Messages

Bitcoin ร่วงลง 5.6% อีกครั้งกลับไปที่ราว 30,000 ดอลลาร์ Ethereum ร่วงลง 6.1% และ altcoins 10 อันดับแรกต่างร่วงตั้งแต่ 5.2% (BNB) ถึง 11.5% (Solana) มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 5.3% ในชั่วข้ามคืนเป็น 1.23 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี Dominance Bitcoin ลดลง 0.2% เป็น 46.1% และในวันพฤหัสบดีดัชนีความกลัวและความโลภลดลง 4 จุดเหลือ 13 จุด

Bitcoin ร่วงลงอย่างรวดเร็วในเซสชั่นสหรัฐในวันพุธ พร้อมกับดัชนีหุ้น หลังจากรายงานดัชนี PMI ของ ISM Manufacturing ซึ่งทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะกระชับนโยบายขึ้นอีก กอปรกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและการดึงความเสี่ยงที่ลดลงในตลาดหุ้นขัดขวางแนวโน้มของ BTC


ในวันพุธเครือข่ายบล็อคเชน Solana ประสบนานกว่า 8 ชั่วโมง ผู้บริหารของธนาคารสองแห่งในออสเตรเลียคือ ANZ และ NAB เผยว่ายังไม่มีแผนที่จะอนุญาตให้ลูกค้ารายย่อยทำการค้าสินทรัพย์คริปโตจากความเสี่ยงที่สูง Heng Swee Keat รองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์เตือนนักลงทุนรายย่อยไม่ให้ลงทุนในคริปโต โดยอ้างถึงกรณีของ Terra และ UST

หลังจากการล่มสลายของ Terra คณะกรรมการ Basel Committee on Banking Supervision of the Bank for International Settlements (BIS) วางแผนที่จะออกคำแนะนำฉบับที่สองที่ "อนุรักษ์นิยม" เกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับของสกุลเงินดิจิทัล

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านดิจิทัลของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้เรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐต่อต้านแรงกดดันของนักลงทุนคริปโต

แหล่งข่าว Flight of cryptocurrencies interrupted โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ในตลาดตราสารหนี้สหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งเกิน 2.8% หลังจากพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เกือบจะราบไปกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวออกจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ควบกับการปรับฐาน 50% จากการปรับขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม

EURUSD และ USDJPY กำลังเคลื่อนไหวไปสู่แนวโน้มแบบในสัปดาห์ที่ผ่านมา และสำหรับผลตอบแทน 10 ปีและ DXY กระทิงในดอลลาร์กลับมาอีกครั้งหลังจากแตะค่าเฉลี่ย 50 วันสำหรับตราสารเหล่านี้

ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐกำลังสูญเสียแรงหนุนโดย S&P500 ดึงกลับจากระดับเหนือ 4,200 กลับมาที่ 4,140

ประเด็นที่น่าสนใจคือแรงกดดันจากน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีข่าวเชิงบวกเป็นฉากหลังก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงของตลาดในเช้าวันจันทร์และวันอังคารอาจไม่ได้สะท้อนภาพตลาดที่แท้จริง เนื่องจากไม่ได้รวมสภาพคล่องจากสหรัฐ โดยนักลงทุนและผู้ค้าควรให้ความสนใจกับการปิดการซื้อขายในวันอังคารมากกว่า และเราอาจได้คำตอบในวันนี้ว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นภาวะตลาดกระทิงที่คลายลงหรือการหยุดชะงักของแนวโน้มขาขึ้นประจำปีเท่านั้น

แหล่งข่าว A respite for the dollar bulls or a trend reversal? We will find out today โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

Bitcoin เพิ่มขึ้น 7% ในวันจันทร์ ปิดที่ราว 31.2K ดอลลาร์ในเช้าวันอังคาร โมเมนตัมในเชิงบวกยังคงมีอยู่ โดยแตะเหนือ 32.0K ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 วัน Ethereum เพิ่มขึ้น 8.2% ขณะที่ altcoins สิบอันดับแรกต่างเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4.9% (BNB) ถึง 14.8% (Cardano)

