับ อาจจะเชพเป็นรูปไว้แล้วใส่ข้อความบ่งบอกอารมณ์ลงไปก็ได้ ว่าในแต่ล่ะครั้งที่เราเปิดออเดอร์เราอยู่ในอารมณ์ใหน พอมาดูที่หลังจะได้รู้ว่าอารมณ์ขณะนั้นและรูปแบบกราฟแบบนั้นมันส่งผลต่อการตัดสินใจของเราอย่างไร………

โค๊ด: [Select]
http://forexhow2.com/forex-profit/

222
พูดคุยForexทั่วไป / Money Management and risk management
« เมื่อ: 28/ก.ค./2015 03:58:43 »
 "ทำอย่างไรหลุดพ้นจากคำว่า ล้างพอร์ต" 
คำว่า ล้างพอร์ตนั้นคือ พอร์ตเนียนใสสะอาด ปราศจาก  Margin  ยอดเงินเป็น 0 บางโบรกเกอร์ยอดเงินของเราติดลบอีกต่างหาก ( จากประสบการณ์ของผมเอง Fxcast Call margin  Balance -30 $ ) นอกจากมันจะตัดเราหมดแล้ว ยังให้เราเป็นหนี้มันอีก ดู ดู๊ ดู ดู มันทำ

สาเหตที่พวกเราล้างพอร์ตมาจากอะไร
อันนี้เป็นกรณีของผมเองนะครับ จากประสบการณ์
1. เทรดเยอะเกินทุน เช่นทุนมี 1000 ดอล เทรดกันซะ จุดละ 10 ดอล วิ่งได้ 100 จุด หมดเกลี้ยง
2. ไม่มี Stop Loss เช่น Short ไว้ มันขึ้น เออหน่า เด๋วลง รออีกแปบ รอจนหมด
3. ลงเพิ่มเมื่อติดลบ  ซ้ำกันเข้าไป เห็นมันขึ้นก็ยัง Sell ยิ่งขึ้นยิ่ง Sell ดูดิมึงจะขึ้นไปถึงไหน ฮ่าาๆ มันก็ขึ้นไปตัดพอร์ตเราแล้วลงมาไง
4.อารมณ์  ส่วนนี้สำคัญเลย สำหรับผม ถ้าอารมณ์เสียมาเมื่อไร พอร์ตกระจุยครับ 
5. ทุนน้อยอยากได้เยอะ (โลภ) มีทุนร้อยเดียว จะเอาอาทิตย์ ละ 500 ดอล มันก็กดดันตัวเองสิ
6. บวกไม่ปิด ปล่อยจนลบหมดพอร์ต อันนี้เกิดขึ้นบ่อยนะครับ  อยากจะเป็น Long Term Trader พวกเทรดระยะยาว วางเรื่อยๆ ขึ้นก็ Buy เรื่อยๆ ขึ้นอีก Buy อีก จนได้กำไรเยอะมาก  อันนี้ประสบการณ์เลยครับ ทุน 2000 ดอล  Let's Profits Run ไปเรื่อยๆ จนวันศุกร์ ได้ 7000 ดอล สุดยอด เทพ ได้รับการขนานนามทันที ว่าเทพ แต่หารู้ไม่ว่า อีกสัปดาห์ต่อ กราฟมันเปลี่ยนทิศทาง แทนที่จะปิดเอากำไร เจือกปล่อย ให้ติดลบ แถมซ้ำเข้าไปอีก ยิ่งผิดทางยิ่งซ้ำ สุดท้ายจากกำไรก็เป็นขาดทุน

นึกไม่ออกว่าอะไรอีก

แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ จึงจะหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้  อยากหลุดพ้นเต็มทน ไม่เอาแล้วกับการหมดพอร์ต เศร้า เสียใจ หาตังค์ไหนว้าเทรดอีก มันจะไม่เกิดกับเราอีกแล้ว

3 สิ่ง ที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากคำว่า ล้างพอร์ต
1. ตัดขาดทุน
2.ตัดขาดทุนให้เร็ว
3.ตัดขาดทุนให้เร็วที่สุด

ตัดขาดทุน มันยังเหลือทุน ให้เราได้เทรดต่อ
แล้วเพื่อนๆล่ะ  หลุดพ้นจากคำๆนีหรือยัง "ล้างพอร์ต" แล้วมีวิธีแก้ไขตัวเองอย่างไร บอกเล่าประสบการณ์ กันนะครับ