มาร์เก็ต แคปตาม CoinMarketCap เพิ่มขึ้น 4.3% ในชั่วข้ามคืนเป็น 1.31 ล้านล้านดอลลาร์ โดยดัชนี Bitcoin Dominance เพิ่มขึ้น 0.1 จุดเป็น 46% ดัชนีความกลัวและความโลภเพิ่มขึ้น 6 จุดเป็น 16 แต่ยังอยู่ใน "ความกลัวสุดขีด"


เนื่องจากวันหยุดธนาคารของสหรัฐ ตลาดมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ แต่โมเมนตัมอยู่ในด้านบวก การรีบาวด์ที่เกิดขึ้นใหม่อาจรักษาตัวเองได้ในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐาน เช่น halving หรือนโยบายการเงินที่อ่อนตัว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตต่อไป

Brian Moynihan ซีอีโอของ Bank of America กล่าวว่าธนาคารไม่มีแผนที่จะแนะนำสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเกินไป Caroline Pham กรรมาธิการ CFTC เปรียบเทียบการลงทุนในสินทรัพย์คริปโตเหมือนกับการซื้อสลากลอตเตอรี หลังจากการล่มสลายของ Terra

Raoul Pal ซีอีโอของ Real Vision ย้ำว่าในระยะยาว Ethereum จะแซงหน้า Bitcoin ในแง่มาร์เก็ตแคป ปริมาณการซื้อขาย และวอลเลตที่ใช้งานอยู่ Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้ง SkyBridge Capital ตั้งข้อสังเกตถึงความสนใจของนักลงทุนรายใหญ่ในสปอต bitcoin ETF และแนะนำว่าพวกเขาจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ในปีนี้ และบริการชำระเงิน MoneyGram วางแผนที่จะเปิดตัวบริการโอนเงิน Stablecoin ร่วมกับ Stellar

แหล่งข่าว The Crypto market pushes back from the bottom โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ดัชนีหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีสปอต S&P500 แตะที่ 4200 โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากระดับต่ำสุดของวันที่ 20 พฤษภาคม การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่าเราจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดขาลงในช่วงสั้นๆ หรือว่าตลาดได้ผ่าน "จุดต่ำสุด" ของการปรับฐานแล้ว สถานการณ์ดูเหมือนว่าหมีกำลังกระตุ้นกระทิง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานกลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค


ธนาคารกลางของสหรัฐและประเทศพัฒนาแล้วต่างตบเท้าเพิ่มระดับความเข้มงวดของนโยบายการเงินเพื่อต่อสู้เงินเฟ้อ ซึ่งนับเป็นข่าวเชิงลบในมุมมองเราเนื่องจากเศรษฐกิจและตลาดยังไม่รู้สึกถึงสิ่งนั้นเท่าไหร่ อัตราเงินเฟ้อและอุปสงค์ที่ลดลงของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากราคาที่สูงขึ้น

จะทำให้บริษัทต้องเผชิญกับผลประกอบการที่แท้จริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะได้ยินจากเฟดว่าจะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

ดัชนี S&P500 แตะระดับ 61.8% ของการแรลลี่จากระดับต่ำสุดของเดือนมีนาคม 2020 ถึงมกราคม 2022 เราได้เห็นการฟื้นตัวในตลาดขาลงในช่วงระยะเวลาห้าเดือนที่ลดลง แต่จนถึงตอนนี้ ดัชนีกำลังอยู่ในช่วงตลาดหมีอย่างสมบูรณ์ (ลดลง 20% จากจุดสูงสุด) ในทางหนึ่งมันยังดึงดูดคนให้เข้าช้อน


นอกจากนี้ เมื่อถึงจุดต่ำสุดเมื่อต้นเดือนนี้ ตลาดเผชิญกับ oversold แต่ก็มีสัญญาณของความแตกต่างระหว่าง RSI ในกรอบเวลารายวันและระดับดัชนี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการเทขายนั้นไม่รุนแรงแบบที่ผ่านมา

แต่ก็มีข้อเท็จจริงที่ว่า S&P500 ร่วงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุด แม้ตอนนี้ดัชนีได้ดีดตัวขึ้นแล้ว ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เราเห็นการตื่นตัวของกระทิงคือในเดือนพฤศจิกายน 2020 หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลากว่าหนึ่งปี แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีที่ว่างสำหรับเติบโตก็ตาม
​
แหล่งข่าว The S&P500’s bulls awakening. Will tech analysis beats fundamentals? โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ในวันพฤหัสบดี Bitcoin ลดลง 1.1% ปิดที่ 29.5K ดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้น แต่เช้าวันศุกร์ราคากลับร่วงลงราว 28.9K ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ BTCUSD ร่วงลง 5.5% อย่างรวดเร็วกลับไปที่ 28,000 ดอลลาร์ แม้ Nasdaq จะเพิ่มขึ้นถึง 3%

ด้วยเหตุนี้ ในแผนภูมิระหว่างวัน triangle กลายเป็น channel ที่มีการทดสอบขอบล่างที่ราว 29K ดอลลาร์บ่อยขึ้น ในมุมมองของเรา การสร้างฐานครั้งก่อนอาจเป็นเพียงการสร้างฐานชั่วขณะ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นราคาจะร่วงลงสู่ระดับถัดไปอีก เช่นเดียวกับในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ทั้งนี้ เป้าหมายสุดท้ายของหมีอาจเป็นพื้นที่ราว 20-23k ดอลลาร์ แต่การเคลื่อนไหวที่นั่นอาจยืดเยื้อและแยกออกเป็นขั้นตอน


ขณะที่ Ethereum นั้นได้ยืนยันการครองตลาดของหมีแล้ว โดยดิ่งลง 10% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กลับไปที่ 1,750 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าขอบล่างจากเดือนเมษายน 2021 และสำหรับ ETHUSD การร่วงลงรอบสุดท้ายอาจอยู่ในช่วงราว 1,200-1,300 ดอลลาร์


ในด้าน altcoins 10 อันดับแรกต่างลดลงจาก 2% (XRP) ถึง 13.8% (Solana) มาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ลดลง 5% ในชั่วข้ามคืนมาอยู่ที่ 1.20 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนีความหวาดกลัวและความโลภคงที่ในวันศุกร์ โดยยังคงอยู่ที่ 12 จุด ('ความกลัวอย่างสุดขั้ว')

ความยากในการขุด Bitcoin ลดลง 4.33% มาอยู่ที่ 29.9 ล้านล้านแฮช ซึ่งลดลงมากที่สุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จากรายงานของ Arcane Research ความสามารถในการทำกำไรของการขุดยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

CEO ของ Coinbase กล่าวว่าประวัติศาสตร์และแนวโน้มของอุตสาหกรรมคริปโตนั้นกำลังโน้มน้าวให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐให้การสนับสนุนการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทจัดการการลงทุน ARK Investment Management ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. เพื่อเปิดตัว bitcoin-ETF และ Tether ผู้ออก USDT stablecoin ได้เปิดตัว MXNT สกุลเงินดิจิทัล stablecoin ใหม่ ซึ่งผูกติดกับเงินเปโซของเม็กซิโก โดยเหรียญจะสามารถใช้ได้บนบล็อกเชน Ethereum, Tron และ Polygon

แหล่งข่าว Cryptocurrencies went down out of consolidation โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

Bitcoin ยังนิ่งแม้ตลาดหุ้นสหรัฐบวก โดนเคลื่อนไหวในช่วง 29.5-30.0K ดอลลาร์ในการซื้อขายในนิวยอร์ก แต่การลดความเสี่ยงจากความผันผวนนี้จะกลายเป็นการระเบิดในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งอาจทำให้โมเมนตัมหมดไปสองสามวันหรือหลายสัปดาห์

การหยุดชะงักของการสร้างฐานจะถือเป็นการสร้างฐานที่เกินกว่าระดับสุดโต่งในท้องถิ่นครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ 30.2K และ 29.3K ดอลลาร์ ทั้งนี้ การก้าวข้ามลิมิตเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าจะทำให้เกิดคลื่น liquidation ที่กระทิงและหมีได้เข้าใกล้ราคาปัจจุบัน


นอกจาก Bitcoin สถานการณ์น่าเป็นห่วงมากขึ้นคือมาร์เก็ตแคปตาม CoinMarketCap ซึ่งลดลง 1.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็น 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี Dominance Bitcoin คือ 0.4 จุดถึง 45.1%

Ethereumร่วงลง 3% อยู่ที่ 1,915 ดอลลาร์ ขณะที่ แผนภูมิแท่งเทียนรายวันแสดงลำดับของจุดสูงสุดในพื้นที่ที่ต่ำลงเรื่อยๆ อย่างชัดเจน ไดนามิกนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการขายออกอย่างต่อเนื่องในสกุลเงินดิจิทัล