ผมเชื่อว่า เทรดเดอร์ทุกคนมีประสบการณ์กับการล้างพอร์ต 

โค๊ด: [Select]
http://getforexthailand.blogspot.com/p/15-money-management-and-risk-management.html

223
การบริหารเงินทุนก่อนเล่น

การบริหารเงินทุนมีความสำคัญมากเป็นอันดับ 1 ในการลงทุนตลาด Forex  และตลาดหุ้นด้วย เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าเราจะตั้ง lot เท่าไหร่ จุดขาดทุน เป้าหมายของกำไรนั้น เราก็ไม่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ ก็เท่ากับว่าเรามีความเสี่ยงอย่างมากในการลงทุน เราจำเป็นต้องจัดสรรค์การเทรดให้เหมาะสมกับตัวเรา วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการ

1.จำกัดความเสี่ยงให้พอดี (ให้แพ้ได้ 10 ครั้งติดต่อกันเท่าไหร่ ที่ว่าพอดี ? กี่ % ต้องใช้ความเสี่ยงคู่กับระบบเทรด
ระบบที่ 1. ระบบไม้เดี่ยว  ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานที่สุด
1.ต้องดูความแม่นยำของการเทรดของเราเป็นหลัก
2.ถ้าโอกาสถูก 50-50, ให้คิดว่า เราจะทนผิดทางได้กี่ครั้งติดต่อกัน จะหมดพอร์ต
3.มีนักคณิตศาสตร์คิดไว้ละว่า 10% เป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในระยะยาว
4.เช่น ถ้าเรามีทุน 2,000 USD, ให้ตั้ง cut loss ที่ 200 USD, จะทำให้ผิดทางได้ 10 ครั้งต่อกัน, และกำไร 200 USD เท่ากัน
5.ปกติ คิดไว้ 10 ครั้ง

          ระบบที่ 2  ระบบที่ดีที่สุด (Ideal System)
 •ลองคิดกลับกันว่า ถ้าเรามีเงินไม่จำกัด(Infinity) เราจะทำอย่างไรให้ชนะได้แน่นอนโดยไม่ต้องชนะมากก็ได้ แต่ขอให้ชนะทุกรอบในการเล่น                     
 •คำตอบ คือ ก็ Double Lot ไปเรื่อยๆ หากแพ้                     
 •เพราะเรารู้ว่าการแข่งขัน มีแพ้ มีชนะ 50-50, กราฟเองก็ มีเดินทางและมีพักตัว
 •ฉะนั้น หากเรา Double Lot ไปเรื่อยๆ,ขอแค่ชนะสักตา ก็พอ ก็จะชนะทั้งรอบนั้นได้ เช่น เริ่มวางเงินเดิม            พันที่ 1 ถ้าแพ้ วางตาต่อไปเพิ่มเป็น 2 ยังแพ้อีก ก็วาง 4,วาง 8, 16, 32,… เมื่อชนะก็จะได้เงินคืนและ          บวกกำไรเท่ากับการวางตาแรกเสมอ (อีก 1 USD)

โค๊ด: [Select]
http://christianforex.blogspot.com/2013/10/money-management.html

224
Money Management คือ อะไร ? หรือ MM
Money หมายถึง เงิน หรือ หรือ เรียก Balance ใน พอร์ต forex หรือ หุ้นใดๆ
Management หมายถึง การจัดการ การบริหาร
นำทั้งสองคำนี้มารวมกัน สรุป ได้คือ Money Management หมายถึง การบริหารจัดการเงินทุน
แล้ว Money management มีผลต่อการเทรดของเรา อย่างไร
มีครับ Money management จะช่วยให้เราบริหารเงินทุนหรือพอร์ตของเราได้อย่างมีระบบ เทรดเดอร์หลายคนเทรดโดยแบบไร้นัย ในการเทรด forex หรือ หุ้นใดๆ เขาจะดูแต่ได้กำไรเท่าไหร่อยากได้กำไรเท่าไหร่ ในการเทรด แต่ ไม่ดูว่า ถ้าเสียพอร์ต หรือเงินทุนจะลดลงไปเท่าไหร่ แล้ว ต้องทำเท่าไหร่พอร์ตจึงจะกลับมาได้เหมือนเดิม forex เทรดเดอร์หลายคนเทรดได้กำไรหลายครั้งแต่มาเสีย ครั้งเดียวใน 1 ออเดอร์ หมด พอร์ตเพราะ โลภและไม่มีหรือไม่ใช้หลักการ Money management ไม่ว่าจะเทรดเก่งแค่ไหนก็จะล้างพอร์ต ได้ในเวลาไม่นาน หรือจะมองให้เลวร้ายไปเลย ถ้าเทรดแบบ ไม่มีระบบการเทรด forex หรือห้นใดๆ ก็ไม่ต่างจากการเล่น การพนันในบ่อน คาสิโน แต่ถ้า คุณใช้ MM ไม่ว่าคุณจะเทรดเสียติดต่อกัน เป็นสิบครั้งมันก็ไม่สามารถทำให้คุณล้างพอร์ตได้ พอร์ตคุณอาจลดลงแค่ 10-20 % ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบ MM ของคุณ
คุณเคยเป็นเหมือนผมใหม ครับเทรด ผลรวมของ Pips ในพอร์ต เป็น บวก แต่ Balance เป็น 0 หมายความว่าอะไร หมายความว่า การวิเคราะห์การเข้าเทรด ของคุณมีความแม่นยำแต่ สิ่งที่ขาดคือการบริหารจัดการเงินทุน Money managemnt มาเริ่มต้นเรียนรู้เลยดีกว่า ครับ

หลักการเบื้องต้นของ Money management

ลองอ่านและทำความเข้าใจครับผมเองก็พึ่งจะลองคิดดูและทำความเข้าใจจากการได้ เข้าอบรมในครั้งนี้บางทีอาจจะทำให้คุณเปลี่ยนเป็นอีกคนเลยก็ได้

   ตัวอย่างที่ 1 : ลองคิดดูครับ หากคุณมีเงินทุนอยู่ 2000 $ ถ้าคุณเสียไป 200 $ เหลือ เงิน 1800 $ คุณจะขาดทุนไป กี่เปอร์ เซนต์ ตอบ 10 % ครับ แล้วถ้าคุณอยากให้ Balance กลับมาเท่าเดิมที่ 2000 $ คุณต้องทำกำกไรกลับมาเท่าไหร่คตอบคือ 11% ครับ
ตัวอย่าง ที่ 2: หากคุณ มี Balance อยู่ 2000 $ ถ้าเสีย ไป 50 % คุณจะเหลือ เงินทุนเท่าไหร่ คำตอบคือ 1000 $ แล้วถ้าจะทำให้พอร์ตกลับมาที่ 2000 $ คุณต้องทำกำไรกลับมากี่เปอร์เซนต์ คำตอบคือ 100 % ครับ เห็นใหมครับว่ามันแตกต่างกันมากแค่ไหน
ตัวอย่างที่ 3: หากคุณมี Balance อยู่ 2000 $ เทรดเสียไป 90 % คุณจะเหลือ Balance เท่าไหร่ คำตอบคือ 200 $ ครับ แต่ ถ้าคุณอยากจะให้พอร์ตคุณกลับมาเป็น 2000 $ คุณต้องทำกำไรกลับมากี่เปอร์เซนต์ อย่าตอบผมนะ ครับ ว่าก็เติมเงินเข้าไปอีก 1800 $ สิ อย่าคิดอย่างนั้น การทำให้ 200 $ กลับมา 2000 $ นั้น ต้อง ทำกำไรให้ได้ 900 % จาก ทุน 200 $ ทำไมมันช่างแตกต่างกันมหาศาลเช่นนี้

โค๊ด: [Select]
https://forexstub.wordpress.com/2012/10/21/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94-forex-money-management/

225
ทำไม Money management ถึงสำคัญ เพราะเราต้องการที่จะทำกำไร เราต้องเรียนรู้การบริหารจัดการเงิน แต่คนส่วนมากได้มองข้ามมันไป

Trader หลายคน เทรดโดยที่ไม่มีหลักการ และดูแค่ว่าสามารถเสียได้เท่าไรในการเทรด 1 ครั้ง แล้วก็เทรดเลย อย่างนี้ค้าเรียกว่าการพนันไม่ใช่ การลงทุน

ถ้า คุณเทรดโดย ไม่ใช้ Money management นั้น มันก็เหมือนกับว่าคุณกำลังเล่นพนันอยู่ คุณไม่ได้มองการลงทุนระยะยาว คุณกำลัง รอ jackpot การบริหารเงินไม่เพียงช่วยเราป้องกันเงินทุน ยังสามารถทำมีกำไรในระยะยาวอีก แต่ถ้าคุณยังคิดว่าการเล่นแบบรอ jackpot เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เรามาดูตัวอย่างกัน

Casino หรือ เจ้ามือ คนเหล่านี้ เก่งเรื่อง สถิติ เค้ารู้ว่าระยะยาวแล้ว เจ้ามือจะเป็นคนได้เงิน ไม่ใช่นักพนัน ถึงจะมีคนถูกรางวัล Jackpot เป็นเงินก้อนโต แต่ก็จะมีนักพนันอีกมากกว่าร้อยที่ไม่ถูก Jackpot แล้วเงินเหล่านี้ ก็จะเป็นของเจ้ามือ

อันนี้เป้นตัวอย่างที่ทำให้เห็นวา สถิติ สามารถ สร้างกำไรได้เหนือกว่า การพนัน
ในทางสถิติ หรือ เจ้ามือ ในกรณีนี้รู้ว่าจะควบคุมความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ได้อย่างไร ถ้าทำได้ คุณก็จะมีกำไร

ทีนี้คุณจะทำยังไงถึงจะเป็น นักสถิติที่ดีได้ ไม่ล้มเหลว

Money management นั้นสามารถทำกำไร ได้ในระยะยาว
ถ้าไม่ใช้กฎของ Money management จะเกิดอะไรขึ้นเรามาดูตัวอย่าง

สม มุตรว่าคุณ มีเงินอยู่ $10000 และคุณเสียไป $5000 คุณเสียไปทั้งหมดกี่เปอร์เซนต์ คำตอบคือ 50 เปอร์เซนต์ แล้วคุณต้องทำกี่เปอร์เซนต์
เงิน $5000 ของคุณ ถึงจะกลับไปเท่าเดิมคือ $10000 คุณต้องทำถึง 100 เปอร์เซนต์ ไม่ใช่ 50 เปอร์เซนต์ เค้าเรียกว่า Drawdown จะเห็นว่ามันน่าหงุดหงิดมาก เพราะมันง่ายมากในการเสียไป แต่ได้กลับคืนมาเท่าเดิมนั้น ยากกว่า ซึ่งผู้อ่านคงไม่คิดที่จะเสีย เทรดเดียว 50 เปอร์เซนต์ ผมหวังว่าเป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเทรดเสีย 3, 4 หรือ 10 เทรดติดกันล่ะ มันดูเหมือนจะเกิดได้ยากถ้าคุณคิดว่าคุณมี trade system ที่มีเปอร์เซนต์ชนะ 70 เปอร์เซนต์ ดังนั้นคุณไม่มีทางเสีย ติดต่อกันได้ถึง 10 ครั้ง ถ้าคุณคิดว่าคุณมี Trade system ที่ดี ในการเทรด Trade system ที่ทำ profitable ได้ 70 เปอร์เซนต์ ดูเหมือนเป็น system ที่ดีมาก แต่มันไม่ได้หมายความว่า ใน100 เทรดคุณจะชนะ 70เทรด
คุณจะรู้ได้อย่างไร ว่า 70 ใน 100 เทรดจะชนะ คุณไม่มีทางรู้ได้ คุณ อาจจะเสีย 30 เทรดแรก แล้วไปชนะ 70 เทรดที่เหลือ ซึงยังให้ผลที่ 70 เปอร์เซนต์ แต่คุณก็คงเสียหายหนัก

จากตัวอย่างจะทำให้รู้ว่า Money management นั้นสำคัญ ไม่ว่าคุณจะมี Trading System ดีสักเท่าไร แต่ก็ต้องมีที่คุณเสีย เหมือนผู้เล่น Poker มืออาชีพ ถึงเค้าจะเล่นเสียครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายเค้าก็จะจบด้วยกำไร

ผู้เล่น Poker เก่งๆจะฝึกฝน Money management เพราะเค้ารุ้ว่าไม่สามารถชนะได้ทุกเกมส์ เค้าจะเล่นด้วยจำนวนเงินที่น้อย จากเงินทั้งหมดที่เค้ามี มันสามารถทำให้เค้ารอดพ้นจากการเสียครั้งใหญ่ได้ นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำในฐานะ trader เทรดใน เปอร์เซนต์ที่น้อยจากจำนวนเงินที่มีทั้งหมด เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อคุณฝึกฝน และ เคร่งครัดกับ Money management คุณ จะเปลี่ยนจากนักพนัน กลายเป็นเจ้ามือ ที่จะทำกำไรได้ระยะยาว

โค๊ด: [Select]
http://thaiforextrading.blogspot.com/2009/04/money-management-forex.html

หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17
SMF 2.0.15 | SMF © 2011, Simple Machines
SMFAds for Free Forums