ดัชนีความกลัวและความโลภเพิ่มขึ้น 1 จุดเป็น 12 ในวันพฤหัสบดีและยังคงอยู่ใน “ความกลัวสุดขีด”

Stuart Alderoty ทนายความของ Ripple วิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. ของสหรัฐและความปรารถนาของ ก.ล.ต. ว่าจะเข้ายึดการควบคุมการบริหารของตลาดสกุลเงินดิจิทัล

Stellar จะจัดหาเทคโนโลยีให้กับธนาคารกลางของบราซิลเพื่อพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล

แหล่งข่าว Bitcoin is stable, but Ether’s performance reflects the pressure โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

ธนาคารกลางที่พัฒนาหลายแห่งส่งสัญญาณเหยี่ยวรับผู้นำอย่างเฟดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเช้านี้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเป็น 2.0% เป็นการเคลื่อนไหวซ้ำในเดือนเมษายน ส่งผลให้ NZDUSD แข็งค่าขึ้น 1.4% สู่ 0.6500 ทันทีหลังมติการประชุม


ผู้ซื้อจับตามองที่แถลงการณ์ของ RBNZ โดยผู้กำหนดนโยบายชี้ให้เห็นว่าการขึ้นอัตราเร็วและเร็วขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะยั่งยืน และพร้อมเต็มใจที่จะให้มีการชะลอตัวเกิดขึ้น

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว NZDUSD เข้าใกล้ 0.6200 การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ไปที่แนวโน้มที่ค่อนข้างเป็นขาขึ้นสำหรับทั้งคู่ ดัชนี RSI พลิกกลับเป็นการเติบโตในกรอบเวลารายสัปดาห์หลังจากแตะระดับ oversold

ในแผนภูมิรายวัน ความแตกต่างของ RSI และกราฟราคายังบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเติบโตต่อไป NZDUSD ปรับฐาน 23.6% จากจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2022 ทั้งนี้ จุดต่ำสุดอาจปูทางสำหรับการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นสู่ 0.6700

อย่างไรก็ตาม จากท่าทีของ RBNZ และสภาวะการส่งออกที่เอื้ออำนวย เราอาจเห็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มซึ่งอาจกลับไปที่ 0.7200 ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ RBNZ ดูเหมือนจะกลายเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้แรก ๆ ของแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งธนาคารกลางทั่วโลกอื่นๆ กำลังตามเฟด ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากขึ้นได้เกือบปี

แหล่งข่าว Hawkish RBNZ has strengthened the NZD. Is there more to come? โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นช่วงการซื้อขายที่สี่ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาดังกล่าวได้รับผลกระทบจากความคิดเห็นของรัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี โดยอ้างว่าสหภาพยุโรปสามารถตกลงเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียได้ภายในไม่กี่วัน

มาตรการสร้างสมดุลขั้นพื้นฐานสำหรับตลาดคือการขายต่อเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐ และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวมากกว่าคาดการณ์ไว้

เศรษฐกิจโลกกำลังประสบกับการชะลอตัวจากเงินเฟ้อและห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงัก ในทางเทคนิค น้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงในระยะกลางของขาขึ้น สำหรับ WTI และเบรนต์ยังคงซื้อน้ำมันโดยลดลงสู่ค่าเฉลี่ย 50 วัน ราคาน้ำมันขณะนี้อยู่ที่ระดับใกล้ 110 ดอลลาร์สำหรับ WTI และ 111 ดอลลาร์สำหรับเบรนท์ ใกล้จุดสูงสุดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา


หากแนวต้านถูกพังลง เราอาจเห็นน้ำมันแตะระดับใหม่ถึง 120 ดอลลาร์หรือ 130 ดอลลาร์ในสองสามสัปดาห์ คล้ายกับในปี 2009-2010 หลังจากที่ฟื้นตัวหลังวิกฤตที่คล้ายกันเริ่มชะลอตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยอาจค้างในช่วง 100-130 ดอลลาร์สามปีครึ่งแล้วจึงลดลงหลังจากที่กำลังการผลิตฟื้นตัว

แหล่งข่าว Oil possibly locked in the $100-130 range for years โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst